ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 5 บทที่ 145 แม่หนูนี่ ช่างเปลี่ยนไปเยอะเสียจริง
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 5 บทที่ 145 แม่หนูนี่ ช่างเปลี่ยนไปเยอะเสียจริง
กวั่นซื่อมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยความตะลึงระคนยินดี ราวกับเห็นขุมสมบัติก็มิปาน
ในบ้านนางมีเด็กๆ เยอะ ฐานะก็พอใช้ได้ จึงกินเนื้อหมูเนื้อปลาเป็นประจำ เพียงแต่นางทำอาหารมานานขนาดนี้ ช่วงชีวิตที่ทำอาหารยังมากกว่าอายุของแม่หนูเซี่ยยวี่หลัวด้วยซ้ำ เหตุใดทั้งปลาทั้งเนื้อหมูที่นางทำออกมา กลับอร่อยกว่าที่ตนเองทำเป็นร้อยเท่าพันเท่าเล่า?
กวั่นซื่อก็เป็นคนรู้จักปล่อยวาง เข้าใจแล้วว่าเซี่ยยวี่หลัวในตอนนี้ต่างจากเดิม นอกจากนั้น เซี่ยยวี่หลัวในตอนนี้ แย้มรอยยิ้มอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกิริยาวาจา ล้วนทำให้รู้สึกสบายใจราวกับเป็นสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
แม่หนูนี่ ช่างเปลี่ยนไปเยอะเสียจริง
ไม่รู้สึกว่าน่ารังเกียจแม้แต่น้อย!
กวั่นซื่อตามหลังเซี่ยยวี่หลัวไป พูดคุยกับนางเรื่องการปรุงปลาและหมูตุ๋นน้ำแดงอย่างจริงใจ เซี่ยยวี่หลัวก็ไม่คิดปิดบัง บอกให้กวั่นซื่อโดยละเอียด กวั่นซื่อเป็นคนทำอาหารมานาน หลังจากฟังเซี่ยยวี่หลัวพูดหนึ่งรอบ ก็จดจำได้แทบทั้งหมดแล้ว
เพียงแต่ นางเกรงว่าตัวเองจะทำออกมาไม่ได้ จึงกล่าวด้วยความถ่อมตัว “ยวี่หลัว หากข้าทำออกมาแล้วรสชาติไม่เหมือนของเจ้า เจ้าจะสอนข้าอีกครั้งได้หรือไม่? “
เซี่ยยวี่หลัวแววตาใสบริสุทธิ์ ยิ้มบางพร้อมกล่าว “ได้แน่นอนเจ้าค่ะ หากท่านป้ากวั่นมีเวลา ข้าสอนให้ท่านตัวต่อตัวเลยก็ได้เจ้าค่ะ! “
กวั่นซื่อรู้สึกยินดียิ่งนัก บัดนี้แม่หนูน้อยผู้นี้ช่างน่ารักเสียจริง
ระหว่างที่พูดคุยกัน ด้านนอกก็กินเสร็จแล้ว
ช่วงเช้าเซียวจิ้งยี่กินอาหารก่อนจะมาแล้ว หลังจากมาถึง เดิมทีคิดจะกินพอเป็นพิธีเท่านั้น เพื่อรักษาหน้าให้ภรรยาเซียวยวี่ ใครจะรู้ว่าพอนั่งลง เห็นอาหารดีบนโต๊ะเขาก็ลุกไม่ไหวแล้ว
ดื่มน้ำแกงปลาลงท้องไปสองถ้วย กินหมูตุ๋นน้ำแดงไปห้าถึงหกชิ้น กินจนน้ำมันเยิ้มเต็มปาก
ช่างอร่อยเสียจริง อร่อยกว่าที่ภรรยาของเขาทำมากนัก
ทั้งห้าหกคนกินอาหารบนโต๊ะจนหมดเกลี้ยง เมื่อกินจนอิ่ม ย่อมมีแรงทำงาน
จุดประทัดเพื่อเป็นการแสดงความยินดีในการเริ่มงานหนึ่งเส้น เสียง “เปรี๊ยะเปรี๊ยะ” ดังสนั่น ดังจนผู้คนแทบทั้งหมดในหมู่บ้านสกุลเซียวต่างก็ได้ยิน
เซียวจื่อเมิ่งตกใจจนหลบไปอยู่ในอ้อมอกเซี่ยยวี่หลัว เซี่ยยวี่หลัวปิดหูของนางไว้แน่น เมื่อเห็นประทัดแต่ละอันที่ระเบิดออกเบื้องหน้า นางไม่รู้สึกกลัว
กลับยิ้มอยู่ตลอด
บ้านท่านราชบัณฑิตน้อยจะปลูกเรือนหลังใหม่แล้ว รอให้เขากลับมา เมื่อเห็นว่าภายในบ้านเกิดความเปลี่ยนแปลงมากถึงเพียงนี้ คงรู้สึกตกตะลึงกระมัง?
นางทำดีถึงเพียงนี้ ทั้งปลูกเรือนให้เขา ทั้งยังดูแลเด็กสองคนอย่างดี ท่านราชบัณฑิตน้อยน่าจะไม่โกรธแค้นนางแล้ว
ไม่โกรธแค้นนาง เช่นนั้นนางก็จะได้ไม่ต้องตายเร็วถึงเพียงนั้น
จุดประทัดเสร็จ เศษประทัดสีแดงกระจายเกลื่อนเต็มพื้น กวั่นซื่อเปิดปากพูดเป็นคนแรก ปรบมือพลางเอ่ยวาจาเป็นมงคล “เริ่มงานขอให้โชคดีร่ำรวย”
คนที่มาสร้างบ้านต่างกล่าว “โชคดีร่ำรวย โชคดีร่ำรวย”
ในฐานะที่เซี่ยยวี่หลัวเป็นนายหญิงของครอบครัวสกุลเซียว การขุดดินครั้งแรกย่อมต้องให้นางและเซียวจื่อเซวียนเป็นคนขุด ทั้งสองคนขุดดินคนละหนึ่งพลั่ว บ่งบอกว่าในบ้านจะมีการขุดดินแล้ว
เซียวหย่งที่เซียวจิ้งยี่เชิญมามีฝีมือในการสร้างบ้าน คนอื่นๆ ล้วนแต่เป็นคนที่ทำงานกับเซียวหย่งเป็นประจำ ล้วนเป็นคนหมู่บ้านสกุลเซียว ไว้วางใจได้ และไม่เกียจคร้าน ต่างก็ทำงานกันอย่างแข็งขัน ห้าหกคนใช้เวลาช่วงเช้า ก็ขุดฐานเสร็จแล้ว
เมื่อมีการจุดประทัด ผู้คนทั้งหมู่บ้านล้วนได้ยิน คนที่อยู่ใกล้ ต่างก็มาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นว่าที่บ้านเซี่ยยวี่หลัวกำลังขุดดิน ต่างก็ประหลาดใจยิ่งนัก
“เอ๋ เซียวหย่ง เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ” เซียวจินรีบมาก็เห็นว่าที่นี่คือบ้านเซี่ยยวี่หลัว ทั้งยังเห็นเซียวหย่งอยู่ที่นี่ จึงเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
เซียวหย่งวางพลั่วลง เช็ดคราบเหงื่อบนใบหน้า “อ๋อ ข้ามาสร้างบ้าน! “
“สร้างบ้าน? ใครจะสร้างบ้านงั้นหรือ? ”
เซียวหย่งเหลียวซ้ายแลขวา “ที่นี่เป็นที่ของบ้านเซียวยวี่ไม่ใช่หรือ? นอกจากสร้างบ้านให้บ้านเซียวยวี่ บ้านใครจะมาสร้างตรงนี้ได้! ”
เซียวจินคิดในใจ ข้าย่อมรู้ว่าที่นี่เป็นที่ของบ้านเซียวยวี่ เพียงแต่…
“เซียวยวี่ไม่อยู่บ้าน จะสร้างบ้านไปทำไม? ”
เซียวหย่งยิ้มพร้อมกล่าว “ภรรยาเขาก็อยู่บ้านไม่ใช่หรือ? นางบอกว่าบ้านเล็กเกินไป จะปลูกเรือนใหม่สองห้อง ให้เซียวยวี่ใช้เป็นห้องหนังสือ! ”
เซียวยวี่หลัว?
คาดหวังกับสตรีที่มีดีแต่รูปลักษณ์ภายนอกนั่น?
เซียวจินเบ้ปากพร้อมกล่าว “นางอยู่บ้านจะมีประโยชน์อะไร? มีดีแต่หน้าตาใช้การอะไรไม่ได้”
วาจาที่เอื้อนเอ่ยออกมาเต็มไปด้วยความไม่พึงพอใจและดูหมิ่นเหยียดหยามเซี่ยยวี่หลัว
เซียวหย่งขมวดคิ้ว “เซียวจิน จะกล่าวเช่นนี้ไม่ได้ ภรรยาเซียวยวี่จะดีหรือไม่ดี ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา! ”
เรื่องของครอบครัวคนอื่น พวกเขาที่เป็นคนนอก จะมากล่าววาจาว่าร้ายคนอื่นในอาณาบริเวณของอีกฝ่ายได้อย่างไร
เช่นนี้ไม่เหมาะสม
เซียวจินส่งเสียงเย็นในลำคอ “ในหมู่บ้านนี้ใครไม่รู้บ้างว่าสตรีเช่นนั้นชั่วร้ายเสียยิ่งกว่าอะไร! ”
ภรรยาตนเองต้องพลาดท่านางไปมากถึงเพียงนั้น จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่มีหน้าจะพบผู้คนในหมู่บ้าน เซียวเหลียงกลับช่วยนาง ไม่รับซื้อผักตี้เอ่อของพวกเขา แค่คิดยังรู้สึกมีเพลิงโทสะท่วมอกไม่มีที่ระบาย
เซียวหย่งรู้ว่าครอบครัวเซียวจินมีความบาดหมางกับเซี่ยยวี่หลัว จึงเกลี้ยกล่อม “เรื่องราวก็ผ่านไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ภรรยาเซียวยวี่ไม่ได้ทำอะไรผิดต่อพวกเจ้า! ”
เซียวจินกลับฝืนกล่าว “เซียวหย่ง เจ้าช่วยพูดจาแทนนางตั้งแต่เมื่อไร? เซียวยวี่แต่งกับภรรยาเช่นนั้น ถือเป็นความโชคร้ายของเซียวยวี่”
“เซียวจิน เจ้า…” เซียวหย่งไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร
เซียวจินกล่าวพึมพำ “ทั้งหมู่บ้านใครบ้างไม่รู้ว่านางเป็นคนอย่างไร เจ้าก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าภรรยาเซียวยวี่เป็นคนอย่างไร คนประเภทนาง อย่าว่าแต่ปลูกเรือนเลย เกรงว่าอาหารมื้อหนึ่งยังทำได้ไม่ดี เซียววั่ง เจ้าว่าจริงหรือไม่? ”
เซียววั่งมีความสัมพันธ์อันดีต่อเซียวจิน ครั้งนี้เซียวหย่งให้เขามาช่วยสร้างบ้านด้วย
เซียววั่งมองเซียวหย่งและเซียวจิน ทั้งสองคนต่างก็เริ่มตึงเครียดแล้ว จึงรีบเกลี้ยกล่อม “พี่ชายทั้งสอง สงบอารมณ์ก่อน นี่เป็นเรื่องใหญ่โตที่ไหนกัน อย่าให้เรื่องเล็กแค่นี้ทำให้เสียไมตรีอันดีของคนในหมู่บ้านเลย! ”
เซียวจินชี้เซียวหย่งพร้อมด่า “ไมตรี? เซียวหย่ง เจ้าคงไม่ใช่ว่าเห็นภรรยาเซียวยวี่หน้าตาดี ถูกนางล่อลวง จึงช่วยพูดจาแทนนางกระมัง? ”
เซียวหย่งตะวาดดัง “เจ้า… เจ้าพูดจาอย่างไรกัน? ภรรยาเซียวยวี่จะดีหรือไม่ ทุกคนล้วนเห็นกับตา พวกเจ้าลองพูดมา พวกเจ้ารู้สึกว่าภรรยาเซียวยวี่ไม่ดีงั้นหรือ? ”
เซียววั่งยืนอยู่ตรงหน้าเซียวหย่ง เซียวหย่งย่อมมองไปทางเขา
เซียวจินก็เร่งเร้าเซียววั่ง “เจ้าพูดมา เซียววั่ง เจ้าพูดความจริง อย่าคิดว่าเจ้าปลูกเรือนให้เซี่ยยวี่หลัวแล้วจะพูดจาอย่างไม่ลืมหูลืมตาได้ หากนางไม่ให้ค่าแรง ข้าจะไม่ปล่อยไปแน่”
เซียวจินจ้องเซียววั่ง รอคอยคำตอบของเขา ราวกับว่าหากเขาไม่ตอบ ก็จะกินเขาเสียอย่างไรอย่างนั้น
เซียววั่งหัวเราะแก้เก้อพร้อมกล่าว “พี่เซียวจิน เรื่องนั้น… ข้ารู้สึกว่า ข้ารู้สึกว่าภรรยาเซียวยวี่ดีมากทีเดียว! ”
“ดี? ” เซียวจินถลึงตาโต “ว่าไงนะ เจ้าพูดว่าอะไร? ”
เซียววั่งปริปากพูดแล้ว ย่อมไม่เกรงกลัวที่จะกล่าววาจาที่เหลือต่อ “เรื่องนั้น ภรรยาเซียวยวี่ทำอาหารได้อร่อยไร้ที่ติ อาหารรสเลิศนั่น ทำได้อร่อยกว่าภัตตาคารเสียอีก”
ข้างๆ ยังมีคนกล่าวสำทับ “ใช่แล้ว ใช่แล้ว ภรรยาข้าอายุสี่สิบกว่า อายุสามารถเป็นแม่นางได้แล้ว ช่วงชีวิตที่ทำอาหารก็มากกว่าอายุของนางเสียอีก แต่อาหารฝีมือภรรยาข้า เทียบกับปลายนิ้วเซี่ยยวี่หลัวไม่ได้ด้วยซ้ำ”