ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 14 บทที่ 398 พอเขาไป นางก็เริ่มคิดถึงเขาแล้ว
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 14 บทที่ 398 พอเขาไป นางก็เริ่มคิดถึงเขาแล้ว
ไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อใด แต่เมื่อเซียวยวี่ตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าภายนอกก็ยังมืดสนิท ส่วนเซี่ยยวี่หลัวยังคงนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างสงบ
มือขวาเกิดอาการชาแล้ว เซียวยวี่ค่อยๆ ชักมือออก ไม่กล้ารบกวนเซี่ยยวี่หลัว หลังจากชักมือกลับ เซียวยวี่ก็ค้ำร่างกายท่อนบนขึ้น เฝ้ามองเซี่ยยวี่หลัวด้วยอาการเหม่อลอย
ใบหน้าของสตรีตัวน้อยมีสีแดงเลือดฝาด ดูดีราวกับผลผิงโผกั่วที่ทำให้อยากกัดสักหนึ่งคำ เซียวยวี่ประทับจุมพิตร้อนผ่าวลงบนหน้าผากของนางอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงพลิกตัวลงจากเตียง
เขาไม่กล้าทำเรื่องอื่นอีก ประการแรกเพราะเกรงว่าจะทำให้เซี่ยยวี่หลัวตื่น ประการที่สองเพราะกลัวว่าตัวเองจะไม่อาจจากไปได้อีก
วันนี้ยังต้องสอนหนังสือ หากยังไม่ไปอีก เขาที่เป็นอาจารย์คงต้องไปสายเป็นแน่
เมื่อวานเพิ่งย้ำกับเด็กเหล่านั้นเรื่องกฎระเบียบของการเข้าเรียน!
เซียวยวี่ใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว เขายังคงสวมเสื้อตัวนอกตัวเดียวกับเมื่อวาน เมื่อคืนซักเสร็จก็ตากไว้ด้านนอก แม้จะแห้งแล้ว แต่ก็ยังชื้นอยู่บ้าง ส่วนเสื้อผ้าของอาหลัวเขานำไปตากไว้ข้างนอกแล้ว
เซียวยวี่ล้างหน้าบ้วนปากเสร็จจึงเข้ามาดู
เซี่ยยวี่หลัวยังคงนอนหลับอยู่
เซียวยวี่ไม่อยากปลุกนางให้ตื่น แต่ก็จำเป็นต้องปลุก ประตูด้านนอกยังต้องลงกลอนอีก มิเช่นนั้นนางอยู่ในบ้านคนเดียว เขาไม่วางใจ
“อาหลัว…” เซียวยวี่เขย่าตัวนางเบาๆ
เซี่ยยวี่หลัวลืมตาด้วยอาการสะลึมสะลือ พอลืมตาก็เห็นเซียวยวี่ที่ย่อตัวอยู่ตรงหน้าตัวเอง
นางยื่นมือทั้งคู่ออกไป โอบคอเซียวยวี่ไว้ทันที น้ำเสียงนุ่มละมุน แฝงเร้นด้วยเสียงเอื้อนเบาด้วยความงัวเงีย “เซียวยวี่…”
เซียวยวี่ “…” เขาไม่ควรปลุกนางให้ตื่นจริงๆ!
เมื่อได้ฟังเสียงเรียกเซียวยวี่นี้ ทำให้เขาไม่คิดอยากจะไปเลยสักนิด!
“ข้าต้องกลับหมู่บ้านแล้ว เจ้านอนต่ออีกหน่อย แต่เจ้าต้องตามข้าออกไปลงกลอนประตูเสียก่อน มิเช่นนั้นข้าไม่วางใจ” เซียวยวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
เซี่ยยวี่หลัวขานตอบทีหนึ่ง ออกแรงมือทั้งคู่โอบคอเซียวยวี่พลางลุกขึ้นนั่ง จากนั้นร่างกายท่อนบนจึงพิงอยู่บนตัวเซียวยวี่
มือสัมผัสได้ถึงความชื้น เซี่ยยวี่หลัวจึงลองบีบดู นี่เป็นเสื้อของเซียวยวี่ที่ยังตากไม่แห้ง
“เสื้อของเจ้ายังไม่แห้ง! ” เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกเห็นใจนัก “ใส่เสื้อเปียกจะไม่สบายได้! ”
เซียวยวี่ไม่สนใจ “ไม่เป็นอะไร รอพระอาทิตย์ขึ้นย่อมแห้งเอง ไม่เป็นอะไรหรอก! ”
เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าเซียวยวี่มีเสื้อผ้าไว้เปลี่ยนเพียงสองชุด เม้มริมฝีปากทีหนึ่ง ก่อนลุกขึ้นนั่ง
เสื้อซับในของนางบางมาก กลางคืนมองเห็นไม่ชัด แต่ยามนี้เริ่มมีแสงสว่างขึ้นมาเล็กน้อย แสงอันมืดสลัว
ภาพหน้าอกบนเรือนร่างกระตุ้นจนเซียวยวี่รู้สึกแข็งทื่อไปทั้งตัว บางจุดของร่างกาย…
เซียวยวี่หยิบเสื้อตัวหนึ่งมาคลุมให้เซี่ยยวี่หลัวด้วยอาการลุกลี้ลุกลน น้ำเสียงแหบแห้งราวกับถูกพิษก็มิปาน “เจ้ารีบสวมเสื้อ ตื่นแต่เช้าอากาศเย็น! ”
เซี่ยยวี่หลัวปล่อยให้เซียวยวี่คลุมเสื้อให้นาง พร้อมทั้งผูกแถบคาดเอว “ตื่นแต่เช้าอากาศเย็น ข้าไม่อยู่ข้างกาย ดูแลตัวเองให้ดี”
เซี่ยยวี่หลัวพิงอยู่บนกายเซียวยวี่พลางหาวทีหนึ่ง “อืม ตอนเย็นข้าก็กลับไปแล้ว! ”
“กลับอย่างไร? ให้ข้ามารับเจ้าหรือไม่? ” เซียวยวี่เอ่ยถาม
“ไม่ต้อง ฮวาเหนียงบอกว่าตอนบ่ายจะให้ถงเต๋อส่งข้ากลับไป! เจ้าไม่ต้องห่วง”
เซียวยวี่หวนนึกถึงลูกจ้างที่ชื่อถงเต๋อ เป็นคนซื่อสัตย์ จึงรู้สึกวางใจ
“ได้ เช่นนั้นระหว่างทางเจ้าระวังตัวด้วย ข้าจะรอเจ้ากลับบ้านไปกินข้าว” เซียวยวี่กอดนางไว้แน่น จากนั้นจึงก้มหน้าเพื่อหาริมฝีปากของเซี่ยยวี่หลัว
เซี่ยยวี่หลัวตกใจสะดุ้ง รีบปิดริมฝีปากไว้ ก่อนกล่าว “ข้ายังไม่ได้ล้างหน้าบ้วนปาก เหม็น! ”
เซียวยวี่ดึงมือนางออก ก่อนอมริมฝีปากสีแดงชุ่มฉ่ำไว้
เซี่ยยวี่หลัว “…”
ที่ในนิยายเขียนไว้ว่าท่านราชบัณฑิตน้อยเป็นโรครักสะอาดต้องเป็นเรื่องเท็จแน่!
ต้องรู้ว่า เซียวยวี่ในช่วงหลังของนิยาย ไม่มีทางใช้สิ่งของที่ผู้อื่นเคยใช้แล้ว รังเกียจการสัมผัสกับผู้อื่นในทุกรูปแบบ
หากใครแตะต้องเขา เขาก็จะตัดมือของคนผู้นั้นเสีย
น่ากลัวแทบตาย!
แต่ตอนนี้เล่า นางยังไม่ได้แปรงฟันเลย ไม่เหม็นหรือ?
เซียวยวี่สิ้นสุดการจุมพิตครั้งนี้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังคงรู้สึกไม่หนำใจ ไม่ใช่เพราะรังเกียจกลิ่นเหม็น เขารู้สึกว่าหอมยิ่งนักเสียด้วยซ้ำ หากเพียงแต่ถ้าเขายังไม่กลับออกไปอีก ก็จะไม่ทันเวลาแล้ว
“เป็นเด็กดี ข้าต้องไปแล้วจริงๆ! ” เซียวยวี่ลุกขึ้น จะไปแล้วจริงๆ
เซี่ยยวี่หลัวส่งเขาที่หน้าประตู แต่เซียวยวี่ก็ยังไม่ไป
“เจ้าไปก่อน” เซี่ยยวี่หลัวอยากมองส่งเซียวยวี่เดินจากไป
“เจ้าเข้าไปก่อน ลงกลอนประตู เสร็จแล้วข้าค่อยไป! ” เซียวยวี่ไม่ไป ต้องรอดูนางลงกลอนประตูให้เสร็จสิ้น เขาถึงจะวางใจ
เซี่ยยวี่หลัวไม่กล้าทำให้เซียวยวี่เสียเวลา หากเสียเวลาอีก เซียวยวี่คงต้องสายจริงๆ
“ได้ เช่นนั้นข้าลงกลอนประตูก่อน! ” เซี่ยยวี่หลัวปิดประตูช้าๆ ใบหน้าของเซียวยวี่ค่อยๆ หายไปจากตรงหน้านาง
หลังจากลงกลอนประตูเสร็จ เซียวยวี่ยังเอ่ยถามจากด้านนอก “ลงกลอนเสร็จหรือยัง? ”
เซี่ยยวี่หลัวพิงตรงประตู มองเขาผ่านร่องประตู เซียวยวี่มีสีหน้าเป็นห่วง
ไม่รู้เพราะเหตุใด ความง่วงจึงหายไป เหลือไว้เพียงความหวานชื่น
เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า “อืม ลงกลอนแล้ว! ”
“เช่นนั้นข้าไปก่อน ดูแลตัวเองดีๆ” กล่าวจบเซียวยวี่จึงเดินจากไป เขาไม่ได้หันตัวไปทันที แต่หลังจากเดินไปหลายก้าว จึงหันตัว กลับมาเพ่งมองประตูใหญ่ที่ปิดสนิทอีกครั้งหนึ่ง ก่อนสาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปด้านหน้า
จะไปแล้วจริงๆ!
เซี่ยยวี่หลัวมองผ่านร่องประตู มองจนเงาร่างของเซียวยวี่หายลับไป ไม่เห็นแม้แต่น้อย!
นางกลับห้องไปเงียบๆ คลานขึ้นเตียง
หยิบหมอนที่เซียวยวี่เคยใช้มากอดไว้ในอ้อมอก
บนหมอนยังมีกลิ่นของเซียวยวี่ แฝงเร้นด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของดอกจินหยิน
เขาเพิ่งไป นางก็เริ่มคิดถึงเขาแล้ว!
เซียวยวี่เดินผ่านแผงขายบะหมี่ที่ผ่านเมื่อวาน คิดไม่ถึงว่าแผงขายบะหมี่จะเปิดเช้าถึงเพียงนี้ รู้สึกเกรงใจเล็กน้อยที่ลืมเอาชามกลับมา
เถ้าแก่ที่กำลังต้มบะหมี่เห็นว่าคุณชายผู้หล่อเหลาคนเมื่อวานมาอีกแล้ว แผงขายบะหมี่ของเขาเปิดแต่เช้า คิดไม่ถึงจะว่าพบแต่เช้าตรู่ จึงยิ้มพร้อมกล่าว “คุณชายตื่นเช้าถึงเพียงนี้เชียว! ”
เซียวยวี่พยักหน้า เมื่อได้กลิ่นหอมที่ลอยฟุ้งจากภายในหม้อใบใหญ่ เขาหยุดฝีเท้า ก่อนกล่าว “เถ้าแก่ เอาเหมือนเมื่อวาน บะหมี่ใส่เนื้อหมู ข้าจะนำกลับไป! ”
ไม่รู้ว่านางจะตื่นเมื่อไร ให้นางกินอาหารรองท้องเสียหน่อย
เถ้าแก่กล่าวว่าได้เลย ก่อนจะต้มบะหมี่อย่างคล่องแคล่ว ใส่เครื่องปรุงรสหลายชนิด รอจนเส้นบะหมี่สุกแล้ว จึงตักขึ้นมา ก่อนจะตักน้ำแกงหนึ่งช้อน ตักเนื้อหมูที่ต้มสุกแล้วอีกหนึ่งช้อน แล้วจึงโรยต้นหอมสับจำนวนหนึ่ง
“คุณชายไม่กินที่นี่หรือ? บะหมี่นี่ปล่อยไว้นานก็จะเปื่อยเคี้ยวไม่อร่อย ท่านมิสู้กินที่นี่แล้วค่อยไปดีกว่า! ” เถ้าแก่เกลี้ยกล่อมด้วยความหวังดี
เซียวยวี่ส่ายหน้า “ไม่เป็นอะไร คนที่กินคือภรรยาของข้า! ”
เถ้าแก่มองเซียวยวี่ด้วยความตกใจ คุณชายที่รูปลักษณ์หล่อเหลาเช่นนี้ ยังรักใคร่เอ็นดูภรรยาถึงเพียงนี้ ไม่รู้จริงๆ ว่าภรรยาของเขามีรูปลักษณ์หน้าตาเหมือนเทพธิดาหรืออย่างไร
“เช่นนั้นก็ได้ คุณชาย ท่านถือดีๆ มันร้อน! ”
เซียวยวี่ชำระเงินเสร็จ จึงกล่าว “วันนี้คืนชามให้ท่านไม่ได้ อาจต้องรออีกสองวัน! ”
เถ้าแก่ยิ้ม “ไม่เป็นอะไร ท่านมาเมื่อใดค่อยคืนข้าก็ได้! ”
เซี่ยยวี่หลัวกำลังกอดหมอนของเซียวยวี่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ห้วงความคิดลอยไปไกล คิดถึงเรื่องต่างๆ ที่พวกเขาทำร่วมกัน รวมถึงเรื่องที่อาจทำในอนาคต เซี่ยยวี่หลัวยิ้มอยู่คนเดียว
เวลานี้เอง เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก
นี่ยังเช้าอยู่เลย ฟู่ซื่อและเลี่ยวซื่อไม่มีทางมาเช้าถึงเพียงนี้!
เซี่ยยวี่หลัวเงี่ยหูฟัง เสียงเคาะประตูทุ้มต่ำหนักแน่น เคาะสามครั้งก่อนหยุดลง ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเคาะต่อ เหมือนเสียงเคาะประตูที่ได้ยินเมื่อคืน
เซี่ยยวี่หลัวกระโดดลุกขึ้น สวมรองเท้าวิ่งออกมา
“เซียวยวี่หรือ? ” นางเอ่ยถามด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
เขาไปแล้วไม่ใช่หรือ? ไม่ทันเวลาแล้ว เหตุใดถึงกลับมาอีก?