ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 13 บทที่ 383 บุรุษมีความสามารถสตรีงดงาม เป็นคู่สร้างคู่สม
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 13 บทที่ 383 บุรุษมีความสามารถสตรีงดงาม เป็นคู่สร้างคู่สม
เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ถึงช่วงกลางเดือนหกแล้ว เดิมทีเซี่ยยวี่หลัวคิดจะนำแบบลวดลายไปส่งที่เมืองโยวหลัน แต่คิดไม่ถึง ว่าฮวาเหนียงจะมาหานางก่อน
ฮวาเหนียงรู้เพียงแค่ว่าเซี่ยยวี่หลัวอยู่ที่หมู่บ้านสกุลเซียว พอเข้าหมู่บ้านสกุลเซียวก็เริ่มถามทาง
สุดท้ายก็รีบเดินทางมาอย่างรวดเร็ว พบเซี่ยยวี่หลัวที่กำลังจะออกจากบ้านพอดี
หากมาช้ากว่านี้อีกเพียงเล็กน้อย นางก็คงตามเซียวยวี่ไปในแปลงนาแล้ว
ฮวาเหนียงเห็นบุรุษสวมใส่ชุดแขนสั้นที่ยืนอยู่หน้าประตู รูปลักษณ์ถือว่าดีเยี่ยมจริงๆ ถึงแม้เสื้อผ้าบนกายจะเรียบง่ายธรรมดาก็ตาม แต่ก็ไม่อาจบดบังบุคลิกงามสง่าของเขาได้เลยแม้แต่น้อย ก่อนหันมองเซี่ยยวี่หลัวที่อยู่ข้างๆ นางสวมใส่เสื้อผ้าธรรมดา เนื้อผ้าไม่ดีเท่าไร แต่พอสวมใส่บนกายนางก็ให้ความรู้สึกไม่ต่างกับสวมใส่ชุดเครื่องยศมากนัก
ไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน คงไม่ได้เป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ
บุรุษหล่อเหลางามสง่า สูงโปร่งดุจต้นหยกท่ามกลางสายลม สตรีงดงามอ่อนช้อย งามล่มเมือง
บุรุษมีความสามารถสตรีเลอโฉม สมกับเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างมาให้คู่กัน!
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองคน อาจมีเรื่องแง่งอนกัน เซียวยวี่กำลังเกลี้ยกล่อมเซี่ยยวี่หลัวอยู่หน้าประตู
เซี่ยยวี่หลัวยังคงตัดสินใจเด็ดขาด ว่าจะตามเซียวยวี่ไปในแปลงนา
เซียวยวี่จะทนได้อย่างไร ทั้งสองคนจึงพูดคุยกันอยู่หน้าประตู ยังดีที่หยุดอยู่หน้าประตู มิเช่นนั้นฮวาเหนียงคงต้องตามหาคนต่อ
“ฮวาเหนียง ท่านมาได้อย่างไร? ” เซี่ยยวี่หลัวเห็นคนที่มา จึงเชิญเข้าไปด้วยความยินดีเต็มประดา
ฮวาเหนียงมองเซียวยวี่ด้วยรอยยิ้ม ก่อนกล่าวเป็นเชิงหยอกเย้า “คนที่แต่ก่อนเข้าไปในตัวเมืองเป็นประจำ บัดนี้ผ่านไปสิบวันครึ่งเดือนยังไม่เห็นแม้แต่เงา ข้าก็กลัวว่าหากเจ้าไปจะรบกวนเวลาของพวกเจ้าสองสามีภรรยา จึงต้องมาด้วยตัวเองอย่างไรเล่า”
เซี่ยยวี่หลัวมองค้อนเซียวยวี่ทีหนึ่ง เซียวยวี่กล่าวทักทายฮวาเหนียง คิดว่าตอนนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะไปได้แล้ว
ที่ไหนได้ เซี่ยยวี่หลัวดูออกว่าเขากำลังคิดอะไร จึงสาวเท้าก้าวเดินอย่างรวดเร็วไปจับตัวเขาไว้ “ไปไปไป มีเรื่องจะคุยกับเจ้า”
การค้ากับฮวาหม่านยี เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดจะปิดบังเขา
จะได้ให้เซียวยวี่รู้สถานการณ์การเงินภายในครอบครัว พร้อมกับลบล้างความคิดของเขาที่จะไปทำงานในไร่นา
พวกเขาเข้าไปในห้องโถง ฮวาเหนียงมองดูสถานที่อยู่อาศัยของเซี่ยยวี่หลัวอย่างพินิจ
ถึงแม้จะดูอัตคัดไปบ้าง แต่ภายในก็ถูกเก็บกวาดอย่างสะอาด ข้าวของถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ ยังมีไหดินเผาเล็กๆ อีกหนึ่งถึงสองใบ ในนั้นบ้างก็มีดอกไม้ป่าจากบนภูเขาเสียบไว้ บ้างก็มีกิ่งไม้ที่แห้งแล้วเสียบไว้ เผยให้เห็นความงามสง่าอีกรูปแบบหนึ่ง
ถงเต๋อก็สอดส่ายสายตามองดูรอบข้างเช่นกัน หลังจากมองเสร็จจึงกล่าว “ฮูหยินเซียวช่างเป็นคนที่ยอดเยี่ยมนัก สิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ในเรือน นางสามารถจัดแต่งให้ดูแปลกใหม่ เห็นแล้วรู้สึกเหมือนเบื้องหน้าสว่างวาบ”
ภายในบ้านหลังนี้ไม่ได้มีของมีค่ามากมายเท่าไร และไม่มีสิ่งของประณีตแม้แต่ชิ้นเดียว ล้วนเป็นของทั่วไปในหมู่บ้านเกษตรกร เดิมทีทั้งดูธรรมดาและไร้ราคา ไม่รู้ว่ามือทั้งคู่ของเซี่ยยวี่หลัวเป็นอย่างไร จึงสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งของเหล่านี้ให้ดูดีมีสง่าราศี
ฮวาเหนียงมองไปพลางพยักหน้าไปพลาง “นั่นสิ เดิมทีนางก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว! ”
เซี่ยยวี่หลัวและเซียวยวี่ไปชงชาที่ห้องครัว เวลานี้เดินเข้ามาพร้อมกัน
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าทั้งสองคน ก็รู้แล้วว่าความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาดีเป็นพิเศษ ฮวาเหนียงเห็นแล้ว ก็เม้มริมฝีปาก รู้สึกมีความสุขตาม
“ฮวาเหนียง ถงเต๋อ รีบนั่งเร็ว ดื่มน้ำชาก่อน”
เซี่ยยวี่หลัวรินน้ำชา พร้อมให้ทั้งสองคนนั่งลง
สิ่งที่ชงในกาน้ำชาคือชาดอกไม้ ในนั้นมีดอกกุหลาบเลื้อยที่ตากจนแห้งแล้วอยู่จำนวนหนึ่ง
เมื่อเทน้ำเข้าไปในกาน้ำชา ดอกกุหลาบเลื้อยที่แห้งแล้ว ก็ราวกับดูดดื่มน้ำจนอวบอิ่ม มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง
ฮวาเหนียงดื่มหนึ่งคำ รู้สึกว่าชานี่แตกต่างจากชาที่ดื่มตามปกติ “เจ้าทำของดีอะไรออกมาอีกหรือ? ”
“เป็นดอกกุหลาบเลื้อยที่ปลูกไว้ในสวนหลังบ้าน ตากแห้งแล้วชงน้ำดื่ม ดื่มในฤดูร้อนทั้งคลายร้อนและปรับสภาพกระเพาะ” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวแนะนำง่ายๆ
ฮวาเหนียงรู้ว่าพอถึงช่วงเดือนสี่และเดือนห้า จะมีดอกกุหลาบเลื้อยที่บานสะพรั่งอยู่ทั่ว แต่ถึงแม้จะเบ่งบานอย่างหนาแน่น นางก็ไม่เคยสนใจพวกมัน บัดนี้เห็นเซี่ยยวี่หลัวนำมาชงน้ำดื่ม ทั้งยังมีสรรพคุณคลายร้อนปรับสภาพกระเพาะ ฮวาเหนียงก็ชมไม่ขาดปากอย่างอดไม่ได้ “มีแต่เจ้าที่รู้จักทำของดี รสชาติก็ไม่เลว มีกลิ่นหอมจางๆ ของดอกไม้ ดื่มแล้วรู้สึกมีกลิ่นหอมหลงเหลือในปาก รสชาติไม่เลวเลย”
“ฮวาเหนียง ท่านดื่มช้าหน่อย รอให้น้ำชาเย็นแล้ว ข้าจะเติมน้ำผึ้งให้ท่านอีกเล็กน้อย เช่นนั้นรสชาติจะดียิ่งขึ้น” เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว
ฮวาเหนียงย่อมรู้สึกยินดีที่จะกินของอร่อยยิ่งกว่า ดื่มไปสองถ้วยก็วางลง รอให้น้ำในถ้วยเย็น
ระหว่างที่รอ ฮวาเหนียงไม่ลืมธุระที่นางมาในครั้งนี้
“ยวี่หลัว สบู่ที่เจ้าให้ข้าครั้งก่อน เจ้ายังจำได้ใช่หรือไม่? ” ฮวาเหนียงมาเพราะเรื่องนี้
เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า “อืม จำได้”
กล่าวจบ นางหันมองเซียวยวี่ ทั้งสองคนหันสบตากันพลางแย้มรอยยิ้ม
มีหรือจะจำไม่ได้?
ดอกจินหยินที่ใช้ทำสบู่เหล่านั้น คือดอกจินหยินที่พวกเขาสองคนขึ้นภูเขาด้านหลังไปเก็บด้วยกัน เกิดเรื่องน่าสนใจขึ้นไม่น้อยเลย!
ฮวาเหนียงตบโต๊ะทีหนึ่ง กล่าวด้วยท่าทางตื่นเต้น “สบู่สิบก้อนที่เจ้าให้ไว้ ขายออกไปสี่ก้อน อีกหกก้อนข้ามอบให้สหายของข้า เมื่อวานนางส่งจดหมายให้ข้าฉบับหนึ่ง ถามว่าเจ้ายังมีสบู่เช่นนี้อีกหรือไม่ นางมอบสบู่ให้ผู้อื่นไปหลายก้อน บัดนี้มีแต่คนถามนางเพื่อจะซื้อ ล้วนแต่บอกว่าสบู่ของเจ้าทำได้ดีกว่าในเซียงเก๋อเสียอีก ทั้งดูดีทั้งใช้ได้ดี กลิ่นหอมที่ติดบนกายก็คงอยู่ยาวนานกว่าสบู่ที่ซื้อจากเซียงเก๋อ พอข้าได้รู้เรื่องนี้ก็รีบมาหาเจ้าทันที เจ้าทำสบู่เป็นไม่ใช่หรือ? เจ้าทำเพิ่มอีกหน่อย นำไปขายที่เมืองหลวง ต้องได้รับความนิยมแน่นอน”
นี่เป็นลู่ทางหาเงินที่ดี!
เซี่ยยวี่หลัวก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย นางคิดไม่ถึงว่าสบู่ที่ตัวเองทำอย่างง่ายๆ จะมีคนโปรดปรานมากมายถึงเพียงนี้!
กับข้อเสนอของฮวาเหนียง ถึงแม้เซี่ยยวี่หลัวจะรู้สึกดีใจ แต่นางก็รู้ขีดจำกัดของตัวเองดี
น้ำดอกไม้เป็นของที่ต้องเสียเวลาและเสียแรงเป็นอย่างมาก ครั้งก่อนใช้เวลาหลายวันถึงจะได้สิบกว่าก้อน หากคิดจะทำเป็นจำนวนมาก เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าตัวเองไม่มีความสามารถนั้น
ดอกจินหยินในภูเขาก็มีจำนวนจำกัด ทำได้ไม่มากนัก
เว้นเสียแต่จะมีน้ำดอกไม้ที่เตรียมไว้แล้ว
“ฮวาเหนียง น้ำดอกไม้นี่หายากมาก บางครั้งกลีบดอกไม้หนึ่งตะกร้า อาจทำน้ำดอกไม้ได้แค่ครึ่งถ้วยเล็กเท่านั้น” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวด้วยความรู้สึกเสียดาย “ทางข้าทำได้เพียงจำนวนน้อย ให้ทำสักสิบกว่าก้อนหลายสิบก้อนยังพอไหว แต่หากให้ทำสักร้อยก้อนข้าไม่มีความสามารถนั้นจริงๆ! ”