ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 707 ทำไมถึงไม่ใช่น้องสาว
ตอนที่ 707 ทำไมถึงไม่ใช่น้องสาว
…………….
ตอนที่ 707 ทำไมถึงไม่ใช่น้องสาว
ตั้งแต่เซี่ยไห่ถูกโจวลี่หรงแสดงท่าทีรังเกียจในวันนั้น เขาก็ไม่เคยมาที่นี่อีกเลย
แต่วันนี้เขามาพร้อมกับหู่จือ
หู่จือกังวลใจมาสองสามวันแล้ว
เขารู้เพียงว่าแม่ของเขาเพิ่งคลอดน้อง แต่เขาต้องไปโรงเรียน ส่วนผู้ใหญ่ก็ไม่พาเขามาเยี่ยมที่โรงพยาบาล บอกว่าให้รอก่อนจนกว่าจะถึงวันหยุดสุดสัปดาห์
เขาจึงนับวันรอ จนในที่สุดก็ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์
เมื่อเข้าไปในห้องผู้ป่วยก็เห็นหลินเซี่ยที่นั่งอยู่บนเตียง เขามองด้วยสายตาเป็นประกายและถามว่า “แม่ครับ น้องสาวผมอยู่ไหนครับ”
หลินเซี่ยเห็นหู่จือวิ่งเข้ามาหา จึงทำหน้างง ๆ “อ้าว”
เธอหันไปมองเซี่ยไห่และคนอื่น ๆ ด้วยสายตาไม่พอใจ
พวกเขาไม่ได้บอกหู่จือเรื่องที่เธอคลอดลูกชายเหรอ
แล้วโยนโจทย์ยาก ๆ แบบนี้ให้เธอทำไม
หู่จือเดินเข้ามาหาอย่างต้องการดูน้องสาว
เขาเอนตัวอยู่ที่ขอบเตียง มองทารกตัวน้อยที่นอนอยู่ตรงนั้นอย่างตื่นเต้น เรียกว่าน้องสาว และพยายามเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของน้อง แต่การกระทำนั้นกลับทำให้โจวลี่หรงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตกใจ
โจวลี่หรงกำลังจะห้ามหู่จือ แต่ก็เห็นเซี่ยไห่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
คำที่อยู่ตรงปลายลิ้นจึงถูกกลืนกลับเข้าไป
หลินเซี่ยเอ่ยเตือน “หู่จือ ไม่ลูบแก้มน้องชายนะ มองเฉยๆ ก็พอ ถ้ากลับบ้านแล้ว แม่จะให้ลูบเต็มที่เลย”
หู่จือหูไวมาก พอได้ยินหลินเซี่ยพูดว่าเป็นน้องชาย เขาก็เอียงคอถามอย่างสงสัยว่า “แม่ครับ ไม่ใช่น้องสาวเหรอ”
“เอ่อ… แม่เผลอไปมีลูกชายน่ะครับ” หลินเซี่ยอธิบายให้ฟัง
“อะไรนะครับ?” หู่จือแสดงอาการผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เขามองไปทางเฉินเจียเหอแล้วร้องโวยวาย “พ่อหลอกผม ทำไมพ่อบอกว่าแม่จะคลอดน้องสาวล่ะ”
“เธอไม่ชอบน้องชายเหรอ” เซี่ยไห่เดินเข้ามาทำทีจะอุ้มเด็ก “ถ้าไม่ชอบ เดี๋ยวอารองอุ้มไปเลยนะ”
หู่จือเห็นดังนั้นก็ร้อนใจ “ใครบอกว่าผมไม่ชอบล่ะ ผมมีน้องชายก็ได้ อะไรที่แม่คลอดมาก็ได้ทั้งนั้น ไม่มีใครพรากน้องชายไปจากผมได้หรอก”
หู่จือกางแขนออก ยืนขวางอยู่หน้าเตียงไม่ให้เซี่ยไห่เข้ามาใกล้
หลินเซี่ยเฝ้าดูภาพนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นแปลก ๆ เธอกอดลูกน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า “ดูพี่ชายของหนูซิ เข้มแข็งอะไรอย่างนี้ ต่อไปนี้ให้พี่ชายปกป้องดูแลหนูนะลูก คงไม่มีใครกล้ามาแกล้งหนูได้แล้ว”
เธอเชื่อว่าในภายหน้าหู่จือจะยืนขวางปกป้องน้องชายแบบนี้เสมอ
หู่จือเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “ใช่แล้วครับ น้องชายของผม ผมจะปกป้องเอง ใครก็ห้ามรังแก”
หู่จือยอมรับความจริงที่ว่าเขามีน้องชายได้อย่างง่ายดาย
ลืมน้องสาวไปเสียสนิท
ทันทีที่หู่จือและเซี่ยไห่มาถึง บรรยากาศในห้องตอนนี้ก็คึกคักขึ้นมาก
สองคนคุยจ้อกันไม่หยุด เดี๋ยวก็ทะเลาะกัน เดี๋ยวก็มาหยอกล้อกับเด็กน้อย บรรยากาศผ่อนคลายและอบอุ่น
หลินเซี่ยที่นอนอยู่บนเตียงรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วขึ้นเยอะ
ตอนบ่าย เซี่ยไห่จะพาหู่จือกลับ แต่หู่จือไม่อยากกลับ เห็นว่าในห้องพยาบาลยังมีเตียงว่างอยู่ จึงบอกว่าจะนอนเฝ้าแม่กับน้องชาย
“กลางคืนเด็กนอนที่โรงพยาบาลไม่ได้นะ เดี๋ยวจะโดนพยาบาลจับไปฉีดยา”
“รีบเลย ๆ ใกล้ได้เวลาแล้ว ถ้าไม่ไปก็จะโดนฉีดยาแทน โดนฉีดที่ก้นข้างละเข็ม”
หู่จือที่ถูกขู่แบบนี้ก็ตกใจสุดขีด
“แม่ครับ ผมกลับก่อนนะครับ” หู่จือไม่อยากยอมรับต่อหน้าน้องว่าตัวเองกลัวการฉีดยา
เขาหันไปบอกน้องชาย “น้องชาย พี่ต้องไปโรงเรียนแล้ว พี่กลับก่อนนะครับ”
หลังจากนั้นเขาก็คว้ามือเซี่ยไห่และเดินจากไปอย่างลุกลี้ลุกลนด้วยขาสั้นป้อมของเขา
เหนือฟ้าก็ยังมีฟ้าอย่างแท้จริง หู่จือโดนอารองของเขาหลอกจนเชื่อสนิทใจ
……………………………………………………..
พอถึงวันที่หลินเซี่ยครบกำหนดออกจากโรงพยาบาล เซี่ยหลานก็รีบมาเยี่ยมเธอในตอนเที่ยง
หล่อนใช้เงินที่เสิ่นอวี้หลงมอบให้ไปซื้อของบำรุงร่างกายอย่างแม่ไก่แก่สองตัวและปลาสองตัว จากนั้นก็หอบหิ้วไปที่โรงพยาบาล
หล่อนมอบของเหล่านั้นให้เฉินเจียเหอ เพื่อให้เขานำไปเก็บไว้ในรถ
“เซี่ยเซี่ย นี่เป็นของที่น้องชายซื้อให้ลูกนะ”
“อวี้หลงซื้อมาให้เหรอคะ” เมื่อได้ยินเช่นนี้หลินเซี่ยก็ดีใจมาก “แม่คะ ถ้ากลับไปช่วยขอบคุณอวี้หลงให้ฉันด้วยนะ เขาช่างเอาใจใส่จริงๆ”
“แม่ต้องไปทำงานแล้ว คงไปส่งไม่ได้ เดี๋ยวไว้ไปหาที่บ้านนะ”
หลินเซี่ยพูดว่า “แม่ไม่ต้องส่งหรอกค่ะ แม่ไปทำงานก็แล้วกัน ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ”
เธอจับมือเซี่ยหลาน อดไม่ได้ที่จะกำชับอีกสองสามประโยค “แม่ ทุกสิ่งผ่านไปแล้ว ชีวิตดี ๆ ก็มาถึงแล้ว ร่างกายของอวี้หลงก็จะยิ่งแข็งแรงขึ้นในทุกวัน แม่ต้องดูแลสุขภาพของแม่ให้ดี ๆ ปรับอารมณ์ให้ดี ๆ นะ”
เซี่ยหลานมองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน พยักหน้าตอบ “ได้ แม่จะทำให้ได้”
“จัดของเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหม อย่าลืมอะไรทิ้งไว้ล่ะ” เซี่ยไห่เห็นของที่เฉินเจียเหอจัดเสร็จแล้ว ก็ถือไปที่รถเลย
โจวลี่หรงอุ้มเด็กน้อย เฉินเจียเหอประคองหลินเซี่ยออกมาจากโรงพยาบาล
เดิมทีผู้เฒ่าเฉินและคนอื่น ๆ หวังให้หลินเซี่ยกลับไปพักฟื้นที่บ้านพักสวัสดิการในกองทัพ แต่หลินเซี่ยกลับบอกว่าอยากจะไปพักฟื้นที่บ้านของเธอเอง
เป็นแบบนั้น เฉินเจียเหอก็จะได้ไม่ต้องเดินทางไกล และสะดวกที่จะกลับบ้านได้ทุกเมื่อ
ถ้าไปอยู่ที่บ้านพักสวัสดิการในกองทัพ เฉินเจียเหอก็จะกลับบ้านลำบาก
จะให้ครอบครัวพวกเขาอยู่กันคนละที่ก็ไม่ได้
แท้จริงแล้วหลินเซี่ยคิดว่าการอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ของเธอทำให้เธอสบายใจกว่า
ญาติๆ ของเธอจะมาเยี่ยมเธอก็สะดวกกว่า
หากต้องให้คนอื่นมาดูแลเธออีก เธอคงจะไม่สบายใจ
ทางตระกูลเฉินก็ยังคงเห็นด้วยกับความคิดของหลินเซี่ยว่าให้เธอพักที่บ้าน
แต่เงื่อนไขก็คือโจวลี่หรงต้องตามไปดูแลหลังคลอด
เรื่องนี้ไม่ว่าหลินเซี่ยจะคิดอย่างไร เธอก็คงจะต้องไม่มีข้อโต้แย้ง
เธอต้องยินยอมให้แม่สามีมาดูแลหลังคลอด ไม่อย่างนั้นคงมีปัญหากันแน่
เมื่อวานหลิวกุ้ยอิงกับชุนฟางมาทำความสะอาดบ้านแล้ว สิ่งของที่ต้องเตรียมที่บ้านก็เตรียมครบแล้ว
มุ้งที่เตียงในห้องก็แขวนไว้เรียบร้อย
โจวลี่หรงมาแล้ว ก็คงจะต้องอยู่ในห้องของหู่จือ
ถ้าหู่จือกลับมา ก็คงต้องอยู่ห้องเดียวกับโจวลี่หรง
แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ประจำ หู่จือยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล และโรงเรียนอนุบาลก็อยู่ไกลจากที่นี่ด้วย
ดังนั้นในบางครั้งเขาจะอยู่ที่บ้านพักสวัสดิการของกองทัพ บางทีก็จะอยู่ที่บ้านหลินเซี่ย อีกไม่กี่เดือนก็จะจบอนุบาลแล้ว
พอกลับมาถึงบ้าน คนในครอบครัวเฉินรวมถึงผู้เฒ่าเฉินต่างก็รออยู่
ยกเว้นคุณพ่อสามีเฉินเจิ้นเจียงกับเฉินเจียซิ่งที่ทำงานประจำและไม่สามารถลาหยุดได้ คนอื่นก็มากันครบ
ทุกคนรออยู่ข้างล่าง
ดูเป็นงานพิธีใหญ่โตมาก
พอเห็นรถจอดและโจวลี่หรงอุ้มเด็กน้อยลงจากรถ พวกเขาก็รีบเดินไปรับด้วยความดีใจ
เมื่อเพื่อนบ้านเก่าแก่ที่ย้ายมาที่นี่พร้อมกับครอบครัวหลินได้ยินว่าหลินเซี่ยคลอดลูกและออกจากโรงพยาบาลวันนี้ ต่างก็มาคอยอย่างมีความสุขพร้อมกับผู้เฒ่าเฉิน
พอเห็นพวกเขากลับมา ก็ยิ้มทักทาย
ตอนที่หลินเซี่ยไปอยู่ที่บ้านพักในกองทัพเพื่อบำรุงครรภ์ พวกเขาก็ไม่ได้เจอหลินเซี่ยอีกเลย เผลอไม่นานหลานก็คลอดแล้ว พอได้ยินว่าคลอดลูกชาย คนแก่ทุกคนต่างก็ดีใจแทน เฉินเจียเหอหัวเราะชอบใจพลางพูดว่าผู้หญิงผู้ชายก็เหมือนกัน
แต่ครอบครัวตระกูลเฉินค่อนข้างหวังให้หลินเซี่ยคลอดลูกสาว
เพราะเฉินเจียเหอมีพี่น้องชายสามคน ไม่มีพี่สาวหรือน้องสาว
ต่อมาก็มีหู่จือเป็นหลานชายคนโต ถ้ามีหลานสาวอีกสักคนคงมีความสุขมากกว่านี้
“เซี่ยเซี่ย พวกเราไม่ได้เจอกันนานมากเลย นึกไม่ถึงว่าจะคลอดลูกเร็วขนาดนี้”
หลินเซี่ยมีเฉินเจียเหอประคองอยู่ สวมหมวกและเสื้อผ้าแขนยาวพร้อมหน้ากากอนามัย เมื่อเห็นพี่สาวจางเดินเข้ามาทักทาย เธอก็ตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม “ใช่ค่ะ พี่สาวจาง เราไม่ได้เจอกันสามเดือนแล้ว เวลาผ่านไปเร็วจริงๆค่ะ”
พี่สาวหลิวกล่าวว่า “กลับไปนอนพักฟื้นที่บ้านให้เยอะๆ อย่าให้โดนลมนะ กลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวเราค่อยตามไปดูหลาน”
โจวลี่หรงอุ้มเด็กน้อยเอาไว้และคลุมผ้าห่มไว้ที่ศีรษะเพื่อป้องกันไม่ให้เพื่อนบ้านเข้ามาใกล้ หล่อนอุ้มเด็กน้อยเดินขึ้นบันไดโดยไม่รอหลินเซี่ยและคนอื่นๆ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หู่จือน่ารักจัง เป็นเด็กที่ยอมรับความจริงง่ายมาก อนาคตโตมาอย่างดีแน่นอน
ช่วงอยู่เดือนกับแม่สามีจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย ฝ่ายนั้นดูเข้มงวดเจ้าระเบียบเหลือเกิน
ไหหม่า(海馬)
…………….