ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 749 ไปดูให้เห็นกับตา(2)
ตอนที่ 749 ไปดูให้เห็นกับตา(2)
……….
ตอนที่ 749 ไปดูให้เห็นกับตา(2)
เมื่อทุกคนมาถึงตลาดวัสดุก่อสร้าง เหยาจิ้งจือและหลี่เสวี่ยเยี่ยนก็ไม่ได้เดินเข้าไป แต่กลับมองตรงไปยังประตูทางเข้าตลาด
ตอนนี้เหยาอู่และเหยาลิ่วเข้าใจได้แล้วว่าการเดินทางมาเซินเจิ้นในครั้งนี้ไม่ง่ายเลย พวกเขาแค่มาปกป้องเหยาจิ้งจือและหลี่เสวี่ยเยี่ยนเท่านั้น ดังนั้นทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องอื่น
ขณะที่เหยาจิ้งจือและหลี่เสวี่ยเยี่ยนมองอยู่ด้านนั้น เซี่ยเจ๋อเหว่ยและเจียงเพ่ยหลิงก็เดินออกมาพร้อมกัน
ก่อนหน้านี้เซี่ยเจ๋อเหว่ยพูดไว้ว่าจะเลี้ยงอาหาร แต่ยังไม่ได้เลี้ยงสักที คืนนี้ทั้งคู่จึงพากันออกมากิน
“ไม่รู้แหละ ก่อนหน้านี้คุณพูดว่าจะเลี้ยงไก่ย่าง แต่คุณก็เลื่อนออกไปหลายวัน วันนี้คุณต้องชดเชยให้ฉันนะคะ”
พอได้ยินเช่นนั้น เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็ไม่ได้โต้แย้ง เพียงพยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ อยากกินอะไรก็จัดไปเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงเพ่ยหลิงก็ทำตาลุกวาวแล้วกล่าวว่า “ฉันอยากกินหูฉลาม”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ที่นี่จะมีหูฉลามได้ยังไง อาหารจานนี้มันค่อนข้างทำยากและมีราคา ร้านอาหารทั่วไปคงไม่มี”
“ร้านอาหารทั่วไปไม่มีหรอก แต่ฉันรู้ว่าร้านอาหารแห่งหนึ่งมี ฉันว่าเราไปที่นั่นกันเถอะ”
“แต่มันไกลนะ”
เมื่อเซี่ยเจ๋อเหว่ยได้ยินชื่อร้าน เขาก็ไม่อยากไปสักเท่าไร
ทว่าเจียงเพ่ยหลิงกลับเข้าไปดึงแขนเซี่ยเจ๋อเหว่ยแล้วพูดว่า “คุณสัญญากับฉันแล้วนี่คะ ตอนนี้จะมาปฏิเสธก็ไม่ได้นะ”
“แต่ว่า…”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยยังไม่ทันพูดจบ เจียงเพ่ยหลิงก็จับมือเขาโยกไปมาพลางพูดว่า “คุณสัญญากับฉันแล้ว ต้องรักษาสัญญาสิ หลายวันมานี้เราแทบไม่ได้อยู่ด้วยกันเลยด้วยซ้ำ”
ฉากนี้เหยาจิ้งจือกับหลี่เสวี่ยเยี่ยนเห็นได้ชัดเจน ทั้งคู่พลันเลือดขึ้นหน้าทันที โดยเฉพาะหลี่เสวี่ยเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำเจือแววโศกเศร้า
เหยาจิ้งจือก็เพิ่งจะรู้สึกตัว จึงรีบหันไปมองลูกสะใภ้คนโต พอเห็นว่าขอบตาของหล่อนแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้า เหยาจิ้งจือก็โกรธขึ้นไปอีก แล้วหันไปสั่งเหยาอู่และเหยาลิ่ว “จัดการเซี่ยเจ๋อเหว่ยให้หนักเลย จัดการให้สาสม”
เหยาลิ่วลังเลอยู่เล็กน้อย แต่เหยาอู่กลับเดินตรงเข้าไปทันที
เมื่อเห็นเหยาอู่ทำเช่นนั้น เหยาลิ่วจึงไม่ลังเลและรีบตามไป
“โอ๊ย…”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเหยาอู่กับเหยาลิ่วโผล่มาจัดการเขาจนล้มลงไปที่พื้น จากนั้นก็โดนกำปั้นทุบรัวตามเนื้อตัวจนหน้าซีดด้วยความเจ็บปวด เจียงเพ่ยหลิงเห็นภาพนั้นก็ตกใจจนพูดไม่ออก เมื่อตั้งสติได้ก็กรีดร้องเสียงหลง
“นี่…พวกนายทำอะไร ปล่อยเจ๋อเหว่ยของฉันนะ”
ถึงปากจะพูด แต่เจียงเพ่ยหลิงกลับไม่กล้าเข้าไปใกล้เหยาอู่กับเหยาลิ่วแม้แต่น้อย ไม่นานชายทั้งสองคนนั้นก็จัดการหล่อนไปอีกคน
เห็นเจียงเพ่ยหลิงเป็นเช่นนี้ เหยาจิ้งจือก็อดหัวเราะเยาะไม่ได้
“เซี่ยเจ๋อเหว่ยตาถั่วหรืออย่างไร ถึงได้ชอบผู้หญิงแบบนี้”
หลี่เสวี่ยเยี่ยนมองดูทุกอย่างเงียบ ๆ และไม่พูดอะไร ได้แต่ปล่อยให้เซี่ยเจ๋อเหว่ยโดนทำร้ายอยู่อย่างนั้น
ขณะนี้เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็เพิ่งจะมองเห็นคนที่รุมทำร้ายเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อและพูดว่า “เหยาอู่…ทำ…ทำไมถึงเป็นนาย”
เหยาอู่คุมแรงเอาไว้ตลอด โดยยึดหลักการที่ว่าไม่ให้คนเจ็บหนัก แต่แค่เจ็บปวด และกำปั้นแต่ละหมัดที่ออกไปล้วนเต็มแรง ส่วยเหยาลิ่วก็เช่นกัน เขามุ่งเป้าตีแค่จุดเจ็บ แต่ก็มั่นใจได้ว่าจะไม่ทำให้เซี่ยเจ๋อเหว่ยบาดเจ็บ
เจียงเพ่ยหลิงได้ยินคำพูดของเซี่ยเจ๋อเหว่ยเมื่อครู่ ก็รู้ว่าเขารู้จักคนร้ายสองคนที่อยู่ตรงหน้า หล่อนพลันรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายที่จะรับมือ และในเวลานั้นก็เห็นเหยาจิ้งจือและหลี่เสวี่ยเยี่ยนพอดี
ถึงจะไม่รู้จักผู้หญิงสองคนที่อยู่ตรงหน้า แต่หล่อนก็รับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ
คนที่มาน่าจะเป็นแม่และภรรยาของเซี่ยเจ๋อเหว่ย
เซี่ยเจ๋อเหว่ยเองก็คิดได้เช่นกัน เมื่อเหยาอู่มา แสดงว่าคนในบ้านต้องมาด้วยแน่นอน “แม่ ทำแบบนี้ทำไม”
เห็นลูกชายเจ็บปวดและเหยาอู่กับเหยาลิ่วก็ทุบตีเขาไปไม่น้อย เหยาจิ้งจือจึงได้ร้องห้าม
เมื่อได้ยินคำสั่งของเหยาจิ้งจือ เหยาอู่กับเหยาลิ่วก็หยุดลงมือทันที
ขณะที่เซี่ยเจ๋อเหว่ยลุกขึ้นมามองมารดาของตนอย่างยากลำบาก เขาก็หันไปเห็นหลี่เสวี่ยเยี่ยน และอดถามไม่ได้ว่า “แม่ เสวี่ยเยี่ยน พวกคุณมาได้ยังไง?”
หลี่เสวี่ยเยี่ยนไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนเหยาจิ้งจือที่ได้ยินคำพูดของลูกชายคนโต ก็พูดด้วยความโมโหว่า “แล้วถ้าพวกเราไม่มาล่ะ แกจะไปกินข้าวกับผู้หญิงคนนี้ต่อ พากันไปเที่ยวเตร่ต่อหรือไง?”
“แม่ มันไม่เป็นอย่างที่แม่คิด”
เมื่อพูดถึงตอนท้าย เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็หันไปพูดกับหลี่เสวี่ยเยี่ยน ว่า “มู่หลานพูดอะไรให้พวกคุณฟังหรือเปล่า ผมอธิบายกับหล่อนไปหมดแล้วว่าระหว่างผมกับเพ่ยหลิงไม่ได้มีอะไรเลย”
“แก…”
เหยาจิ้งจือได้ยินคำนี้ก็โกรธไม่น้อย
หลี่เสวี่ยเยี่ยนกลับหัวเราะออกมาและมองตรงไปที่เซี่ยเจ๋อเหว่ย แล้วพูดว่า “คุณกับหล่อนไม่มีอะไรกันจริง ๆ เหรอ เมื่อกี้พวกคุณยังเดินจูงมือกันมา คุณยังจะกล้าพูดว่าพวกคุณไม่มีอะไรกันอีกเหรอ”
เมื่อได้ยินคำนี้ เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็รู้ว่าแม่และภรรยาของเขามาอยู่ที่นี่กันนานแล้ว แถมยังเห็นเจียงเพ่ยหลินจูงมือเขามาด้วย
“พวกคุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หลี่เสวี่ยเยี่ยนไม่ได้ตอบ กลับถามต่อว่า “แล้วคุณคิดว่าจะต้องไปถึงขั้นไหนเหรอถึงจะเรียกว่ามีอะไรกัน?”
ตอนนี้เซี่ยเจ๋อเหว่ยปวดระบมไปทั้งตัว เขาจึงอารมณ์ไม่ดีนัก บวกกับการที่ภรรยาของเขายังมาวุ่นวายอีก สีหน้าของเขาก็เย็นชาลงทันที “คุณอย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า ผมอธิบายชัดเจนไปแล้วว่าระหว่างผมกับเพ่ยหลิงไม่มีอะไรเลย”
“พวกคุณยังไม่ได้นอนด้วยกันงั้นเหรอ คุณถึงได้อ้างว่าพวกคุณไม่มีอะไรกัน”
เมื่อได้ยินคำพูดหยาบคายและตรงไปตรงมาของหลี่เสวี่ยเยี่ยน สีหน้าของเซี่ยเจ๋อเหว่ยก็ดูไม่สู้ดีนัก
“เสวี่ยเยี่ยน คุณพูดอะไรอยู่”
ในตอนนี้เอง หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็รู้สึกว่ามันไม่มีความหมายแล้ว หล่อนหันหน้าไปทางเหยาจิ้งจือแล้วพูดว่า “แม่ กลับกันเถอะค่ะ”
“เสวี่ยเยี่ยน เราจะกลับกันเฉย ๆ แบบนี้เลยเหรอ?”
“ใช่ ฉันไม่อยากเห็นหน้าพวกเขาอีกแล้ว และฉันก็อยากจะคิดทบทวนเรื่องของฉันกับเซี่ยเจ๋อเหว่ยดี ๆ ถ้ามันไปด้วยกันไม่ได้ เราก็เลิกกัน”
เหยาจิ้งจือยังไม่ทันได้พูดอะไร เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็มองหลี่เสวี่ยเยี่ยนด้วยความไม่เชื่อแล้วพูดว่า “คุณพูดว่าไงนะ…คุณพูดอะไรออกมา…”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
จะแก้ตัวยังไงต่อล่ะพี่ใหญ่ ทั้งแม่ทั้งเมียเห็นเต็มตาขนาดนั้นแล้ว ไปทบทวนความรู้สึกตัวเองดีๆ นะ
ไหหม่า(海馬)
……….