ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 712 ชี้แนะ+วางแผน(1)
ตอนที่ 712 ชี้แนะ+วางแผน(1)
……….
ตอนที่ 712 ชี้แนะ+วางแผน(1)
เมื่อเก๋อฮั่นเตี่ยนและฉินเค่อเยวียนได้ยินคำพูดนั้นของฉินมู่หลาน พวกเขาก็รีบพยักหน้ารับคำ “แน่นอน”
เพราะการผ่าตัดครั้งนี้มีฉินมู่หลานเป็นผู้ลงมือผ่าตัด ขนาดหลี่ปิ่งฉวนที่เข้าไปด้วยกันยังต้องฟังคำสั่งเธอ นับประสาอะไรกับพวกเขาทั้งสองคน
ฉินมู่หลานเห็นทั้งสองคนพูดเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และให้พวกเขาเริ่มเตรียมตัว
หลิวซิ่นเดินไปหาทั้งสองคนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบาว่า “เดี๋ยวตอนเข้าห้องผ่าตัดแล้ว ดูให้เยอะ ฟังให้เยอะ อย่าพูดอะไร”
“คุณหมอหลิว พวกเราทราบแล้ว”
ก่อนหน้านี้เก๋อฮั่นเตี่ยนและฉินเค่อเยวียนไม่เคยเห็นฉินมู่หลานเข้าผ่าตัดด้วยตาตัวเอง วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น ดังนั้นทั้งสองจึงมีความคาดหวังสำหรับการผ่าตัดในครั้งนี้ และรับฟังคำพูดของหลิวซิ่นแต่โดยดี เพราะในการผ่าตัดครั้งนี้พวกเขามาเพื่อสังเกตการณ์เท่านั้น ดังนั้นทำเพียงเงียบปากแล้วมองก็พอแล้ว
หลังจากที่ทุกคนเตรียมตัวเสร็จ ฉินมู่หลานก็นำหลี่ปิ่งฉวนและคณะเดินเข้าห้องผ่าตัด
การผ่าตัดเริ่มขึ้นอย่างแท้จริง ฉินมู่หลานอธิบายขั้นตอนการผ่าตัดทั้งหมดอย่างละเอียด โดยมีหลี่ปิ่งฉวนคอยช่วยอยู่ข้าง ๆ มองดูท่าทางต่าง ๆ ของฉินมู่หลานทุกอิริยาบทอย่างตั้งใจ ส่วนหลิวซิ่นและเหลยเซิ่งเฉาซึ่งอยู่ถัดไปด้านหลังอีกหน่อย ก็จดจำคำพูดของฉินมู่หลานด้วยเช่นกัน
แต่เก๋อฮั่นเตี่ยนและฉินเค่อเยวียนกลับมองทุกสิ่งตรงหน้าด้วยความมึนงง และรู้สึกว่ามันเหลือเชื่อไปหน่อย
ในห้องผ่าตัดแห่งนี้ราวกับว่าฉินมู่หลานเป็นเจ้าของสถานที่ ใบหน้าของเธอสงบนิ่งและมั่นใจ ถือมีดผ่าตัดอยู่ในมืออย่างมั่นคง และทำการผ่าตัดด้วยเทคนิคที่พวกเขาไม่เข้าใจหลาย ๆ อย่าง
จนกระทั่งการผ่าตัดในครั้งนี้จบลง เก๋อฮั่นเตี่ยนและฉินเค่อเยวียนก็ยังคงไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งหลิวซิ่นตบไหล่พวกเขาเบา ๆ พวกเขาจึงรู้สึกตัว
“เอาล่ะ ผมกับพวกคุณจะเฝ้าดูอาการคนไข้ แล้วพาคนไข้กลับไปที่ห้องพัก”
“ครับ”
ด้านฉินมู่หลานก็ได้เดินออกไปพร้อมกับหลี่ปิ่งฉวนแล้ว
“คุณหมอหลี่ การผ่าตัดคนไข้หยางอี๋ซับซ้อนกว่าการผ่าตัดคนไข้เซียวซือเหมี่ยนเมื่อก่อนหน้านี้อยู่เล็กน้อย ฉันเลยยังไม่ได้ให้คุณหมอลงมือ เดี๋ยวรอคนไข้คนอื่นก็แล้วกันนะคะ ค่อยให้คุณหมอลองลงมือเอง” ฉินมู่หลานรู้ดีว่าในอนาคตจะต้องพัฒนาโรงงานยาซิ่งหลินและร้านซิ่งหลินต่อไป และเธอจะไม่เป็นหมออยู่ในโรงพยาบาล ดังนั้นจึงอยากให้คุณหมอหลี่รีบเรียนรู้สิ่งเหล่านี้โดยเร็ว
หลี่ปิ่งฉวนฟังแล้ว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอยากลอง แต่อีกใจเขาก็มีความกังวล
“คุณหมอฉิน ผมทำได้จริงเหรอ แต่ว่า…ผมไม่เคยเปิดแผลเล็กขนาดนี้มาก่อนเลย ผมกลัวว่าผมจะทำงานในมุมมองจำกัดแบบนี้ไม่ได้”
ฉินมู่หลานกลับยิ้มและให้กำลังใจว่า “หมอหลี่ ทุกอย่างล้วนเริ่มต้นจากการลองทำ ยิ่งทำก็ยิ่งชำนาญ ทำบ่อย ๆ ก็จะทำได้เองค่ะ”
หลี่ปิ่งฉวนเองก็คิดเช่นนั้น เขาจึงรีบมองไปที่ฉินมู่หลานแล้วกล่าวว่า “คุณหมอฉิน งั้นคุณหมอต้องคอยดูข้าง ๆ ด้วยนะ”
“แน่นอนค่ะ”
หลังจากที่ทั้งสองคุยกันจบก็ได้พูดคุยถึงแผนการผ่าตัดของหยางอี๋ต่อ สุดท้ายหลังจากที่หยางอี๋กลับเข้ามาที่ห้องพัก ฉินมู่หลานและหลี่ปิ่งฉวนก็ได้กลับไปติดตามอาการของหล่อนอีกครั้ง
“คุณหมอฉิน การผ่าตัดของพี่สาวฉันราบรื่นดีใช่ไหมคะ?”
หยางเหวินถามขึ้นทันทีที่เจอฉินมู่หลาน
ฉินมู่หลานพยักหน้าพร้อมกับยิ้มและกล่าวว่า “ไม่ต้องห่วง การผ่าตัดราบรื่นมาก เมื่อครู่ตอนที่ฉันผ่าตัดเสร็จ ฉันก็บอกพวกคุณไปแล้ว”
หยางเหวินพูดอย่างเขินอายว่า “คุณหมอฉิน ฉันเป็นห่วงพี่สาวมากไปหน่อย เลยอดที่จะถามซ้ำไม่ได้”
วันนี้เซียวซือเหมี่ยนเองก็มา เขาเองเชื่อมั่นในฉินมู่หลานอยู่แล้ว เมื่อได้ยินฉินมู่หลานพูดเช่นนี้ เขาก็รีบตบไหล่ของหยางเหวินและกล่าวว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงพี่สาวคุณหรอก คุณหมอฉินบอกว่าราบรื่นดี อีกไม่กี่วันคงจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
“ใช่ๆ ขอบคุณคุณหมอฉินมากนะคะ”
ในเวลานี้ สามีของหยางอี๋ก็กล่าวขอบคุณด้วยความขอบคุณ
ฉินมู่หลานยิ้มและโบกมือปฏิเสธ จากนั้นหลังจากที่พูดข้อควรระวังต่าง ๆ แล้วเธอก็กลับไปก่อน
………………………………………
การผ่าตัดครั้งนี้ที่ฉินมู่หลานลงมือผ่าตัดได้กลายเป็นเคสตัวอย่างที่แพทย์ศัลยกรรมทรวงอกทุกคนอยากจะเรียนรู้ ไม่มีใครพูดอีกแล้วว่าเธอเป็นแค่แพทย์ฝึกหัด เพราะหมอทุกคนพิสูจน์ความสามารถด้วยฝีมือทั้งนั้น
“มู่หลาน เธอเก่งมากเลย ก่อนหน้านี้ได้ยินแต่คำว่า ‘หมอฝึกหัด ๆ’ เดี๋ยวนี้ไม่มีใครพูดแบบนั้นอีกแล้ว ตอนนั้นที่มีคนพูดก็เป็นตอนที่เพิ่งเข้าโรงพยาบาลปักกิ่งไม่นาน คนที่รู้จักเธอต่อให้รู้ว่าเธอมาฝึกงานก็ไม่มีใครพูดแบบนั้น พวกเขาทุกคนรู้จักฝีมือของเธอกันหมด”
เซี่ยปิงหรุ่ยรู้สึกดีใจกับฉินมู่หลานจริง ๆ เพราะตอนที่พวกหล่อนเพิ่งย้ายเข้ามาในแผนกศัลยกรรมทรวงอก ยังมีหมอหลายคนที่คิดไม่ดีกับมู่หลาน ต่อให้ไม่มีใครพูดอะไร แต่ก็แสดงออกทางสีหน้า
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้น จึงมองไปที่เซี่ยปิงหรุ่ยแล้วพูดว่า “ปิงหรุ่ย ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะคุยกับหัวหน้าแผนกนี่ เธอได้คุยหรือยัง”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ยังเลย เพราะหัวหน้าแผนกหลินยุ่งมาก หาเวลาคุยด้วยไม่ได้เลย”
“เธอก็หมั่นสังเกตหัวหน้าแผนกหลินดู เมื่อเขามีเวลา ก็ไปคุยกับเขาดี ๆ ด้วยฝีมือของเธอแบบนี้ ถ้าต้องมานั่งทำงานจิปาถะในออฟฟิศทุกวันก็นับว่าน่าเสียดายมาก”
เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินดังนั้น ก็หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “ได้ ฉันรู้แล้ว เธอยังเชื่อใจฉันเสมอเลย” เมื่อพูดจบก็พูดถึงเรื่องมื้อเย็นอีกครั้ง “อ้อ ชุนเถาชวนเราไปกินข้าวที่บ้านหล่อนน่ะ”
“เอาสิ เลิกงานแล้วไปกัน”
เมื่อฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยเลิกงาน พวกหล่อนก็ตรงไปที่บ้านของเหมาชุนเถาทันที
เหมาชุนเถาเห็นหญิงสาวทั้งสองเดินเข้ามา ก็ทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “มาแล้วเหรอ เข้ามาข้างในเร็วเลย อาหารเย็นจะเสร็จแล้ว”
เมื่อเห็นเหมาชุนเถาออกมายืนต้อนรับพวกเธอที่ด้านหน้าบ้านพร้อมมีเสียงผัดกับข้าวมาจากในครัว เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะแซวว่า “ชุนเถา ผู้จัดการกู้อยู่ด้วยหรือเปล่า?”
เหมาชุนเถาพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “อยู่สิ วั่งหลานกำลังทำอาหารอยู่”
“โอ้โห…เรียกว่า ‘วั่งหลาน’ แล้วเหรอ”
เซี่ยปิงหรุ่ยแซวอย่างขำ ๆ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ชุนเถา เธอกำลังจะเรียนจบแล้ว เธอคุยกับผู้จัดการกู้ว่ายังไง มีแผนจะแต่งงานกันหรือเปล่า”
ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเหมาชุนเถาก็แดงขึ้นมาทันที
“จริงๆ แล้ววันนี้…เราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จดทะเบียนกันแล้วเหรอ ไวเหมือนกันนะเนี่ย
หลายวันมานี้เป็นไข้หวัดมาก ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องรอด้วยนะคะ
ไหหม่า(海馬)
……….