ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 697 ตลาดวัสดุก่อสร้างเปิดทำการ(2)
- Home
- ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก
- ตอนที่ 697 ตลาดวัสดุก่อสร้างเปิดทำการ(2)
ตอนที่ 697 ตลาดวัสดุก่อสร้างเปิดทำการ(2)
……….
ตอนที่ 697 ตลาดวัสดุก่อสร้างเปิดทำการ(2)
พอวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลาน ซูหว่านอี๋ ชิงชิง และเฉินเฉินก็ได้ออกมาพร้อมกับเหยาจิ้งจือ หลี่เสวี่ยเยี่ยน และเสี่ยวอวี่ สมทบกับเกาเชี่ยนเชี่ยนที่เดินทางมาพบกับพวกเธอตั้งแต่เช้าตรู่ จากนั้นทุกคนก็มุ่งหน้าไปที่สนามบิน
ด้วยความช่วยเหลือของนายท่านเหยา ทุกคนก็ซื้อตั๋วเครื่องบินได้ในคราวเดียว ประหยัดเวลาเดินทางทั้งไปและกลับ
รอจนฉินมู่หลานกับพวกเขาลงจากเครื่องบิน ทั้งหมดก็เดินทางต่อไปที่เซินเจิ้นทันที โชคดีที่ฉินเคอวั่งกับพวกเขารู้ล่วงหน้าว่าพวกฉินมู่หลานจะมา จึงได้ติดต่อหาคนมาจัดการเรื่องใบผ่านทางให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นคงต้องแอบเข้าเซินเจิ้นแน่ ๆ
“แม่ ป้าเหยา พวกเราไปเก็บของที่เกสต์เฮาส์ก่อนนะ”
เมื่อเห็นว่าฉินเคอวั่งจัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือจึงพูดพร้อมรอยยิ้ม “เอาตามนั้นก็ได้”
ชิงชิงกับเฉินเฉินต่างก็จำฉินเคอวั่งไม่ได้ พอเขาจะมาอุ้มพวกเขา พวกเขาก็พูดด้วยความตกใจ “น้า ทำไมขี้เหร่จังเลยล่ะ”
“ฮ่าๆๆ…”
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็หัวเราะกันครืน
ฉินเคอวั่งมองหลานๆ อย่างเสียใจแล้วพูดว่า “น้าไม่ได้ขี้เหร่ขึ้นหรอก แค่แข็งแรงขึ้นต่างหาก”
เขาแค่ผิวคล้ำและกำยำขึ้น ผลสุดท้ายกลายเป็นคนขี้เหร่ในสายตาเด็กสองคนไปได้
แต่ซูหว่านอี๋กลับพยักหน้าแล้วพูดว่า “ชิงชิงกับเฉินเฉินไม่ได้พูดผิดหรอก ขี้เหร่ขึ้นจริง ๆ”
“แม่ แม้แต่แม่ก็ยังพูด”
ทุกคนพูดคุยกันไปหัวเราะกันไปจนถึงโรงแรม หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ฉินเคอวั่งก็เตรียมพาพวกเขาไปกินข้าว
หลี่เสวี่ยเยี่ยนเห็นมีแค่ฉินเคอวั่งคนเดียวจึงอดถามไม่ได้ “เคอวั่ง เจ๋อเหว่ยไปไหนล่ะ ทำไมไม่เห็นเลย”
เกาเชี่ยนเชี่ยนที่อยู่ข้าง ๆ พูดตามว่า “นั่นน่ะสิ ไม่เห็นพี่ใหญ่เลย ”
ฉินเคอวั่งได้ยินดังนั้นจึงรีบอธิบายว่า “พี่เจ๋อเหว่ยกับพี่อวิ๋นเซียวกำลังยุ่งมาก พ่อกับลุงเซี่ยและอาจารย์ยิ่งยุ่งกว่านี้อีก ช่วงนี้ทำงานกันจนถึงดึกกว่าจะได้กลับที่พัก”
ถ้าวันนี้ไม่ต้องมารับคน เขาก็ต้องไปช่วยด้วยแน่ ที่เขาตัวดำร่างกายกำยำขึ้นก็เพราะงานนี้แหละ
ได้ยินดังนั้น คนอื่นๆ ก็ไม่ถามซอกแซกอีก แล้วก็ตามกันไปที่ร้านอาหารใกล้ๆ
หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉินมู่หลานก็เตรียมกลับโรงแรมเพราะชิงชิงกับเฉินเฉินยังเล็กอยู่ เกรงว่าทั้งสองจะงอแงจากความเหนื่อยล้า
“แม่คะ พวกเราขอตัวกลับก่อนนะ ถ้าแม่ไม่เหนื่อย แม่ก็ออกไปเที่ยวเล่นกับเคอวั่งได้เลยนะคะ”
ซูหว่านอี๋ค่อนข้างเป็นห่วงลูกสาวที่ต้องดูแลลูกสองคนตามลำพังจึงอดพูดไม่ได้ว่า “แม่ไม่ไปหรอก แม่จะกลับไปโรงแรมกับลูก”
“ไม่เป็นไร หนูอยู่คนเดียวได้ค่ะ”
ฉินมู่หลานยืนกรานหนักแน่นเช่นนี้ สุดท้ายซูหว่านอี๋ก็ออกไปเดินเล่นกับคนอื่น ส่วนฉินมู่หลานก็พาลูกสองคนกลับโรงแรมไปนอน
พอตกเย็น ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือก็กลับมาพร้อมคนอื่น ๆ
ขณะที่ชิงชิงและเฉินเฉินก็ตื่นกันตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นคนอื่น ๆ กลับมาก็อดพูดไม่ได้ว่า “รู้แบบนี้เราไม่น่านอนเลย”
ซูหว่านอี๋ได้ยินดังนั้นจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “พวกหลานเหนื่อยแล้วก็ต้องพักผ่อนสิ พรุ่งนี้ยายจะพาไปเที่ยวแล้วกัน แต่เซินเจิ้นกำลังอยู่ในระหว่างสร้างเมือง อาจจะไม่มีที่ให้เที่ยวมากนัก”
เหยาจิ้งจือพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้ดูมากสักเท่าไหร่ คงต้องรออีกสักพัก”
เมื่อได้ยินดังนั้น สองเด็กน้อยพยักหน้าทำท่าเหมือนจะเข้าใจ “อ๋อ ที่นี่มันไม่ค่อยสนุก”
เมื่อคนอื่น ๆ ได้ยินก็อดหัวเราะไม่ได้ แต่เด็กทั้งสองก็ไม่ได้พูดผิด สำหรับพวกเขาแล้วอาจจะไม่สนุกจริงๆ ก็ได้
เมื่อเห็นว่าเวลาเริ่มดึกแล้ว ซูหว่านอี๋ก็หันไปถามลูกชาย “เคอวั่ง พ่อของเราจะกลับมากี่โมง พวกเราจะรอกินข้าวเย็นด้วยกันหรือว่าเราจะไปกินกันก่อน”
“พ่อรู้ว่าพวกแม่จะมา เย็นนี้เห็นว่าจะกลับมาเร็วหน่อย อาจารย์กับลุงเซี่ยก็จะมาด้วยครับ”
พูดจบก็มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาที่หน้าประตู พวกนั้นคือฉินเจี้ยนเซ่อ เซี่ยเหวินปิงและเหลียงถง อีกทั้งยังมีเกาอวิ๋นเซียวและเซี่ยเจ๋อเหว่ยตามกลับมาด้วย พร้อมกับฉินเจี้ยนหัวและลูกชายอีกสองคน
“หว่านอี๋ พวกคุณมาแล้วเหรอ”
ฉินเจี้ยนเซ่อและเซี่ยเหวินปิงไม่ได้เจอหน้าภรรยามานาน พอได้เห็นอีกครั้งก็รีบเดินเข้าไปหาทันที
ส่วนเซี่ยเจ๋อเหว่ยก็รีบเดินไปหาหลี่เสวี่ยเยี่ยนและลูกชายอย่างเสี่ยวอวี่ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม “พอรู้ว่าพวกคุณจะมา ผมก็เลยเตรียมของขวัญมาให้ด้วย”
เมื่อได้ยินดังนั้นหลี่เสวี่ยเยี่ยนก็อดถามไม่ได้ว่า “ของขวัญอะไรคะ?”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยแกล้งทำเป็นปิดบัง “ถึงเวลาก็รู้เองครับ”
เกาอวิ๋นเซียวมองทุกคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ จึงเดินเข้าไปหาเกาเชี่ยนเชี่ยนน้องสาวของตนเอง “เชี่ยนเชี่ยน พวกเธอจะกลับปักกิ่งทันทีหลังจากร่วมงานเปิดตัวตลาดวัสดุก่อสร้างหรือเปล่า?”
“ค่ะ เราเดินทางมาเพื่อมาให้กำลังใจเคอวั่งและพี่เจ๋อเหว่ย พอหลังจากพิธีเปิดตัวแล้ว เราก็จะกลับ”
“ได้ ถึงเวลานั้นฉันจะไปกับพวกเธอด้วย ยังไงฉินเคอวั่งก็จะต้องกลับแล้ว เพราะอีกไม่นานก็จะเปิดเทอม”
เกาเชี่ยนเชี่ยนพยักหน้าทันที “แน่นอน ภาคเรียนถัดไปยังมีการเรียนการสอนอีกเยอะอยู่ ฉินเคอวั่งคงต้องกลับ พวกเขาเรียนมากกว่าคณะอื่น ๆ หนึ่งปีจึงต้องเรียนต่อ”
ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ส่วนฉินมู่หลานเดินเข้าไปหาฉินเคอเหล่ยกับฉินเคอเจี๋ย แล้วถามว่า “พวกนายสองคนสบายดีไหม อยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง”
ฉินเคอเหล่ยกับฉินเคอเจี๋ยตอบรับด้วยการพยักหน้าพร้อมเพรียงกัน
“สบายดีครับ ตอนนี้พวกเราเก็บเงินซื้อบ้านกันได้แล้ว” พวกเขามีความสุขมากที่ได้พูดถึงเรื่องนี้
ฉินมู่หลานก็รู้สึกดีใจกับทั้งสองคนด้วย
สุดท้ายเหลียงถงมองทุกคนแล้วพูดว่า “เริ่มดึกแล้ว พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ พรุ่งนี้เช้าต้องไปที่ตลาดขายวัสดุก่อสร้างด้วย”
หลังจากได้ยินดังนั้น ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน “ได้”
หลังจากกินอาหารค่ำแล้ว ฉินเจี้ยนเซ่อกับเพื่อน ๆ ก็กลับไปที่ห้องเช่า ส่วนฉินมู่หลานกลับไปที่เกสต์เฮาส์
เมื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่หนึ่งคืน เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ทุกคนกินอาหารเช้าเสร็จ ก็เดินทางไปที่ตลาดขายวัสดุก่อสร้างทันที
พวกเขาเห็นผ้าสีแดงผืนใหญ่บังชื่อร้านเอาไว้เพื่อรอให้พิธีการเริ่มแล้วค่อยเปิดออก ชั้นบนตกแต่งเสร็จสมบูรณ์แล้ว วางวัสดุต่าง ๆ ไว้เรียบร้อย วัสดุทุกอย่างล้วนจัดเรียงตามประเภท ทำให้เห็นได้ง่าย
ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือเดินเข้าไปแล้วก็เริ่มทำงานหัวหมุน เพราะเป็นงานเปิดกิจการ แน่นอนว่าต้องมีการเตรียมของหลาย ๆ อย่าง พวกหล่อนจึงนำของที่นำมาจัดเตรียมสำหรับจัดงานเปิดกิจการง่าย ๆ
หลังจากที่เตรียมของเสร็จ บรรดาแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีก็ทยอยกันมา
สิ่งที่ฉินมู่หลานคาดไม่ถึงก็คือ หลี่หมิงฮุ่ยก็มาร่วมงานพร้อมกับเยว่จงจีด้วย
……………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
น้าเคอวั่งแค่ล่ำบึ้กกับผิวคล้ำไปหน่อยเท่านั้นเองเด็กๆ ขี้เหร่ตรงไหน ค่านิยมผิวขาวของคนจีนนี่มันสุดเหมือนกันนะ
ใกล้เปิดร้านแล้ว จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างหนอ
ไหหม่า(海馬)