ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 971 ซีเหลียง
ตอนที่ 971 ซีเหลียง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวได้ฟังรัชทายาทก็ไม่ได้คิดตำหนิเขา ทั้งสองคนมองรัชทายาทพร้อมกับกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “หากรัชทายาทอยากให้เสด็จพ่อคืนดีกับเสด็จแม่ ก็ควรไปกล่อมเสด็จแม่ อย่าได้เอาแต่ทำเรื่องเช่นนั้นอีก ให้ทำแต่เรื่องที่ทำให้เสด็จพ่อพระองค์ดีใจให้มาก เช่นนี้เสด็จพ่อก็จะดีต่อเสด็จแม่”
“ในฐานะเสด็จแม่รัชทายาท หากฮองเฮาไม่ดีก็จะส่งผลกระทบต่อรัชทายาท ดังนั้นรัชทายาทจะต้องเกลี้ยกล่อมเสด็จแม่ให้ดี อย่าให้นางทำอันใดให้ฝ่าบาทไม่พอพระทัยอีก แม้ว่านางเป็นฮองเฮา แต่ฝ่าบาทคือฮ่องเต้แคว้นต้าโจว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวพูดยาวเป็นชุด ก็นับว่าเป็นวาจาจากใจแท้จริง
รัชทายาทวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแล้วก็รู้สึกว่าพวกเขากล่าวได้มีเหตุผล สุดท้ายก็พาผู้ติดตามจากไป
แต่รัชทายาทคิดว่ามีเหตุผล ทว่าฮองเฮากลับไม่เห็นด้วย พอได้ยินรัชทายาทบอกว่าเขาไปตระกูลเซี่ยมา เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวไม่ยินยอมเข้าวัง ในใจฮองเฮาก็เกิดความเคียดแค้นชิงชัง มองรัชทายาทอย่างโมโหกล่าวว่า “ยามนี้เจ้าเชื่อเสด็จแม่แล้วใช่หรือไม่ พวกเขาไม่ใช่คนดีอันใด บอกว่าจะได้รับผลกระทบจากเสด็จแม่ เห็นชัดว่ากำลังข่มขู่เจ้า หากข้าไม่ดีก็จะปลดเจ้าจากตำแหน่งรัชทายาท”
ฮองเฮาพูดจนสุดท้ายแค่นหัวเราะขึ้นมา “พวกเขากล้าหรือ บุตรชายข้าเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจวถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เป็นบุตรชายคนโตที่ถือกำเนิดจากฮองเฮา”
รัชทายาทได้ฟังก็งุนงง ท่านปู่กับท่านย่าหมายความเช่นนี้หรือ น่าจะไม่ใช่กระมัง
แต่เขาพลันไม่รู้ว่าควรโต้ตอบเสด็จแม่เยี่ยงไร
ตระกูลเซี่ย เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายลงเพราะรัชทายาทกลับไป แต่พวกเขากลับรู้สึกว่า หากพวกเขาอยู่เมืองหลวงต่อไป เกรงว่ารัชทายาทกับตระกูลพวกเขาคงต้องเกิดช่องว่างมากยิ่งขึ้น ดังนั้นพวกเขาไม่อาจอยู่เมืองหลวงอีกต่อไปแล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเตรียมกลับเมืองหนิงโจว
แต่ลู่เจียวกลับคิดอีกอย่างหนึ่ง นางมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “ข้าอยากไปซีเหลียงกับม่อเอ๋อร์สักครั้ง พอดีถือโอกาสออกไปเที่ยวสักหน่อย”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพอได้ฟังก็รู้ว่าลู่เจียวเป็นห่วงซั่งกวนม่อ ไม่ว่าอย่างไรนางก็เลี้ยงดูเด็กคนนี้มาจนเติบใหญ่ราวกับบุตรแท้ๆ เหมือนกับซื่อเป่า
“ได้ ข้าไปซีเหลียงเป็นเพื่อนเจ้า”
ซั่งกวนม่อกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนรู้ข่าวนี้ก็ดีใจมาก กล่าวอย่างตื่นเต้นยินดีว่า “ดีเลย”
แต่พอบุตรชายตระกูลเซี่ยได้รู้สถานะซั่งกวนม่อกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนว่าที่แท้เป็นองค์ชายหกกับองค์หญิงแปดแห่งซีเหลียง คิดไม่ถึงว่าท่านพ่อกับท่านแม่พวกเขาถึงกับรับบุตรบุญธรรมระดับนี้ถึงสองคน
แต่พอได้ยินว่าท่านพ่อกับท่านแม่จะไปจากแคว้นต้าโจว ตามซั่งกวนม่อไปซีเหลียง ทั้งครอบครัวก็คัดค้านทันที
ท่านพ่อกับท่านแม่เพิ่งจะกลับมา เหตุใดจะไปอีกแล้ว นับประสาอันใดกับซีเหลียงก็เป็นพื้นที่ไม่คุ้นเคย และอันตรายมาก พวกเขาไม่อยากให้ท่านพ่อกับท่านแม่ไป
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกวาดตามองพวกเซี่ยเหวินเหยาทีหนึ่ง เอ่ยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “หากพวกเราไม่ไป รัชทายาทมาหาพวกเราอีกจะทำอย่างไร พวกเราจะช่วยเขาเกลี้ยกล่อมฝ่าบาทหรือว่าไม่ช่วยดี หากช่วย ย่อมทำให้ฝ่าบาทเจ็บปวด ไม่ช่วย ในใจรัชทายาทก็คงไม่พอใจพวกเรา ถึงตอนนั้นพวกเราสองฝ่ายล้วนอยู่ร่วมกันลำบาก”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยถึงเรื่องนี้ ก็รู้สึกเพียงแค่ว่าพวกเขาได้ทุ่มเทมากมายเพื่อเลี้ยงดูซื่อเป่ามาจนเติบใหญ่เจียวเจียวกับเขาถึงกับเกือบเอาชีวิตไปทิ้งเพราะพวกเขา ปรากฏพวกเขายังคงไม่ยอมหยุด
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดไปก็กล่าวไปว่า “อีกอย่าง หากรัชทายาทขึ้นครองราชย์ราบรื่น ทรงมีเสด็จแม่เช่นนี้ ตระกูลเซี่ยพวกเราก็คงไม่มีทางมีบทสรุปที่ดีได้ ถึงตอนนั้นไม่แน่ว่าซีเหลียงอาจเป็นเส้นทางหลบหนีของพวกเรา”
คำพูดเซี่ยอวิ๋นจิ่นทำให้ตระกูลเซี่ยทุกคนในห้องโถงต่างนิ่งอึ้งไปทันที
เรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร
แต่ซั่งกวนม่อกลับเอ่ยอย่างดีใจว่า “หากพี่ๆ ทุกท่านยินดีมาซีเหลียง ข้ายินดีต้อนรับ”
ซั่งกวนม่อคิดถึงฮองเฮาที่สร้างความวุ่นวายให้ตระกูลเซี่ยก็รีบกล่าวทันทีว่า “หากข้าขึ้นขึ้นครองราชย์ได้เป็นฮ่องเต้ซีเหลียง จะต้องเลือกฮองเฮาที่ทรงคุณธรรมดีงาม”
ตระกูลเซี่ยทุกคนมีสีหน้าแทบอยากจะร้องไห้ ทุกคนต่างรู้สึกหนักอึ้งในใจอย่างมาก
ความจริงพวกเขารู้ว่าท่านพ่อกล่าวไม่ผิด หากยังมีฮองเฮาอยู่ รัชทายาทขึ้นครองราชย์ ตระกูลเซี่ยคงมีบทสรุปไม่สวยงาม
ลู่เจียวเห็นทุกคนอารมณ์หนักอึ้งเช่นนี้ ก็อดเอ่ยขึ้นไม่ได้ว่า “เอาละ เรื่องราวไปถึงขั้นนั้นเมื่อใดกัน ท่านพ่อพวกเจ้าคิดมากไปแล้ว พวกเราไปซีเหลียงเพราะข้าทำใจให้ม่อเอ๋อร์ไปเสี่ยงภัยคนเดียวไม่ได้ ข้าอยากไปซี เหลียงช่วยเขา”
ซั่งกวนม่อได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็ยิ้มเบิกบานใจทันที “ขอบคุณท่านแม่”
ทำเอาพี่น้องในห้องโถงพากันหมั่นไส้ไม่น้อย
พวกเขาเป็นบุตรชายแท้ๆ ยังสู้เขาที่เป็นเพียงบุตรบุญธรรมไม่ได้
แต่พี่น้องก็โตแล้ว ย่อมไม่คิดแย่งชิงความรักกับซั่งกวนม่อ
เซี่ยเหวินเหยาเห็นท่าทางของท่านพ่อกับท่านแม่ ก็รู้ว่าได้ตัดสินใจแล้ว สุดท้ายได้แต่เอ่ยขึ้นว่า “ได้ เช่นนั้นพวกท่านไปเถอะ แต่จะต้องระมัดระวังให้มาก”
“พวกเราจะระมัดระวัง พวกเจ้าอย่าได้เป็นห่วง จะไม่เป็นอันใด”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวกำลังบอกให้ลูกๆ ไปนอน เซี่ยเหวินอวี้ก็เอ่ยว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าอยากขอลาออกจากราชการติดตามพวกท่านไปซีเหลียง”
เขาเพิ่งกล่าวจบ ซั่งกวนม่อก็แสดงท่าทางยินดีต้อนรับทันที “ดีเลย ข้าเป็นตัวแทนซีเหลียงต้อนรับพี่ห้า หากข้าโชคดีได้ขึ้นครองราชย์ พี่ห้าอยู่ซีเหลียงช่วยข้าดีหรือไม่”
เซี่ยเหวินอวี้รู้สึกหวั่นไหว แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนแสดงท่าที เพียงแค่กล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “ตอนนี้ข้าคิดแค่ไปเป็นเพื่อนท่านพ่อกับท่านแม่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นขมวดคิ้ว กำลังคิดอบรมเซี่ยเหวินอวี้ เซี่ยเหวินอวี้กลับกล่าวจริงจังว่า “ท่านพ่อ ข้าตัดสินใจแล้ว”
เขาไม่อยากทนทำงานในสำนักฮั่นหลินย่วนต่อแล้วจริงๆ เหนือเขาขึ้นไปมีพี่ใหญ่ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมศาลอาญาต้าหลี่ ยังมีพี่รองเป็นแม่ทัพ เขาคงไม่อาจก้าวขึ้นไปได้อย่างรวดเร็วเกินไปนัก เพราะหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้คนจับตามอง แต่หากจะให้เขาทนทำงานในสำนักฮั่นหลินย่วนต่อ ไม่สู้ลาออกติดตามท่านพ่อกับท่านแม่ อาจจะได้ถือโอกาสช่วยน้องชายคนใหม่ทำงาน ส่วนจะอยู่ซีเหลียงต่อหรือไม่ เขายังไม่ตัดสินใจ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นสีหน้าเขาก็รู้ว่าเขาตัดสินใจแล้ว เรื่องนี้ไม่มีอันใดต้องคุยอีก บุตรชายโตแล้ว มีบุตรแล้ว เขาย่อมตัดสินใจเองได้ เขาเองก็ไม่ควรข้องเกี่ยวมากเกินไปนัก
“ได้”
ตกลงเรื่องนี้กันเรียบร้อย วันรุ่งขึ้นทุกคนก็เริ่มเก็บของ เช้าวันที่สามก็ค่อยๆ เดินทางออกจากเมืองหลวงแคว้นต้าโจวโดยไม่ได้บอกเซียวเหวินอวี๋ เพียงแค่ทิ้งจดหมายไว้ฉบับหนึ่ง ให้เซี่ยเหวินเหยานำไปทูลต่อฝ่าบาท นอกจากจดหมายจากเซี่ยอวิ๋นจิ่นแล้ว ยังมีหนังสือลาออกจากเซี่ยเหวินอวี้
เซียวเหวินอวี๋ถือจดหมายขึ้นมองด้วยสีหน้าแทบไม่อยากจะเชื่อ ท่านพ่อกับท่านแม่ไปซีเหลียงช่วยซั่งกวนม่อ ถึงกับไม่บอกเขา เหตุใดกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาพาซั่งกวนม่อมาพบเขายังไม่ได้เอ่ยอันใด อยู่ดีๆ เหตุใดต้องไปซีเหลียง
เซียวเหวินอวี๋รู้สึกว่าเรื่องนี้มีประเด็นซ่อนอยู่ จึงถามเซี่ยเหวินเหยาว่า “พี่ใหญ่ มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นใช่หรือไม่”
เซี่ยเหวินเหยามองไปยังเซียวเหวินอวี๋เป็นนานไม่ได้เอ่ยอันใด เขาคิดถึงว่าตอนเด็กๆ พวกเขาพึ่งพากันและกันมา
ตอนนั้นซื่อเป่าอายุน้อยสุดในบรรดาพวกเขา ทั้งสามคนช่วยกันปกป้องเขา มีของอร่อยก็จะรีบให้เขาก่อน แต่ตอนนี้เขาได้เป็นฮ่องเต้แคว้นต้าโจว พวกเขาก็เว้นระยะห่างกัน วันหน้าเขายังอาจต้องห่างจากพวกเขาเพราะรัชทายาท
ความจริงหลายปีมานี้ เพราะสถานะเขา ท่านพ่อกับท่านแม่จึงต้องคอยระวังตนเองไม่ให้เป็นที่สะดุดตามาตลอด กลัวว่าระหว่างพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปจนไม่อาจทนรับได้