ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 725 หลอกล่อบุตรชาย
ตอนที่ 725 หลอกล่อบุตรชาย
ความจริงลู่เจียวรู้สึกว่าหูหลิงเสวี่ยเองก็ไม่เลว ดีกว่าแต่งหญิงสาวที่ไม่เคยพบหน้ามาก่อน ผู้ใดจะรู้ว่าหญิงเหล่านั้นนิสัยเช่นใด ก็เหมือนที่ต้าเป่าว่า หากแต่งคนไม่ดีเข้าตระกูลเซี่ยมา เกรงว่าคงไม่มีวันอยู่อย่างสงบสุข แต่งหูหลิงเสวี่ย อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้กระมัง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นจะกล่าวอันใดได้ สองแม่ลูกต่างเห็นด้วยแล้ว สุดท้ายเขาก็ได้แต่เห็นด้วย แต่ก็เตือนต้าเป่า “ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแต่งแล้ว หลังจากแต่งมาก็อย่าได้มีใจเป็นอื่น ต้องทุ่มเทดีต่อนางเพียงผู้เดียว”
“ท่านพ่อวางใจ ข้าทำได้”
เห็นได้ชัดว่าต้าเป่ารับคำอย่างรวดเร็ว ดูท่าการได้แต่งกับหูหลิงเสวี่ยทำให้เขาดีใจจริงๆ
ลู่เจียวเห็นเช่นนี้ก็ดีใจมาก หูหลิงเสวี่ยเป็นคนที่นางเห็นมาแต่เล็กจนโต ได้มาเป็นสะใภ้นาง อยู่ร่วมกันก็ง่าย ไม่ต้องคิดมากอันใด
“เอาละ ลูกตัดสินใจแล้วก็ดี”
ลู่เจียวเพิ่งกล่าวจบ ต้าเป่าก็ลุกขึ้นคิดจะขอตัวออกไป ด้านนอกก็มีเสียงดังเข้ามา “คุณชายสาม คุณชายสี่ พวกท่านกำลังทำอันใด”
เดิมซานเป่า ซื่อเป่าที่กำลังตะกายอยู่หน้าประตูแอบฟัง ยังมีแฝดชายหญิง ได้ยินเสียงด้านหลังก็พากันล้มพรวดเข้าไปด้านใน
สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ดีนัก มองบรรดาลูก ๆ ระเนระนาดอยู่หน้าประตู “พวกเจ้ากำลังทำอันใด”
ซานเป่ากับซื่อเป่ารีบลุกขึ้นยื่น เอ่ยทักทาย “มาดูว่าท่านพ่อกับท่านแม่ตื่นแล้วหรือยัง พวกเราไปกินอาหารเช้ากันเถอะ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสองคนมองลูกๆ ด้วยสีหน้านิ่งเฉย สุดท้ายซื่อเป่าทนไม่ไหว ถามต้าเป่าว่า “พี่ใหญ่จะแต่งพี่หลิงเสวี่ยเป็นภรรยาจริงหรือ พี่แน่ใจว่าชอบนางหรือ อย่าได้ทำเพื่อพวกเรา แต่งคนที่พี่ไม่ชอบนะ”
ต้าเป่านึกขำ มองซื่อเป่ากล่าวว่า “เจ้าพูดเหลวไหลอันใด หากไม่ชอบนาง ข้าก็จะไม่แต่งกับนาง พี่หลิงเสวี่ยเป็นคนอ่อนโยนมาก และยังเข้าอกเข้าใจและละเอียดอ่อนต่อผู้อื่น ตอนเด็กๆ มักจะดูแลข้า ความจริงแต่ไรมาข้าก็ชอบนางมาก”
ตอนนี้มาคิดเรื่องตอนเด็กให้ดีแล้ว เขาไม่ได้ชอบใกล้ชิดกับผู้อื่น แต่ตอนนั้นเขากลับยินยอมใกล้ชิดกับหูหลิงเสวี่ย เพราะหลายครั้ง นางมักจะดูแลเขาอย่างอ่อนโยน เข้าอกเข้าใจและละเอียดอ่อน
ต้าเป่าชอบคนที่เข้าอกเข้าใจและละเอียดอ่อน รู้สึกว่าวันหน้าทั้งสองคนอยู่ร่วมกัน จะต้องไม่เลวร้าย กลับกัน แค่เขาคิดถึงว่าต้องแต่งหญิงสาวที่พบหน้ากันไม่กี่ครั้งเป็นภรรยา ในใจก็รู้สึกอึดอัด เขาไม่ใช่คนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย
“ข้าแต่งกับพี่หลิงเสวี่ยก็เพราะชอบนาง ชอบความอ่อนโยนเข้าอกเข้าใจของนาง ชอบความเรียบร้อยสงบสุขุมของนาง ชอบจิตใจดีงามของนาง”
ต้าเป่ากล่าวข้อดีของหูหลิงเสวี่ยมากมายเช่นนี้ ในห้องโถง เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวมองออกว่าเขาคิดเรื่องพวกนี้มาอย่างจริงจังแล้ว
สุดท้ายเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวก็เห็นด้วย
“ได้ ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ก็หมั้นหมายหูหลิงเสวี่ย ความจริงนางก็ไม่เลว”
ต้าเป่าได้ฟังคำพูดลู่เจียว รีบยิ้มกล่าวว่า “แม้ว่าพี่หลิงเสวี่ยมีหลายอย่างไม่สมบูรณ์พร้อม แต่ข้าเชื่อว่าท่านแม่จะต้องอบรมนางให้เป็นสะใภ้คนโตที่ได้มาตรฐานของตระกูลเซี่ยเราได้”
ลู่เจียวอดหัวเราะไม่ได้ “มีแต่เจ้าที่พูดเก่ง แม่รู้ความคิดเจ้าแล้ว แต่แม่ต้องย้ำคำสุดท้ายอีกครั้ง คนผู้นี้เจ้าจะแต่งเอง วันหน้าแต่งมาแล้ว ต้องทุ่มเทรักและเอาใจใส่นาง แม่เคยบอกแล้วว่าผู้ชายตระกูลเซี่ยอายุสี่สิบไม่มีบุตรชายจึงจะรับอนุได้ พวกเจ้าต้องจำคำแม่ไว้ หากให้แม่รู้ว่าพวกเจ้าไปมีหญิงอื่นนอกบ้าน ดูว่าแม่จะจัดการพวกเจ้าเช่นไร”
บุตรชายตระกูลเซี่ยรีบรับคำพร้อมเพรียง “ลูกจดจำคำสอนท่านแม่ไว้แล้ว”
เซี่ยหลิงหลงเองก็รับคำเสียงดังขึ้นว่า “ท่านแม่วางใจ ข้าเองก็แต่งแค่คนเดียว”
เดิมบรรยากาศกำลังเคร่งเครียด ถูกนางทำเอาทุกคนขำกันไปหมด
บรรดาพี่ชายมองเซี่ยหลิงหลงแล้วก็แทบอยากจะร้องไห้
ลู่เจียวตำหนิเซี่ยหลิงหลงอย่างไม่พอใจ “วันหน้าอย่าได้พูดจาเหลวไหล ให้คนอื่นได้ยินเข้า จะว่าตระกูลเซี่ยเราไร้การอบรม เจ้าเองก็ต้องเหมือนพี่ชายเจ้า วันหน้าแต่งกับผู้ใดก็ต้องเป็นคนที่เจ้าชอบ แต่คนผู้นี้ต้องให้บิดาและพี่ชายตรวจสอบก่อนว่าไม่มีปัญหาจึงจะได้ หากเจ้าไปคบหาด้วยตนเอง หรือตัดสินใจเรื่องแต่งงานด้วยตนเอง แม่ก็ไม่มีบุตรสาวเช่นเจ้า”
ลู่เจียวเตือนบุตรสาวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม หญิงในยุคสมัยนี้น่าสงสารมาก ดังนั้นงานแต่งของบุตรสาวเพียงคนเดียว นางจะไม่มีทางรับปากง่ายๆ ต้องสืบนิสัยใจคอผู้ชายให้กระจ่างก่อน และต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เขามีความคิดมีสามภรรยาสี่อนุหรือไม่ สุดท้ายจึงค่อยตอบตกลงให้บุตรสาวแต่ง
แม้ว่าเซี่ยหลิงหลงได้รับความรักจากทุกคนในตระกูลเซี่ย แต่ส่วนลึกของนางนั้นกลัวมารดา ได้ยินมารดากล่าวเช่นนี้ก็รีบแสดงท่าทางจริงจัง กล่าวว่า “ท่านแม่วางใจ ข้าจะต้องเชื่อฟังคำท่านแม่”
“อืม นี่สิ สมกับเป็นบุตรสาวคนดีตระกูลเซี่ยเรา”
ลู่เจียวกล่าวจบก็ยิ้ม พอนางยิ้ม ทุกคนก็ล้วนเบิกบานใจ ทั้งครอบครัวพากันไปกินอาหารเช้า
กินข้าวเช้าเสร็จ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวให้เด็กน้อยสองคนออกไปเล่น พวกเขามีเรื่องสำคัญคุยกับบรรดาพี่ชาย
อู่เป่าไม่ค่อยพอใจ แต่เขาก็เชื่อฟัง ดังนั้นจึงออกไป หลิงหลงเองก็ไม่คิดอยู่ต่อ ตามเซี่ยอู่เป่าออกไปอย่างเบิกบานใจ
ในห้องโถง เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวมองต้าเป่า ซานเป่า ซื่อเป่าแล้วก็กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ต้าเป่าผ่านการสอบย่วนซื่อแล้ว เข้าเรียนที่สำนักศึกษาไป่ลู่ต่อได้ ดังนั้นวันนี้พ่อจะพาเจ้าไปลงชื่อเข้าสำนักศึกษาไป่ลู่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ลู่เจียวมองไปยังซานเป่ากับซื่อเป่ากล่าวว่า “ก่อนหน้านี้แม่รับปากพวกเจ้าว่าสอบซิ่วไฉได้ก็ไม่ต้องสอบต่อแล้ว แต่สองวันนี้ข้ากับท่านพ่อเจ้าคิดดูแล้ว ก็รู้สึกว่าตอนนี้พวกเจ้าอายุยังน้อยเกินไป หากไม่เรียนหนังสือทันทีก็เหมือนไม่ดี ดังนั้นพวกเราคิดแล้วก็ตัดสินใจให้พวกเจ้าไปเรียกที่สำนักศึกษาไป่ลู่กับต้าเป่าอีกสองปี”
“แน่นอนว่าสองปีจ่อไปนี้ พวกเจ้าก็ยังทำสิ่งที่สนใจควบคู่ไปด้วยได้ เช่น ซานเป่าเรียนวิชาการแพทย์ ซื่อเป่าทำการค้าไปพร้อมกับการเรียนได้”
ในห้องโถง ซานเป่ากับซื่อเป่ามีสีหน้าคาดไม่ถึงอย่างมาก มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวด้วยสีหน้าไม่เข้าใจอย่างยิ่ง “ท่านพ่อ ท่านแม่ ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกหรือว่า พวกเราสอบซิ่วไฉได้ก็ไม่ต้องเรียนแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นนิ่ง ลู่เจียวพยักหน้า “คืออย่างนี้ ใช่ แต่แม่คิดว่าอย่างนี้ เป้าหมายของซานเป่าก็คือหมอเทวดาที่เก่งกาจแห่งแคว้นต้าโจว ซื่อเป่าก็จะเป็นคหบดีอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าโจว หมอเทวดากับคหบดีอันดับหนึ่งไม่ได้เป็นกันง่ายๆ วันหน้าพวกเจ้าต้องพบเจอคนเก่งกาจอีกมาก หากคนพวกนั้นวางอุบาย พวกเจ้าจะทำเช่นไร เช่นว่า หากหมอเทวดาไม่เก่งกาจพอ คนอื่นก็อาจหลอกล่อใช้อุบายหลอกใช้เจ้า”
“หรือเช่นว่า เป้าหมายของซื่อเป่าก็คือคหบดีแห่งแคว้นต้าโจว คหบดีแคว้นต้าโจวไม่ได้เป็นกันง่ายๆ เจ้าต้องเผชิญกับคนหลากหลายรูปแบบ คนพวกนั้นล้วนฉลาดมาก หากเจ้าฉลาดสู้พวกเขาไม่ได้ ก็จะเสียเปรียบ เจ้ายังจะดำรงตำแหน่งคหบดีอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าโจวได้อีกหรือ”
ลู่เจียวกล่าวจบ ซานเป่ากับซื่อเป่าก็ครุ่นคิดหนัก สุดท้ายก็คิดเหมือนกันว่ามารดาตนพูดมาคล้ายว่ามีเหตุผลมาก
มีเพียงต้าเป่าที่เหมือนคิดอันใดอยู่ รู้สึกว่าเรื่องนี้แปลก แต่น้องชายไปไปสำนักศึกษาไป่ลู่เรียนหนังสือกับเขาก็เป็นเรื่องดีมาก