ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 691 ชาและเกลือ
ตอนที่ 691 ชาและเกลือ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพาลูกน้องไปสร้างบ้านไม้ข้างที่ดินสิบหมู่ และยังจัดพื้นที่ข้างบ้านไม้ให้เป็นโรงเรือนเพาะเลี้ยงโดยเฉพาะ
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ตามบิดาตนลงมือสร้างบ้านไม้ พ่อบ้านเซียวนำคนไปถางเตรียมดิน ลู่เจียวนำบ่าวหญิงไปเตรียมอาหารให้คนทำงาน
สรุปคือเป็นภาพยุ่งกับการทำงานทั่วบริเวณเชิงเขา
แหล่งปลูกชากับบ่อเกลือทางนั้นกลับเป็นอีกบรรยากาศหนึ่ง
ใต้เท้าหลินพาหูทงพั่นไปเดินเล่นรอบนอกพื้นที่ปลูกชา พาใต้เท้าหูเดินวนไปวนมา
“อย่าเห็นว่าเมืองหนิงโจวมีแหล่งปลูกชากับบ่อเกลือ ในความเป็นจริงไม่ได้ดีอย่างที่คิด ท่านดูต้นชาในพื้นที่ปลูกชานี้ เติบโตไม่ค่อยดี ใบชาที่เก็บได้ก็ไม่ดี ขายไม่ค่อยได้เท่าไร”
ใต้เท้าหูมองไป พบว่าต้นชาบนดอยชาดูหร็อมแหร็มไม่ดีจริงๆ
ใต้เท้าหูถอนหายใจพยักหน้า “มิน่าถึงได้ยากจน”
หลินจือฝู่ได้ยินคำพูดใต้เท้าหู ก็เกือบหัวเราะขำออกมา คนผู้นี้เลอะเลือนจริง
แต่เขาพลันคิดถึงเซี่ยอวิ๋นจิ่นขึ้นมา ใต้เท้าหูเลอะเลือน แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่เลอะเลือน ใต้เท้าหูเลอะเลือนแต่เขาเชื่อคำพูดเซี่ยอวิ๋นจิ่น
ใต้เท้าหลินยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกร้อนใจ ผู้อยู่เบื้องหลังพื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือคงต้องถูกเปิดโปงในไม่ช้านี้แล้ว
ตอนนี้เก็บใบชากับเกลือไม่น้อยอยู่ในโกดัง ไม่กล้าขนออกไป หากขนออกไปจำนวนมาก เซี่ยอวิ๋นจิ่นย่อมต้องรู้เป็นแน่ แต่ไม่ขนออกไป กองไว้เช่นนี้ต่อไปจะทำเยี่ยงไร เขายังต้องขายเพื่อนำเงินส่งอ๋องจิ้นอีก
หลินจือฝู่ครุ่นคิดแล้วก็แทบอยากจะสังหารเซี่ยอวิ๋นจิ่น
ตอนบ่ายกลับถึงที่ทำการก็เรียกข่งทุยกวานกับกู้จิงลี่มาหารือแผนรับมือ
“เป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ใช่หนทาง พวกเราต้องคิดหาวิธีกำจัดเซี่ยอวิ๋นจิ่นทิ้ง”
พวกข่งทุยกวานกับกู้จิงลี่ต่างเห็นด้วยกับคำพูดหลินจือฝู่ พวกเขาคิดอยู่ครู่หนึ่งรีบกล่าวว่า“ตอนนี้ดูท่า ได้แต่หาทางสังหารเขาเท่านั้น”
หลินจือฝู่ได้ยินวาจานี้ก็แทบกระอักโลหิต “ข้างกายเขามียอดฝีมือไม่น้อย อย่างไรก็คงกำจัดไม่ได้ หากจัดการง่าย ต้องมาเสียเวลาคิดอันใด พวกเจ้าช่วยข้าคิดหาวิธีหน่อย ว่าจะกำจัดเขาทิ้งได้อย่างไร”
ข่งทุยกวานกับกู้จิงลี่ครุ่นคิดรวดเร็ว สุดท้ายพวกเขาคิดแผนโหดเหี้ยมแผนหนึ่งได้
“พวกเราอาศัยมือของคนจวนนิ่งป๋อจัดการเขาได้”
หลินจือฝู่ได้ฟังข่งทุยกวาน รีบหันหน้าไปจ้องมองเขา
ข่งทุยกวานเดินมาข้างเขา เขยิบเข้ามากระซิบเบาๆ ข้างหู
หลินจือฝู่ได้ฟังแววตาก็เปล่งประกาย สุดท้ายหันมองไปยังข่งทุยกวานทันที กล่าวว่า “ข้าจะรีบไปตระกูลนิ่ง เรื่องนี้ต้องจัดการให้เร็วที่สุด หากไม่กำจัดคนผู้นี้ สินค้าพวกเราก็ขนออกไปไม่ได้”
ข่งทุยกวานกับกู้จิงลี่รีบลุกขึ้นยืน “พวกเราจะให้ความร่วมมือกับใต้เท้า”
“ตกลง”
ฟ้ามืด เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวจึงได้กลับบ้าน แต่ที่นาที่ซื้อไว้ไม่เพียงแต่สร้างบ้านไม้หลังหนึ่ง ยังถางที่ผืนหนึ่งขึ้นมาเพาะต้นกล้า
“เจียวเจียว ข้าได้อ่านวิธีการปลูกข้าวเจ้า ข้าวเจ้าจะต้องใช้น้ำไหลผ่านแช่ให้งอกต้นอ่อนก่อน”
ลู่เจียวรู้เรื่องนี้ พยักหน้า “ใช่”
“เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกเราก็เอาเมล็ดข้าวส่งไปแช่ในน้ำไหลเวียนให้งอกต้นอ่อนก่อน”
“ได้ พรุ่งนี้ข้าจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าวางใจได้”
ทั้งสองคนคุยกันไปกินกันไป เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เล่นมาทั้งวันตอนนี้วิ่งไปอาบน้ำล้างหน้าเข้านอนแล้ว
ผู้ใหญ่สองคนแม้ว่าเหนื่อยมาก แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนเข้านอน
นอกประตูเฝิงจือเดินเข้ามารายงานว่า“ใต้เท้า ฮูหยิน เรือนด้านหน้านำสารเข้ามา บอกว่าจวนนิ่งป๋อส่งเทียบเชิญมา อีกสามวันจะเป็นวันเกิดครบรอบห้าสิบปีท่านนิ่งป๋อ เชิญตระกูลเซี่ยไปร่วมงานเลี้ยง”
ลู่เจียวพอได้ฟังก็ขมวดคิ้วหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “งานเลี้ยงตระกูลนิ่งเกรงว่าไม่ใช่งานเลี้ยงธรรมดา พวกเราจะไปไหม”
“ข้าไปก็แล้วกัน เจ้าอย่าไป”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่วางใจให้ลู่เจียวไป แต่ลู่เจียวไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว กล่าวน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “พวกเราไปด้วยกัน เจอเรื่องอันใดไม่แน่ยังช่วยเหลือกันได้บ้าง”
ความจริงเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ค่อยเห็นด้วย แต่เขารู้นิสัยลู่เจียว เรื่องที่นางเอ่ยปากแล้ว ก็คือการตัดสินใจ มิได้หารือกับเขา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงว่าจวนนิ่งป๋ออยู่ๆ ส่งเทียบเชิญเขา ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
ครอบครัวพวกเขามีเรื่องขัดแย้งกับตระกูลนิ่ง แม้สองฝ่ายจบกันอย่างสงบด้วยดี แต่กลับไม่ไปมาหาสู่กัน
ก่อนหน้านี้ตระกูลนิ่งมีเรื่องอันใดก็ไม่เคยส่งเทียบเชิญเขา
ตอนนี้อยู่ๆ ส่งเทียบเชิญเขา เห็นชัดว่ามีอุบายอื่น
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ เขาคิดได้อย่างรวดเร็วว่า หากไม่เหนือความคาดหมาย หลินจือฝู่แอบยักยอกชาและเกลือ เขาต้องกลัวว่าตนจะพบพิรุธในพื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือ ดังนั้นยามนี้ที่เขาคิดทำที่สุดก็คือกำจัดตนทิ้ง
แต่เพราะคนติดตามข้างกายเขา ทำให้เขาไม่มีทางลงมือได้ และเรื่องนี้หากตรวจพบ เขาก็จะโชคร้าย ดังนั้นอุบายที่เขาคิดกระทำที่สุดก็คืออาศัยมือคนตระกูลนิ่งจัดการเขา
แววตาดำเซี่ยอวิ๋นจิ่นเต็มไปด้วยประกายเย็นเยียบ มุมปากเผยแววยิ้มเยาะ
ตนไม่รีบร้อนลงมือกับพวกเขา พวกเขากลับคิดลงมือกับตนก่อน
แม้เป็นเช่นนี้ ก็ต้องดูว่าผู้ใดจะโชคร้ายก่อนกัน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดหันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “เจียวเจียว เจ้านอนก่อน ข้ามีงานไปเรือนด้านหน้าสักครู่”
ลู่เจียวอย่างแปลกใจเงยหน้ามองเขาทีหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยห้าม มองเขาเดินออกไป ไม่ลืมกำชับเขาว่า “วันนี้เจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เข้านอนเร็วหน่อย”
“ได้ ข้ารู้แล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นก้าวเท้าเดินไปเรือนด้านหน้า พอเขาเข้าไปในเรือนด้านหน้าก็สั่งการพ่อบ้านเซียวกับโจวเส้ากงไปตรวจสอบสถานการณ์พื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือ
พ่อบ้านเซียวกับโจวเส้ากงรับคำสั่งไปดำเนินการ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับไปพักผ่อนเรือนด้านหลัง
พ่อบ้านเซียวกับโจวเส้ากงเป็นคนมีความสามารถ พวกเขาไปพื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือตรวจสอบมาได้สองวัน ก็นำผลการตรวจสอบมากางตรงหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่น เซี่ยอวิ๋นจิ่นพลิกอ่านแล้วก็หัวเราะเยียบเย็น
เขาก็ว่า พื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือใหญ่เพียงนี้ เหตุใดภาษีจึงได้ต่ำเตี้ยนัก ที่แท้หลินจือฝู่กินรวบ เขาไม่เพียงแต่กินรวบภาษีชาและเกลือ ยังขูดรีดใบชาจากชาวบ้านที่ปลูกชาอีกด้วย ขายให้ทางการได้เพียงแค่มีกิน แต่ไม่อิ่มท้อง
อีกอย่างคนงานที่บ่อเกลือก็ผอมกันจนซีดเหลือง แม้แต่ข้าวก็กินกันไม่อิ่มท้อง
เห็นอยู่ว่าชาและเกลือเป็นของที่มีราคาที่สุดในแคว้นต้าโจว แต่ชาวบ้านเพาะปลูกและบรรดาคนงานบ่อเกลือต่างกินข้าวไม่อิ่ม ฟังแล้วน่าขันสิ้นดี
หลินจือฝู่ไม่เพียงแต่ขูดรีดราษฎร เบียดบังยักยอกภาษี ยังแอบนำใบชากับเกลือไปขายส่วนตัว ใบชากับเกลือที่นำไปขายส่วนตัวมีจำนวนมากกว่านำส่งทางการมาก
ในห้องหนังสือ สีหน้าพ่อบ้านเซียวกับโจวเส้ากงสองคนต่างไม่ดีอย่างมาก พอคิดถึงบรรดาคนงานในพื้นที่ปลูกชาและบ่อเกลือ พวกเขาก็รู้สึกปวดใจ
“ใต้เท้า ท่านวางแผนจะจัดการอย่างไร”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเคาะโต๊ะหนังสือเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้ามองไปยังพ่อบ้านเซียวกับโจวเส้ากง กล่าวว่า “ลงมือทางชาวบ้านปลูกชาก่อน พวกเจ้าแอบไปหาชาวบ้านปลูกชามาก่อเรื่องก่อน ให้พวกเขาว่าไม่ปลูกแล้ว จะไปปลูกพืชอื่นแทน ขอเพียงพื้นที่ปลูกชาเกิดเรื่อง ทางการก็ต้องให้ใต้เท้าหูรับคดี จากนั้นจากชาก็ไปเกลือ ต้องทำให้เจ้าแซ่หลินถูกประหารได้แน่”