ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 652 กล่อม
ตอนที่ 652 กล่อม
ลู่เจียวยิ้มปลอบใจกล่าวว่า “อวี้หลัวจะไม่คัดค้านพวกเจ้า นางน่าจะเห็นด้วยหากบิดาจะแต่งงาน”
ปรากฏลู่เจียวพูดไปเพียงสองวัน จ้าวอวี้หลัวก็ร้องไห้มาหานางถึงจวน
วันนี้พอดีเจ้าหนูน้อยทั้งสี่อยู่บ้าน ลู่เจียวกำลังสอนเรื่องสมุนไพรให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่จดจำอยู่ คนเฝ้าประตูเข้ามารายงานว่ามีเด็กผู้หญิงแซ่จ้าวมาขอพบฮูหยิน
ลู่เจียวพอได้ฟังก็รู้ว่าเป็นจ้าวอวี้หลัว ก็โบกมือให้ไปพานางเข้ามา
เดิมลู่เจียวคิดว่าจ้าวหลิงเฟิงมาพร้อมกับจ้าวอวี้หลัว ปรากฏมีเพียงจ้าวอวี้หลัวคนเดียว แต่จ้าวอวี้หลัวเองก็ฉลาด ยังรู้จักให้คนขับรถม้ามาส่งนาง
พอนางเห็นลู่เจียวก็ร้องไห้วิ่งเข้ามากอดขาลู่เจียว ร้องไปกล่าวไปว่า “ท่านน้าลู่ ท่านพ่อข้าไม่รักข้าแล้ว วันหน้าท่านรับเลี้ยงข้าไว้ได้หรือไม่ ให้ข้าเป็นบุตรสาวท่านดีหรือไม่”
เด็กสาวเห็นได้ชัดร้องไห้รุนแรงไม่น้อย ร้องจนตาบวม ลู่เจียวย่อตัวลงประคองนางไว้ “เป็นอันใดหรือ อยู่ดีๆ ไยจึงบอกว่าท่านพ่อเจ้าไม่รักเจ้าแล้ว ท่านพ่อเจ้ารักเจ้ามากนะ”
อวี้หลัวน้อยพอได้ฟังลู่เจียวก็ร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ “ท่านพ่อจะแต่งภรรยาใหม่ ไม่ต้องการข้าแล้ว”
ลู่เจียวพอได้ฟังก็รู้ว่าจ้าวหลิงเฟิงน่าจะบอกกับจ้าวอวี้หลัวว่าเขาจะแต่งกับเถียนฮวน
คิดไม่ถึงว่าเด็กหญิงจะยอมรับไม่ได้เช่นนี้
นี่เป็นเรื่องยุ่งยากมาก
ลู่เจียวอุ้มนางไปนั่งบนเก้าอี้ จากนั้นก็นั่งลงข้างนาง ถามว่า “อวี้หลัวไม่เห็นด้วยที่ท่านพ่อจะแต่งภรรยาใหม่หรือ เจ้าบอกกับข้ามาตลอดว่าอยากมีท่านแม่ไม่ใช่หรือ ท่านพ่อเจ้าทำเพื่อเจ้านะ”
จ้าวอวี้หลัวโมโหกล่าวว่า “ข้าไม่ชอบหญิงผู้นั้น ท่านพ่อแต่งผู้อื่นได้ แต่ต้องไม่ใช่หญิงผู้นั้น”
ลู่เจียวพอได้ฟังก็รู้ว่าคนที่จ้าวอวี้หลัวพูดถึงก็คือเถียนฮวน นางมองจ้าวอวี้หลัวอย่างไม่เข้าใจ เหตุใดจึงรู้สึกต่อต้านเถียนฮวน หรือว่าเถียนฮวนไม่ดีกับนาง
“ท่านน้าผู้นั้นไม่ดีกับเจ้าหรือ”
“นางให้ท่านพ่อข้าขับหลี่เสี่ยวเหนียงออกไป นางไม่ใช่คนดี”
ในที่สุดลู่เจียวก็เข้าใจว่าเหตุใดนางจึงโมโหเช่นนี้ จ้าวอวี้หลัวเติบโตมาภายใต้การดูแลของนาง ปรากฏบิดานางจะขับไล่อนุหลี่ไป นางจะไม่โกรธได้หรือ เพียงแต่เรื่องนี้เป็นผู้ใดบอกนางกัน
ลู่เจียวคิดไปก็ลูบศีรษะจ้าวอวี้หลัวไป กล่าวว่า “ท่านพ่อเจ้าไม่ได้ขับไล่หลี่เสี่ยวเหนียงไป แต่ส่งนางออกไป เขาไม่ได้คิดอันใดกับหลี่เสี่ยวเหนียง ทั้งสองคนอยู่ร่วมกันก็ไม่มีความสุข อวี้หลัวไม่ได้บอกว่ารักท่านพ่อหรือ รักท่านพ่อเหตุใดไม่อยากให้ท่านพ่อมีความสุข”
ลู่เจียวกล่าวจบ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็เดินเข้ามา เอ้อร์เป่ามองจ้าวอวี้หลัวกล่าวว่า “ข้าอยากให้ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าเบิกบานใจอยู่ตลอดเวลา”
ซานเป่ากับซื่อเป่าพยักหน้าเต็มแรง “ใช่ พวกเรารักท่านพ่อกับท่านแม่ ก็อยากให้ท่านพ่อกับท่านแม่เบิกบานใจ”
จ้าวอวี้หลัวได้ยินวาจาสามแฝด ก็ลังเลเอ่ยว่า “แต่เหตุใดท่านพ่อต้องขับไล่หลี่เสี่ยวเหนียงไปด้วย ให้อยู่เป็นเพื่อนข้าก็ได้นี่”
ลู่เจียวเลิกคิ้วอย่างไม่เป็นที่สังเกตถามว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าท่านพ่อเจ้าจะขับไล่หลี่เสี่ยวเหนียงไป”
“หลี่เสี่ยวเหนียงบอก”
สีหน้าลู่เจียวเย็นเยียบเล็กน้อย ที่แท้เป็นอุบายอนุหลี่
ลู่เจียวมองไปยังจ้าวอวี้หลัว กล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “อวี้หลัว ท่านพ่อเจ้าแต่งภรรยาใหม่ก็เพื่อเจ้า รู้ไหม”
จ้าวอวี้หลัวอ้าปากตกใจพร้อมกับมีสีหน้าไม่เข้าใจ ดังนั้นลู่เจียวจึงกล่าวต่อว่า “เจ้าเริ่มโตแล้ว วันหน้าหากให้คนรู้ว่าเจ้าเติบโตมากับหลี่เสี่ยวเหนียง คนเขาก็จะว่าเจ้าเติบโตมากับอนุ จะว่าเจ้าไร้การอบรม ท่านพ่อเจ้าแต่งภรรยา เจ้าก็จะมีท่านแม่ เจ้าก็จะเติบโตมากับท่านแม่ คนเขาก็จะไม่นินทาเจ้าอีก”
ลู่เจียวคิดถึงว่าในนิยายที่จ้าวอวี้หลัวกลายเป็นตัวร้าย เรื่องราวในนี้ไม่แน่อาจเป็นความคิดของหลี่เสี่ยวเหนียง หลี่เสี่ยวเหนียงเลี้ยงดูจ้าวอวี้หลัวจนเติบโต ปรากฏไม่เห็นจ้าวหลิงเฟิงรักนาง ด้วยความโมโหจึงได้โกรธแค้น จากนั้นก็เอาไปลงที่จ้าวอวี้หลัว ให้นางทำชั่ว เรื่องอาจเป็นเช่นนี้ก็ได้
ลู่เจียวคิดไปก็กล่าวไปว่า “ท่านพ่อเจ้าตั้งใจทำเพื่อเจ้า เจ้าทำเช่นนี้ทำให้ท่านพ่อเจ้าเสียใจหรือไม่ อวี้หลัวเจ้าเจ็ดขวบแล้วนะ อีกไม่กี่ปีเจ้าก็แต่งงานแล้ว หลังจากเจ้าแต่งงาน ที่บ้านเจ้าก็เหลือแต่ท่านพ่อเจ้าคนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย หรือเจ้าไม่เศร้าใจ ท่านพ่อเจ้าแต่งภรรยาก็จะมีคนเป็นเพื่อนเขาแล้ว”
ลู่เจียวกล่าวเช่นนี้ ความคิดจ้าวอวี้หลัวก็เริ่มสับสน ในใจก็ไม่เป็นสุข เอ่ยขึ้นว่า “แต่ว่าหลี่เสี่ยวเหนียงเล่า”
ลู่เจียวไม่รอให้นางกล่าวจบ ก็กล่าวอย่างจริงจังว่า “หลี่เสี่ยวเหนียงเป็นอนุ อนุไม่ต่างอันใดกับบ่าวรับใช้ เจ้าเชื่อคำบ่าวรับใช้ กลับไม่เชื่อคำท่านพ่อเจ้า เจ้าคิดว่าท่านพ่อเจ้ารู้เรื่องนี้ จะเสียใจมากเพียงใด ปวดใจเพียงใด เขารักเจ้าเพียงนั้น”
ยามนี้จ้าวอวี้หลัวเริ่มร้อนใจ ใบหน้าน้อยๆ เริ่มซีดขาว
เอ้อร์เป่ามองนางกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “จ้าวอวี้หลัว เจ้าโง่จริง เหตุใดเจ้าเชื่อคำอนุได้ ผู้เป็นอนุล้วนเป็นคนไม่ดี ข้าไม่เห็นด้วยที่ท่านพ่อข้าจะรับอนุ”
จ้าวอวี้หลัวเห็นเอ้อร์เป่าไม่พอใจ ก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว นางยู่ปากกล่าวว่า “นางดีกับข้ามาก ดังนั้นข้า…”
ลู่เจียวลูบศีรษะนาง กล่าวว่า “นางดีกับเจ้า ก็เพราะอยากให้ท่านพ่อเจ้ารักนาง นางมีจุดมุ่งหมาย การทำเช่นนี้ถือว่าเป็นอุบาย นางวางอุบายใส่เจ้ามาตลอด ดังนั้นท่านพ่อเจ้าจึงได้โมโห จะส่งนางออกไป”
จ้าวอวี้หลัวเชื่อฟังลู่เจียวมาก ได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็แอบรู้สึกว่าตนเองทำผิดไปแล้ว
นางก้มหน้ามองนิ้วมือตนเองทันที “เช่นนั้น ข้าทำผิดไปแล้วหรือ”
เอ้อร์เป่ารีบกล่าวทันทีว่า “ใช่ เจ้าทำผิดไปแล้ว วันหน้าต้องจดจำไว้ เป็นอนุไม่มีดีสักคน ล้วนเป็นคนเลว ขอเพียงคิดเป็นอนุ ย่อมเป็นคนเลว”
แฝดสี่โกรธแค้นชิงชังอนุภรรยามาก
จ้าวอวี้หลัวชอบเอ้อร์เป่ามาตลอด วาจาเอ้อร์เป่านางย่อมเชื่อ ดังนั้นนางอดครุ่นคิดจริงจังถึงเรื่องราวต่างๆ ที่หลี่เสี่ยวเหนียงเคยดีกับนาง
เช่นว่า ดีกับนางก็มักเลือกเวลาที่ท่านพ่อนางอยู่ เช่นว่า นางมักกล่อมนางไปตามท่านพ่อมากินข้าว จากนั้นก็นางก็กินด้วย เช่นว่า นางบอกนางว่า ให้นางพูดถึงความดีของนางต่อหน้าท่านพ่อนางให้มากๆ
ดังนั้นหลี่เสี่ยวเหนียงเอาแต่วางอุบายใส่นางงั้นหรือ
จ้าวอวี้หลัวเดิมก็เป็นคนฉลาด พอคิดก็คิดเข้าใจ จากนั้นก็มองลู่เจียวด้วยท่าทางเก้กัง กล่าวว่า “เช่นนั้น ท่านพ่อข้าจะโมโหหรือไม่”
ลู่เจียวลูบศีรษะจ้าวอวี้หลัว กล่าวว่า “ท่านพ่อเจ้าไม่โมโหหรอก เขาจะเป็นห่วง เขาเป็นคนที่รักอวี้หลัวที่สุดในโลก ดังนั้นเจ้าก็ต้องเรียนรู้ที่จะรักท่านพ่อเจ้า รู้ไหม”
จ้าวอวี้หลัวคิดอยู่ครู่หนึ่ง พยักหน้าเต็มแรง ลู่เจียวยังกล่าวว่า “เจ้ารักท่านพ่อ ก็ต้องสงสารเขา อีกไม่กี่ปีเจ้าก็แต่งงานแล้ว วันหน้าท่านพ่อเจ้าตัวคนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย อยู่บ้านกินข้าวคนเดียว นอนคนเดียว เจ้าไม่ปวดใจหรือ”
จ้าวอวี้หลัวครุ่นคิดรวดเร็ว ว่าถึงตอนนั้นตนก็จะมาอยู่กับเอ้อร์เป่า จากนั้นก็อยู่กับท่านน้าลู่ ทุกคนอยู่ร่วมกัน ท่านพ่อกลับตัวคนเดียว น่าสงสารเหลือเกิน
จ้าวอวี้หลัวคิดแล้วก็ผ่อนคลายเกิดใจอ่อนลงทันที
นอกประตูมีเสียงฝีเท้าจ้าวหลิงเฟิงก้าวเข้ามาอย่างร้อนใจ เห็นดวงตาบุตรสาวบวมแดง เขาเป็นห่วงแทบตาย กลัวบุตรสาวเกิดเรื่องอันใด แม้ว่านางบอกให้คนขับรถม้ามาส่งนาง แต่ลำพังคนขับรถม้าหนึ่งคนกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง หากเกิดเรื่องจะทำเช่นไร
จ้าวหลิงเฟิงเดินเข้ามาถึง ก็อุ้มจ้าวอวี้หลัวขึ้น “อวี้หลัว หากเจ้าไม่อยากให้พ่อแต่ง พ่อก็ไม่แต่งแล้ว”
บุตรสาวไม่เห็นด้วย เขาก็ไม่แต่ง อย่าได้แต่งกับเถียนฮวนมาแล้วจัดการไม่ดี ถึงตอนนั้นจะปวดใจทั้งสองฝ่าย
แม้ว่าคิดถึงว่าพอบอกว่าไม่แต่งเถียนฮวน ในใจเขาปวดร้าวมาก แต่ผู้ใดให้เขามีบุตรสาวเพียงคนเดียวเล่า
เอาเถอะ ชีวิตนี้เขาไม่แต่งแล้ว
จ้าวหลิงเฟิงเพิ่งคิดจบ จ้าวอวี้หลัวก็เอ่ยว่า “ท่านพ่อ ท่านไปแต่งได้แล้ว ข้าไม่อยากให้วันหน้าท่านพ่อต้องอยู่ตัวคนเดียว เช่นนั้นข้ากับเอ้อร์เป่าก็จะไม่เบิกบานใจ”
ในห้องทุกคนต่างฟังจนนิ่งอึ้ง เจ้าไม่เบิกบานใจ เหตุใดเกี่ยวข้องกับเอ้อร์เป่าด้วย