ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 637 รับบุตรีบุญธรรมแล้ว
ตอนที่ 637 รับบุตรีบุญธรรมแล้ว
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่มองภาพทุกอย่างแล้วก็ลันเอ่ยขึ้นว่า“ในเมื่อพวกเจ้าสาบานเป็นพี่น้องกันแล้ว เช่นนั้นแม่ก็รับนางเป็นบุตรีบุญธรรม ดีหรือไม่”
เรือนบุปผา ลู่เจียวนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง อ้าปากคิดปฏิเสธ
หลี่อวี้เหยากลับดีใจเอ่ยว่า “ดีสิ ข้าอยากทำอะไรให้เจียวเจียวบ้างมาตลอด แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยนางได้อย่างไรดี หากท่านแม่รับนางเป็นบุตรีก็จะดีมากๆ”
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่หันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “เจียวเจียว เจ้าคงไม่ปฏิเสธกระมัง”
ความจริงลู่เจียวไม่คิดรับท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่เป็นมารดาบุญธรรมจริงๆ แต่ท่านหญิงเอ่ยปาก นางไม่รับก็คล้ายว่าไม่รู้ดีชั่ว
สุดท้ายลู่เจียวได้แต่ยืนขึ้นเอ่ยเรียกเสียงก้องกังวาน “ท่านแม่บุญธรรม”
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กล่าวอย่างดีใจว่า “การรับบุตรีบุญธรรมนี้ต้องเป็นทางการสักหน่อย พรุ่งนี้พวกเราไปจัดงานเลี้ยงรับบุตรีบุญธรรมที่เมืองหนิงโจวกัน ให้ทุกคนได้รู้ว่าเจ้ามีคนสนับสนุน”
พอท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่เอ่ย ลู่เจียวก็เข้าใจ นางรับนางเป็นบุตรีบุญธรรมก็เพื่อให้พวกนางยืนในเมืองหนิงโจวได้มั่นคงยิ่งขึ้น
ลู่เจียวยิ้มให้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ เอ่ยขอบคุณ “ขอบคุณท่านแม่บุญธรรม พรุ่งนี้ข้าจะจัดงานเลี้ยงที่เมืองหนิงโจว”
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ยิ้มกล่าวว่า “เรื่องนี้ไหนเลยมอบให้พวกเจ้าไปจัดการ เรื่องนี้พวกเราจัดการเอง”
นางกล่าวจบมองไปยังซื่อจื่อเนี่ยเยี่ยหลิง กล่าวว่า “เจ้าให้ลูกน้องไปจัดการเรื่องนี้ พรุ่งนี้จองร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหนิงโจว ตระกูลเราจะประกาศต่อหน้าทุกคนรับเจียวเจียวเป็นบุตรีบุญธรรม”
ซื่อจื่อเนี่ยเยี่ยหลิงรู้ว่าที่มารดาทำเช่นนี้ก็เพื่อตอบแทนลู่เจียว ดังนั้นจึงรับคำทันที
“ได้ ข้าไปจัดการเรื่องนี้”
เนี่ยเยี่ยหลิงกล่าวจบก็ลุกไปจัดการ
ในเรือนบุปผา นายอำเภอหูดีใจลุกขึ้นกล่าวแสดงความยินดีกับท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ “ขอแสดงความยินดีกับท่านหญิงที่หาบุตรีพบ และยังรับบุตรีบุญธรรมอีกคน”
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะนายอำเภอหูดีกับบุตรีนางไม่เลว ดังนั้นนางมองนายอำเภอหูแล้วก็รื่นหูรื่นตาอยู่มาก ยังถามนายอำเภอหูว่าอยู่ในตำแหน่งนี้มานานเท่าไรแล้ว
นายอำเภอหูตอบทีละคำถาม
หลังอาหารเที่ยงเตรียมเสร็จ ทุกคนไปโถงตระกูลหูร่วมรับประทานอาหาร หลังอาหาร ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับเนี่ยเยี่ยหลิงซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกงก็พาหลี่อวี้เหยาไปตระกูลหลี่ ประการแรก ขอบคุณตระกูลหลี่ที่มีบุญคุณดูแลหลี่อวี้เหยา ประการที่สอง ต้องให้หลี่อวี้เหยาประกาศชัดเจนว่าเป็นบุตรีจวนอู่กั๋วกง ไม่ใช่บุตรีตระกูลหลี่ ดังนั้นวันหน้าตระกูลหลี่อย่าได้คิดใช้ประโยชน์บุตรีตระกูลตนเองเพื่อตระกูลพวกเขา
ลู่เจียวให้คนตระกูลหูส่งนางกลับตระกูลเซี่ยเมืองหนิงโจว
พอกลับถึงบ้าน ฟ้าก็มืดแล้ว เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำลังรอนางอยู่ พอเห็นนางก็ไม่ได้ถามเรื่องตระกูลหู แต่ให้คนไปเตรียมอาหารมาให้นางก่อน ลู่เจียวกินไปเล่าเรื่องราวที่เกิดที่ตระกูลหูให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นฟังไปด้วย
ก่อนจบยังบอกว่า ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่จะรับนางเป็นบุตรีบุญธรรม
“ท่านหญิงให้ซื่อจื่อจัดงานรับบุตรีบุญธรรมที่ร้านอาหารในเมืองหนิงโจวพรุ่งนี้ ถึงตอนนั้นเจ้ากับข้าก็ไปด้วยกัน นางมาก็เพื่อแสดงการให้การสนับสนุนพวกเรา มีการสนับสนุนของนาง แวดวงในเมืองหนิงโจวนี้น่าจะไม่มีผู้ใดกล้าหาเรื่องพวกเราอีก”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นขมวดคิ้วคิดไตร่ตรองแล้วก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ทำได้ จึงพยักหน้า “ได้ พรุ่งนี้ข้าไปกับเจ้า รับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มาด้วย”
“อืม”
สองสามีภรรยากินอาหารเย็นเสร็จ รอย่อยอาหารแล้วก็เข้านอน
เช้าวันรุ่งขึ้น จวนตระกูลเซี่ยก็รับเทียบเชิญจากซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกง งานรับบุตรีบุญธรรมวันนี้จัดที่ร้านหงอวิ้นโหลว ร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหนิงโจว
ลู่เจียวรับเทียบเชิญมาก็ให้คนไปซีเฟิงย่วนรับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มาก่อน พอเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กลับมา อย่าได้เอ่ยว่าดีใจเพียงใด เดิมยังคิดว่าอีกสองวันจึงจะกลับมาพบท่านพ่อท่านแม่ได้ คิดไม่ถึงว่าท่านพ่อท่านแม่ถึงกับไปรับพวกเขากลับมาก่อน
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ดีใจรีบถามเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านคิดถึงพวกเราหรือ จึงได้ให้คนไปรับพวกเรากลับมา”
เอ้อร์เป่ายักคิ้วได้ใจ กล่าวว่า “ข้าก็รู้ว่าท่านพ่อกับท่านแม่ย่อมต้องคิดถึงพวกเราจนนอนไม่หลับ ดังนั้นจึงให้คนไปรับพวกเรากลับมาแต่เช้า”
ซานเป่าอุดปากหัวเราะ ซื่อเป่ายื่นมือออกไปกอดคอลู่เจียว ถามว่า “ท่านแม่ ท่านคิดถึงข้าที่สุดใช่หรือไม่”
ลู่เจียวไร้วาจาจะกล่าว หรี่ตามองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ กล่าวว่า “พวกเจ้าคิดมากไปแล้ว ท่านพ่อกับแม่ยุ่งกันแทบตายทุกวัน ไม่มีเวลาคิดถึงพวกเจ้าหรอก”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รับคำ “อ้อ” คำหนึ่ง แล้วก็รีบถามพร้อมกันว่า “เช่นนั้น พวกท่านให้คนไปรับพวกเรากลับมาทำไมกัน”
ลู่เจียวกล่าวว่า “วันนี้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่จัดงานรับบุตรีบุญธรรมที่ร้านหงอวิ้นโหลว นางจะรับแม่เป็นบุตรีบุญธรรม พวกเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา ก็ย่อมต้องมาร่วมงานด้วย ดังนั้นท่านพ่อกับแม่จึงไปรับพวกเจ้ากลับมา”
ลู่เจียวกล่าวจบ ต้าเป่ารีบถามว่า “ก็คือบุตรีท่านหญิงที่ล้มป่วย คนที่ถูกคนลักพาตัวบุตรีไปท่านนั้นหรือขอรับ”
“ใช่ วันหน้าพวกเจ้าต้องเรียกท่านยาย และบุตรีนางที่หายไปก็หาพบแล้ว ก็คือท่านแม่ของหูหลิงเสวี่ย ที่พวกเจ้าเรียกน้าหลี่อย่างไรเล่า”
“หา วันนี้พี่หลิวเสวี่ยก็จะมาด้วยหรือ”
“ใช่ นอกจากนาง ผิงอันก็มาด้วย”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ชอบผิงอันน้อยมาก ผิงอันน้อยอายุไม่ถึงสองขวบ พูดจาคล่องแคล่ว ชอบตามเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มาก ไล่ตามหลังเรียกพวกเขาว่าพี่ชายๆ
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ชอบหยอกเขามาก พอได้ยินว่าผิงอันน้อยจะมาด้วยก็ดีใจอย่างมาก
ทั้งครอบครัวแต่งตัวเสร็จก็ขึ้นรถตรงไปยังร้านหงอวิ้นโหลวร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหนิงโจว
หน้าประตูร้านหงอวิ้นโหลวมีรถม้าจอดกันแน่นขนัด อย่าได้เอ่ยว่าครึกครื้นเพียงใด
ขุนนางเมืองหนิงโจว และคนสี่ตระกูลใหญ่เมืองหนิงโจวต่างได้รับเทียบเชิญมากันครบ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวมาถึง พวกหลินจือฝู่ก็มากันแล้ว หลินจือฝู่กำลังคุยกับท่านนิ่งป๋อ พอเงยหน้าเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสองคนมาถึง หลินจือฝู่ก็ทักทายด้วยสีหน้านิ่งเรียบ “เซี่ยถงจือก็มาหรือ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้าเล็กน้อยยิ้มรับคำ “ใต้เท้าจือฝู่ก็มาหรือ”
“อืม”
หลินจือฝู่เห็นเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ข้างกายลู่เจียว ก็คิดถึงเรื่องที่ตระกูลเซี่ยปฏิเสธตระกูลหลินขึ้นมา สีหน้าก็ยิ่งไม่พอใจ
เขาไม่สนใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นอีก หันหน้าไปคุยกับท่านนิ่งป๋อต่อ “ซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกงอยู่ดีๆ ส่งเทียบเชิญพวกเรามาทำอันใด ยังเชิญพวกเรากินข้าว มีเรื่องอันใดกัน”
ท่านนิ่งป๋อมีเจาอี๋เหนียงเหนียงอยู่ในวัง ดังนั้นตระกูลพวกเขาก็ใส่ใจเรื่องในวังกับการเคลื่อนไหวในเมืองหลวงมาตลอด หลินจือฝู่ถามเขา แต่ท่านนิ่งป๋อกลับไม่รู้ กล่าวว่า “ไม่ได้ยินว่ามีเรื่องอันใด ได้ยินเพียงว่าท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ ฮูหยินอู่กั๋วกง บุตรีองค์หญิงใหญ่หายป่วยแล้วเท่านั้น”
ทั้งสองคนกล่าวจบก็คิดถึงที่ลู่เจียวเคยเอ่ยว่านางรักษาท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่หาย ดังนั้นงานเลี้ยงวันนี้คงไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับลู่เจียวกระมัง ท่านนิ่งป๋อกับหลินจือฝู่สองคนหันขวับไปจ้องมองลู่เจียวทันที
วันนี้ซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกงจัดงานเชิญแขก คงไม่ได้คิดออกหน้าให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวกระมัง
ท่านนิ่งป๋อกับหลินจือฝู่สองคนเริ่มกังวลขึ้นมา ทั้งสองคนเดินไปข้างกายเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวทันที กระซิบถามอย่างระมัดระวังว่า “ใต้เท้าเซี่ย ฮูหยินเซี่ย พวกเจ้ารู้ไหมว่าวันนี้ซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกงจัดเลี้ยงพวกเราด้วยเรื่องอันใดกัน”