ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1667 ชิงคน
เยี่ยนจ้าวเกอกำลังสังเกตอยู่ด้านข้าง ตัวสตรีอาภรณ์น้ำเงินไม่มีความผิดปกติ
นางคล้ายกับองค์หญิงไป๋ฮวาซิวในตอนนั้น ไม่มีความทรงจำจากชาติปางก่อน และไม่มีคนมอบคำกำชับพิเศษให้แก่นาง
สตรีอาภรณ์น้ำเงินผู้นี้ไม่มีความแตกต่างจากจอมยุทธ์โถงเซียนเส้นทางนอกรีตคนอื่น ต่อสู้กับยอดฝีมือศาสนาพุทธเส้นทางนอกรีตจากแดนสุขาวดีบัวขาว
ก่อนหน้านี้นางถูกนักบวชศาสนาพุทธแห่งแดนสุขาวดีบัวขาวโจมตีได้รับบาดเจ็บ ในสงคราม นางก็ได้สังหารทำร้ายจอมยุทธ์แดนสุขาวดีบัวขาวเช่นกัน มีมามีกลับ มีอันตรายมีผลพวง
‘แดนสุขาวดีบัวขาวบุกโจมตีโถงเซียน ในระดับหนึ่งแล้ว นางเองก็นับว่ารักษาบ้านเมืองพร้อมกับคนอื่นๆ’ เยี่ยนจ้าวเกอมองอยู่ด้านข้าง คอยสังเกตสตรีอาภรณ์น้ำเงินนางนั้นกับหมาป่าขุยมู่
การต่อสู้ระหว่างแดนสุขาวดีบัวขาวกับโถงเซียนถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะกินเวลานาน
พร้อมกับการผันผ่านของกาลเวลา ภายใต้การจับตามองของเยี่ยนจ้าวเกอและหมาป่าขุยมู่ หลังจากสตรีอาภรณ์น้ำเงินผู้นั้นทำสงครามใหญ่ติดต่อกันเป็นเวลานาน ถึงขั้นผลักเปิดประตูเซียน ขึ้นสู่ระดับเซียนกลางศึกนี้
จอมยุทธ์เส้นทางนอกรีตผลักเปิดประตูเซียน หลักๆ ขึ้นอยู่กับแสงศักดิ์สิทธิ์หรือแสงพุทธพลังศรัทธา ขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ศรัทธาต่อเทวกษัตริย์ไร้ประมาณและพระศรีอาริย์ของพวกเขา
ความแตกต่างรายบุคคลถูกหดให้เล็กลงในระดับสูงยิ่ง
ทว่าแม้ความแตกต่างจะเล็กปานใด แต่ก็ไม่ถึงกับสูงมาก ความแตกต่างยังคงดำรงอยู่ในเชิงภววิสัย
คนคนเดียวกัน ภายใต้การสนับสนุนจากแสงวิเศษพลังศรัทธา พรสวรรค์กับประสบการส่วนตัว จะมากจะน้อยก็ช่วยผลักนางให้ก้าวหน้าเร็วกว่าเดิมในระดับหนึ่ง
สตรีอาภรณ์น้ำเงินนางนี้ได้รับวาสนาหลายส่วนในสงคราม ก้าวเท้าก้าวสุดท้ายสำเร็จ สำเร็จร่างไร้ช่องโหว่ว ระดับเซียนจริงแท้
สำหรับการต่อสู้ที่ปะทุขึ้นทุกด้านของสองเส้นทางนอกรีต โถงเซียนเพิ่มเซียนจริงแท้คนหนึ่ง ไม่ก่อให้เกิดผลตัดสิน
ทว่าสำหรับตัวสตรีอาภรณ์น้ำเงินแล้ว ทำให้อาณาเขตการเคลื่อนไหวของนางใหญ่มากขึ้น การศึกกับที่ที่ก้าวเท้าถึงสูงขึ้นกว่าเดิม แบกรับหน้าที่สำคัญกว่าเดิม ผลศึกษาสมบูรณ์กว่าเดิม
ขณะเดียวกัน คู่ต่อสู้ที่เผชิญก็แข็งแกร่งกว่าเดิม สถานการณ์อันตรายกว่าเดิม
ไม่ว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุข หรือเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่ว การบาดเจ็บล้มตายกระจัดกระจายไปทั่วสงครามขนาดนี้
ในศึกใหญ่ครั้งใหม่ สตรีอาภรณ์น้ำเงินผู้นั้นประสบภัยอีกหน
วิกฤติเป็นตาย
จอมยุทธ์โถงเซียนคนอื่นช่วยเหลือไม่ทันเช่นกัน
ความตายอยู่ตรงหน้า ทุกชีวิตเผชิญความเท่าเทียมในระดับสูงสุด สตรีอาภรณ์น้ำเงินผู้นี้ไม่มีข้อยกเว้น
ยอดฝีมือโถงเซียนระดับที่สูงกว่า มีคู่ต่อสู้ระดับเดียวกันต้องรับมือ ไม่มีใครเหลือพลังสนับสนุน
สิ่งที่กำลังจะมาถึงเหมือนเป็นการสังหารที่ธรรมดาเหลือเกินในสภาพแวดล้อม ณ ตอนนี้
สตรีอาภรณ์น้ำเงินผู้นี้กำลังจะเดินซ้ำรอยเดิมของสหายร่วมเส้นทางในโถงเซียนส่วนหนึ่งเมื่อก่อนหน้า กลายเป็นเครื่องเสียสละในสงครามนี้
ความสนใจของเยี่ยนจ้าวเกอรวมกันในระดับสูงอีกครั้ง สังเกตทิศทางของหมาป่ามู่ขุย
มองออกว่า วินาทีนี้หมาป่าขุยมู่เพ่งสมาธิทั้งหมดเช่นกัน
เพียงแต่ว่า เป้าหมายในการเพ่งสมาธิของเขาไม่ใช่สตรีอาภรณ์น้ำเงินที่สงสัยว่าเป็นไป๋ฮวาซิวนางนั้นอีกต่อไป
ตรงกันข้าม ด้วยพลังฝึกปรือของเขา ยามมองเซียนจริงแท้กับเซียนลี้ลับเหล่านั้น ภาพคล้ายเคลื่อนไหวช้า เขามีเวลาเหลือเฟือ
วินาทีนี้หมาป่าขุยมู่กำลังสำรวจการเคลื่อนไหวรอบๆ ด้วยสมาธิทั้งหมด
สำรวจว่านี่เป็นสถานการณ์ลวง หรือกับดักอย่างหนึ่งหรือไม่
สำรวจว่าถ้าตนไม่ลงมือ จะมีคนอื่นๆ ช่วยเหลือสตรีอาภรณ์น้ำเงินนางนั้นหรือไม่
สำรวจว่าถ้าหากตนลงมือ จะเจอการลอบทำร้ายหรือการกลุ้มรุมจากคนอื่นๆ อย่างกะทันหันหรือไม่
สำรวจว่า มีคนอื่นๆ กำลังจับตาดูเขาอยู่หรือไม่
โชคดีที่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนร่างเป็นเผ่าปีศาจ มิได้ปลอมเป็นคนในศาสนาพุทธ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของเขาจึงไม่สร้างความตื่นตัวให้แก่หมาป่าขุยมู่
ส่วนหมาป่าขุยมู่ก็ไม่พบว่ามีคนในศาสนาพุทธหรือคนในโถงเซียนจงใจจับจ้องมองเขาอยู่ชั่วขณะ
ต่อให้มี ก็เป็นแค่การคุมเชิงเฝ้าระวังที่ปกติ ไม่มีความพิเศษใด
‘ถ้าหากว่ามีบุคคลอย่างเทวกษัตริย์หุบเหวซึ่งเป็นผู้สืบทอดสำนักเต๋าผู้นั้นซุ่มโจมตีข้าจริงๆ เสียท่าไปก็ไม่มีวาจาจะกล่าว’ หมาป่าขุยมู่หัวเราะเยาะตัวเอง มองสตรีอาภรณ์น้ำเงิน ถอนใจคำหนึ่ง ‘สุดท้ายก็ไม่อาจมองดูอยู่ฉยๆ ได้…’
ภายใต้การมองด้วยสายตาสะท้านสะเทือนของจอมปีศาจตนอื่นๆ เช่นเซียนหัวมังกร หมาป่าขุยมู่พลันก้าวเท้าออกก้าวหนึ่ง ลงไปยังโลกใบนั้น
ความแตกต่างด้านพลังของสองฝ่ายเด่นชัดเกินไป หมาป่าขุยมู่ไม่ต้องทำร้ายคน ก็ช่วยเหลือสตรีอาภรณ์น้ำเงินผู้นั้นได้อย่างผ่อนคลาย
เหล่ายอดฝีมือจากโถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาวที่อยู่รอบๆ ต่างรู้สึกรับมือไม่ทัน
นักบวชศาสนาพุทธของแดนสุขาวดีบัวขาวสับสนงุนงง ยอดฝีมือระดับมหาชาลและสุญญตาของโถงเซียนรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวด้านนี้ ตอนแรกตกใจ รู้สึกงงงวยเช่นกัน ไม่เข้าใจทำไมว่ามหาเทวะเผ่าปีศาจซึ่งเดิมทีเป็นพันธมิตรกับแดนสุขาวดีบัวขาว กับขวางคมศาสตราของแดนสุขาวดีบัวขาว ช่วยเหลือจอมยุทธ์โถงเซียนผู้หนึ่ง
หมาป่าขุยมู่ก็ไม่อธิบายมากความ ในเมื่อลงมือแล้ว ก็ไม่สนใจอย่างอื่นอีก นำสตรีอาภรณ์น้ำเงินนางนั้นออกจากสนามรบแห่งนี้
เขามาไปอย่างสบายๆ พุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกซึ่งเดิมคิดโจมตีขัดขวางเขารุดมาถึง เห็นหมาป่าขุยมู่นำคนออกไปแล้ว
แม้จะไม่ทราบว่าหมาป่าขุยมู่ขายยาอันใดในน้ำเต้า แต่เห็นเขาจับคนไป พุทธะองค์นั้นยังลงมือขัดขวาง
หมาป่าขุยมู่ปะทะกับพุทธะองค์นั้นกระบวนท่าหนึ่ง ไม่ต้องการต่อสู้ จึงกลายเป็นลมดำ จากไปอย่างผ่าเผย
เขาคิดหนีอย่างเดียว พุทธะองค์นั้นก็หยุดเขาไม่ได้ ก่อนที่ยอดฝีมือจาแดนสุขาวดีตะวันตกจะสนับสนุนรุมล้อม หมาป่าขุยมู่ก็ไปไกล เข้าไปในความว่างเปล่ากว้างใหญ่แล้ว เหลือแต่เหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความงงงวย
เซียนหัวมังกรมองหมาป่าขุยมู่ด้วยใบหน้าสับสน “ท่านนี่คือทำอะไร? อยู่ๆ เกิดหิวขึ้นมา ต้องการอาหารโลหิต ไหนเลยหาไม่ได้ ใยต้องทำแบบนี้? หรือว่าท่านไม่สนใจคำพูดในที่ลับของท่านแล้ว?”
“นี่เป็นภรรยาของข้า” หมาป่าขุยมู่กล่าว “ถึงนางจะเกิดใหม่ แต่ข้ากลับยังคงจำนางได้”
เซียนหัวมังกรขมวดคิ้ว พิจารณาสตรีอาภรณ์น้ำเงินนั้นขึ้นลง
สตรีอาภรณ์น้ำเงินนางนั้นอยู่ต่อหน้าหมาป่าขุยมู่ ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงกลับมีไม่มากนัก ความระมัดระวังตัวยังไม่ต้องพูดถึง แต่ว่าสิ่งที่มีค่าให้ความสนใจก็คือ นางเด่นชัดว่าไม่เหมือนจดจำความสัมพันธ์กับหมาป่าขุยมู่ในชาติปางก่อนออก
“ท่านจำผิดหรือไม่?” เซียนหัวมังกรถามอย่างสงสัย “ตอนท่านเห็นภรรยาผู้นั้นของท่านเมื่อครั้งล่าสุดผ่านไปกี่ปีแล้ว? ไม่เห็นจำได้ว่าภรรยาท่านเคยเป็นสุญญตา นานขนาดนี้ เกรงว่าจะเกิดใหม่ไม่ต่ำกว่าหนึ่งภพชาติแล้วกระมัง?”
“ข้าจำผู้ใดผิด ก็ไม่มีทางจำนางผิด!” หมาป่าขุยมู่ตอบอย่างแน่วแน่
เซียนหัวมังกรโบกมือ “หนำซ้ำต่อให้ยึดถือว่าท่านจำคนไม่ผิด แต่ท่านจำนางได้ นางจำท่านไม่ได้อย่างชัดเจน ตอนนี้ท่านนำนางกลับมามีประโยชน์อันใด”
เว้นครู่หนึ่ง เขาเหลือบมองหมาป่าขุยมู่ “ถ้าข้าจำไม่ผิด คราวก่อนท่านก็คล้ายขืนใจมาแล้วรอบหนึ่งนี่? ผลคือเป็นเพราะสตรีนางนี้ จึงเสียเศษศิลามนุษย์กำเนิด ทำลายแผนการใหญ่ของใต้เท้ากษัตริย์บูรพา”
“เรื่องราวในตอนนั้นเป็นเล่ห์กลของศาสนาพุทธ แม้แต่การที่นางไม่มีสติปัญญาเดิม สูญเสียความทรงจำจากชาติก่อนตอนลงสู่โลกมนุษย์เป็นครั้งแรก ก็เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้” หมาป่าขุยมู่กัดฟันกล่าว “เป็นข้าทำนางลำบากมาโดยตลอด ดังนั้นหลายมีมานี้ข้าจึงอดทนไม่ตามหานาง แต่สุดท้ายก็ยังเจอกันแล้ว”
เซียนหัวมังกรหยีตา “มีคนจงใจใช้นางควบคุมท่าน?”
“ไม่เหมือน” หมาป่าขุยมู่กล่าว “ไม่อย่างนั้นข้าไม่มีทางนำคนออกมาง่ายดายอย่างนี้”
“เช่นนั้นก็ไม่แน่” เซียนหัวมังกรกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้พวกเราบอกท่านถึงจุดพิเศษเกี่ยวกับแสงวิเศษพลังศรัทธานี้แล้ว”