ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1616 มารสวรรค์สูงสุดและมารสวรรค์ไร้รูป
เยี่ยนจ้าวเกอมองป้ายที่เขียนคำว่า ‘วังดุสิต’ ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะติดตามคนอื่น ออกจากสวรรค์หลีเฮิ่น ลงจากแดนเซียนอันสูงส่งงดงามแห่งนี้ เข้าไปในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดอีกครั้ง
“มีความรู้สึกพิเศษหรือไม่?” เฟิงอวิ๋นเซิงส่งกระแสเสียงถามเยี่ยนจ้าวเกอ
เมื่อครู่เห็นการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด นางก็ทราบเหตุผล
ครั้งกระโน้นหลังได้พบมหาเทวะเสมอฟ้าใต้เขาเบญจคีรี และดูประสบการณ์ในอดีตของตัวเอง เยี่ยนจ้าวเกอก็มีความสงสัยว่าตนเกี่ยวข้องกับเหล่าจวินหรือไม่
ปัจจุบันในที่สุดก็มีโอกาสมาถึงวังดุสิตบนสวรรค์หลีเฮิ่น เพียงน่าเสียดายที่ไม่ได้พบเหล่าจวิน
“ไม่มีความรู้สึกพิเศษอันใด” เยี่ยนจ้าวเกอส่งกระแสเสียงตอบเฟิงอวิ๋นเซิง
เฟิงอวิ๋นเซิงงุนงง “ไม่มีจุดพิเศษหรือ?”
เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำกับตัวเอง “ถูกต้อง ไม่มีจุดใดเป็นพิเศษ แบบนี้แหละถึงได้แปลก...”
เฟิงอวิ๋นเซิงพยักหน้าราวกับเข้าใจดี คิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยว่า “พระอาจารย์เสวียนตูเห็นท่าน คล้ายไม่มีท่าทีผิดปกติเช่นกัน”
“มหาเทวะเสมอฟ้าเคยสัมผัสกับเหล่าจวินอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นจากตัวข้าได้” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “แต่ว่าการสัมผัสระหว่างเขากับเหล่าจวิน คงจะมิได้ใกล้ชิดและถี่เท่าพระอาจารย์เสวียนตูกระมัง?”
“ไม่อย่างนั้นก็คงมีเลศนัยอย่างอื่น” เฟิงอวิ๋นเซิงคาดเดาพลางกล่าว “หรือไม่ก็พระอาจารย์เสวียนตูแสร้งเป็นไม่รู้?”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า กวาดมองจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ “คนผู้นี้ก็น่าสงสัยมากเช่นกัน”
เขาสงบจิตใจ “เอาเท่านี้ก่อน ค่อยสำรวจทีหลัง”
ทุกคนออกจากสวรรค์หลีเฮิ่น แยกย้ายไปคนละทาง
ครั้งนี้หยางเจี่ยนออกจากวังดุสิตเช่นกัน คล้ายมีเรื่องต้องไปทำ
“พี่ร่วมเส้นทางรอประเดี๋ยวก่อน ข้าผู้แซ่เยี่ยนมีเรื่องขอคำสั่งสอน” เยี่ยนจ้าวเกอส่งกระแสเสียงแก่เขา
“ได้” หยางเจี่ยนไม่แสดงสีหน้า มุ่งหน้าจากไป
หลังจากผ่านไปสักพัก เขาอ้อมเป็นวง พบกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิง เยี่ยนตี๋ และสวีเฟยอีกครั้ง รอบๆ ไม่มีคนอื่น
“จ้าวเกอมีเรื่องใดตามหาข้า?” หยางเจี่ยนทางหนึ่งพูด ทางหนึ่งยิ้มขึ้น “ไม่ทราบว่าชื่อเจ้ามีความหมายว่าอะไร? กลับได้เปรียบคนอื่นมากนัก”
เยี่ยนจ้าวเกอมองเยี่ยนตี๋ เยี่ยนตี๋ส่ายหน้าอดยิ้มขึ้นไม่ได้ คนอื่นๆ ล้วนยิ้มขึ้นมา
“บ้านเกิดในโลกเบื้องหลังที่เติบโตขึ้นมีชื่อว่าเยี่ยนจ้าว มีสภาพแวดล้อมยอดเยี่ยม มีวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่มากมาย ดังนั้นบิดาจึงตั้งชื่อนี้ให้แก่ข้า” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวพลางยิ้มกว้าง “ขออภัยพี่ร่วมเส้นทางด้วย”
หยางเจี่ยนยิ้ม กล่าว “บอกมาเถอะ มีเรื่องใดถามข้า?”
“มารสวรรค์ไร้พันธนาช่วยเหลืออมิตาภพุทธเจ้า ขัดขวางใต้เท้ากษัตริย์บูรพา เรื่องนี้พี่ร่วมเส้นทางเห็นว่าเป็นอย่างไร?” เยี่ยนจ้าวเกอหุบยิ้ม ถามอย่างแช่มช้า
หยางเจี่ยนสีหน้าขึงขัง “ดูเหมือนเจ้าจะมีการคาดเดาในใจแล้ว”
“พี่ร่วมเส้นทางคงมีความสงสัยเหมือนกับพวกเรา” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวเสียงเบา “พอเชื่อมโยงถึงกระบี่ลงทัณฑ์เซียนในตอนนั้น ระหว่างสองฝ่ายมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่?”
ก่อนหน้านี้ราวๆ ห้าสิบปี พวกเยี่ยนจ้าวเกอตามหากระบี่ลงทัณฑ์เซียน สุดท้ายมาพบว่า กระบี่ลงทัณฑ์เซียนอยู่บนวังดุสิตแต่แรก
หยางเจี่ยนแปลงกายเป็นมารดาแห่งแผ่นดิน ใช้กระบี่ลงทัณฑ์เซียนดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ ตนไปตามหาวังหยก นำตะเกียงเคลือบหยกมายาออกมา
สุดท้ายอาศัยไฟตะเกียงของตะเกียงเคลือบหยกมายา แลกเปลี่ยนพิณฝูซีชำรุดมาจากลู่ยาเต้าจวิน ใช้ช่วงชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียนในวันนี้
ตอนนั้นพวกเยี่ยนจ้าวเกอมิได้ทำให้หยางเจี่ยนผิดหวัง เก็บกระบี่ลงทัณฑ์เซียนมาได้
แต่ว่าตามคำกล่าวของหยางเจี่ยน กระบี่ลงทัณฑ์เซียนเล่มนี้กลับไม่ใช่อยู่บนวังดุสิตมาโดยตลอด
ซึ่งความจริง ตอนเกิดมหาภัยพิบัติ หลังจากเทวกษัตริย์กว่างเฉิงเสียชีวิต กระบี่ลงทัณฑ์เซียนที่เคยอยู่ในมือของเขาตกไปอยู่ในมือของนพยมโลก
เป็นนพยมโลกมายังวังดุสิต ทำการแลกเปลี่ยน กระบี่ลงทัณฑ์เซียนจึงค่อยกลับสู่สำนักเต๋า
สภาพการณ์อย่างเป็นรูปธรรม พระอาจารย์เสวียนตูจัดการ หยางเจียนไม่ทราบรายละเอียด แต่เขาก็มีการคาดเดาในใจเช่นกัน
มารสวรรค์ไร้พันธนาเจ้ามรรคามาด้วยตัวเอง ของที่สามารถแลกจากวังดุสิตได้ มีจำกัดจริงๆ
ถ้าบอกว่าก่อนหน้านี้ไม่กล้ายืนยัน เช่นนั้นในสงครามใหญ่ครั้งนี้ แดนสุขาวดีตะวันตกกับโถงเซียน สามารถเกลี้ยกล่อมให้มารสวรรค์ไร้พันธนาลงมือช่วยเหลือ ป้ายราคาเปิดสมควรไม่น้อย
การเชื่อมโยงสองสิ่งย่อมทำให้คนเกิดจินตนาการ
การแลกเปลี่ยนที่เกลี้ยกล่อมนพยมโลกได้มีอยู่ไม่น้อย แต่การแลกเปลี่ยนที่เกลี้ยกล่อมมารสวรรค์ไร้พันธนาได้มีอยู่น้อยนิด
“มารสวรรค์ไร้พันธนา ยังมี…” สวีเฟยกล่าวเสียงทุ้มต่ำ “…มารสวรรค์ไร้รูป!”
เยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิง เยี่ยนตี๋ หยางเจี่ยนได้ยิน ต่างเงียบขรึม
วิถีมารเดิมมีหกบรรพมาร แต่ว่าถูกบรมครูเทวกษัตริย์เต๋าสายเอกพิสุทธิ์กับอามิตาภพุทธเจ้าแห่งตะวันตกใช้อิทธิฤทธ์และมหาปัญญายึดครองสองตำแหน่ง ทำลายโชคชะตาของวิถีมารก่อนการเปิดผ่าฟ้า
ดังนั้นบรรพมารตนที่สามจึงกลายเป็นมารสวรรค์สูงสุดซึ่งเป็นร่างแปลงของเทวกษัตริย์เต๋า ส่วนบรรพมารตนที่สี่กลายเป็นมารสวรรค์ไร้รูปซึ่งเป็นร่างแปลงของอามิตาภพุทธเจ้า
ร่างแปลงไม่ใช่ร่างแยก หากกล่าวให้ถูกต้อง บรรพมารสองตนความจริงไม่ใช่ตัวตนอิสระที่คงอยู่อย่างแท้จริง
ใช้แนวคิดของเยี่ยนจ้าวเกอทำความเข้าใจ การบอกว่าพวกมันเป็นเสื้อกั๊กของเทวกษัตริย์เต๋าและอามิตาภพุทธเจ้า อาจยังเหมาะกว่าเล็กน้อย
เหมือนอย่างที่จุ่นถีเต้าหยินเปลี่ยนเป็นพระอาจารย์โพธิ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นพระศากยมุณีพุทธเจ้า ทว่าในนี้ก็มีความลี้ลับนับไม่ถ้วน คนด้านนอกไม่ทราบ
ครั้งกระโน้นยังมีคนสงสัยว่าหลังจากเทวกษัตริย์เต๋าหลุดพ้นไปแล้ว ไท่ซ่างเหล่าจวินเป็นมารสวรรค์สูงสุดแปลงกายมา แต่ว่าหลังผ่านการยืนยันโดยมหาเทวะเสมอฟ้า ก็รู้ว่าไม่ใช่เช่นนี้
มีคำกล่าวว่านพยมโลกต้องการมารสวรรค์สูงสุดกับมารสวรรค์ไร้รูป ไม่ใช่ต้องการให้เทวกษัตริย์เต๋าหรือไท่ซ่างเหล่าจวิน กับอมิตาภพุทธเจ้าออกจากตำแหน่ง
ตำแหน่งว่างลงแล้ว เหล่าจวินกับอามิตาภพุทธเจ้ายังมีชีวิตอยู่ นพยมโลกก็ไม่ใช่อยู่ๆ จะเพิ่มเจ้ามรรคามาสองคน
ทว่าพวกมันเก็บอำนาจมารสวรรค์สูงสุดกับมารสวรรค์ไร้รูปกลับไปได้
ถึงแม้นพยมโลกจะเก็บอำนาจของมารสวรรค์สูงสุดและไร้รูปร่างกลับมา ก็ไม่อาจทำให้บรรพมารตนที่สามและตนที่สี่ที่แท้จริงจุติกำเนิดได้ใหม่ แต่ว่ายังคงมีความหมายใหญ่หลวง
“ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์…” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ
หยางเจี่ยนเอ่ย “มิผิด นพยมโลกต้องการอำนาจของมารสวรรค์สูงสุดและมารสวรรค์ไร้รูป อาจเป็นเพราะค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ เพื่อสร้างบารมีของวิถีมารขึ้นมาอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็เพื่อปลดปล่อยมารสวรรค์บุพากาล”
ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ มีความหมายตามชื่อ คือค่ายกลที่สิบสองเทพมารสวรรค์ผู้นำแห่งวิถีมารผนึกกำลังกันกางขึ้น
ผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาหกตน กับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลระดับสุดยอดหกตนผนึกกำลังกัน ความแข็งแกร่งของค่ายกล แค่ลองคิดดู ก็ทำให้คนตกตะลึงได้แล้ว
กระนั้นค่ายกลที่น่าสะพรึงกลัวในตำนานนี้ ดูจากตอนนี้ ได้แต่อยู่ในทฤษฎีแล้ว
ต่อให้มารสวรรค์บุพกาลทำลายผนึกออกมา มารสวรรค์ปัจฉิมธรรมจุติขึ้นบนโลก แต่ว่ามารสวรรค์ธรรมชาติเหลือแค่ซากสังขาร มารสวรรค์สูงสุดกับมารสวรรค์ไร้รูปไม่ใช่จุติลงมาจริงๆ ถึงแม้ว่าจะกางค่ายกลสำเร็จ ก็ไม่มีทางแสดงอานุภาพทั้งหมดได้
“นพยมโลกคงจะอยากใช้โอกาสกางค่ยกล อาศัยสภาวะส่งเสริมกันและกัน ประสานในนอก ช่วยมารสวรรค์บุพกาลทำลายผนึก ขณะเดียวกันก็ผลักดันให้มารสวรรค์ปัจฉิมธรรมจุติอย่างแท้จริง” เยี่ยนจ้าวเกอคล้ายนึกอันใดออก
“นี่เป็นผลลัพธ์ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด” หยางเจี่ยนเอ่ย “นพยมโลกกบดาน ไม่เคยละทิ้งโอกาสค้นหาการผงาดขึ้นมา แต่ว่าสิ่งที่พวกมันต้องการกระทำ ยังมีเส้นทางอีกยาวไกลยิ่ง”
พูดถึงตรงนี้ หยางเจี่ยนเว้นเล็กน้อย ค่อยกล่าวต่อ “ความจริงตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา ขุมกำลังแต่ละฝ่ายต่างก็จับตาดูการเคลื่อนไหวของนพยมโลกในที่ลับ”
“โอกาสที่นพยมโลกใฝ่ฝันปรารถนา ก็เป็นโอกาสที่คนอื่นๆ รอคอยเช่นกัน”