ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1606 ราชาแห่งมหาชาล!
การโจมตีอันน่ากลัวจากกระบองสารพัดนึกถึงกับทำลายแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีจากด้านในชั่วขณะ
เงาแสงไหลเวียน คนที่ถูกแสงห้าสีจับไปก่อนหน้านี้อย่างจักรพรรดิโกวเฉิน จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ เซียนหัวมังกร หนอนเก้าเศียร ล้วนฉวยโอกาสพุ่งออกมาจากในช่องว่างแสงศักดิ์สิทธิ์
พวกเขาหันกลับไปมองอย่างงุนงง มองดูเงาร่างที่ฉีกท้องทะเลแสงศักดิ์สิทธิ์ เหมือนกับอยู่กันคนละยุคสมัย
คนอื่นๆ ในโลกภายนอก จิตใจสั่นสะเทือนเช่นกัน
ด้านในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวว่า “พลังของพิณฝูซีไม่อาจผลักดันด้วยตัวเอง ได้แต่ต้องรับการกระตุ้นถึงจะทำงาน เพียงป้องกันเจ้ามรรคา กลับไม่ใช่ผนึกสถานที่แห่งนี้อย่างแท้จริง ดังนั้นยอดฝีมือระดับมหาชาลจึงหนุนเนื่องมาถึง”
เขายิ้มหนักใจ “ใต้เท้าโกวเฉินที่เป็นพวกเดียวกันมาช่วยเหลือ แต่มหาวิทยราชมยุรีก็มาเช่นกัน”
ข่งซวนไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่พิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอขึ้นลง
ขณะเดียวกัน แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีก็หมุนวนอยู่รอบตัวเขา ต้องการซ่อมช่องว่างนั้นและจับคู่ต่อสู้ที่ก่อความวุ่นวายอีกครั้ง
ความหนักใจหายไปจากใบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอ เขาอมยิ้ม กล่าวอย่างผ่อนคลาย “ร้อยปีก่อนข้าถล่มวังเซียน หลังจบเรื่องลองนึกย้อนดู มักยินดีที่ตัวเองลงมือเด็ดขาด เล่นงานโถงเซียนจนรับมือไม่ทัน”
“ไม่อย่างนั้นถ้าหากอีกฝ่ายเชิญวิทยราชท่านมาเฝ้า ร้อยปีก่อนข้าเกรงว่าได้แต่หลบหนี ยากจะฆ่าคนทรยศแก้แค้น”
ในที่สุดมหาวิทยราชมยุรีก็เอ่ยขึ้น “วันนี้หากบอกว่ามีอะไรต่างไปจากเดิม บางทีเป็นเจ้าหนีไม่ได้แล้ว”
ขณะที่พูดเห็นแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีนั้นเริ่มแข็งแกร่งขึ้น
รัศมีห้าสียิ่งมายิ่งโชติช่วง เหมือนกับกระแสคลื่นมืดฟ้ามัวดิน กำลังจะกลบฝังเงาร่างสีทองตรงกลาง
“วันนี้ไม่เหมือนเดิมจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอไร้ความเกรงกลัว “พวกเราก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน”
เขางอนิ้วนับ “อย่างเช่น ไม่ต้องให้ข้าเข้าไป ขอแค่ปราณพิสุทธิ์สามสายก็สามารถแสดงร่างมหาเทวะเสมอฟ้าได้แล้ว หรืออย่างเช่น เวลาที่พวกเรารักษาการดำรงอยู่ของร่างมหาเทวะเสมอฟ้าได้ยาวขึ้น หรืออย่างเช่น…”
เยี่ยนจ้าวเกอยังคงยิ้ม เอ่ยแช่มช้า “…หรืออย่างเช่น ถึงแม้จะมีภัยที่ตามมาในภายหลังมากมาย แต่สามารถช่วยทุกคนหวนนึกถึงมหาเทวะเสมอฟ้าในตอนที่อยู่ในระดับสูงสุดเมื่อครั้งกระโน้นได้!”
เสียงยังไม่ขาดลง วานรที่อยู่กลางแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีก็ส่งเสียงกู่ร้องอีกข้าง เมฆสีทองมากมายห้อมล้อมอยู่รอบตัว
ขณะที่มันคำราม ร่างกายก็ขยายใหญ่ขึ้น กลายเป็นมหึมากว่าเดิม
ในเวลาเดียวกัน ส่วนคอของวานรก็มีศีรษะสองข้างงอกขึ้นมา บนตัวเพิ่มแขนสี่ข้าง!
สามเศียรหกกร!
หน้าขนปากงุ้มเหมือนกัน ตาอัคคีเนตรทองเหมือนกัน รวมถึง…กระบองสารพัดนึกเหมือนกัน!
ตอนนี้กระบองสารพัดนึกกลายเป็นสามท่อนในมือของเขา แขนทั้งหกข้างแยกกันถือ เขย่าทำลายฟ้าดิน
ตาอัคคีเนตรทองสามคู่ยังสว่างไสวกว่าดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นดาวฤกษ์
ร่างกายขนาดมหึมาถมเต็มฟ้าดิน เหมือนกับเหยียบย่ำทำลายโลกมนุษย์ ยืนอยู่ในนรกใต้บาดาล
เอวยืดตรง ศีรษะสามข้างเงยขึ้นด้านบน ดันทำลายก้อนเมฆ กวาดมองฟากฟ้า
กวาดฟาดกระบองสารพัดนึกสามท่อนพร้อมกัน จุดที่ผ่าน ธรรมชาติไม่คงอยู่ ทุกอย่างสลายกลายเป็นดินแดนแรกเริ่มก่อนเปิดฟ้า ดิน น้ำ ลม ไฟกระจายเวียนว่อนในที่ลับ ปั่นป่วนวุ่นวาย รอบข้างล้วนมืดมน โกลาหลไม่ชัดเจน
ทุกคนที่อยู่รอบๆ ขณะมองวานรสามเศียรหกกรตัวนั้น ต่างหนังศีรษะชา ส่งเสียงลอดไรฟันออกมาแทบเป็นทีละคำว่า
“มหา! เทวะ! เสมอ! ฟ้า!”
ขณะมองเงาร่างที่ในที่สุดก็ยันทำลายแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี แล้วกระโดดออกมาสายนั้น คนที่เคยผ่านสงครามสถาปนาเทพยุคโบราณตอนต้น ต่างนึกถึงภาพที่เจ้ามรรคาจุ่นถีทำลายแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีออกมาโดยมิได้นัดกัน
มหาวิทยราชมยุรีสีหน้าเคร่งขรึม แต่ในสองตาเหมือนกับมีแสงเพลิงอันเจิดจ้าสว่างขึ้น
ร่างทองกายทิพย์ที่ใหญ่มหึมาเหมือนกันของท่านลุกไหม้ แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีหมุนวนด้วยความเร็วสูง ปะทะกับกระบองสารพัดนึกสามท่อนของมหาเทวะเสมอฟ้า
สงครามระดับมหาชาลที่สุดยอดที่สุดในประวัตศาสตร์ หลังจากมหาเทวะเสมอฟ้าอาละวาดบนวังเทพ ท้าสู้มหาเทวกษตริย์แห่งหยกในยุคโบราณตอนกลาง เกิดขึ้นอีกครั้ง!
มหาเทวะเสมอฟ้าสู้มหาวิทยราชมยุรี!
สงครามที่ตัดสินว่าผู้ใดเป็นราชาแห่งมหาชาลในปัจจุบัน ในสถานการณ์ที่มหาเทวกษัตริย์แห่งหยกหายตัวไป
การตัดสินระดับสุดยอด ตอนนี้สองฝ่ายล้วนไม่สนใจรอบข้าง ปะทะกันอย่างไร้ข้อกริ่งเกรง ทำลายวัตถุเรื่องราวทั้งหมดรอบๆ
ธารสวรรค์อันยิ่งใหญ่ขาดสะบั้น!
ธารน้ำเชี่ยวกราก ดวงดาวโคจร ล้วนถูกทำลายเป็นความว่างเปล่า
มิติเวลาหลายชั้นในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดนด้านนอกสายน้ำธารสวรรค์ โดนลูกหลงไปด้วยเช่นกัน
จากนั้นมิติเวลาต่างพังทลายกลายเป็นจุดเดียว ห่อหุ้มกาลเวลา มิติช่องวาง สรรพเรื่องราวและสรรพวัตถุไว้ด้านใน
จากนั้นไม่นาน จุดนี้ก็แผ่ออก ปรากฏเงาร่างของมหาเทวะเสมอฟ้ากับมหาวิทยราชมยุรี
มหาเทวะเสมอฟ้าคึกคักฮึกเหิม ส่งเสียงกู่ร้อง สามเศียรหกกรควงกระบองสารพัดนึกสามท่อน ระดมฟาดใส่ข่งซวนอีกครั้ง
ขณะนี้กายทองของข่งซวนมืดลง แต่ว่าแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสียังเจิดจ้าเหมือนเดิม เผชิญกับมหาเทวะเสมอฟ้าไม่ถอยหนี แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีสาดลงไปอย่างต่อเนื่อง
สองฝ่ายสู้กันจนฟ้ามืดมัวดิน ฝ่ายหนึ่งควบคุมแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีไม่หยุดยั้ง เหมือนกับต่อติดกันไม่ขาดสาย หมายจะจับอีกฝ่ายอีกหน
อีกฝ่ายหนึ่งควงกระบองกระหน่ำฟาดติดต่อกัน ปัดป้องแสงศักดิ์สิทธิ์หลายกลุ่มที่โจมตีใส่ตัวเอง หาช่องโหว่วของอีกฝ่าย แล้วหวดกระบองสารพัดนึกใสร่าง
คนที่อยู่รอบๆ ขณะมองภาพนี้ ต่างหน้ามืดตาลาย
“เป็นความทรงจำที่ยากลืมเลือนจริงๆ” ดวงตาข้างที่สามค่อยๆ เปิดออกกลางศีรษะของหยางเจี่ยน ขณะมองดูเงาร่างที่มีสามเศียรหกกรนั้น “เมื่อครู่เป็นศิลาดินกำเนิดกระมัง ตอนนี้รองรับได้แล้วหรือ?”
จักรพรรดิโกวเฉินกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ล้วนมีสายตาซับซ้อน
ตอนมหาเทวะเสมอฟ้าอาละวาดบนวังเทพในยุคโบราณตอนกลาง พวกเขาก็เป็นหนึ่งในผู้ประสบ
ความแข็งแกร่งของมหาเทวะเสมอฟ้า ที่แล้วมาไม่ใช่เพราะกายปีศาจของเขาเป็นอมตะ สรรพภัยไม่อาจทำลาย
ต่อให้ไม่มีกายปีศาจอมตะที่เศษศิลากำเนิดนำมา การโจมตี การป้องกัน และท่าเคลื่อนไหว อิทธิฤทธิ์ความสามารถของมหาเทวเสมอฟ้า ก็เป็นหนึ่งในตัวตนที่สุดยอดที่สุดในประวัติศาสตร์
ครั้งกระโน้นต่อสู้กับมหาเทวกษัตริย์แห่งหยก สองฝ่ายยื้อยันกัน ทำลายนรกในแดนบาดาล ณ ตอนนั้นเป็นผุยผง!
ก่อนหน้านี้ยังไม่กลับสู่ระดับสูงสุด ก็เล่นงานลู่ยาเต้าจวินจนหนีเตลิดเปิดเปิงไปแล้ว
ขณะนี้รองรับศิลาดินกำเนิด กลับสู่ขอบเขตสุดยอด มหาเทวะเสมอฟ้าปะทะกับแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีของมหาวิทยราชมยุรีซึ่งหน้าโดยไม่ถอยหนี เพียงแค่คลื่นหลงเหลืองจากการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย ก็ทำลายฟ้าดินได้แล้ว
‘ตอนต่อสู้กับคู่ต่อสู้อย่างพี่ร่วมเส้นทาง จะเสมอหรือแบ่งผลแพ้ชนะ กายปีศาจอมตะกำหนดผลลัพธ์การรบแล้ว’ เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ตาเป็นประกาย
สถานการณ์ในขณะนี้ แม้นมหาเทวะเสมอฟ้าจะถูกแสงห้าสีของมหาวิทยราชมยุรีจับไว้ อาศัยกายปีศาจอมตะ เขาก็มีความมั่นใจในการหลุดจากการคุมขัง
กระนั้นเกิดว่าแสงศักดิสิทธิ์ห้าสีถูกทำลายอย่างกระทันหัน มหาวิทยราชมยุรีจะต้านทานมหาเทวะเสมอฟ้าได้สักกี่กระบอง
สงครามดำเนินมาถึงตอนนี้ถึงแม้ยังไม่แบ่งผลแพ้ชนะ แต่ถ้าสู้กันต่อไป ยังทำให้คนค่อยๆ คาดการถึงผลลัพธ์ได้
ไม่อยู่เหนือระดับมรรคา มีเพียงข้าเป็นใหญ่
ราชาระดับมหาชาลในปัจจุบัน เซียนสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุด สุดท้ายก็เป็นซุนหงอคง มหาเทวะเสมอฟ้า!
‘สุดท้ายยังไม่ใช่ซุนหงอคงตัวจริง…’ ทีปังกรพุทธะมองสองฝ่ายที่สู้กัน ‘สภาพในตอนนี้ เวลาที่เขาจะรักษาไว้ได้จะต้องสั้นลงแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าข่งซวนทนได้หรือไม่’
ในตอนนั้นเอง รูปยันต์แปดทิศก่อนกำเนิดที่ตอนแรกครอบคลุมอาณาบริเวณแห่งนี้ค่อยๆ หายไป
บัวเขียวที่ต่อให้สองฝ่ายในธารสวรรค์จะรบกันดุเดือดอย่างไร ก็ยังปลอดภัยไร้รอยข่วน สงบนิ่งไร้สุ้มเสียง กลีบดอกสั่นไหวเล็กน้อย มีเค้าลางของการบานออกอีกครั้ง
พิณฝูซีชำรุดในอ้อมอกของพระอาจารย์เสียงตูส่งเสียงดังเวิง
สายพิณเส้นสุดท้ายในที่สุดก็ขาดแล้ว