ตัวของผมในต่างโลก.... แม่งบ้า!!! - บทที่ 2 ตอนที่ 74 ทางกลับบ้าน (2)
ทันทีที่ผมได้เข้าสู่สภาวะของปีศาจ ความสามารถทั้งหมดก็ถูกปลดล็อคออกมา รวมถึงการใช้เวทมนตร์ก็ด้วย
ไม่เหมือนกับตอนอยู่ใน สภาวะผสานลองกินุสเลยสักนิด ร่างนั้นน่ะมันล็อคสกิลทุกอย่าง เหลือไว้แค่พลังจิต มันเลยใช้ยากหน่อย
แต่คราวนี้แหละ ผมสามารถใส่สุดได้ไม่ยั้ง ไม่จำเป็นต้องกั๊กไว้อีกแล้ว!!
มรรคาแห่งตน -ขอบฟ้า
” เปิด!!! “
บาปแห่งโทสะ – สุดขั้วนรก
” จงมา!! ” ซาตาน
ทันทีที่พวกเราเรียกใช้เขตแดน อำนาจที่ต่างขั้วกันต่างก็กลืนกันไม่ลง จนกระทั่งสองฟากฟ้าได้แบ่งออกเป็นสองฝั่ง
ทั้งฝั่งของท้องทะเลทอดยาวสุดสายตา ที่มีท้องฟ้าสีครามเป็นฉากหลัง
และอีกฝากนั้นเป็นเหมือนกับแดนแห่งคนตาย
แดนนรกที่มีดอกไม้อันตรายแต่สวยงามซุกซ่อนอยู่มากมาย เป็นสถานที่ที่ไม่อาจคาดเดาอะไรได้ และเต็มไปด้วยความสยดสยอง ของเหล่าปีศาจผู้หิวกระหาย
อันเป็นสถานที่ที่เป็นดั่งบ้านเกิดของ ซาตาน ภายในดินแดนนี้ เธอถือเป็นที่สุด
ขอบฟ้า – บี๋ (เวอร์คู่ขนาน)
ART – VOID DESTRUCTION-
” กลับสู่จินตภาพไปซะ!!! “
หมัดนี้ที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียวต่อเดือน
เต็มไปด้วยพลังแห่งความโกลาหล และศักดิ์สิทธิ์ ความรุนแรงของมันนั้นแทบไม่ต้องพูดถึงเลย
เพราะแค่พลังของท่านี้เพียง 10% ก็ไม่อาจจะจินตนาการได้แล้ว
ฟูมม!!!-
เพล้ง!!
แค่การออกหมัดเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้เขตแดนของซาตานพังลงมาในทันใด แน่นอนว่าหมัดนี่มันแรงโคตร แต่เพื่อแลกมากับพลังนั้น แขนข้างหนึ่งของผมจะต้องพังทลายลง และไม่ใช่ง่ายๆเลยด้วยที่จะฟื้นฟูมันขึ้นมาในเวลาอันสั้น
แต่เพื่อการขัดขวางซาตานนั้นไซร้
ต่อให้ต้องตาย ผมก็ยอม
“ ย้ากกกกก!!!!! ”
ซาตานพยายามต้านทานพลังของวอยด์เดสทรัคชั่นด้วยมือเปล่า แค่เธอโดนไปเพียงเล็กน้อยเจ้าตัวก็ออกอาการทางสีหน้าในทันที
“ กึ่ก-!! ”ซาตาน
สีหน้าของซาตานกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แขนขวาข้างที่หล่อนใช้รับกำปั้นนี้ก็เริ่มเกิดรอยเผาไหม้ขึ้นจนจะลามไปทั้งแขน และพลังของวอยด์เดสทรัคชั่นที่ผสานเข้ากับเพลิงนิลก็ยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก
“ ฮว้าาา!!!!! ”
“ ฮ๊าาา!!!!! ”ซาตาน
ฟูมมม!!!!!!
ตู้มม!!!
ร่างของซาตานถูกผลักให้กระเด็นออกไปไกลในระดับหนึ่ง
แขนขวาของหล่อนได้ถูกเผาด้วยเพลิงม่วงจนจะกลายเป็นตอตะโกไปแล้ว เป็นครั้งแรกเลย.. ที่ผมสามารถสร้างความเสียหายที่ร้ายแรงขนาดนี้ให้กับซาตานได้
“ กึ่ด-(กรอด)..!! ”ซาตาน
แววตาของหล่อนยิ่งอาฆาตผม เธอกัดฟันจนเลือดแทบเล็ด แล้วทันใดนั้นที่ไฟสีมาเจนต้าเข้าปกคลุมแขนของหล่อน แขนขวาข้างนั้นก็ถูกฟื้นฟูให้หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยที่ไม่ทิ้งรอยแผลไหม้อะไรไว้เลย
ความสามารถในการฟื้นฟูจะสูงสุดยอดเกินไปแล้ว..
แล้วเมื่อหันกลับมาทางผม.. แขนซ้ายของผม มันพังทลายลงไปแล้ว
แกร๊ก-
สิ้นสุดการใช้วอยด์เดสทรัคชั่น ขอบฟ้าของผมก็เริ่มแตกสลายกลายเป็นฝุ่นละอองไป แล้วฉากหลังของเราก็กลับมาที่อาณาจักรที่ลุกโชติช่วงไปด้วยเพลิงสงครามอีกครั้งหนึ่ง..
เปรียบดังว่าตอนนี้เราอยู่ในนรกบนดินเลยทีเดียว
” …. “
” … ” ซาตาน
พวกเรายืนหยั่งเชิงกันอยู่ไม่นาน ก่อนที่ซาตานจะเปิดมาหาผมก่อน
” อึ่ก!!? “
หมับ-
ตึง!!
ซาตานกระชากใบหน้าของผม แล้วกดหัวผมลงกับพื้นจนหัวของผมจมลงไปในดิน
คราดด!!!
เธอลากผมไถลไปกับพื้น
ผมจำไม่ได้ว่าเธอลากหัวผมมานานเท่าไหร่แล้ว แต่คิดว่าน่าจะนานอยู่พอสมควรเลย ก่อนที่จะโยนร่างนั้นของผมขึ้นไปบนฟ้าด้วยแรงที่มากพอจะทำให้เกิดโซนิคบูมได้เลย
” อุ่ค- อรั่ค!! ฮั่ก!! “
ผมคายเลือดออกมาจากปาก แล้วค่อยๆตั้งสติขณะที่ตัวเองกำลังลอยอยู่กลางเวหา
ทว่า
ไม่มีเวลาให้ผมได้คิด
ฝุบ!!
สวบ!!!
กางเขนสีเลือดขนาดยักษ์ที่เกิดจากเลือดของซาตาน พุ่งตรงขึ้นมาแทงทะลุท้องของผมจนเป็นรู
” ฮ้วก!! “
ไส้ของผมแทบจะทะลุออกมาจากท้อง
แต่ถึงแม้ร่างกายจะได้รับความเจ็บปวดยังไง ท้องจะทะลุ หน้าจะแหกขนาดไหน ผมในร่างปีศาจก็จะไม่ได้รับความเจ็บปวดใดๆ
แต่หลังจากสภาวะนี้หมดไปนี่แหละ ที่สำหรับผม มันจะกลายเป็นนรกยิ่งกว่าตอนถูกซาตานกระทืบนี่แหละ
ฟิ้วว!!
ตัวของผมยิ่งลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ตะเกียกตะกาย พยายามเอาไอ้กางเขนสีเลือดที่ปักอยู่บนท้องนี่ออกจากร่าง
ฉึก!
อึ่ก-
สัสเอ้ยย!!
” ฮ่า.. ฮ่าห์… “
” … “
ทว่า พอเอากางเขนนั่นออกมา .าตานก็ได้เข้ามาหาผมในระยะประชิดซะแล้ว
หล่อนกำหมัดแน่น แล้วต่อยซ้ำเข้าที่รอยแผลเดิมตรงที่โดนกางเขนนั่นปักจังๆ
ปั๊ก!!
” อ๊ากก!!! “
ลายเส้นสีแดงคลายคลึงกับประกายสายฟ้าแล่นผ่านร่างของซาตานมาที่ผม ก่อนที่มันจะกระจายออกไปทั่วตัว
แล้วก็ได้ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
” โอ้ยย!! “
ซาตานกระชากหัวผมเข้าไปหาตัวของเธออีกครั้ง คราวนี้ผมเองก็จับหัวของเธอไว้เช่นกัน
MAGIC – นีราร์!!!
ใช้เวทระเบิดอัดหัวซาตานทันทีที่สบโอกาส แต่การระเบิดนั่นมันกลับไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรให้หล่อนเลย
ในเมื่อเป็นแบบนั้นผมจึงต้องสู้กับเธอตัวต่อตัวแล้วล่ะ
MAGIC – ครีเชต์
ยกระดับ!!
วงแหวนเวทประทับลงบนร่างของผมหลายต่อหลายวง ด้งยความสามารถของครีเชต์นั้น จะทำให้ผมเคลื่อนที่เร็วกว่าปัจจุบันได้เล็กน้อย เพิ่มประสาทการรับรู้ได้ระดับหนึ่ง
ถัดจากนั้นผมก็ต้องใช้งานสกิลที่เหลืออยู่ด้วยเหมือนกัน
SKILL – ยุทธศาสตร์จำลอง SS
ผมพยายามใช้ยุทธศาสตร์จำลองกับซาตาน เพื่อเปิดเผยหนทางในการเอาชนะเจ้าตัวหายนะนี่
แต่.. มันกลับไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย เมื่ออยู่ต่อหน้าตัวตนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าอย่างท่วมท้น
[ ไม่สามารถประเมินได้ ]
[ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ]
[ โอกาสชนะ 0.00000001% ]
ซึ่งโอกาสชนะที่มันให้มานั้น น้อยยิ่งกว่าอนุภาคโมเลกุลซะอีก แต่ถึงยังไงการต่อสู่นี่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี
ในเมื่อมันไร้ประโยชน์ในสถานการณ์แบบนี้ ก็มีแต่ที่ผมจะต้องสู้ด้วยตัวเองเท่านั้น
” ตาย!!! “ซาตาน
” ยังไม่ตายหรอกโว้ยย!!! “
ทั้งผมและซาตานได้เข้าปะทะกันอีกครั้งกลางอากาศ การแลกหมัดกันในรอบนี้รุนแรงยิ่งกว่ารอบไหนๆ
แค่เพียงกำปั้นของทั้งสองเฉียดกันเฉียดเล็กน้อย นั่นก็มีความรุนแรงมากพอที่จะเป่าภูเขาในรัศมีกระจุยได้เลย
ART – ดุจแสงผสาน
ปรายแสงกระหน่ำ ทำลายล้าง!!!
การออกแรงเหวี่ยงอินเฟอน์โน่ในแต่ละครั้งนั้น สร้างแรงกดดันให้กับโลกเป็นอย่างมาก
ราวกับว่ากฏและเกณฑ์ของมันกำลังจะถูกทำลาย ด้วยน้ำมือของคนเพียงสองคน
บริเวณโดยรอบพวกเราเริ่มกลายเป็นพื้นที่สุญญากาศและไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วง
บาปแห่งโทสะ – หนามศิลานรก
ตาย-
ซาตานใช้พลังของตน เปลี่ยนผืนดินที่ยืนอยู่ให้กลายเป็นดินนรก ที่มีความแข็งและทนทานมากกว่าโอริคัลคัมหลายเท่า
หนามหินนับร้อยงอกออกมาจากดินนรก แล้วพุ่งตรงมาหาผม ที่เป็นคนเพียงคนเดียวที่ยังคงดิ้นรนสู้กับซาตานอยู่
หอกปีศาจของผม ปะทะเข้ากับหนามแหลมนับไม่ถ้วน
ผมพยายามเต็มที่ ที่จะยื้อพวกมันเอาไว้ แต่ก็ไม่สำเร็จ
มีหนามหินบางส่วนพุ่งมาแทงทะลุข้อต่อส่วนหัวไหล่ของผมและส่วนลำตัว ทำให้ผมขาดสมดุลไปชั่วขณะ เป็นการเปิดโอกาสให้ซาตานเข้ามากระทืบซ้ำได้อีกครั้ง
ทว่า ไม่ทันที่หล่อนจะได้ทำเช่นนั้น คลื่นพายุลูกยักษ์ก็ได้โหมกระหน่ำซัดเข้ามาหาเธอ จนทำให้ซาตานต้องถอยออกไปตั้งหลักเลย
พายุลูกนี้นั้นไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่มันเกิดจากเวทมนตร์.. ซึ่งสิ่งที่ทำเรื่องแบบนี้ได้ มีแค่ออร่า เจ้าหมาป่าขนขาวตัวนั้น
ที่ตอนนี้มันได้เติบโตขึ้นมาอย่างสง่าผ่าเผย และได้เข้ามาช่วยเหลือเจ้านายของตนไว้ สมกับที่เป็นสัตว์พิทักษ์จริงๆ
แต่ดูท่า มันจะมาช้าเกินไปสักหน่อย
คู๊ว..
” ออร่า.. แก “
เมื่อมันได้เห็นสภาพที่น่าเวทนาของผม มันก็ส่งเสียงร้องออกมา ผมที่เห็นดังขึ้นจึงลูบหัวมัน
” ไม่ต้องกังวล แกไปช่วยฝั่งของจือหนานเถอะ “
” ชั้นจัดการเองได้ (โม้ ) “
ผมปลอบมัน พยายามทำให้มันเชื่อว่าผมสามารถจัดการกับสถานการณ์นี้ด้วยตัวเองได้ เพื่อที่มันจะได้ออกไปช่วยเหลือคนอื่นๆต่อตามหน้าที่ของมัน
คู๊ว!
มันที่รู้ได้ถึงความต้องการของผมจึงได้จากไปจากนรกขุมนี้อย่างว่าง่าย
ผมที่เห็นออร่าจากไปก็พลันยิ้มออกมาไม่รู้ตัว แม้จะเป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาที ก็มากที่จะทำให้หัวของผมโล่งขึ้นมาก แล้วได้มีเวลาคิดอะไรเยอะแยะเลย
ART – ความศักดิ์สิทธิ์สู่ก้นบึ้งแห่งห้วงทมิฬ
X
ART – ทางแห่งปีศาจ
x
ART – Void destruction
ด้วยความจนตรอก ทำให้ผมจำเป็นต้องสร้างทักษะใหม่ขึ้นมา
เป็นอาร์ตที่มีทักษะเพียงท่าเดียว
แต่เป็นหนึ่งท่า ที่ทรงพลังที่สุด
ART – ทางแห่งความสัมบูรณ์สู่ความว่างเปล่าที่พังทลาย
พลังงานที่ผันผวนอย่างไร้ซึ่งทิศทาง ได้มารวมกันที่แก่นพลังใต้ท้องน้อยของร่างนี้ ก่อนที่จะรวบรวมพลังงานที่แข็งแกร่งเหล่านั้นและกระจายมันออกไปทั่วร่าง
จนตอนนี้เส้นผมที่เป็นสีดำจากร่างปีศาจ ก็ได้มีเส้นผมสีขาวที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ปนมาอยู่บ้าง
อีกทั้งออร่าที่ออกมาจากร่างของผมนั้น ยังเหมือนกับลูซิเฟอร์ไม่มีผิด
” !!! ” ซาตาน
” … แรงกดดันที่ออกมาจากแขนข้างนั้น เหมือนไอ้แก่นั่นไม่มีผิด “ซาตาน
” พระเจ้าหรอ.. น่ า อ ร่ อ ย !! “ซาตาน
ดูท่าพลังนี้จะไปกระตุ้นต่อมบางอย่างของซาตาน ทำให้นางตาลุกวาวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อีกทั้งยังทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นของหล่อนสงบลงได้เล็กน้อย
จนตอนนี้ซาตานได้เผยยิ้มออกมาอย่างโรคจิต เหมือนอย่างเคย
เห็นแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย
ผมไม่อยากสู้กับซาตานที่ทำหน้าบึ้งตลอดเวลาหรอกนะ มันค่อนข้างน่ากลัวไปหน่อยสำหรับผมน่ะ
” ซาตาน… “
ผมยิ้มแล้วจงใจจ้องเขม็งไปที่หล่อน
ตอนนี้เวลาของผมเหลืออยู่ราวๆ 2 นาทีก่อนที่ร่างปีศาจนี้จะหมดเวลาของมัน ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นผมต้องสร้างความสนุกให้กับซาตานให้มากที่สุด
เพื่อที่หล่อนจะได้ไปพุ่งเป้าไปที่อาณาจักรนี้ต่อยังไงล่ะ
” อะไรหรอค้าที่ร้าก~ “ซาตาน
” รู้ไหมว่าตัวเองตอนนี้น่ากินขนาดไหนน่ะ~ ” ซาตาน
กลิ่นหอมยั่วยวนขนาดนี้ ถ้าเบลอยู่นี่แทนข้า คงจะกินเขาไม่เหลือร่องรอยอย่างแน่นอน
อย่างน้อยๆ ข้าต้องค่อยๆลิ้มรสของเขาไปทีละนิด
ฮ่าฮ่า น่าสนุกจัง!
ซาตานเองก็ยิ้มกว้างกลับมาให้ผมเช่นกัน
” นี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราจะได้สู้กันใช่ไหม “
” เราจะสู้กันตลอดไปค่ะ~ “ซาตาน
ทันทีที่ผมได้ก้าวออกไปเพียงก้าวเดียว ตัวผมก็ปปรากฏอยู่ตรงหน้าซาตานในทันใด
ตาจ้องเขม็งไปที่ดวงตาของอีกฝ่าย ความเร็งระดับนี้คงมากพอที่จะทำให้ซาตานชะงักไปได้ชั่วครู่หนึ่ง
” ฮึบ!- “
ฟูม!!!!
ซาตานเอาหน้าผากตัวเองชนเข้ากันกำปั้นของผมอย่างจัง ดูเหมือนว่าพลังนี้ของผมจะทำอะไรซาตานไม่ได้สักเท่าไหร่ อย่างน้อยมันก็ยังสร้างแผลให้เธอได้ล่ะนะ
แม้ว่าผมจะเหลือเวลาอยู่กว่าสองนาทีก็ตาม ความเร็วในขณะที่เรากำลังซัดกันมันเร็วซะยิ่งกว่าแสง ทำให้การนับเวลามันคลาดเคลื่อนไปมากเลย
เพราะในหนึ่งวินาที ผมกับซาตานสวนกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร และในแต่ละครั้งที่กำปั้นหรือลูกเตะเราปะทะกัน คลื่นช็อคเวฟขนาดย่อมก็จะเกิดขึ้นอย่างรุนแรง พัดพาเอาสิ่งต่างๆรอบๆบริเวณนั้นออกไปจนหมด
ตุบ!!
ผมเสยหมัดขวาเข้าหน้าท้องซาตานจนจุก
“ อุ่ก!!- ”ซาตาน
ก่อนจะตีเข่าซ้ายขึ้นมากระแทกหน้าจนดั้งแทบหัก
ปั๊ก!!
ซาตานทรงตัวได้อยู่ คว้าคอของผมแล้วกระชากแขนซ้ายของผมออกจากร่าง
กระฉูด*
“ อ้ากก!! ”
เลือดสีแดงสดสาดกระจายไปทั่ว ก่อนที่หล่อนจะกินแขนซ้ายนั่นเข้าไปทั้งดุ้น
หง่ำ*
“ ฮ๊า~ แซ่บหลาย~ ”ซาตาน
“ แขนซ้ายของชั้น.. ”
อยู่ๆ ออร่าของซาตานก็พวยพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง ความโกลาหลทำเอาตัวของผมแทบปลิวออกไปจากตรงนั้น
“ อึ่ก- ”
แต่แล้ว ความรู้สึกบางอย่างก็ได้โถมเข้ามาในหัวผม เป็นความเจ็บปวดจากตอนแรกที่ใช้ร่างปีศาจ สู่ปัจจุบันนี้ที่เวลาในร่างปีศาจของผมได้หมดไป อีกทั้งความทรมาณเหล่านั้นยังทวีคูณขึ้นอีกหลายต่อหลายเท่าตัว
จนผมทนไม่ไหว และได้กรีดร้องออกมา
อ๊าากกกกกกก!!!!
“ ท- ที่รัก!!? จู่ๆก็เป็นอะไรไปน่ะ!! ”ซาตาน
ซาตานที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ร้องขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ในขณะที่เจ้าตัวกำลังจะสาวหมัดใส่ผมอยู่แล้ว
กลายเป็นว่าซาตานหยุดหมัดสุดฤทธิ์ของตัวเองไม่อยู่ และกำปั้นนั้นได้กระแทกเข้าที่หน้าท้องของผมจังๆ
ความโกลาหลได้แผ่ซ่านไปทั่วร่าง
“ อ้วกก!! ”
ผมอ้วกออกมาเป็นกองเลือดขนาดใหญ่ แรงสั่นไหวที่มากเกินไปนั้นทำให้อากาศนั้นปริแตกออกมาจนมีขนาดเท่ากับผม ทุกๆสิ่งที่เคยอยู่ในร่างของผมหลุดลอยออกมา อันเนื่องจากความผันผวนของกระแสพลังในขั้นรุนแรง และความอ่อนไหวในระดับจิต
ร่างกายนี้นั้นไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว ทั้งลองกินุส ทั้งอินเฟอร์โน่ ทั้งผนึกของเทวทูต ทั้งสกิลของกอร์ ทุกอย่างล้วนหลุดลอยออกจากร่างนี้ไปทั้งหมด แล้วตัวผม ก็ถูกดูดเข้าไปในหลุมอากาศนั้นโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวโดยที่ยังไร้สติอยู่เลย
“ … ” ลูซี่
“ บ้าอะไรวะเนี่ย ”ลูซี่
ต่อหน้าของแก๊งค์เทวทูตที่อาศัยในตัวผมคือซาตาน ที่พึ่งต่อยผมไปเมื่อสักครู่ ที่แม้แต่เจ้าตัวซาตานเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนั้นเหมือนกัน
…
รู้สึกตัวอีกทีตัวผมก็โคตรจะเบาหวิวไปแล้ว..
ราวกับว่าผมได้ปลดภาระทั้งหมดออกจากร่างกายเลย
ตัวของผมหลุดลอยออกไปในห้วงมิติที่หลากหลาย เสมือนว่ามันเป็นช่องว่างของกาลและเวลาแล้วก็ยังมีโลกคู่ขนานอีกมาก ผมลอยผ่านหลายมิติมาที่แล้วที่เล่า พวกคนที่ผมได้เห็นขณะที่กำลังเคลื่อนผ่านในแต่ละจักรวาลนั้นช่างคล้ายคลึงกับผม ให้ผมเดา พวกจักรวาลเหล่านี้คงจะเป็นเหมือนกับโลกคู่ขนานเป็นแน่
เหมือนที่ผมหลุดจากโลกของตัวเองมายังที่ที่เมเดียร์อยู่
แต่แล้ว-
ยังไม่ทันที่ผมจะเรียกคืนสติกลับมา ผมก็ได้ชนเข้ากับมิติหนึ่งจนทะลุเข้าไปด้านใน
…พอรู้สึกตัวอีกที
…
..
.
ผมก็ตื่นมาในโลกดิสโทเปียแห่งนี้ซะแล้ว
ตึกราบ้านช่องช่างคล้ายคลึงกับโลกเก่าเหลือเกิน เพียงแต่ว่าตึกอาคารที่ดูล้ำสมัยเหล่านั้นกลับไร้ซึ่งชีวิต มีรากไม้ รา มอส หรือเถาวัลย์อะไรก็ตาม เกาะอยู่บนตึกพวกนี้เต็มไปหมด
… เชี่ย
“ … ที่ไหน.. วะเนี่ย ”
อาการบาดเจ็บของผมยังไม่ค่อยทุเลาลงเท่าไหร่ เรี่ยวแรงที่เคยมีอยู่เต็มเปี่ยม มาในตอนนี้กลับแทบไม่มีเหลืออยู่เลย เสียงของผมแหบแห้งราวกับคนที่ไม่ได้กินน้ำมาหลายวัน
ผมคงจะลอยอยู่อวกาศมานานพอดูเลยสิเนี่ย
แล้วก็แขนซ้ายของผม..
“ ขาดไปแล้ว.. ”
“ อึ่ก- เจ็บ โคตร.. ”
เลือดหยุดไหลไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บอยู่ ผมค่อนข้างเสียดายเลยนะที่ต้องมาจบแบบนี้.. แต่ ตูจะรอดกลับไปยังไงวะเนี่ย..
“ เห้ย ” ?
เสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงของผู้หญิงที่ฟังดูห้าวๆ
ก่อนที่ผมจะรู้สึกได้ว่ามีของมีคมบางอย่างจ่อมาที่คอของผม
สภาพของผมในตอนนี้สู้ไม่ไหวแน่ๆ อาวุธก็ไม่มี เวทมนตร์ก็ใช้ไม่ได้ พลังจิตก็เหลือเพียงน้อยนิด กับแรงกายที่เหลืออยู่นิดหน่อย บอกตามตรง.. ถ้าผมตายตรงนี้จะไม่แปลกใจเลย
“ คือ.. ”
“ หุบปากแล้วตอบคำถามชั้นมา ,แกมาจากไหน? ” ?
ผมพยายามหันกลับไปมอง แต่ของแหลมคล้ายมีดไม่ก็ดาบนั้นกลับจี้มาลึกขึ้นจนเลือดซิบ
“ อย่าหันมา ” ?
“ โอ- โอเค.. ”
“ มาจากไหน ทำไมชั้นถึงสัมผัสได้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ของพี่ใหญ่จากแก? ” ?
พลังศักดิ์สิทธิ์ของพี่ใหญ่.. หมายถึงลูซี่? หรือมิคาเอล? คงจะเป็นสักคนนั่นล่ะ
“ ไม่รู้ ผมรู้แค่ผมมาจากที่ที่ไกลมากๆก็เท่านั้น ”
แล้วความรู้สึกเสียววูบที่คอก็หายไป เธอคงเก็บดาบแล้วล่ะมั้ง
“ อ่า.. ” ?
ผมหันไปมองด้านหลังของตน ก็ได้พบเข้ากับผู้หญิงผมสีฟ้ามัดผมหางม้า ที่มีดวงตาเป็นสีแดงสดเหมือนกับสีของทับทิม ใบหน้าของเธอคนนั้นเรียวสวยดวงตาคมกริบเหมือนดั่งสัตว์ร้าย เธอใส่กางเกงวอร์มสีดำรองเท้าผ้าใบ และสวมแจ็กเก็ตทับสปอร์ตบาร์ของเธอไว้
อาวุธของเธอคนนั้นคือคาตานะที่แดงที่เปื้อนเลือด ผู้หญิงคนนั้นสะบัดเลือดที่ติดอยู่บนใบดาบทิ้งก่อนจะเก็บดาบเล่มยาวเล่มนั้นเข้าฝัก แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดเลย คือการที่เกือบทั้งร่างของเธอมีรอยสักนั่นล่ะ
มันไม่ใช่รอยสักปกติแน่นอน เพราะผมเองก็สัมผัสได้ถึงพลังงานจากรอยสักพวกนั้น ฉะนั้นรอยสักบนตัวของเธอคงจะเป็นพี่น้องเทวทูตของเธอที่หลับไหลอยู่แน่นอน
ก่อนที่ไม่นานนักจะมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาสวมชุดสีดำใส่โค้ทหนาๆสีดำทับอีกชั้นหนึ่ง และยังคาบบุหรี่ไว้ในปากอีกด้วย ใบหน้าของเขามีรอยย่นคล้ายกับคนมีอายุ ไว้หนวดเล็กน้อย ดูเป็นคนที่โหดๆอยู่พอสมควรเลย
“ เกเบรียล ใครน่ะ? ” ?
“ คนหลงค่ะหัวหน้า ” เกเบรียล
เกเบรียล… นี่ใช่คนเดียวกับที่มิคาเอลเคยพูดถึงไหม??
“ ผู้รอดชีวิตหรอ ชื่ออะไรล่ะ? ” ?
“ บ- บี๋.. ”
“ บังเอิญจังนะ ชั้นก็บี๋ ”บี๋?
“ แต่เรียกว่าแฟนธ่อมแทนก็แล้วกัน ”แฟนธ่อม
“ พาเขาไปด้วยไหมคะ? ”เกเบรียล
“ เอาสิ แต่คงต้องจัดการเจ้าพวกนี้ก่อน ”แฟนธ่อม
กรรรร..
แฮร่..
โฮกกก!!!!
พวกตัวที่คล้ายกับซอมบี้พากันแห่ออกมาทุกสารทิศ มันก็มีพวกตัวที่เดินมาบ้าง คลานมาบ้าง แต่ส่วนใหญ่พวกนี้ก็วิ่งออกมากันทั้งนั้น ซึ่งระดับความเร็วของมันไม่ใช่เล่นๆเลย
“ ซ- ซอมบี้หรอ!!? ”
“ เดาถูก ”แฟนธ่อม
“ เกเบรียล เปิดทาง ”แฟนธ่อม
“ รับทราบ ”เกเบรียล
เกเบรียลคนนั้นฆ่าพวกซอมบี้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีเหงื่อสักหยด เปิดทางข้างหน้าเพื่อให้เราไปต่อได้ ขณะเดียวกันชายที่ชื่อแฟนธ่อมก็ออกวิ่งด้วยความเร็วสูงราวกับผี ระหว่างทางหากมีซอมบี้ตัวไหนเข้ามาก็จะถูกเขาใช้มีดแทงทะลุศีรษะตายไปอย่างง่ายดาย
นี่ผม.. มาอยู่ที่ไหนกันแน่วะเนี่ย?
จบบทที่ 2 ทางกลับบ้าน (2)
หลังจากที่มาอีกโลกนึง ก็เจอกับชายเข้มและสาวโฉด รอบนี้จะรอดมั้ยเนี่ย?
หวังว่าบทที่ 3 จะชิลๆบ้างนะ