ตัวของผมในต่างโลก.... แม่งบ้า!!! - บทที่ 2 ตอนที่ 51 จักรพรรดิเฉิน
หลังจากจบการทดสอบของกลุ่มแรก ต่อไปก็เป็น กลุ่มที่สอง ประกอบไปด้วยเมเดียร์(ออลแลนด์เดอร์) มิกะ(ดาเมจดีลเลอร์ระยะไกล) หลิงฉือ(ไฟต์เตอร์) และอิกนิส(ซัพพอร์ต)
โดยโกเล็มที่พวกเธอต้องสู้ด้วยจะอยู่ในรูปลักษณ์ของมังกร
ตัวของมันไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ดูจะมีความคล่องแคล่วมากสวนทางกับน้ำหนักของมันเลยทีเดียว
” เริ่มได้ “สคาร์
ขณะที่การทดสอบกำลังดำเนินไปเรื่อยๆ เนื่องจากเมได้บอกกับทุกคนไว้ว่าคราวนี้พวกเธอจะชิลกัน เลยไม่ได้ใส่สุดอะไรมากนัก
เพราะถ้าดูจากความสามารถของแต่ละคนในกลุ่มแล้ว คงจะสามารถจัดการโกเล็มนั่นได้ด้วยตัวคนเดียวได้เลยล่ะ
และด้วยเหตุนั้น มันจึงทำให้การทดสอบในครั้งนั้นมันยาวนานกว่าปกติ
จนผมเริ่มเบื่อ ก็เบื่อที่พวกเธอมัวแต่เล่นก้บมันอยู่นั่นล่ะ ทำไมไม่เริ่มลงมือเร็วๆล่ะเนี่ย
” บอส เบื่อหรอ? “จือหนาน
บางทีจือหนานก็รู้ดีเกินไปจนทำเอาผมกลัวเลยอ่ะ
หนานยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมก่อนจะกระซิบบอกบางอย่าง
” ให้ข้าร้องเพลงให้ฟังไหม? “จือหนาน
เพลงหรอ.. สิ่งบันเทิงที่ให้ความรื่นรมณ์ใจแก่ผู้คน.. เป็นสิ่งที่ผมไม่ได้ยินมาเป็นเดือนแล้ว
น่าคิดถึงจัง
จะว่าไป คิดถึงตอนที่ไม่มีเพลงให้ฟังแล้วมันก็โหว่งๆชอบกลนะเนี่ย
” 那一幕怎忘記 ~ “จือหนาน
ขึ้นทำนองมา ก็คุ้นหูเลยแฮะ
ภาษาแม่ของจือหนานคงจะเป็นภาษจีนแน่เลย ถึงได้ร้องเพลงจีนคล่องปร๋อขนาดนี้
อีกอย่าง มันก็ฟังดูเพราะในแบบของมันด้วยล่ะนะ
ผมเองก็อินไปกับมันพอสมควรเลย
พอฟังไปถึงช่วงหนึ่ง มันก็เริ่มทำให้ผมเคลิ้มจนจะหลับไป ทั้งๆที่เสียงการต่อสู้ก็ออกจะดังแท้ๆ
ราวกับว่าน้ำเสียงของหนานมีมนตร์สะกดที่สามารถกล่อมผมให้หลับได้อย่างง่ายดายเลย
” 初次相遇的你 “จือหนาน
พอโอกาสมาถึง จือหนานก็ไม่รีรอที่จะโอบกอดร่างของบี๋ไว้จากด้านหลัง
ก็.. เนื่องจากรอบตัวเขามีแต่ศัตรูหัวใจ การฉวยโอกาสเองก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็น น่ะนะ
แต่มันใช่ที่จะทำในเวลานี้ไหมเนี่ยคุณเธอ?
อืม.. และทันใดที่จือหนานได้โอบร่างของบี๋ เมเดียร์ก็รับรู้ได้ในทันทีเลยว่า มีบางคนกำลังทำบางอย่างกับตัวเธออีกคนอยู่
ด้วยความที่เมนั้นหึงหนักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงคิดที่จะจบการต่อสู้ที่ยืดเยื้อนี้ในทันที
” เล่นแม่ง “เมเดียร์
” ไงนะ? “หลิงฉือ
” ฮ่าๆ สวยสิ “มิกะ
” ฉ- ฉัน… ย- ยืนดูอยู่ตรงนี้ละกัน..นะ “อิกนิส
แต่ละคนเตรียมที่จะใช้อัลติของตัวเองซาดซัดใส่โกเล็มร่างมังกรตัวนั้น
ทว่า เมกับห้ามเอาไว้และได้บอกกับทุกคนว่าตังเธอนั้นจะขยี้คอร์ของโกเล็มตัวนั้นด้วยตัวเอง
ทั้งที่มันเป็นแรงก์ S แล้วก็ยังมีเกราะที่หนามากอีกต่างหาก
แถมยังไม่มีใครคิดจะห้ามหล่อนเลยสักคน
แล้วก็..
สวบ!
แกร็ก!!
ในตำแหน่งที่เมเดียร์ได้กระซวกมือเข้าไปในหินแข็งๆนั่น เป็นตำแหน่งเดียวกับคอร์ของมันพอดี
มันพยายามที่จะขัดขืนเธอแล้วนะ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรผู้หญิงคนนี้ได้เลย
แล้วเมเดียร์ …ก็ได้บดขยี้คอร์ของเจ้าโกเล็มตัวนี้คามือเลย
เพื่อนร่วมทีมของเธอดูไม่แปลกใจมากนัก แต่คนที่กำลังดูอยู่น่ะ ล้วนตกอยู่ในความโกลาหลกันทั้งสิ้น
เพราะเจ้าโกเล็มของอาจารย์มอร์แกนน่ะ มันแข็งจนถึงขั้นที่ต้องใช้ทักษะเลยล่ะ
เหลือเชื่อที่จะมีคนใช้มือแทงเข้าไปหาคอร์ในโกเล็ม แถมยังระเบิดมันทิ้งคามืออีก.. ช่างโหดดีแท้
และ
ขณะเดียวกันที่อีกด้านหนึ่ง
” ZzZ “
จือหนานเริ่มเอาใบหน้าของเธอมานัวเนียกับบอสที่กำลังหลับสนิทของเธอเองแล้วล่ะ
ตอนนี้เธอเหมือนกับแมวที่กำลังอ้อนเจ้าของอยู่เลย
เพียงแต่ว่าไอ้เจ้าของมันดันเคลิ้มหลับไปก่อนน่ะสิ เลยไม่ได้ตื่นเพื่อให้แมวน้อยอย่างจือหนานอ้อนเลยน่ะ
แถมตัวของจือหนานเองก็ดูจะไม่ใส่ใจสายตาของคนรอบข้างสักเท่าไหร่เลยด้วย เธอก็เลยยังคงทำแบบนั้นอยู่ตลอด
จนถึงเวลาที่บี๋ได้ตื่นขึ้น
เป็นเวลาเดียวกับที่การทดสอบเป็นกลุ่มนี้สิ้นสุดลง
สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้เห็นเพื่อนร่วมชั้นตัวเองโชว์โหด แต่ก็ไม่ได้เสียดายอะไรเท่าไหร่ เพราะไอ้อะไรแบบ นั้นน่ะมันจะดูตอนไหนก็ได้ไงล่ะ
หลังจากที่ตื่นขึ้นมาตัวของบี๋ก็พบว่าเขานั้นสามารถกลับมาขยับร่างกายได้บ้างแล้วบางส่วน ราวกับว่าการหลับไหลของเขานั้นมันทำให้ร่างกายของเขาฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็วหลายเท่าตัวเลย
” แปลกแฮะ “
” อะไรหรอคะบอส?”จือหนาน
” ฉันเริ่มขยับได้แล้วน่ะสิ “
” ยินดีด้วยค่ะ! “จือหนาน
แถมเจ้าตัวบี๋เองก็ดูจะไม้รู้สึกตัวเลยว่าแมวน้อยจือหนานนั้นได้ทำอะไรลงไปบ้างระหว่างที่เขาหลับอยู่
ทั้งกอด ลูบ และคลำร่างของเขา ทะเลาะกับเมเดียร์ สนิทกับวิคตอเรีย คุยกับพวกเร็กซ์และครูว์
เรียกได้ว่าเวลาที่บอสของเธอหลับอยู่นี่ มันเป็นเวลาอิสระของเธอเลยก็ว่าได้
ก็… หลังจากที่เรียนจนจบหลักสูตรของวันนี้ก็ไปหาหมอกันทันทีเลยล่ะ
“เป็นยังไงบ้างครับครู “
” น่าแปลก “ยาเซส
” กระดูกมันต่อกันจนจะหายดีอยู่แล้ว “ยาเซส
” พึ่งผ่านไปแค่วันเดียวเอง พลังในการฟื้นตัวจะสูงเกินไปแล้วนะเจ้าหนุ่ม “ยาเซส
ที่จารย์พูดก็ถูก กระดูกที่แหลกจนป่นปี้เละเทะของผมมันไม่ควรจะหายในคืนเดียว
คำอธิบายในเรื่องนี้ก็คงจะเป็นเรื่องที่ว่ามิคาเอลไม่ก็ลูซี่ใช้ปาฏิหาริย์กับร่างของผม โดยไม่สนลองกินุส
ไม่สิ ไม่เชิงไม่สน แต่จะเป็นเจ้าตัวลองกินุสเองมากกว่าที่ยอมให้ปาฏิหาริย์ชนิดนั้นผ่านร่างของผม
ก็นะ ยิ่งอยู่ด้วยกันบ่อยๆก็ยิ่งใจอ่อนล่ะ
ขอบคุณนะคุณลองกินุส
‘ เอ๊ะ? ‘
อยู่ๆแขนซ้ายของผมก็อุ่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นี่คงจะเป็นการตอบรับของเขาล่ะมั้ง
” อืม ถ้ายังคงความเร็วในการฟื้นตัวได้แบบนี้ไปตลอด แค่อาทิตย์เดียวก็กระทืบกันซ้ำจนกระดูกแหลกมาใหม่ได้อีกรอบแล้วล่ะ “ยาเซส
” จะพูดให้เป็นลางไปทำไมล่ะครับจารย์! “
” นั่นสิ โทษทีละกัน เอาเป็นว่าสองวันหลังจากนี้ก็ถอดเฝือกได้แล้วล่ะ “ยาเซส
” ครับ “
หลังจากที่คุยกับจารย์เสร็จ ผมก็ออกมาข้างนอกกับจือหนาน เธอค่อยๆเข็นรถวีลแชร์ที่ผมนั่งไปเรื่อยๆ
ยามเย็นนี้เป็นเวลาที่ไม่ค่อยมีคนผ่านไปผ่านมาสักเท่าไหร่ แต่ก็จะมีเด็กที่เล่นกีฬาอยู่บ้าง แถวๆสนามกีฬาน่ะ
“เธอคิดว่าแปลกไหมหนาน “
” เรื่องอะไรหรอบอส? “จือหนาน
” เรื่องกระดูกนี้น่ะ “
” แปลกสิ “จือหนาน
” ก็นั่นน่ะสิ “
” แปลกเพราะเป็นบอสนั่นแหละ “จือหนาน
” ? “
” ก็บอสน่ะไม่เหมือนคนอื่นไง.. ท่าทางก็แปลก ลักษณะก็แปลก รูปร่างก็แปลก พลังก็ยังแปลก “จือหนาน
” เห แปลกหมดเลยสินะ “
” แต่ทั้งหมดที่แปลกนั่นแหละ ทำให้บอสคือบอสล่ะ “จือหนาน
ผมมองหนานแปลกๆ เธอจ้องตาผมกลับด้วยสายตาฉงน ผมไม่ได้คิดอะไรก่อนจะหันกลับไปมองทางด้านหน้าต่อ
เพราะแปลกสินะ ถึงเป็นตัวเอง
ใช้ได้นี่นา
” ขอบคุณนะ ที่บอก “
” ยินดีเสมอค่ะ! “จือหนาน
แล้ววันและเวลาก็ได้ผ่านไป
ทุกวันก็ยังคงเหมือนเดิม เรียนวิชาเดิมๆ ทำรายงาน ฝึกภาคปฏิบัติร่วมกับห้องอื่นๆ
เป็นแบบนี้ไปจนถึงช่วงหนึ่ง
ที่ผมได้พบเข้ากับคนสำคัญเข้าโดยบังเอิญล่ะ…
แล้ว สองอาทิตย์ก็ผ่านไป
วันนี้เป็นวันหยุด หลังจากที่ผมกลับมาเดินได้อีกครั้ง
ผมออกมาเดินเล่นข้างนอกสถาบันคนเดียว โดยปล่อยให้จือหนานนอนอยู่ที่ห้องไปเพื่อเป็นการพักผ่อน
ตอนนี้ผมอยู่ที่สะพานข้ามคูน้ำล่ะ ก็ยืนดื่มกาแฟยามเช้า กับกินขนมปังไปพลางๆ
ผมไม่ได้คิดอะไรเลย จนมาถึงจังหวะหนึ่งที่มีคนมาทักผม
” เฮ้เจ้าน่ะ ” ?
เนื่องจากผมเปิดใช้งานทักษะการแปลภาษาอยู่ ทำให้ผมไม่ได้เอะใจว่าคนตรงหน้านั้น ใช้ภาษาเดียวกับจือหนานที่เป็นคนใช้ของผม
” ครับ? “
” พอดีข้าเป็นนักท่องเที่ยว พอจะแนะนำสถานที่สำคัญๆในเมืองหลวงนี้ให้ข้าทีได้ไหม? ” ?
เขาดูเป็นคนสูงอายุพอสมควรเลย น่าจะอยู่ในวัยประมาณหกสิบต้นๆ เป็นคนที่สูงมากประมาณ 190 ได้
สีผมก็เหมือนกับคนมีอายุทั่วๆไป มีหงอกบ้างดำบ้างสลับกันไป ไว้ผมสั้น มีเคราเล็กน้อย ดูแล้วเป็นคนที่เท่มากเลยล่ะ
จะว่าไป.. ตาของเขาคมเหมือนกับจือหนานเลยแฮะ
แต่ช่างมันเถอะ คงจะบังเอิญล่ะมั้ง
” ได้- ได้ครับ “
ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าที่เมืองหลวงมีอะไรบ้าง แต่ผมก็น่าจะรู้จักที่สำคัญๆอยู่บ้างแหละ
มั้งนะ
” ข้าเฉินเซียน เจ้าล่ะ “เฉินเซียน
” บี๋คับ “
คนจีนหรอ? ไม่สิ คงต้องเรียกว่าเจียงหูมากกว่า
แต่ลักษณะการแต่งกายของเขาเหมือนกับคนที่นี่เลยแฮะ
ใส่เสื้อยืดคอกลม ใส่เสื้อโค้ท ให้ความรู้สึกเหมือนกับนักสืบ แต่ไม่ใช่
อีกทั้งออร่ารอบๆตัวเขายังเข้มข้นและเรียบเนียนกว่าใครอีกต่างหาก
มันดูอันตรายกว่าผอ.อิลแวนอีกแฮะ
.. ช่างมันเถอะ ยังไงซะเขาก็คงไม่น่าจะทำอะไรผมหรอก ถ้าเขาจะเอาผมมาเป็นไกด์จริงๆล่ะนะ
“ งั้นก็.. เริ่มจากแลนด์มาร์คเลยละกันนะ.. ”
ผมนึกภาพถึงสถานที่ที่ทำให้ผู้คนจดจำอาร์คาร์เรียมแห่งนี้ได้ เลยกะจะเริ่มจากตรงหน้าทางเข้าเมือง มันเป็นวงเวียนที่ตั้งเป็นน้ำพุขนาดใหญ่ มีไว้เพื่อให้รถม้าสัญจรได้สะดวก
และที่นี่มีไว้เพื่อแบ่งแยกพื้นที่ในการเข้าไปในแต่ละเขตปกครองของเหล่าดยุคด้วย
เอาล่ะ ต่อไปก็มาที่….
…
ถึงที่สุดท้ายของวันนี้แล้ว!
ใช้เวลาในการพาคุณเฉินเที่ยวเต็มๆหนึ่งวัน
แล้วก็จะปิดด้วยสถานที่ที่เป็นดั่งความภาคภูมิในของอาณาจักรนี้ล่ะ
มันคือโคลอสเซียม สถานที่ที่ใช้ในการจัดงานประลองต่างๆตามงานเทศกาลใหญ่ๆของเมืองล่ะ
แต่ตอนนี้เรามากันในช่วงดึกพอดี ที่นี่เลยไม่มีคนน่ะ
ที่แห่งนี้เป็นโคลอสเซียมแบบเปิด ทำไว้เพื่อชมความงดงามของดวงจันท์ และรับแสงแดดอันอบอุ่นในยามเช้าถึงกลางวันเต็มๆ
คือ.. ที่โลกนี้มันไม่ค่อยจะร้อนเท่าไหร่น่ะ ฤดูร้อนเมื่อเดือนที่แล้วอย่างมากก็แค่ 25 องศาเองมั้ง
และใช่ มันเย็นสบายสุดๆไปเลยบอกตรง
“ ที่นี่เหมาะดีนะเนี่ย ”เฉินเซียน
“ ใช่ไหมล่ะครับ เหมาะที่จะจัดงานแข่งขันสุดๆ- ”
“ ไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น ”เฉินเซียน
“ แล้ว.. ”
“ เหมาะที่เราจะสู้กันต่างหาก ”เฉินเซียน
“ ห้ะ- คือทำไมเราต้องสู้กัน?? ”
“ นี่หลิงหลิงไม่ได้เล่าให้เจ้าฟังมาก่อนหรือ? ”เฉินเซียน
หลิงหลิง… นี่ใคร- อ้ะ! หลิงฉือ!?
เดี๋ยวนะ ตอนนั้นนางพูดว่าอะไรนะ.. จับใจความได้ประมาณว่า พ่อของนางจะมาในอีกสองอาทิตย์..
สองอาทิตย์.. เฉิน.. เฉินหลิงฉือ.. เฉินจือหนาน..
เหะ.. ชิบหายละ
เฉินเซียน-
พ- พ่อของพวกนั้น!!??
ผมล่ะลืมไปซะสนิทเลยว่าพ่อของจือหนานจะมา ทำไมผมถึงนึกไม่ออกแต่แรกนะว่าจือหนานก็แซ่เฉิน! แถมคนตรงหน้าผมก็แซ่เฉินเหมือนกันอีก! ป้าดโถ่!
“ เหมือนว่าจะจำได้แล้ว ใช่ไหมเจ้าหนู? ”เฉินเซียน
“ …ฮับ ”
“ ข้าล่ะอยากรู้จริงๆว่าเจ้าหนายของธิดาคนโตของข้านั้นแข็งแกร่งขนาดไหน ”เฉินเซียน
อ๊ะ คุณเฉินเซียนเค้าเป็นจักรพรรดินี่นา งี้ก็แสดงว่าเค้าคงจะเก่งมากอ่ะดิ
..อืม แต่ยังไงซะ
ผมก็ได้ท่าใหม่มาแล้วนี่นา
สองอาทิตย์ที่ผ่านมาระหว่างที่หลับผมก็เข้าไปหาลูซี่กับมิคาเอลตลอดเลย และในระหว่างนั้นก็ได้พัฒนาท่าที่สองขึ้นมาด้วย
มันน่าจะเอามาผสมผสานกับท่าพญานาคของผมได้ดีเลย
“ บอกก่อนเลยนะว่าถ้าแกยื้อข้าไม่ได้จนถึง 3 นาทีก็เตรียมตัวตายได้เลย ”เฉินเซียน
“ นี่คือจะเอาจริงกับเด็ก? ”
“ แน่นอน ”เฉินเซียน
ให้ตายสิ เอาก็เอาวะ
“ ดี ใจสู้ดีทั้งๆที่รู้ว่าข้าเป็นใคร ”เฉินเซียน
ทั้งผม และเขา ต่างคน ก็ต่างตั้งท่าของตน
ท่าของผมถูกปรับให้กระชับลงกว่าเดิมมาก เพราะในกระบวนท่านี้จะเน้นไปที่การต่อยเป็นหลัก
ผมหมุนเวียนออร่าภายในร่างจนเกิดเป็นเพลิงร้อนสีแดงฉานปะทุขึ้นทั่วร่าง อีกทั้งยังมีส่วนหนึ่งในร่างของผมยังต่อต้านวิชานี้อีก.. มันคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากพญานาคล่ะนะ แต่เงียบๆไปเถอะแก เดี๋ยวพวกแกก็ได้โชว์ของแล้ว
ส่วนทางด้านของเฉินเซียนนั้นก็ได้ใช้วรยุทธ์ของตน ออร่าสีทองที่น่าเกรงขามของเขาให้ความรู้สึกว่าแข็งแกร่งมากกว่าหลิงฉือกับจือหนานมาก
นี่ขนาดเขายังไม่ได้ใช้ร่างครึ่งมังกรนะ ยังแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ ดูเหมือนว่าผมจะต้องเอาจริงเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย
ART – พญาครุฑกระหน่ำซัด
“ ฟู่ว ”
รู้สึกได้เลยว่าตัวของผมในตอนนี้นั้นมีความเร็วและพละกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล อีกทั้งเปลวเพลิงสีชาดที่ออกมาจากร่างของผมนั้นยังรวมตัวกันเป็นบางสิ่งที่มีท่อนบนเป็นนก ท่อนล่างเป็นมนุษย์
มันมาในรูปลักษณ์แบบโครงร่างเหมือนดั่วเปลวเพลิงของเทพที่มีความร้อนแรง
มันไม่ได้แรงเท่าไฟของพระเจ้า แต่มันก็พอใช้ในการต่อสู้ได้มากละกัน
“ น่าสนใจ แสดงให้ข้าเห็นอีกสิ ”เฉินเซียน
“ แล้วข้าจะอนุญาตให้เจ้าเรียกว่า พ่อตา ”เฉินเซียน
ผมเริ่มมองไปที่เขาแปลกๆ ก่อนจะยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจ
ART – ราชามังกร
กายามังกรทองคำ
“ เข้ามาเลยไอ้หนู ”เฉินเซียน
“ คุณก็เข้ามาสิ ”
“ … ”เฉฺินเซียน
“ งั้น- ”เฉินเซียน
““ เข้าไปพร้อมกันเลยก็แล้วกัน!!! ”” บี๋/เฉินเซียน
พวกเราพุ่งเข้าหากัน
พร้อมกับแลกหมัดอันหนักหน่วงใส่กัน แรงปะทะของการโจมตีด้วยหมัดตรงนั้นทำให้พื้นที่ในโคลอสเซียมตลบอบอวลไปด้วยฝุ่นควัน แถมแรงกระแทกยังทำให้เกิดรอยร้าวที่พื้นมีรัศมีล้อมรอบทั้งสนาม
การโจมตีของสองขุมพลังที่ต่างกันทำให้เกิดแรงระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังคงสามารถยิ้มขึ้นมาได้ในสถานการณ์แบบนี้ ราวกับว่าทั้งสองคนกำลังรอคอยการต่อสู้แบบนี้มานานแสนนาน
แล้วก็..
ตัดจบตอน
จังหวะนี้ ต้องบวกกันแล้ว!
วาร์ปเพลงจีน ( ge an )