ดั่งรักบันดาล - ตอนที่ 26
ป้าหรงเข้าใจ เธอยิ้มและพยักหน้า จากนั้นก็เดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
อวี้อี่มั่วยื่นมือมาตบแก้มของหร่วนซือซือเบาๆ “ลุกขึ้นมาดื่มซุปให้สร่างเมา”
หร่วนซือซือเมามาก เธอขมวดคิ้วและหันหลังให้อย่างไม่สนใจ
เห็นแบบนี้แล้วคงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะดื่มด้วยตัวเอง อวี้อี่มั่วเอามือของเขาออกจากมือของเธอ เขาหยิบชามช้อนขึ้นมาแล้วจะป้อนเข้าปากเธอ
เมื่อหร่วนซือซือได้กลิ่นก็ขมวดคิ้ว และไม่ยอมอ้าปาก
“ไม่ดื่มจริงๆใช่ไหม?” อวี้อี่มั่วเลิกคิ้วขึ้น เขาไม่เคยพูดโน้มน้าวใคร ถ้าเปลี่ยนคนข้างๆเป็นคนอื่น เขาก็คงจะหมดความอดทน แต่ใครให้เธอเป็นหร่วนซือซือล่ะ
ดูเหมือนว่าน้ำเสียงที่เคร่งขรึมของเขาจะทำให้เธอตกใจ หร่วนซือซือส่ายหัว ลืมตาขึ้นและพูดเบาๆว่า “ดื่ม……”
ภายใต้ความเสียงดังจนทำให้ตกใจของอวี้อี่มั่ว หร่วนซือซือดื่มซุปให้สร่างเมาไปครึ่งชาม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานความง่วงได้ จึงหลับไป
อวี้อี่มั่วมองเธอที่นอนอยู่บนเตียง เขาถอนหายใจ และเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
เขากำลังจะกลับไปพักผ่อนที่ห้องนอนข้างๆ แต่ใครจะรู้ว่าจู่ๆโทรศัพท์ของเขาจะดังขึ้น “ฮัลโหล ประธานอวี้ เมื่อกี้คุณเย่ฝันร้าย ร้องไห้แล้วอยากจะเจอคุณ”
เมื่ออวี้อี่มั่วได้ยินอย่างนั้นก็ถือโทรศัพท์ไว้แน่น เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “เดี๋ยวฉันไป!”
หลังจากวางสายแล้ว เขาก็หยิบเสื้อสูทขึ้นมาแล้วรีบออกไปโดยไม่พูดอะไร หลังจากนั้นเข้าก็หายไปจนมืดจนค่ำ
วันต่อมา เมื่อแสดงแดดแรกส่องเข้ามาในห้อง หร่วนซือซือก็กลิ้งไปมาและลืมตาขึ้น
เธอรู้สึกหนักหัวและปวดหัว เธอยกมือขึ้นมานวดขมับและลุกขึ้นนั่ง
และนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน แต่เธอก็รู้สึกว่างเปล่าและจำอะไรไม่ได้เลย
ดูเหมือนว่าเมื่อคืนเธอจะดื่มหนักจริงๆ!
หร่วนซือซือถอนหายใจ แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำ
หลังจากออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เดินลงไปชั้นล่าง ป้าหรงกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่พอดี
“คุณนายมาเร็ว อาหารเช้าเตรียมเสร็จพอดี”
หร่วนซือซือมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นอวี้อี่มั่ว จึงถามว่า “อวี้อี่มั่วล่ะ?”
“คุณชายออกไปตั้งแต่เมื่อคืน ดูเหมือนจะมีธุระเร่งด่วน” ป้าหรงเดินเข้ามาแล้วดึงหร่วนซือซือไปที่โต๊ะอาหาร “ด้วนสถานะของคุณชาย ยุ่งๆก็เป็นเรื่องปกติ แต่ฉันก็เห็นว่าเขาเอาใจใส่กับคุณมาก เมื่อวานที่คุณเมา เขาก็ค่อยดูแลคุณอยู่ตลอด…”
“หา?” หร่วนซือซือตดกใจ “เขาดูแลฉัน?”
เธอเคยเมามาหลายครั้ง เมื่อก่อนเพื่อนสนิทของเธอล้วนบอกว่าเวลาเธอเมาแล้วเธอดูไม่ได้ อะไรก็หยุดความเมาของเธอไม่ได้ งั้นเมือคืนเธอคงจะไม่ได้ทำอะไรที่มันออกนอกกรอบใช่ไหม?
เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว หร่วนซือซือก็รู้สึกกลัวขึ้นมา เธอรู้สึกเย็นวาบไปทั้งกระดูกสันหลัง
ถ้าเธอเมาต่อหน้าคุณนายหลิว ศาสตราจารย์หร่วน หรือว่าเพื่อนสนิทก็คงไม่มีอะไร แต่อวี้อี่มั่ว เธอไม่กล้าจินตนาการถึงฉากในตอนนั้นเลยจริงๆ……
“ฉันยังไม่เคยเห็นคุณชายจริงจังกับใครขนาดนี้!” ป้าหรงไม่ได้สังเกตสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหร่วนซือซือ ป้าหรงยิ้มแป้นและดึงเธอให้นั่งลงที่โต๊ะอาหาร
แก้มของหร่วนซือซือแดงระเรื่อ เธอไม่รู้ว่าจะอับอายขายหน้าหรือว่าละอายใจดี สุดท้ายเธอก็ยิ้มอย่างไม่พูดอะไร และก้มหน้าก้มตากินโจ๊ก
“ใช่แล้วคุณนาย วันนี้คุณมีแผนอะไรไหม?”
เมื่อหร่วนซือซือได้ยินอย่างนั้นก็หยุดชะงักทันที
เดิมทีเมื่อวานเธอคิดไว้แล้ว ถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัย วันนี้เธอจะกลับไปทำงานที่บริษัท
ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นจนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว และแผลที่คอของเธอก็เกือบจะหายแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเธออยู่บ้านคนเดียวก็มีแต่น่าเบื่อแล้วก็น่าเบื่อ ไม่สู้ไปทำงานที่บริษัทจะดีกว่า
หร่วนซือซือยิ้มให้ป้าหรง “วันนี้ฉันว่าจะกลับไปทำงานที่บริษัท”
แม้ว่าตอนนี้เธอจะจดทะเบียนกับอวี้อี่มั่วแล้ว แต่ในใจเธอก็รู้ดีว่าเธอไม่สามารถพึ่งพาอวี้อี่มั่วไปได้ตลอดชีวิต
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ หร่วนซือซือก็แต่งตัวย่างเรียบง่าย และรีบไปที่บริษัททันที
เมื่อมาถึงประตูแผนก เพื่อนร่วมงานบางคนก็มองเธอด้วยสายตาไม่ชัดเจนและซับซ้อน
หร่วนซือซือเม้มริมฝีปาก
เมื่อหลายวันก่อนเธอเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่ง และหลายวันที่ผ่านมาเธอก็ไม่ได้มาทำงาน ดังนั้นเพื่อนร่วมงานในแผนกคงจะสงสัยกันไปต่างๆนาๆ
หลังจากวางของบนโต๊ะทำงานแล้ว หร่วนซือซือก็ตรงไปรายงานตัวที่ห้องทำงานของคุณหลาน
เมื่อเธอเดินเข้าไป คุณหลานกำลังคุยอยู่กับผู้ช่วยแผนกเมิ่งจื่อหัน
เมื่อคุณหลานเห็นหร่วนซือซือยืนอยู่ที่หน้าประตูก็กวักมือเรียกเธอ “มานี่สิ”
หร่วนซือซือเดินมาข้างหน้า “คุณหลาน ฉันกลับมาแล้วก็เลยมารายงานตัวกับคุณ”
คุณหลานพยักหน้า “ฉันรู้ ในเมื่อเข้ามาแล้วก็มาฟังด้วยกัน พวกเธอทั้งสองคนเป็นผู้ช่วยของฉัน คอยช่วยในแผนกบริหาร นอกจากฉันและก็ยังมีพวกเธอสองคน ต่อไปก็วางตัวให้ดี หร่วนซือซือ ถ้าเธอมีอะไรไม่เข้าใจกธขอคำชี้แนะจากเมิ่งจื่อหัน เข้าใจไหม?”
หร่วนซือซือพยักหน้าและตอบรับทันที “คุณหลาน ฉันเข้าใจแล้ว”
คุณหลานสีหน้าเฉยเมยและพูดว่า “โอเค ช่วงนี้ในแผนกมีงานสำคัญ ฉันแจ้งจื่อหันไปแล้ว จื่อหันเธอพาหร่วนซือซือไปทำความคุ้นเคยกับเรื่องอย่างละเอียด”
“ค่ะ คุณหลาน คุณไม่ต้องเป็นห่วง”
เมิ่งจื่อหันยิ้มอย่างใจดี ในขณะที่เธอพูดก็หันมามองหร่วนซือซือ เธอยิ้มและพูดว่า “ซือซือ เธอตามฉันมา”
ก่อนหน้านี้หร่วนซือซือเป็นแค่พนักงานเล็กๆในแผนก ดังนั้นเธอจึงไม่ได้สนิทสนมกับเมิ่งจื่อหันมากนัก เดินทีเธอกังวลว่าเมิ่งจื่อหันจะไม่ยอมรับเธอ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะคิดมากไป
หร่วนซือซือแอบถอนหายใจ พยักหน้าและเดินตามเธอไปทันที “ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่จื่อหัน”
ทั้งสองคนเดินออกจากห้องทำงานของคุณหลาน เมิ่งจื่อหันก็พาเธอเดินไปข้างๆ “ตั้งแต่วันนี้ไป เธอจะมีห้องทำงานของตัวเอง รอให้เก็บกวาดเสร็จก็ย้ายเข้ามาได้เลย”
เมื่อมองไปในห้องทำงานที่กว้างขวางและสว่าง หร่วนซือซือก็แอบดีใจ ในที่สุดเธอก็มีโอกาสได้มีห้องทำงานเป็นของตัวเอง!
“ขอบคุณค่ะพี่จื่อหัน เมื่อกี้คุณหลานพูดถึงเรื่องการทำงาน ขออนุญาตถาม…”
ทันทีที่หร่วนซือซือพูดถึงเรื่องงาน จู่ๆสีหน้าของเมิ่งจื่อหันก็เคร่งขรึม ใบหน้าของเธอดูเหมือนไม่ใจดีอย่างก่อนหน้านี้ และเธอก็พูดอย่างหงุดหงิด “แล้วฉันจะบอกเธอ”
ในขณะที่เธอพูดก็วางแฟ้มเอกสารในมือลงบนโต๊ะทำงาน “ช่วงนี้ใกล้จะถึงเทศกาลวันหยุด นี่คือใบแสดงรายการสวัสดิการพนักงานในบริษัท คุณต้องไปจัดซื้อของเหล่านี้ เงินทุนกับความร่วมมือของร้านค้าต้องมีการชี้แจ้งด้วย เธอไปทำอันนี้ก่อน”
หร่วนซือซือเหลือบมองไปที่เอกสาร ด้วยความตื่นเต้น “โอเค เรื่องนี้ยกให้ฉัน!”
เมิ่งจื่อหันมองดูหร่วนซือซือหันหลังเดินจากไปด้วยสาตาเย็นชา
ทุกครั้งที่ใกล้ถึงเทศกาลวันหยุด เธอต้องจัดซื้อสวัสดิการพนักงาน และเธอก็ต้องปวดหัว เงินทุนของบริษัทมีจำกัด ร้านค้าก็จะขึ้นราคาสิ้นค้าทุกครั้ง เธอทุ่มเทอย่างเต็มทีแต่กลับไม่ได้รับคำชมเชย ตอนนี้หร่วนซือซือเพิ่งได้รับตำแหน่ง แน่นอนว่าเธอต้องการโยนงานร้อนนี้ให้เธอทำ
ถ้าหร่วนซือซือทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ เรื่องนี้ก็ไม่สามารถโทษเธอได้ ไม่แน่อาจจะทำให้หร่วนซือซือถูกปลดออกจากตำแหน่ง!