ดั่งรักบันดาล - ตอนที่ 121
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยไปLiuguang Clubhouseอะไรนั่น แต่ก็รู้ดีว่าสถานที่นั้นคืออะไร
ในบรรยากาศที่ครึกครื้นยามราตรี
สวี่เฟิงหมิงที่อยู่ข้างๆเหมือนว่าจะมองความกระสับกระส่ายและความกังวลของหร่วนซือซือออก เขาหัวเราะ แล้วพูดเสียงขรึม:“เสี่ยวหร่วน อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ประสบการณ์คุณมันน้อยเกินไป วัยรุ่นนี่นะ เรียกว่าขาดประสบการณ์ชีวิต”
ฟังแล้วเหมือนกับว่าเป็นการกำชับที่ผู้ใหญ่พูดกับคนที่อายุน้อยกว่า แต่ในใจลึกๆหร่วนซือซือกลับกลัว เธอหายใจเข้าลึกๆ ลูบมีดคัตเตอร์ที่ยาวบางที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ ทำให้ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เธอเงียบมาตลอดทางจนถึงปลายทาง มองเห็นรถไม่กี่คันที่อยู่ด้านหน้าและด้านหลัง ถึงจะพบว่าที่แท้เป็นคนที่กินข้าวด้วยกันที่Furong Gardenเมื่อครู่ ดูแล้วได้นัดไว้กับสวี่เฟิงหมิงเรียบร้อยแล้วว่าจะมาด้วยกัน
หร่วนซือซือมองรอบๆทิศ สิ่งที่มองเห็นนอกจากเธอแล้ว ยังมีเลขาของประธานเฉินอีกหนึ่งคน เธอเลยวางใจ แล้วเดินเข้าClubhouseพร้อมกับพวกเขา
มาถึงด้านในห้องอาหาร บริกรส่งเหล้าสองสามขวดมาก่อน เจ้านายที่แซ่เฉิงคนหนึ่งพูดแกมหยอกเล่น “วันนี้รองประธานสวี่เป็นเจ้ามือ พวกเราต้องเปิดกระเพาะกันอย่างเต็มที่หน่อย เอาไว้ดื่มเหล้าดีๆ!”
นอกจากนี้ผู้ชายสองคนที่ได้ยิน ประสานสายตากันแล้วหัวเราะออกมา ทยอยกันเห็นด้วย “จริงที่สุด ไม่ง่ายเลยที่จะออกมาครื้นเครงกันสักรอบ ลูกพี่สวี่คงไม่ใจแคบเกินไปใช่ไหม?”
สวี่เฟิงหมิงยกมือขึ้นมา พูดเสียงดังอย่างแน่วแน่ “แน่นอนอยู่แล้ว พวกนายสั่งกันเองเลย แล้วมาคิดเงินที่ฉัน!”
พอเปิดขวดเหล้า พวกเขาก็ดื่มกันก่อนหนึ่งรอบ บรรยากาศก็คึกคักขึ้นมา
หร่วนซือซือกับเลขาของประธานเฉินนั่งด้วยกัน ทั้งสองคนนั่งอยู่ในมุม ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ประธานเฉิงที่อยู่ข้างๆเห็นสถานการณ์ ก็ยิ้มแล้วพูด “เลขาของรองประธานสวี่กับประธานเฉินนี่เป็นหญิงงามทั้งคู่ แต่ดูแล้วไม่ค่อยชอบพูดกันเลยนะ ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว งั้นก็มาดื่มสักแก้วกับพวกเราน่าจะดีกว่า?”
เขาเกริ่นมาขนาดนี้ เจ้านายคนอื่นๆก็ค่อยๆคล้อยตามกันทีละคน
ได้ยินมาว่าประธานเฉินมีส่งสายตาให้กับเลขาของตัวเองด้วย “เสี่ยวเหยา ไม่ได้ยินที่เจ้านายเขาพูดกันเหรอ? ยังไม่มาดื่มอีก?”
เสี่ยวเหยาที่ถูกเรียกลุกขึ้นยืน หยิบเหล้าขึ้นมาหนึ่งแก้ว แล้วยืนหันหน้าไปทักทายดื่มให้กับทางประธานคนอื่นๆ ตามด้วยประโยคสวยๆเพิ่มความสนุกสนานสองสามประโยค หลังจากนั้นก็ดื่มหมดแก้ว
เห็นเธอที่ดื่มหมดแล้วในคำเดียว ผู้ชายพวกนั้นก็เฮลั่นโบกไม้โบกมือบอกว่าเยี่ยม
พอเสี่ยวเหยาดื่มเหล้าหมด สายตาของทุกคนก็ตกมาที่หร่วนซือซือ
รับรู้ได้ถึงสายตาที่อึมครึมของสวี่เฟิงหมิง ในใจหร่วนซือซือรู้ดีว่าเวลานี้เธอคงหลบไม่พ้น อีกอย่างเลขาของเจ้านายคนอื่นๆต่างก็ดื่มเหล้ากันหมด ถ้าเธอไม่ดื่ม ก็คงเห็นกันชัดๆว่าทำให้สวี่เฟิงหมิงขายหน้า เพราะงั้นเหล้าแก้วนี้เธอจำเป็นต้องดื่ม
หร่วนซือซือรินเหล้า เรียนรู้จากเสี่ยวเหยาที่พูดแสดงความยินดีกับประธานคนอื่นๆ หลังจากนั้นก็เงยหน้าดื่มหมดแล้ว
พอได้ยินคำว่านี้เยี่ยมของพวกเขา หร่วนซือซือก็ถอนหายใจออกมา เดิมทีคิดว่าใกล้จะจบลงแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าทุกอย่างพึ่งจะเริ่มต้นขึ้น
ผู้ชายพวกนั้นดื่มเหล้าไปแล้วรอบหนึ่ง ต่างคนต่างก็เล่นเกมสนุกครื้นเครงกัน เห็นว่าเหล้าเหลือก้นขวดแล้ว ก็เรียกบริกรมาอีก
หลังจากที่สั่งเหล้ามาเพิ่มอีกขวด ก่อนที่บริกรจะเดินออกจากประตู ก็ถูกประธานเฉิงเรียกไว้ “เดี๋ยวก่อน เรียกสาวงามเข้ามาสักสองสามคนหน่อย”
พอเขาพูดแบบนี้ คนรอบข้างต่างก็เฮกันออกมา
ประธานเฉิงยิ้มจนตาหยี สีหน้าท่าทางไม่สุภาพ “ดื่มนี่อย่างเดียวมันจะไปสนุกอะไร? มีสาวงามมาอยู่เป็นเพื่อน ยิ่งน่าสนุกเข้าไปอีก!”
“ที่นี่พวกเราก็มีสาวงามอยู่ตั้งสองคนไม่ใช่เหรอ ยังต้องเรียกอีก?”
จู่ๆสายตาของบรรดาผู้ชายก็หันมามองทางหร่วนซือซือกับเสี่ยวเหยา สายตาจับจ้องมาที่พวกเธอทั้งสองคนอย่างไม่เกรงกลัวเลยสักนิด
พอกลายเป็นจุดรวมสายตาของพวกเขา ในใจหร่วนซือซือก็เกิดความสะอิดสะเอียนขึ้นมา เหมือนกับว่าสายตาของพวกเขาคือมีด ทิ่มแทงผ่านเนื้อผ้าลวนลามมายังร่างกายเธอ
หร่วนซือซือกำมือแน่น แทบอยากจะวิ่งออกไปจากห้องอาหาร
“เรียกสาวงามมาสักสองคนดีกว่า พอถึงเวลานั้นทุกคนจะได้สนุกด้วยกัน!”
ประธานเฉิงเสนอขึ้นมา เขาพูดจบ ก็มีเสียงเฮลั่นดังขึ้นจากรอบข้าง
หร่วนซือซือเหลือบตาขึ้นมอง เห็นว่าสวี่เฟิงหมิงกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางวงล้อมของทุกคน ยิ้มหัวเราะด้วยกันกับทุกคน สายตาเต็มไปด้วยความหยอกเล่นยั่วเย้ากับคนอื่น ใบหน้าที่ขยะแขยงนั่น
ผ่านไปสักพัก ประตูของห้องอาหารก็ถูกเคาะและเปิดออก เป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดน้อยชิ้นเดินเรียงกันเข้ามา
ประธานเฉิงมอง แล้วยื่นมือออกไปชี้สองคน
“พวกเธอสองคนแล้วกัน มาๆ”
ผู้หญิงสองคนนั้นที่ถูกเลือกเดินไปด้วยท่าทางภูมิใจ เบียดเข้าไปนั่งท่ามกลางบรรดาผู้ชาย
ที่แท้เจ้านายที่ภายนอกดูแล้วสง่างาม พอเห็นผู้หญิง สายตาก็เพ่งเล็งไปที่หน้าอกของพวกเธอ พอดื่มเหล้าก็พูดแต่คำหยาบ
หร่วนซือซือหลบอยู่ในมุม มองฉากตรงหน้า โกรธจนเล็บจิกเข้าไปในโซฟา
เธอคิดไม่ถึงว่างานเลี้ยงที่ออกจากปากของสวี่เฟิงหมิงที่ว่าคือแบบนี้?
ประธานเฉินจู่ๆก็พูดออกมา “เสี่ยวเหยา มานี่สิ ดื่มเป็นเพื่อนรองประธานสวี่สักสองแก้ว!”
หร่วนซือซือนิ่งอึ้งไป แล้วรีบหาหน้าไปมองเสี่ยวเหยาที่อยู่ข้างๆตนเอง
เสี่ยวเหยาประสานสายตากับเธอ ยิ้มเจื่อนๆให้เธอ ลุกขึ้นยืนแล้วค่อยๆเดินไปนั่งลงที่ข้างๆสวี่เฟิงหมิง ตามด้วยยกแก้วเหล้าดื่มเป็นเพื่อนเขา
ตอนนั้นในสมองหร่วนซือซือมีเสียงดังกระหึ่มขึ้นมา
เธอเป็นพนักงานบริษัทที่ถูกต้องและชอบธรรม แต่ตอนนี้ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าตัวเองในสายตาของผู้ชายพวกนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากผู้หญิงสองคนนั้นที่พึ่งถูกเลือกไปนะ
หร่วนซือซือนั่งอยู่ด้านข้าง ขัดกับฉากครื้นเครงอีกด้านเป็นอย่างมาก ประธานเฉิงหันหน้ามามองเธอ หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วรินเหล้าหนึ่งแก้ว ลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาทางเธอ
พอเขายิ้ม ก็เผยให้เห็นฟันเหลืองเต็มปาก “เลขาหร่วน ทำไมต้องจริงจังขนาดนี้ล่ะ ไปสนุกด้วยกันกับทุกคนไม่ดีกว่าเหรอ?”
หร่วนซือซือสั่นเทา ร่างกายแข็งทื่อ “ประธานเฉิง ฉันไม่ค่อยดื่ม”
“ดื่มไม่เป็นก็ไม่เป็นไร!สนุกกันตามเดิม!ผมว่านะ คุณปล่อยวางไม่ได้มากกว่า”
เขาพูดแล้วหันหน้าไปมองทางผู้หญิงที่ใส่กระโปรงรัดรูปสีแดงด้านข้าง “คุณมานี่สิ จะสอนคุณสักหน่อยว่าทำไมน้องสาวคนนี้ถึงสนุกไปกับทุกคนได้”
ผู้หญิงกระโปรงได้ยิน ก็ยิ้มแล้วลุกขึ้นเดินมา
หร่วนซือซือกำมือแน่น เหมือนกับว่าถูกตบหน้า จนหน้าแดงฉาน
“น้องสาว สนุกกับทุกคนหน่อยสิ!”
ผู้หญิงกระโปรงแดงยื่นมือออกมาจะดึงมือของหร่วนซือซือ
หร่วนซือซือดึงมือออกอย่างรวดเร็ว แล้วห่างออกมาจากเธอ “อย่ามาแตะต้องฉัน!”
พวกเขาเห็นเธอเป็นอะไร!
เธอกัดฟัน เหลือบตาไปมองทางสวี่เฟิงหมิง แล้วรีบพูด “รองประธานสวี่ นี่ก็นานพอสมควรแล้ว ฉันยังมีธุระต่อ ขอตัวก่อนนะ”
พูดเสร็จ เธอก็รีบเดินไปทางประตู
ประธานเฉิงรีบเดินไปด้านหน้า แล้วบังหน้าประตูไม่ให้เธอไป “จะไปไหนล่ะ!เรื่องสนุกพึ่งจะเริ่มเองนะ!”
ได้กลิ่นเหล้าอย่างรุนแรงจากบนตัวเขา กระเพาะของหร่วนซือซือเหมือนจะตีกลับขึ้น จนอยากจะอาเจียนออกมา
เธอถอยหลังไปเล็กน้อย มองไปทางสวี่เฟิงหมิงด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย “รองประธานสวี่……”
สวี่เฟิงหมิงไม่ทุกข์ร้อนอะไร เขาหัวเราะออกมา บนใบหน้าเผยให้เห็นความน่ากลัว “เสี่ยวหร่วน ทำไมต้องทำอย่างนั้นด้วยล่ะ ทุกคนได้มาสนุกด้วยกันนี่ มันไม่ง่ายเลยนะ”
หร่วนซือซือหนักใจ รู้ว่าตอนนี้สวี่เฟิงหมิงไม่ปล่อยให้เธอไปแน่ๆ และตอนนี้ร่างกายของเธอกำลังอยู่ในเขตอันตราย ไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรกับเธออีก
เธอถอยหลังอยู่ จู่ๆแขนก็ถูกจับ เธอถูกผู้หญิงกระโปรงแดงคนนั้นจับแขนไว้ “น้องสาว ไม่ต้องรีบหรอก!พวกเราไม่ได้จะกินเธอสักหน่อย!”
พอเธอพูดแบบนี้ ผู้ชายในห้องต่างก็พากันหัวเราะออกมา
หร่วนซือซือสะบัดมือออกจากเธอ ในใจเธอมีแต่ความโกรธ จ้องไปที่พวกเขาด้วยสายตาที่ระมัดระวัง
ประธานเฉิงที่ใบหน้าอัปลักษณ์นั่นเดินเข้ามาหาเธอ โยกแก้วเหล้าในมือไปมา “ถ้าคุณดื่มเหล้าแก้วนี้ ผมอาจจะลองคิดดูว่าจะปล่อยคุณไปดีไหม”
เห็นสีหน้าของกลุ่มคนในห้องที่มองมาอย่างกับดูฉากสนุกกันอยู่ ร่างกายของหร่วนซือซือก็รู้สึกหนาวขึ้นมา
เธอรู้ดี ต่อให้เธอดื่มเหล้าแก้วนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่มีทางปล่อยเธอไป!
หร่วนซือซือกัดฟัน ยกมือขึ้นไปลูบกระเป๋าเสื้อ แต่ใครจะไปรู้ว่าด้านในนั้นว่างเปล่า มีดคัตเตอร์ที่เธอเตรียมไว้ก่อนหน้านี้หายไปแล้ว!
เวลานี้ เสียงยิ้มเยาะของสวี่เฟิงหมิงดังมาไม่ไกลมากนัก “เสี่ยวหร่วน คุณกำลังหาไอ้นี่อยู่เหรอ?”