ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 191 ชุดแต่งงานใหม่
บทที่ 191 ชุดแต่งงานใหม่
…………….
บทที่ 191 ชุดแต่งงานใหม่
ผ่านไปสองวัน หลิวคังก็มาถึง และนำของมาให้มากมาย
ทุกอย่างในบ้านถูกส่งไปให้ลูกชายและลูกสะใภ้ในตำบลหมดแล้ว ไม่มีอะไรเหลือให้เอามาได้
เขาจึงนำกระต่ายที่เลี้ยงไว้จนอ้วนพีทั้งหมดมาด้วย
“พ่อ ทำไมพ่อถึงเอากระต่ายมามากมายขนาดนี้ล่ะ?”
หลิวคังยิ้มอย่างเขินๆ “เสี่ยวเยว่ ได้ยินว่าพวกเธอจะแต่งงานกันมะรืนนี้แล้ว พ่อก็ไม่มีอะไรจะให้ เลยเอากระต่ายมาให้พวกเธอ ถึงตอนกินเลี้ยงก็เอาทำเป็นอาหารจานหนึ่งได้เลยนะ”
“พ่อตั้งใจจะพักอยู่ที่นี่สองสามวัน ช่วยพวกเธอทำงานด้วย ถ้าพวกเธอมีอะไรให้พ่อช่วย พ่อยินดีช่วยทุกอย่างเลยนะ”
หลิวเยว่รู้สึกซาบซึ้งใจ “พ่อ ถ้าแม่รู้เรื่องนี้ คงจะต้องบ่นพ่ออีกแน่ๆ”
“จะเป็นอะไรไป ลูกสาวพ่อได้แต่งงานทั้งที พ่อจะมาดื่มฉลองไม่ได้เชียวหรือ?” หลิวคังโบกมือไปมาอย่างอดไม่ได้ “พ่อรู้ว่าบ้านพวกเธอยุ่งมาก”
หลิวคังตั้งใจจะมาช่วยงานจริงๆ
เย่จวินรีบพูดว่า “พ่อ พ่อมาที่นี่เป็นแขกก็พอแล้วครับ จะให้พ่อมาทำงานได้ยังไงกัน? ผมกับเสี่ยวเยว่เพิ่งจดทะเบียนสมรสกัน ถ้าจะให้พ่อตามาทำงานเลย มัน…มันคงดูไม่เหมาะสมน่ะครับ”
เย่เสี่ยวจิ่นมองดูพวกเขาแล้วรู้สึกขบขัน
เรื่องการแต่งงานนี่ช่างคึกคักสนุกสนานจริงๆ ยุ่งวุ่นวายมาหลายวันติดต่อกันแล้ว
เธอก็เพิ่งเคยเห็นการเตรียมงานแต่งงานเป็นครั้งแรก รู้สึกว่าทุกอย่างช่างแปลกใหม่น่าสนใจมาก
หยางเจวียนพาผู้หญิงอีกกลุ่มหนึ่งมาด้วย
“ชุ่ยชุ่ยจ๊ะ อยู่บ้านไหม?”
หลี่ชุ่ยชุ่ยรีบออกมา “โอ้ อยู่จ้ะ กำลังล้างหม้อกระทะอยู่”
“พวกเรามาช่วยเธอทำงานแล้ว”
หลี่ชุ่ยชุ่ยรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง เชิญให้ทุกคนนั่งลง
หลิวคังก็ตามมาด้วย เพื่อฟังว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง
“ฉันทำความสะอาดบ้านเสร็จแล้ว ส่วนวัตถุดิบที่ต้องซื้อ พรุ่งนี้ก็ค่อยไปซื้อ จะได้ของสดๆ”
หยางเจวียนพยักหน้า “ใครเป็นคนทำอาหารที่บ้านเธอล่ะ?”
“จื้อผิงบอกว่าเขาจะเป็นคนทำอาหารน่ะ”
คนอื่นๆ ต่างพูดคุยกันถึงสิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับงานแต่งงาน
หลี่ชุ่ยชุ่ยก็ตอบรับทีละอย่าง พลางทบทวนดูว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องหรือไม่
พวกเขามีลานบ้านที่เทปูนเรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องจัดการอะไรอีก
ในบ้านมีเครื่องปรุงครบทุกอย่างที่ควรมี
ข้าวสารก็มีพร้อมอยู่แล้ว
แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรเพิ่มเติม
“แตงกวาที่บ้านฉันออกผลแล้ว พรุ่งนี้คุณไม่ต้องซื้อผักอะไรนะ”
“พวกเรายังมีฟักเขียวกับฟักทองด้วย”
หยางเจวียนคิดแทนพวกเขา “ฉันเห็นในไร่ของพวกคุณปลูกอะไรนะ… ผักบุ้ง มีเต็มไปหมดเลย”
หลี่ชุ่ยชุ่ยก็รู้สึกว่าถูกต้อง “ก็จริงนะ มีผักสี่อย่างแล้ว แล้วก็ยังมีมันเทศที่บ้านเราอีก รสชาติอร่อยมากเลย”
“เอามาทำอาหารก็ได้นะ หอมมากเลย”
หยางเจวียนพยักหน้า “ใช่แล้ว งั้นก็มีผัก 5 อย่างแล้วสิ”
“ไก่และเป็ดที่บ้านของพวกคุณก็มีพร้อมอยู่แล้ว ส่วนเนื้อวัวจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร ราคามันก็แพงเกินไปด้วย”
“ประหยัดหน่อยก็ได้นะ”
“ปลาเฉ่าก็ซื้อจากในหมู่บ้านเลย ยังไงก็ตัวใหญ่พอๆ กัน แถมยังถูกกว่า ไม่จำเป็นต้องไปซื้อที่ตลาดในเมือง”
หยางเจวียนคำนวณอย่างละเอียดถี่ถ้วน
หลี่ชุ่ยชุ่ยฟังหล่อนพูดจนจบ ก็แทบไม่ต้องไปซื้ออะไรเลย
ในตอนนั้น เย่ฉางอันก็กลับมาพอดี
เขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าตรู่ ตอนนี้เพิ่งขี่รถสามล้อกลับมา
“วันนี้บ้านเราคึกคักจังเลยนะ มีคนเยอะแยะเลย”
“ทำไมเธอถึงพาแกะตัวหนึ่งกลับมาด้วยล่ะ?” หยางเจวียนถึงกับตกใจ นี่มันต้องใช้เงินเท่าไหร่กันนะ?
“งานแต่งงานนี่มันเรื่องใหญ่ที่จะมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ต้องจัดงานให้พี่ชายคนโตกับพี่สะใภ้อย่างยิ่งใหญ่สิ”
“แกะตัวนี้ใหญ่พอสมควรนะ น่าจะพอแล้วล่ะ”
เขามีถังใบใหญ่อยู่บนรถด้วย “นี่คือเนื้อวัว สดมากเลยนะ เอาไว้ทำเนื้อตุ๋นได้ เก็บไว้ได้หลายวันด้วย”
หลี่ชุ่ยชุ่ยเข้าไปดู “เป็นเนื้อวัวคุณภาพดีจริงๆ”
คนอื่นๆ เห็นท่าทางของครอบครัวนี้ ก็รู้สึกว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับลูกสะใภ้คนนี้มากจริงๆ
ไม่อย่างนั้นก็คงจัดงานแบบลวกๆ ไปแล้ว ซึ่งก็มีคนทำกันเยอะ
ใครจะอยากเสียเงินมากมายไปกับการจัดงานมงคลกันล่ะ ในเมื่อข้าวยังกินไม่อิ่มท้อง จะมีเวลาว่างมาทำอะไรพวกนี้
หลิวคังเข้าใจเหตุผลนี้ดี ในใจก็รู้สึกขอบคุณที่ครอบครัวเย่ให้ความสำคัญกับลูกสาวของเขา
“แม่สามี ผมยังเอากระต่ายมาอีกกว่า 20 ตัวด้วยนะ น่าจะพอแล้วล่ะ”
หลี่ชุ่ยชุ่ยยิ้มพลางกล่าว “งั้นพวกเราก็มีผัก 5 อย่าง แล้วก็ไก่ เป็ด วัว แกะ ปลา กระต่าย รวมเป็นเนื้อ 6 อย่างสินะ”
“มีครบทุกอย่างที่ควรมีแล้ว ก็น่าจะพอแล้วล่ะ”
“คุณพ่อตา อย่าเป็นห่วงเรื่องพวกนี้เลยค่ะ คุณมาเป็นแขกนะ อย่าได้ลำบากเลย”
หลี่ชุ่ยชุ่ยพูดด้วยความจริงใจ
ปกติหลิวเยว่ก็แย่งทำงานบ้านอยู่แล้ว ถ้าให้พ่อของหล่อนที่แทบจะไม่ได้มาเยี่ยมมาทำงานด้วย มันจะเป็นอย่างไร?
แม้หล่อนจะเป็นแค่หญิงชาวบ้านที่อ่านหนังสือไม่ออก แต่ก็เป็นคนที่รู้กาลเทศะ
เย่ฉางอันค่อยๆ ยกห่อผ้าออกมาจากรถอย่างระมัดระวัง “พี่ชายพี่สะใภ้ครับ เนื้อพวกนี้เป็นของฝากจากผมนะครับ ส่วนเสื้อผ้านี่ จิ่นเป่าสั่งให้ผมไปตัดมาให้”
เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มพลางพูดว่า “ใช่แล้วค่ะ นี่เป็นแบบที่หนูออกแบบเองนะคะ ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง พี่สะใภ้ลองไปลองดูเร็วๆ สิคะ”
“พี่ชายของหนูคงไม่มีโอกาสได้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้หรอกค่ะ แต่หนูทำเข็มกลัดลายดอกไม้ให้พี่ชายด้วยนะคะ ติดไว้ที่เสื้อก็ดูสวยดี”
เย่จวินรับเข็มกลัดประดับที่เหมือนลูกบอลดอกไม้เล็กๆ มา “อันนี้ฉันรู้จัก คนในเมืองเวลาแต่งงานก็ติดสิ่งนี้ที่หน้าอกกัน”
“จิ่นเป่าช่างมีฝีมือและความคิดสร้างสรรค์เหลือเกิน ดูสวยงามทีเดียว”
หลิวเยว่อุ้มห่อผ้าไว้ แม้ยังไม่ได้เปิดดู ก็มองเห็นสีแดงสดสวยที่โผล่ออกมาจากรอยต่อของห่อผ้าแล้ว
“งั้นฉันจะไปลองชุดตอนนี้นะ แต่เดิมฉันคิดว่าตอนแต่งงานจะใส่ชุดกระโปรงสีฟ้าตัวใหม่ ไม่ได้คิดจะเตรียมชุดอะไรเป็นพิเศษ”
“จิ่นเป่า เธอช่างมีน้ำใจจริงๆ”
เย่เสี่ยวจิ่นกลับรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเสื้อผ้ามากมายที่หลิวเยว่ตัดให้เธอด้วยตัวเอง ชุดนี้เป็นเพียงชุดที่เธอจ้างช่างตัดเสื้อทำเท่านั้น
“โอ้ พี่สะใภ้ อย่าเกรงใจเลย รีบไปลองเร็วๆ เถอะค่ะ”
ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่ข้างนอก รอดูชุดใหม่ของหลิวเยว่กัน
ปกติแล้วทุกคนในหมู่บ้านล้วนแต่งตัวแบบเรียบง่ายและซอมซ่อ จึงรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเสื้อผ้าใหม่ๆ
หลิวเยว่อยู่ในห้อง ค่อยๆ เปิดห่อผ้าอย่างระมัดระวัง
ข้างในเป็นชุดกี่เพ้าแบบหนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นชุดจีนสมัยใหม่ที่หลวมกว่า แม้หล่อนจะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่ก็รู้แค่ว่ามันสวยมาก
เนื้อผ้านุ่มลื่น มีลายในตัวเล็กๆ
“พระเจ้า ผ้าสวยขนาดนี้ได้มาจากไหนกัน ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย…”
หล่อนแทบไม่อยากสวมใส่ ได้แต่ลูบคลำอย่างพิถีพิถัน ในใจเต็มไปด้วยความชื่นชอบ
เมื่อลองสวมใส่ ชุดกี่เพ้าสีแดงก็ขับเน้นรูปร่างอันบอบบางของหล่อนให้ดูสง่างามขึ้น
เนื่องจากคำนึงถึงความอนุรักษ์นิยมของยุคสมัย จึงตัดเย็บให้หลวมเป็นพิเศษ ไม่ได้เน้นส่วนโค้งเว้ามากนัก
กระดุมบนชุดทำจากไข่มุก แขนเสื้อสั้นมีลายปักสวยงาม เช่นเดียวกับที่ชายกระโปรง
หลิวเยว่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนเราจะสามารถตัดเย็บเสื้อผ้าได้ถึงระดับนี้!
มันไม่ใช่แค่สวยงามเท่านั้น แต่เหมือนเป็นเสื้อผ้าของเทพเจ้าเลยทีเดียว
ในทันทีที่หลิวเยว่เดินออกมาจากห้อง ทุกคนต่างก็คิดเช่นเดียวกัน
“จะมีเสื้อผ้าที่สวยงามขนาดนี้ได้อย่างไร?”
“ใช่แล้ว ซื้อมาจากที่ไหนกัน ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
“สวยเหลือเกิน!”
ทุกคนต่างอุทานด้วยความประหลาดใจ
สายตาของเย่จวินจับอยู่ที่ตัวหลิวเยว่ จนไม่อาจละสายตาไปได้
เย่เสี่ยวจิ่นปรบมือ “สวยมากเลย สีนี้สวยจริงๆ ทำให้ผิวของพี่สะใภ้ดูขาวผ่องขึ้นมากเลยนะ”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าสีนี้จะเหมาะกับพี่มาก”
“นั่นก็เพราะเธอตาดีไงล่ะ แต่…เสื้อผ้าดีๆ แบบนี้ รู้สึกว่ามันฟุ่มเฟือยไปหน่อยนะ…”
หลิวเยว่รู้สึกเขินอาย ใบหน้าแดงก่ำ มองดูเสื้อผ้าของตัวเองอย่างเก้อเขิน
ภาพที่เห็นในกระจกก็สวยงามมากแล้ว เมื่อออกไปกลางแสงแดด ลวดลายแฝงบนชุดก็ยิ่งดูสวยงามและประณีตมากขึ้น
ในใจก็เริ่มมีความรักในการตัดเย็บเสื้อผ้าผุดขึ้นมา
เย่เสี่ยวจิ่นไม่รู้เลยว่าชุดที่เธอมอบให้นั้น จะสามารถจุดประกายความรักในการออกแบบเสื้อผ้าให้กับหลิวเยว่ได้
และยังเปิดมุมมองเล็กๆ ที่สดใสให้กับอนาคตของเธอในการเป็นนักธุรกิจหญิงอีกด้วย
เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มพลางกล่าวว่า “อย่าพูดแบบนั้นสิ มันเหมาะกับพี่จริงๆ นะ ต่อไปจะมีเสื้อผ้าที่ดีกว่านี้อีกมากมายเลย”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เทียบกับเสื้อผ้าสมัยนั้นก็ไม่แปลกที่ชุดแต่งงานของหลิวเยว่จะดูเหมือนชุดของนางฟ้า สมัยนั้นมีแค่เสื้อผ้าใหม่ให้ใส่ก็ดีมากแล้ว
ไหหม่า(海馬)
…………….