ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว - ตอนที่ พิเศษ 10
เสียงของการเคลื่อนไหวดังแว่วมาจากที่ไหนสักแห่ง
เสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินอย่างระมัดระวังทำให้อึนฮันลืมตา
อ้อ บ้านฉันเองนี่นา อึนฮันจำได้ในตอนนั้นว่าเขาเอ่ยปากชวนวาซีลีมาที่บ้านตัวเองเป็นครั้งแรก ทั้งยังทำแบบนั้นกันเป็นบ้าเป็นหลังโดยที่เขายังไม่ทันเสิร์ฟชาให้แม้แต่แก้วเดียว
และอึนฮันก็รู้สึกเหมือนจะเข้าใจแล้วว่ากลิ่นของเขาที่วาซีลีพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร เพราะเมื่อคืนนี้พวกเขาเอาแต่ทำกันในท่ายกสะโพกขึ้นแล้วฝังจมูกลงบนเตียงกับหมอนทั้งคืน สำหรับอึนฮันแล้วการได้ทำกันบนเตียงเขาเองช่างเร้าใจเกินบรรยาย และวาซีลีเองก็ดูจะรู้สึกเช่นนั้น เพราะชายหนุ่มเอาแต่โหมทำอย่างเดียวแทบไม่พูดอะไรเลย
นอกจากนั้นนี่ยังเป็นครั้งแรกที่เซ็กซ์ของทั้งคู่จบลงโดยที่ไม่ทำให้อึนฮันมีสภาพเหมือนผู้ป่วยโรคติดต่อ ถึงอย่างนั้นสะโพกเขาก็ระบมไปหมดจากการที่วาซีลีกระหน่ำใส่ไม่ยั้งทั้งที่ยังไม่ได้เปิดทางก่อน แม้ตอนนี้ปากทางเข้าจะปิดไปเกือบสนิทแล้ว แต่อึนฮันยังรู้สึกได้ว่าด้านในตัวเขายังเปิดอยู่
สิ่งแรกที่อึนฮันเห็นหลังจากลืมตาขึ้นมาคือแผ่นหลังเปลือยเปล่าของวาซีลีที่ยืนอยู่
วาซีลียังสวมชุดเดียวกับเมื่อวาน นั่นก็คือเปลือยท่อนบนและกางเกงยีนสีดำ อึนฮันพยายามจะหยัดกายลุกขึ้นเพราะตอนนี้อีกฝ่ายยืนอยู่หน้าโต๊ะของเขา
บางทีบนโต๊ะอาจมีข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าของเขาอยู่ ถึงปกติแล้วอึนฮันจะไม่ค่อยวางทิ้งไว้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจรู้ได้ และเขาจะปล่อยให้วาซีลีมารื้อค้นลิ้นชักดูตามอำเภอใจไม่ได้
ทว่าวาซีลีไม่ได้รื้อค้นโต๊ะของอึนฮันแต่อย่างใด
ชายหนุ่มยืนล้วงกระเป๋าพลางกวาดตามองทุกซอกทุกมุมบนโต๊ะของอึนฮัน หากพบบางอย่างที่ทำให้ประหลาดใจ วาซีลีจะโน้มตัวลงไปมองให้ชัดขึ้น แต่ไม่เคยยื่นมือออกไปแตะเลย
เขาเดินไปข้างโต๊ะ เผยให้เห็นใบหน้าด้านข้างอย่างเป็นธรรมชาติ นั่นคือสีหน้าของคนที่กำลังมีความสุข
ชายหนุ่มมองดูโต๊ะที่ไม่ได้มีอะไรมากนักด้วยความสนอกสนใจราวกับอ่านนิยายลึกลับก็ไม่ปาน
อืม วาซีลีส่งเสียงออกมาขณะอมยิ้ม
อึนฮันไม่รู้ว่าชายหนุ่มเจออะไร แต่เขาดูสนุกสนานมากทีเดียว ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็หันมามองอึนฮันราวกับสัมผัสได้ถึงสายตาที่มองตนอยู่
“ยุน หลับสบายไหม”
“อรุณสวัสดิ์” อึนฮันทักทาย เวลาที่สบายใจเขามักจะใช้คำพูดสบาย ๆ แบบนี้ แต่เมื่อไรที่อึดอัดใจระดับภาษาที่ใช้ก็จะสุภาพขึ้นตามไปด้วย วาซีลียิ้มสดใสท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเช้าเมื่อได้ยินคำพูดสบาย ๆ นั้น
“ไม่หิวเหรอ ไปหาอะไรกินกันไหม”
“ไม่ค่อย…”
ข้างในเขาโดนกระทบกระเทือนมาทั้งคืนแบบนั้น ไม่มีแก่ใจจะไปคิดถึงอาหารหรอก
แต่หากเขาขอกินซุปก็คงต้องเผชิญกับสายตาซึ่งมองมาประหนึ่งเขาเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในโลก เพราะแบบนั้นตอบว่าไม่หิวน่าจะดีเสียกว่า อึนฮันยันตัวลุกขึ้น
“ทำอะไรอยู่เหรอ”
วาซีลีเพียงยิ้มแทนคำตอบ แค่นั้นอึนฮันก็รู้แล้วว่าชายหนุ่มทำอะไรอยู่ก่อนที่เขาจะตื่น
คงเดินเล่นไปทั่วบ้านจนเพลินเลยละสิ บางทีอาจจะตั้งใจมองรอยแยกหรือลวดลายแปลก ๆ ด้วยสีหน้าสนอกสนใจเหมือนเมื่อกี้นี้ก็ได้
เขาไม่เห็นจำเป็นต้องรู้สึกผิดเลยนี่นา…
คนที่ควรรู้สึกผิดคือวาซีลีต่างหากล่ะ
อึนฮันไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องรู้สึกผิดต่อวาซีลี ถึงอย่างนั้นหัวใจเขากลับเจ็บปวดโดยไม่ทราบสาเหตุ
อาจเป็นเพราะเขาชอบทุกอย่างในตอนนี้ก็ได้ อึนฮันได้แต่นึกสมเพชตัวเอง เขาก้าวลงจากเตียงแล้วเดินกะโผลกกะเผลกมายังโต๊ะหนังสือ ปกติแล้วร่างกายเขาไม่น่าจะย่ำแย่ขนาดนี้ สงสัยคงเพราะเมื่อคืนต้องใช้กำลังขายืนอยู่ตั้งแต่หน้าประตู ผ่านห้องครัวเข้ามายังพื้นห้อง แล้วก็จากพื้นห้องมาบนเตียงนอนอีกเลยยิ่งทำให้เดินลำบาก
อึนฮันเปิดลิ้นชักออกเผยให้เห็นกล่องใบหนึ่งห่อด้วยกระดาษสีขาว เขาไม่มั่นใจว่าควรให้ของขวัญชิ้นนี้ดีหรือไม่ แน่นอนว่าวาซีลีต้องดีใจอยู่แล้ว แต่นั่นก็หมายความว่าเขาได้เดินเข้าไปหาวาซีลีอีกก้าวหนึ่งแล้วเช่นกัน…
นี่เป็นความสัมพันธ์ที่ต้องใช้ความใจกล้าซึ่งไม่เหมาะกับคนขี้ขลาดตาขาวอย่างเขาเลยสักนิด อึนฮันหัวเราะหึ ๆ ออกมา สิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรเหมาะกับคนอย่างเขาเลยสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ฉันคนรักกับบุคคลอันตรายที่ชื่อวาซีลี คามินสกี หรือว่าแบรนด์สินค้ายี่ห้อหรูบนกล่องที่เขาถืออยู่ในมือ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดอยากจะยอมแพ้ต่อความสัมพันธ์นี้ เขาจะอดทนกับทุกสิ่งทุกอย่างไปพร้อมกับความสุขที่ความสัมพันธ์นี้มอบให้ แม้ว่าจะต้องตัวสั่นเพราะความกระวนกระวายใจอยู่ทุกวันก็ตาม
“นี่น่ะ”
อึนฮันหันกลับไปมองวาซีลี อีกฝ่ายก้มมองของที่เขายื่นให้ ดูเหมือนวาซีลีไม่ได้คิดว่านี่เป็นของขวัญจากเขาด้วยซ้ำ
“กระเป๋านั่น ขอบคุณนะครับ นี่…ของตอบแทน”
เขาเขินจนพูดผิดพูดถูกไปหมด