ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว - ตอนที่ 11
เขาไม่ได้อยากเป็นคนถือดี แต่คามินสกีกลับบ่นว่าเขาทำเกินไป แล้วยังพูดว่าเป็นคนที่ช่วยชีวิตอย่างนั้นเหรอ อึนฮันตกใจกับคำนี้ แต่เขายังไม่หายเกร็งและยังหันไปมองคามินสกีตรง ๆ ไม่ได้ด้วย ทำได้แค่เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ในตอนนั้นเองนีโคไลก็เข้ามาในห้องรับรอง เมื่อเห็นสภาพของทั้งคู่ก็ถึงกับเผลอยิ้ม และยิ่งยิ้มกว้างเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นกระเป๋าสีดำที่อึนฮันสะพายมาด้วย ปฏิกิริยาของเขาชวนให้อึนฮันหงุดหงิดแต่ก็แสดงออกมาไม่ได้ ทำได้แค่หลุบตาลงมองพื้นแทน แต่คามินสกีกลับตรงกันข้าม ยังซบไหล่เขาอยู่แม้จะรู้แล้วว่ามีคนเข้ามา ก่อนจะยอมลุกขึ้นนั่งดี ๆ หลังจากผ่านไปสักพัก
“ได้เรื่องไหม”
เมื่อคามินสกีถาม นีโคไลถึงส่งเสียงเหมือนเพิ่งนึกได้ก่อนจะตอบ
“พอได้บ้าง แต่คิดว่ายังไปไม่ถึงเบื้องหลัง”
“ทำไม”
“มันบอกแต่ว่านายสั่งมา ผมว่าไอ้บ้านั่นคงไม่รู้เรื่องอะไร”
คามินสกีครางรับในลำคอ นีโคไลยิ้มขื่น ๆ เมื่อเห็นว่าเจ้านายเหลือบตาขึ้นมองตน
“ไม่เชื่อมือผมเหรอ”
คามินสกีปรายตามองนีโคไลก่อนจะกระตุกยิ้ม
“ไม่มีทางอยู่แล้ว”
นีโคไลยิ้มกว้างให้กับคำพูดของคามินสกี รอยยิ้มของเขาช่างน่าอกสั่นขวัญแขวน เป็นรอยยิ้มที่หากอึนฮันซึ่งยังเอาแต่มองพื้นได้เห็นเข้าต้องกลัวจนหัวหดแน่ คามินสกียื่นแขนไปดึงอึนฮันที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยเข้าหาตัว เขาถามทั้งที่ยังโอบไหล่อึนฮันอยู่
“ถ้างั้นแปลว่าไอ้พวกคนที่มันจ้องจะเล่นงานยุนโดนเก็บไปหมดแล้วใช่ไหม”
อึนฮันเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ รู้สึกเหมือนฟังเรื่องไร้สาระอยู่ไม่มีผิด พวกนั้นไม่ได้จ้องจะเล่นงานคามินสกี แต่เล่นงานเขาอย่างนั้นเหรอ มันจะไปมีเรื่องแบบนั้นได้ยังไงกัน คามินสกีมองดวงตาที่เบิกโพลงอย่างตกใจแล้วก็ได้แต่ตบไหล่อึนฮันเบา ๆ เขาพูดอย่างอ่อนโยนเมื่อเห็นแววตาไม่อยากเชื่อคู่นั้น
“พวกที่จ้องจะเล่นงานฉันไม่กระจอกอย่างนี้หรอกนะ ยุน”
ใครกันที่จ้องจะเล่นงานเขา แล้วทำไมถึงต้องทำอย่างนั้นด้วย อึนฮันได้แต่มองคามินสกีกับนีโคไลสลับไปมา พอเห็นสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริดอย่างนั้นแล้ว นีโคไลก็ได้แต่เกาหัว
“ลองคิดดูให้ดีนะ เลดี้ เรื่องที่พอจะทำให้ใครเจ็บแค้นคุณน่ะ”
“มะ…ไม่มีเลยครับ”
อึนฮันส่ายหน้าทันที เขามันเป็นพวกปลอดภัยไว้ก่อน ไม่มีทางไปสร้างความเจ็บแค้นหรืออะไรพรรค์นั้นให้ใครเด็ดขาด หรือถ้าจะมีใครที่ผูกใจเจ็บกับเขาได้ ใครคนนั้นก็คงมีแค่คามินสกีคนเดียวนี่แหละ อึนฮันส่ายหน้าทันทีโดยไม่จำเป็นต้องคิด พอเขาตกใจจนลืมกลัวไปสนิท คามินสกีก็ใช้โอกาสนี้ดึงตัวเขาเข้ามาใกล้มากขึ้น นิ้วของคามินสกีไล้ผ่านแขนเขาภายใต้เสื้อเชิ้ตแขนสั้น แต่อึนฮันก็ไม่ทันรู้สึกตัวเพราะเรื่องราวอันน่าตกใจที่ได้ฟังนี้
“แล้วคนที่จะได้ประโยชน์ถ้านายตายล่ะ”
คามินสกีถาม ศีรษะของอึนฮันซบลงในอ้อมกอดของชายหนุ่มเมื่ออีกฝ่ายออกแรงดึงเขาเข้าหาตัว ในหัวอึนฮันตอนนี้ตีกันวุ่นวายเหมือนมีใครมาวางระเบิดไว้ คนที่จะได้ประโยชน์ถ้าหากเขาตายอย่างนั้นเหรอ บนโลกนี้มีคนแบบนั้นที่ไหนกันล่ะ เขาส่ายหน้าอีก เส้นผมสีดำพลิ้วไหวไปมาเหมือนใบหญ้า อยู่ในอ้อมกอดของคามินสกี เจ้าของอ้อมแขนก้มลงมากระซิบกับอึนฮัน
“แต่ตอนนี้พวกที่จะทำร้ายนายถูกจัดการหมดแล้ว ไม่ต้องคิดมากนะ”
ตอนนั้นเองอึนฮันก็เริ่มขยับหยุกหยิกอยู่ในวงแขนของคามินสกี ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นอย่างระมัดระวังเหมือนคนที่ต้องยกเท้าออกจากกับระเบิด แล้วจึงขยับตัวออกจากพันธนาการของอีกฝ่าย การที่เขาได้อยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายตรงหน้านั้นดูเหลือเชื่อยิ่งกว่าการถูกหมายเอาชีวิตเสียอีก อึนฮันจึงได้แต่เบิกตาโพลงมองคามินสกีอยู่อย่างนั้น
“ทำไมเป็นงั้นล่ะ มานี่มา”
คามินสกีอ้าแขนออก แต่อึนฮันส่ายหน้าดิก ว่ากันว่าแม้ต้องเข้าถ้ำเสือ ขอเพียงมีสติตั้งมั่นก็จะอยู่รอดปลอดภัย แต่สำหรับเขาที่มัวแต่ใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนเดินเข้าถ้ำเสือด้วยตัวเองนี่มันบ้าชัด ๆ
“ฉันอุตส่าห์ทำให้นายสบายใจแท้ ๆ”
คามินสกีบ่นกระปอดกระแปดเมื่อเห็นชายหนุ่มส่ายหน้า อึนฮันขยับไปนั่งตรงจุดที่ไกลจากเขามากที่สุดบนโซฟาทั้งที่ยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร ก่อนจะเอ่ยปากถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“ถะ…ถ้างั้นผมกลับบ้านได้ไหม…”
คามินสกีคล้ายจะนิ่งคิดไปสักพัก อึนฮันไม่รู้ว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่แต่ก็อยากให้อีกฝ่ายปล่อยเขากลับบ้านเสียที เมื่อเห็นว่าอึนฮันจ้องหน้าเขาอยู่คามินสกีก็ลุกขึ้น
“วันนี้ฉันจะให้ของขวัญนาย เอาไปอันหนึ่งแล้วกัน”
อึนฮันส่ายหน้า แค่กระเป๋าสีดำที่คามินสกีให้มาเพียงใบเดียวก็มากเกินพอแล้ว เขาไม่อยากรับอะไรจากคนคนนี้อีก เมื่ออึนฮันส่ายหน้า คามินสกีก็ย่างสามขุมเข้ามาแล้วใช้แขนทั้งสองกักตัวเขาไว้ทันที นัยน์ตาสีนิลของชายหนุ่มฉายแววอันตราย