เล่มที่ 1 ตอนที่ 2 ได้โปรดช่วยลูกของข้า
ส่วนสตรีนางนั้นเองก็ตกตะลึงกับใบหน้าของฮวาเหยียนเช่นกัน ผู้หญิงที่เพิ่งตกลงมาจากฟ้านั้นแต่งตัวแปลกประหลาด แต่กลับมีใบหน้าเหมือนกับนาง เพียงแต่ว่าหน้าผากนั้นมากไปด้วยความยียวนและมีเสน่ห์ แต่ก็แฝงไปด้วยความอวดดี
“เธอคือใคร? ที่นี่คือที่ไหน? ใครส่งเธอมา? หือ? ”
หญิงสาวยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด ฮวาเหยียนก็หรี่ตาคล้ายจิ้งจอกรอตระคุบเหยื่อ แล้วแอบยิ้มที่มุมปาก แววตาของเธอกลับเป็นเย็นชา พริบตาเดียวราวกับลมพัดผ่านก็โผล่มาอยู่ข้างหน้าหญิงสาว เธอใช้มือข้างนึงบีบคอหญิงสาวไว้แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ในฐานะหัวขโมยหมายเลขหนึ่งแห่งศตวรรษที่ยี่สิบสี่ ไม่มีอะไรที่เธอขโมยไม่ได้ เป็นธรรมดาที่เธอได้พบเจอการลอบสังหารมานับไม่ถ้วน น่าเสียดาย เธอไม่เพียงมีสมองอันเฉียบแหลม รวมถึงเทคนิคการขโมยอันเยี่ยมยุทธ์แต่ยังมีทักษะอันยอดเยี่ยม ดังนั้นตั้งแต่เข้าวงการมาจนถึงวันนี้ก็ร่วมสิบสี่ปีแล้ว นอกจากการเสียเปรียบในตอนแรกที่เพิ่งเข้าวงการ หลายปีมานี้พูดได้เลยว่ารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งและไม่เคยพ่ายแพ้ต่อให้แก่ผู้ใด [1]
เพียงแต่ ใครสามารถบอกเธอได้หรือไม่ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน?
ทำไมฟ้าผ่าสีทองเพียงครั้งหนึ่งถึงพาเธอมาโผล่ที่นี่ได้? ที่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะน้ำแข็ง ทำให้หนาวจนขนลุกขนพอง
“แค่ก… แค่ก แค่ก! ”
หญิงสาวไม่คาดคิดและคิดไม่ถึงด้วยว่าฮวาเหยียนจะลงมือ เนื่องจากตัวนางเองก็บาดเจ็บอยู่แล้ว ที่ยังอยู่ได้ก็อาศัยเพียงการยืนหยัดในความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เมื่อถูกฮวาเหยียนโจมตีครั้งนี้ ก็ทำให้ลูกที่อุ้มอยู่ในมือร่วงลงกับพื้น
“ลูก ลูก…! ”
“แงงง… แงๆๆ…! ”
หญิงสาวตกใจมากและเด็กที่อยู่ในผ้าอ้อมก็ตกใจเช่นเดียวกัน เด็กน้อยส่งเสียงร้องไห้แผดจ้าดังระงมไปทั่วหุบเขา
แค่ชั่วขณะที่ทารกน้อยกำลังจะตกพื้น จิตใต้สำนึกของฮวาเหยียนก็สั่งให้เธอยื่นมือออกไปรับเพื่อไม่ให้เด็กน้อยตกถึงพื้นและปล่อยมือจากหญิงสาวที่เธอบีบคอเอาไว้ เพราะหลังจากเข้าใกล้ตัวเธอ ฮวาเหยียนถึงเห็นว่าผู้หญิงคนนี้บาดเจ็บสาหัส เมื่อสำรวจด้วยตาแล้ว เธอคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้
“แค่ก! ”
ขณะที่ผู้หญิงคนนั้นตกใจมาก จนไม่สามารถทนความเจ็บปวดที่ไหลเวียนในร่างกายได้ เลือดไหลทะลักเต็มปาก ราวกับลูกพลัมสีแดงสดที่ผลิบานท่ามกลางหิมะขาวโพลน
“ไม่ต้องห่วงเรื่องของข้า…”
ฮวาเหยียนกะพริบตา ในใจเกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจอย่างไม่สามารถอาจอธิบายได้
เบื้องหน้ามีผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกับตนเอง และในอ้อมกอดนั้นก็อุ้มทารกน้อยไว้คนหนึ่ง เจ้าทารกก้อนกลมนุ่มนิ่ม ตัวเล็กราวกับหนูน้อยกระเบื้องเคลือบ ตอนนี้ใบหน้าของหนูน้อยแดงก่ำ อ้าปากน้อยๆ ร้องไห้ตะโกนเสียงดัง
ในใจของเธอรู้สึกแปลกประหลาดนิดหน่อย
“เธอใกล้ตายแล้ว”
ฮวาเหยียนเอ่ย ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่ได้มาเพื่อจับเธอ ดังนั้นเธอจึงคลายการป้องกันของตนเองลง
ทันใดนั้นข้อเท้าของเธอก็ถูกคว้าไว้ด้วยมือของผู้หญิงคนนั้น
ใบหน้าหญิงสาวขาวซีดไร้สีเลือด แววตาเลื่อนลอย พยายามอย่างยิ่งที่จะจะลุกขึ้นมา แต่การกระทำทั้งหมดนั้นล้วนเปล่าประโยชน์ ท่าทางหมอบคลานนั้น แสดงให้เห็นว่าอยากคุกเข่าให้ฮวาเหยียน เมื่อมองดูท่าทางที่เป็นเช่นนี้แล้ว ความเห็นอกเห็นใจของฮวาเหยียนที่ถูกกลืนหายไปหลายปีก็ถูกปลุกขึ้นมา เธอย่อตัวลงและประคองหญิงสาวเอาไว้ “เธอมีอะไรอยากจะสั่งเสียไหม? ”
แค่ก แค่ก แค่ก
พอเธอพูดจบ หญิงสาวคนนั้นก็กระอักไอออกมา
เมื่อได้ยินคำสุดท้ายที่ฮวาเหยียนกล่าวกับตน แววตาก็เปล่งประกายราวกับนางกำลังคว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้ “ได้โปรด ช่วยลูกของข้าด้วย ได้โปรดเถอะ… แค่กแค่ก”
ทุกคราที่พยายามพูดออกมาสักประโยค เลือดที่มุมปากก็จะทะลักไหลตาม เป็นเรื่องที่น่าเศร้าหาใดเปรียบ
ฮวาเหยียนเหลือบมองทารกในอ้อมกอดด้วยสีหน้าที่ยุ่งเหยิง “ฉันจะช่วยได้อย่างไร? เธอช่วยบอกฉันมาทีว่าเธอเป็นใคร? ที่นี่คือที่ไหน? พ่อของเด็กอยู่ที่ไหน? แล้วใครกันที่จะฆ่าเธอ? ”
แววตาของหญิงสาวเหม่อลอย ตัวสั่น นางนำเอาจี้หยกเปื้อนเลือดวางลงบนมือของฮวาเหยียน “ขอร้องละ พวกเราใบหน้าละม้ายคล้ายกัน จักต้องเป็นพรหมลิขิตแน่ ข้าขอให้ท่านช่วยข้าที ช่วยพาบุตรชายของข้าส่งให้ถึงมือบิดาของเขาที”
จี้หยกกลายเป็นสีแดง เมื่อวางลงบนฝ่ามือที่เย็นเฉียบ หลังจากที่มองอย่างละเอียดแล้วจะเห็นว่าด้านในมีรูปนกเฟิงหวงประทับอยู่ นี่เป็นสินค้าชั้นดี
หืม นี่มันใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องแบบนี้หรือ?
“ท่านเทพธิดา คนที่ไล่ล่าข้าจวนจะมาถึงแล้ว ท่านรีบหนีไปเสีย”
หญิงสาวร้องขออย่างร้อนรน ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความทุกข์ระทม นางคือคนที่เห็นกับตาว่าฮวาเหยียนร่วงหล่นลงมาจากฟ้า ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลใดก็ตาม นี่คงเป็นเพียงความหวังเดียวที่จะช่วยบุตรชายของตนได้
ในเวลานั้น พื้นพสุธาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เสียงกีบม้าดังเข้ามาในระยะประชิดได้ยินเสียงคนลอยมาบางเบา “ที่นี่มีรอยเลือด ตามรอยเลือดไปข้างหน้า”
ฮวาเหยียนหลับตาปี๋ สั่นเกร็งไปหมดทั้งตัว
ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือด นางจับฮวาเหยียนและพยายามใช้แรงยืนขึ้น “ท่านเทพธิดา แค่กๆ ท่านสวมเสื้อคลุมของข้า แล้วรีบไปจากที่นี่เสีย”
น้ำเสียงของนางรีบร้อน แววตาที่สิ้นหวังนั่นทำให้ฮวาเหยียนรู้ได้ทันทีว่า ผู้ที่ตามมานั้นมีฝีมือที่ร้ายกาจยิ่ง
ในวันที่หนาวเย็นและมีหิมะปกคลุมไปทั่ว หญิงสาวที่ใส่แค่ชุดกันลม เพียงครู่เดียวมือเท้าก็เย็นเฉียบจนเท้าไม่สามารถจะยืนต่อได้ ทั้งเด็กน้อยในอ้อมอก หลังจากร้องไห้อย่างหนักลมหายใจก็เริ่มอ่อนลง ริมฝีปากเป็นสีม่วง หนาวจนตัวแข็งแล้ว
เห็นได้ชัดว่าสตรีที่อยู่ตรงหน้าเธอกำลังจะตาย
ฮวาเหยียนตัดใจ สวมเสื้อคลุมของหญิงสาว ห่มตัวเธอและเด็กน้อยไว้ในนั้น
ตอนนี้ถึงได้เห็นว่า หน้าอกของผู้หญิงคนนั้นมีลูกศรปักอยู่ แทงทะลุจากด้านหน้าไปถึงหลัง หยาดโลหิตสีแดงย้อมด้านหน้าทั้งหมด
ลูกศรโบราณ ทั้งไม่ใช่บาดแผลกระสุนของยุคสมัยใหม่ รวมไปถึงเครื่องแต่งกายของสตรีตรงหน้า หรือว่าเธอถูกฟ้าผ่าจนย้อนกลับมายุคโบราณแล้ว?
“เดี๋ยว เธอรีบบอกมาก่อน ว่าที่นี่คือที่ไหน พ่อของเด็กคนนี้คือใคร? ฉันต้องส่งเขาไปคืนที่ไหน? ”
ฮวาเหยียนรีบเอ่ยถาม
แต่อาจเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นบาดเจ็บสาหัส ไม่อาจได้ยินเสียงของฮวาเหยียน เห็นเพียงสายตาอาลัยอาวรณ์ที่ทอดมองเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของตน
“ท่านเทพธิดา ความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของท่าน ข้าคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลมู่ นาม อันเหยียนจะขอชดใช้คืนให้ในชาติหน้า เจ้าของจี้หยกชิ้นนี้ก็คือบิดาของเด็กน้อยคนนี้ นับจากนี้ท่านคือมารดาของเด็กคนนี้ ท่านคือมู่อันเหยียน ธิดาของท่านอ๋องหลู่หนานแห่งอาณาจักรต้าโจว”
สิ้นคำ นางก็กระอักเลือกออกมาท่วมปาก รูม่านตาไม่ตอบสนองแต่กลับใช้กำลังเฮือกสุดท้ายลุกขึ้นมาแล้วเดินโซซัดโซเซล้มลุกคลุกคลานไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เสียงแห่งความโศกเศร้าดังก้องท่ามกลางหิมะ
“ข้ามู่อันเหยียน ชีวิตนี้รู้สึกละอายใจต่อบุตร ต่อบิดามารดา ท่านพ่อ ลูกขออภัย ลูกสาวคนนี้คงไม่สามารถทดแทนพระคุณของท่านได้ ความเมตตาที่ท่านฟูมฟักเลี้ยงดูมา คงต้องชดใช้คืนให้ในชาติหน้า”
น้ำตาไหลรินอาบทั่วใบหน้า กระอักเลือดเจียนตาย
ฮวาเหยียนทรุดลงกับพื้น รู้สึกเหมือนถูกคนต่อยเข้าที่หน้าอกอย่างจัง
อีกไม่นานหลังจากนั้นก็เกิดเรื่องที่ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าเดิม เมื่อผู้หญิงที่ชื่อมู่อันเหยียนมองลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความอ้อนวอน ความเชื่อใจและความเชื่อมั่น ครู่ต่อมาหล่อนควักเอายาลูกกลอนเม็ดหนึ่งออกมาจากหน้าอก กรอกมันเข้าไปในปาก หลังจากนั้นในสายตาที่เบิกโพลงของฮวาเหยียน ร่างของหญิงสาวพลันสลายหายไปและเหลือเอาไว้เพียงกองเลือด
เป็นเพียงชั่วพริบตาเดียว รวดเร็วเสียจนฮวาเหยียนไม่สามารถหยุดยั้งเอาไว้ได้
เม็ดยา
ผู้หญิงคนนี้กลืนยานี้ลงไปต่อหน้าเธอ เหลือทิ้งไว้เพียงกองเลือด ช่างเป็นคนเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ใช้วิธีโหดร้ายที่สุดในการขจัดร่องรอยการดำรงอยู่ของตนเอง
เป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน?
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นคนตาย ถึงขั้นฆ่าคนก็เคยทำมาแล้ว แต่กลับไม่เคยเห็นการฆ่าตัวตายที่น่าเวทนาเช่นนี้มาก่อน ช่างเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก
ฮวาเหยียนเนื้อตัวแข็งทื่อไปหมด แม้แต่เด็กน้อยในอ้อมกอดก็กลับหนักอึ้งขึ้นมา
ซ้ำยังมีคำสั่งเสียสุดท้ายของสตรีนางนั้นที่แล่นเข้ามาในหู
อาณาจักรต้าโจว ตระกูลมู่ มู่อันเหยียน ชื่อของหล่อนต่างจากเธอแค่ตัวอักษรเดียว ดังนั้นที่นี่จริงๆ แล้วคือยุคโบราณใช่หรือไม่? เธอพยายามค้นหาข้อมูลต่างๆ ในสมอง ยุคใดที่มีอาณาจักรต้าโจวกัน?
หมายเหตุ : ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ฮวาเหยียนยอมรับบทบาทของมู่อันเหยียน ทางทีมงานจะขอเปลี่ยนสรรพนามที่ฮวาเหยียนใช้แทนตัวเองจาก ‘เธอ’ เป็น ‘นาง’ เพื่อให้เข้ากับบริบทของนิยายค่ะ
เชิงอรรถ
[1] 百战百胜 รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง หมายถึง ชนะทุกครั้งแบบไร้พ่าย
Chapters
Comments
- เล่มที่ 1 ตอนที่ 2 ได้โปรดช่วยลูกของข้า มกราคม 17, 2024
- เล่มที่ 1 ตอนที่ 1 ฟ้าลงทัณฑ์ มกราคม 16, 2024
MANGA DISCUSSION