ชีวิตชิวชิวในต่างโลกกับอดีตผู้สมัครเป็นผู้กล้าที่หลังจากเลเวล 2 ก็กลายเป็นโกง - ตอนที่ 5
สมาคมนักผจญภัยเป็นอาคารขนาดใหญ่สองชั้น
ชั้น 1 – เป็นแผนกต้อนรับนักผจญภัย โรงอาหาร และร้านขายอุปกรณ์
ชั้น 2 – เป็นส่วนของห้องพัก
สำหรับตอนนี้การลงทะเบียนนักผจญภัยถือเป็นสิ่งจำเป็น อาร์ทโชว์จึงไปที่แผนกต้อนรับก่อน
“ สวัสดีคะ ต้องการจะลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยเหรอคะ? หรือจะมารับงานคะ?”
เอลฟ์สาวผมสีแดงทักทาย
“ผมมารับงานครับ แต่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยจะรับงานได้มั้ยครับ”
“ถ้าเป็นงานที่ระดับต่ำๆ ก็ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนค่ะ แต่คุณอย่าประมาทดีกว่านะคะ”
เอลฟ์สาวผมแดงพูดด้วยรอยยิ้มหวาน
จากคำอธิบายของเธอ
ปกติต้องลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยก่อน เพื่อประโยชน์ของตัวนักผจญภัย เพราะเมื่อ Rank เพิ่มขึ้นก็จะมีประโยชน์ในการรับงานและยังเป็นไปได้ที่ Rank จะเพิ่มเพราะรับงานอีก
นี่เป็นงานสำหรับคนไร้ Rank ค่ะ เธอพูดแบบติดตลก
เพราะความสำเร็จของงานคาดหวังยากมาก แต่ก็ต่อว่าไม่ได้เพราะไม่ตายตายจึงต้องละทิ้งงานกลางคัน ดังนั้นถึงจะทำงานเกือบจะสำเร็จแต่ถ้าสำเร็จจนสมบูรณ์ก็จะไม่ได้รับเงินเลย
แต่หากทำงานสำเร็จก็จะได้เงินตอบแทนมหาศาลตามที่ตกลงกันไว้
แน่นอนว่ามันเป็นงานที่ไม่จำเป็นต้องใช้ Rank ก็สามารถรับแต่ แต่ถ้าคุณจะรับงานแบบนั้น จะมีกี่ชีวิตก็ไม่พอ
หลังจากอาร์ทโชว์ลงทะเบียนการผจญภัยเสร็จก็ได้รับสร้อยคอที่มีแผ่นป้ายสีเงินมา
“แผ่นป้ายนี้จะบันทึกข้อมูลส่วนตัวของคุณไว้ ซึ่งจะสามารถดูได้ด้วยเวทมนตร์ เมื่อยอมรับหรือเปลี่ยนงานก็จะบันทึกไว้ด้วยค่ะ แล้วเมื่อทำงานสำเร็จเราก็จะบันทึกลงในป้ายชื่อให้ค่ะ”
เธออธิบายแบบง่ายๆ ให้อาร์ทโชว์เข้าใจถึงความสำคัญของสร้อยคอ
“ถ้าเช่นนั้นค่าลงทะเบียนทั้งหมด 1 เหรียญเงินค่ะ”
แล้วเขาก็ยื่นเงินให้พนักงงานกิลด์ตามที่เธอบอก
ตอนที่กำลังเขาจะเดินไปที่บอร์ดรับงาน ก็ได้ยินเรื่องจากเอลฟ์สาวผมแดง เขาจึงหยุดฟังก่อน
มีสาวน้อยคนหนึ่งกำลังยืนเพื่อขอร้องนักผจญภัยอยู่ จากการแอบฟังนั้นเหมือนว่า
เธอจะมองหานักผจญภัยที่จะคุ้มกันให้เธอระหว่างเดินทางไปป่าเดลาเบซ่า
แต่เพราะภายในป่าเดลาเบซ่านั้นมีข่าวลือว่าเป็นพื้นที่อาศัยของหนึ่งในสี่กองทัพเทพสวรรค์ของจอมมาร นักผจญภัยทุกคนจึงตอบปฏิเสธ เธอเลยเพิ่มข้อเสนอว่าจะจ่ายอย่างน้อย 5 เหรียญทองแดงต่อหนึ่งคน แต่ก็ยังไม่มีใครฟังเธอเลยสักคน
หากจะพูดถึงป่าเดลาเบซ่า มันก็เป็นป่าที่เขาอยู่จนถึงเมื่อกี้นี้เอง จะไปก็ใช้เวทมนตร์ไปได้สบายมาก …
“ถ้ายังไงให้ผมพาคุณไปที่นั่นดีมั้ยครับ”
เขาทักหญิงสาวไป แต่เหมือนเธอคงไม่คาดคิดว่าจะมีใครเรียก เลยไม่หันมา
ขณะที่เธอกำลังหันไปหาอาร์ทโชว์ ก็กระโดดด้วยความประหลาดใจ
“อะ เอ่อ รางวัลไม่ได้มากมายนัก.. คุณจะตกลงรับงานจริงๆ เหรอคะ?”
“ครับ ไปเดี๋ยวนี้เลยก็ยังได้”
เพราะคำพูดของอาร์ทโชว์ ทำให้นักผจญภัยที่อยู่รอบๆ เอะอะกันใหญ่
“พี่ชาย เงินรางวัลมันไม่ได้มากมายเลยนะ แถมยังต้องใช้เวลาเดินทางตั้ง 20 วัน หรือพี่ชายจะเข้าใกล้เธอเพราะหวังร่างกายเธอกันล่ะ?”
นักผจญภัยสาวที่สวมชุดอัศวินมองมาทางผมด้วยสีหน้ารังเกียจอย่างชัดเจน
ด้านหลังของเธอมีเด็กผู้หญิงคนนึงอยู่ เดาว่าคงสมาชิกในปาร์ตี้เดียวกัน
อันที่จริงเพราะไปแบบชายหญิง 2 ต่อ 2 จึงช่วยไม่ได้ที่จะมองแบบนั้น
อาร์ทโชว์จึงตอบไปว่า “ถ้าคุณไม่ว่าอะไรจะไปด้วยกันมั้ยครับ จะรับเงินรางวัลไว้หมดเลยผมก็ไม่ว่าหรอกนะ” หลังได้ยินคำพูดนั้น เธอก็กลับไปเพื่อนสนิทของเธอที่เป็นอัศวินหญิงเพื่อปรึกษากัน
จากนั้นเธอกลับมาด้วยสภาพที่นำสัมภาระอาหาร และที่พักมาด้วย แต่ใบหน้าดูหดหู่ผิดกับเมื่อครู่ สงสัยเงินจะกระเป๋าคงขาดแคลนล่ะนะ
“หากจำเป็นต้องใช้เงินก็รับไว้เถอะครับ … เพราะผมไม่จำเป็นต้องใช้หรอก” เพราะคำพูดของอาร์ทโชว์ทำให้อัศวินหญิงสีหน้ากังวลมากขึ้น แต่เมื่ออาร์ทโชว์เอาเหรียญทองออกมาให้ดูจากกระเป๋า พวกเธอก็เหมือนจะยอมรับกันได้
หลังจากนั้นพวกเขาก็ไปลงทะเบียนรับงานบนป้ายชื่อจากแผนกต้อนรับ
“เอาล่ะ ทุกคนช่วยอยู่ข้างๆ ผมเอาไว้นะครับ”
เพราะคำพูดน่าสงสัยของอาร์ทโชว์ดูน่าเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง แต่พวกเธอก็มาอยู่รอบๆ ตัวเขา แล้วจากนั้น
“เอาล่ะ!”
จากนั้นพวกเขาก็หายตัวไปจากสมาคมนักผจญภัย
“… นี่มันน่าตกใจจริงๆ …”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่นี่คือป่าเดลาเบซ่าแน่ๆ อัศวินหญิงแสดงท่าทีตกใจมากออกมา
“ท่านอาร์ทโชว์ ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะที่ฉันสงสัยคุณจนถึงเมื่อกี้ ขอโทษอย่างสุดซึ้งเลยค่ะ!”
เธอก้มหน้าลงขณะพูด
“ไม่คิดเลยว่าคุณจะใช้เวทย์เทเลพอร์ทจากระยะทางขนาดนั้นได้ … คุณอาร์ทโชว์นี่คุณเป็นนักเวทย์จากราชสำนักของปราสาทเหรอคะ!?”
สาวน้อยนักเวทย์ถามด้วยสีหน้าแบบเหงื่อตก
แต่เขารู้สึกว่าเวทย์ที่เขาใช้ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่เขากลับตกใจที่เธอพูดมากกว่าซะอีก
เพราะนักเวทย์น่ะมีจุดเด่นที่เป็นสาวเงียบไงล่ะ!
หลังเปิดตัวเป็นนักเวทย์ระดับโลกจอมทึ่มแล้วนั้น ทุกคนก็ดูผ่อนคลายลงแล้วเชื่อใจเขา
ในขณะที่ผู้ว่าจ้างสาวนั้นสับสนไปหมด ขณะมองไปรอบๆ ส่วนต่างๆ ของป่า
“หือ… มีอะไรเหรอ?”
เพราะคำพูดของอาร์ทโชว์ ทำให้เธอยิ่งลนกว่าเดิม
“กลิ่นอาย.. ปีศาจในป่า.. มันหายไปหมด.. ทำไมล่ะ”
“อา ถ้าถามว่าทำไมก็เพราะผมเพิ่งชำระล้างมันไปไงล่ะ” ในขณะที่อาร์ทโชว์กำลังจะบอก ดวงตาเขาก็หยุดไปที่หน้าต่างที่กระพริบแสดงขึ้นมา
[ คำเตือน : การบอกเรื่องเวทย์ชำระล้างกับเผ่าปีศาจถือเป็นเรื่องอันตราย ]
เผ่าปีศาจ? ไม่มีของแบบนั้นอยู่ที่นี่สักหน่อย แต่ว่า…
พออาร์ทโชว์คิดแบบนั้น ก็มีอีกหน้าต่างแสดงขึ้นมา
[ ผู้ว่าจ้างสาว : เผ่าปีศาจ [เผ่าหมาป่าเขี้ยว] ที่เปลี่ยนร่างมาเป็นมนุษย์ ]
เมื่อจอแสดงขึ้นมหัวหัวใจของอาร์ทโชว์ก็เต้นเร็วขึ้น