ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? - ตอนที่ 296 พวกองครักษ์ที่ได้รับความนิยม
ตอนที่ 296 พวกองครักษ์ที่ได้รับความนิยม
ตอนที่ 296 พวกองครักษ์ที่ได้รับความนิยม
นายอำเภอเฉินถูกถอดออกจากตำแหน่ง คดีที่เขาตัดสินพลาดในปีเก่าๆ เหล่านั้นถูกนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง และผู้คนที่ถูกใส่ร้ายก็มาตีกลองร้องทุกข์ ล้างมลทินใหม่อีกครั้ง
ชีวิตของผู้คนในอำเภอชิงผิงเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น และความเคารพของพวกชาวบ้านในหมู่บ้านหูซีที่มีต่อพวกเฉียวเยี่ยนก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย
ในอดีตเป็นเพราะพวกเขาคือนายจ้างซื้อที่ดิน ชาวบ้านจึงเคารพนับถือ ทว่าตอนนี้กลับเป็นเพราะพวกเขาได้ช่วยเหลือคนในหมู่บ้านพวกเขาครั้งใหญ่
เฉียวเยี่ยนยิ่งเป็นมิตรกับชาวบ้านมากขึ้น และเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะส่งผักดองหรือของอร่อยที่ตัวเองทำมาให้นางบ้าง
วันๆ ทำงานอยู่ในไร่นา ล่องเรือจับปลา หรือไม่ก็คุยกับเหล่าท่านป้าเหล่าพี่สาวในหมู่บ้าน ชีวิตราบเรียบสงบสุขยิ่ง
พริบตาเดียวก็ผ่านไปหนึ่งเดือน กล้าข้าวที่หว่านไว้เริ่มย้ายไปปลูกได้แล้ว
ในช่วงฤดูปลูกข้าว ทุกครัวเรือนต่างวุ่นวายขึ้นมา ภาระในการทำอาหารส่งอาหารในบ้านก็มอบให้เป็นหน้าที่เด็กโต ในขณะที่ผู้ใหญ่ทำงานปลูกข้าวในนาที่เต็มไปด้วยโคลนตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
ครอบครัวของเฉียวเยี่ยนก็เป็นเช่นนั้น ฮุ่ยเซียงรับหน้าที่ดูแลเด็กๆ ทำอาหาร ในขณะที่เฉียวเยี่ยนพามู่ฉินเจินกับเหล่าองครักษ์ไปช่วยงานที่ทุ่งนา
พวกองครักษ์ล้วนเป็นบุรุษรูปร่างใหญ่แข็งแรง แม้จะไม่เคยปลูกข้าวมาก่อน ทว่าหลังเรียนรู้จากพวกชาวนาแล้ว พวกเขาก็ลงมืออย่างคล่องแคล่วว่องไว
เมื่อก่อนตอนที่เฉียวเยี่ยนเรียนระดับปริญญาโท ก็มักจะลงทุ่งนาบ่อยๆ ดังนั้นจึงปักดำกล้าข้าวได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ จนพวกพี่สาวที่อยู่รอบๆ ต่างอุทานออกมาติดๆ กัน
ไม่นึกเลยว่าสตรีตัวเล็กที่ดูขาวเกลี้ยงเกลาคนนี้ พอทำงานขึ้นมากลับคล่องแคล่วว่องไวเกินความคาดหมาย
ท่านอ๋องก็ลุ่มหลงสนใจไปกับการดำนา พูดตรงๆ คือลุ่มหลงในการเล่นโคลน
หลังม้วนกางเกงขึ้นสูง พอเหยียบเข้าไปในทุ่งนาก็จะรู้สึกเย็นสบาย ในฤดูร้อนอันร้อนอบอ้าว การได้ยืนแช่น้ำอยู่ในนาข้าวดูจะสบายเป็นพิเศษ
นอกจากนี้เขายังสนใจกระบวนการเติบโตของเมล็ดข้าวจนกลายมาเป็นข้าวที่กิน เขาเกิดอยู่ในวัง ตั้งแต่เด็กไม่เคยทำงานเกษตร กระทั่งงานเกษตรพวกนั้นก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่หลังจากได้รู้จักกับเฉียวเยี่ยน ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปทีละน้อย รู้ว่าผัก ผลไม้ปลูกอย่างไร และได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตของคนชั้นรากหญ้าจากในนั้นด้วย
ในอนาคตไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องแบกรับภาระแทนชายชรา สิ่งเหล่านี้สำหรับเขา จึงเป็นประสบการณ์อันล้ำค่ามาก
มีเพียงการได้สัมผัสชีวิตของผู้คนเช่นนี้ ในตอนที่จะทำการตัดสินใจบางอย่าง เขาจึงจะสามารถดำเนินการต่อจากจุดยืนของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น
ท่านอ๋องเป็นคนเรียนรู้ได้เร็ว หลังจากเฉียวเยี่ยนสอนเขาสักพักหนึ่ง เขาก็ดำนาได้อย่างชำนาญในทันที แบกตะกร้าข้าวไว้บนหลังใบหนึ่ง ม้วนขากางเกงขึ้นสูง พวกชาวบ้านที่ทำงานกันอย่างขยันหมั่นเพียร เห็นเขาลงมือทำแล้วก็ทำเอาตาค้างกันเลยทีเดียว
บรรดาสาวน้อยใหญ่ที่มาส่งอาหารบนสันคันนาอดหน้าแดงไม่ได้เมื่อเห็นเขา เฉียวเยี่ยนถอนหายใจอย่างจนใจ ผู้ชายของนางมีเสน่ห์มากเกินไป ต้องเก็บซ่อนไว้เสียแล้ว
แต่แม้จะมีคนเห็นเขาแล้วหน้าแดง กลับไม่มีใครกล้าเข้ามายั่วยุเลย เพราะท่านอ๋องผู้นี้เป็นคนงานเย็นชาดุจภูเขาน้ำแข็ง หญิงคนอื่นยังไม่ทันเข้าไปถึงระยะสามฉือ พอได้รับสายตาเย็นชาของเขาไปก็ตกใจถอยร่นไปสามฉือทันที
ผู้ชาย หาใช่เอามาไว้มอง ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ใครจะคอยเอาแต่เฝ้าขนมหน้าตายตกลงมาจากฟ้าทุกวัน แม้ขนมหน้าตายนี้จะดูดี แต่ได้แค่มองเอามาใช้ประโยชน์ไม่ได้
ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว พวกองครักษ์ผู้เข้มแข็งฝีมือโดดเด่นจึงได้รับความนิยมชมชอบจากสตรีน้อยใหญ่ในหมู่บ้านมากกว่า
พวกสาวน้อยใหญ่กำลังมองดูสามี ส่วนพวกป้าๆ กำลังดูลูกเขย ยิ่งดูก็ยิ่งชอบจริงๆ
สาวใหญ่บางคนถึงขั้นหยั่งเชิงถามอย่างอ้อมค้อมว่าองครักษ์เหล่านั้นมีนางในดวงใจหรือไม่ในตอนที่คุยเล่นกับเฉียวเยี่ยน
เฉียวเยี่ยนมีความสุขมากที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น หากมีองครักษ์สักสองสามคนติดตามนางออกมาไกลบ้าน และสามารถหาภรรยากลับไปได้ นั่นคงเป็นเรื่องที่ดีมาก
นางบอกกับพวกพี่ป้าน้าอาทันทีว่าพวกชายหนุ่มในครอบครัวนาง นอกจากเฟิงหยางที่มีคู่รักแล้ว กับเกาจัวหยวนที่มีหญิงที่แอบชอบแล้ว คนที่เหลือล้วนโสดสนิท
สิ้นเสียง พวกพี่ป้าน้าอาก็มีท่าทางเหมือนหมาป่าเหมือนเสือ เล็งเป้าหมายไว้และเริ่มสืบหาคู่รักให้ลูกสาวในบ้าน
เฉียวเยี่ยนยังอธิบายสถานการณ์ให้พวกองครักษ์ฟังอย่างชัดเจน พวกองครักษ์ได้ฟังก็หน้าแดงเรื่อ แต่ในใจกลับโห่ร้องอย่างปิติยินดี
นี่วสันตฤดูมาเยือนพวกเขาแล้วหรือ?
ด้วยเหตุนี้ นอกจากเกาจัวหยวนและเฟิงหยางแล้ว หลายวันมานี้องครักษ์ที่เหลือต่างยุ่งมาก
วันนี้ถูกท่านป้าบ้านนี้เรียกไปช่วยดำนา และชิมอาหารฝีมือลูกสาวเขาด้วย พรุ่งนี้ก็ถูกท่านป้าอีกคนเรียกไปช่วยแบกของ การแบกครั้งนี้คือแบกตรงเข้าบ้านเลย และถูกคนทั้งครอบครัวน้อยใหญ่ตรวจดูอย่างละเอียด
พวกองครักษ์เหมือนคนโง่ก็ไม่ปาน มีความสุขจนหลงทางทำอะไรไม่ถูก
เหล่าแม่นางแห่งหมู่บ้านที่ลุ่มเจียงหนานช่างดูอ่อนโยน ยามพูดก็งดงามนุ่มนวลเป็นพิเศษ ทำให้พวกเขาหลงใหลเคลิบเคลิ้ม เวลาเพียงไม่กี่วัน พวกองครักษ์ก็มีคู่รักอบอุ่นข้างกายแล้ว
ช่วงระยะเวลาเพียงสั้นๆ พวกองครักษ์ก็สละโสด เหลือเพียงเกาจัวหยวนที่ยังอยู่บนเส้นทางไล่จีบภรรยาอันยาวนาน
เมื่อถึงตอนบ่าย เจ้านายทั้งสองเดินจูงมือกันเล่น พวกพี่น้องคนอื่นๆ ไปเจอกับคู่รักตัวเอง ส่วนเฟิงหยางกับฮุ่ยเซียงก็เลียนแบบตามเจ้านาย บางครั้งก็แสดงความรักต่อหน้าคนอื่น
เกาจัวหยวนทำได้เพียงวุ่นอยู่ท่ามกลางอากาศเพียงลำพัง เขาคิดถึงหลันหนิงที่อยู่เมืองหลวง ในใจก็อยากร้องไห้จนกลายเป็นหมา
เมื่อใดความรักอันหวานชื่นจะมาถึงเขาเสียที!
ส่วนหลันหนิงที่ถูกคนคิดถึง ได้ควบม้าเร็วอยู่ระหว่างทางมาหางโจวแล้ว
หลังจากซ้อมมู่เจ๋อจิ่นจนแทบไม่เหลือชีวิตและจุดไฟเผาลานป่าไผ่ ตอนนี้ในเมืองหลวงเต็มไปด้วยใบประกาศจับตัวนาง ทว่าพวกเขาไม่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของนาง นางพักอยู่ในตำหนักอ๋องซู่ดื่มเหล้ากินเนื้อไปวันๆ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาก
ทว่าสงบสุขมาได้ไม่กี่วัน นางก็คิดถึงเฉียวเยี่ยน และยังคิดถึงเด็กน้อยน่ารักนุ่มนิ่ม แล้วก็ฮุ่ยเซียงน้อยผู้โง่ทึ่มแล้ว
ส่วนบุรุษไร้ตัวตนบางคน ด้วยเห็นแก่ที่เขามอบของให้นาง ก็แบ่งความรู้สึกให้เขาไปนิดหนึ่ง
ไร่นามากมายนับไม่ถ้วนถูกปลูกไปเรื่อยๆ ในอีกหลายวัน หลังจากพวกชาวบ้านได้รับกล้าข้าวแล้ว ต่างก็เชื่อความคิดของเฉียวเยี่ยนเล็กน้อย
กล้าข้าวทั้งหมดเติบโตได้ที่ในเวลาเดียวกัน แต่ต้นกล้าที่เฉียวเยี่ยนจัดหาให้นั้นสูงกว่าต้นเดิมมาก ใบกว้างใหญ่ ลำต้นหนา รากแข็งแรง ข้าวดังกล่าว จะต้องมีปริมาณเมล็ดข้าวสูงกว่าที่พวกเขาเคยปลูกมาก่อนแน่
ชาวบ้านบางคนที่ไม่ได้ขายที่ดินก็เสียใจเล็กน้อยหลังจากได้เห็นต้นกล้า หากรู้เร็วกว่านี้คงขายที่นาไปหมดแล้ว ได้เงินจากการขายที่นามา ก็นำไปสร้างบ้านใหม่ พอข้าวเก็บเกี่ยวได้แล้ว พวกเขาก็ยังเอาเสบียงไปได้
แต่เสียใจไปก็เปล่าประโยชน์ รอข้าวฤดูกาลนี้จบลงก่อน แล้วพวกเขาค่อยดูว่านายหญิงเฉียวยินดีจะรับหรือไม่
ตั้งแต่โจวผิงฟานได้กินอาหารฝีมือเฉียวเยี่ยนครังนั้น ก็มักจะมากินดื่มด้วยบ่อยๆ
ทุกครั้งก็จะนำสิ่งแปลกใหม่มาเสมอ บางครั้งเป็นวัตถุดิบชั้นดี บางครั้งก็ซื้อของเล่นมาให้พวกเด็กๆ
เขาที่อายุสามสิบไม่มีภรรยาไม่มีลูก เห็นเด็กๆ ก็มีดวงตาแวววาว แทบอยากกล่อมพวกเขากลับไปบ้าน ปล่อยให้มู่ฉินเจินร้องไห้ไป!
พวกเด็กๆ ชอบท่านลุงคนนี้มาก พาเขาไปเล่นรอบตำบลอย่างสนุกสนาน ทุกครั้งที่กลับมามักจะซื้อของถุงน้อยถุงใหญ่ติดกลับมาด้วย
ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมากจนมู่ฉินเจินผู้เป็นพ่อยังอิจฉา ทว่าโชคดีเขายังมีภรรยาคอยปลอบโยน โจวผิงฟานเป็นแค่คนโสด เมื่อคิดเช่นนี้เขาก็รู้สึกภูมิใจเล็กน้อย
หากโจวผิงฟานรู้ความคิดเขา คงมีความกล้ากล่าวฉอดๆ ใส่เขาแน่
ข้าขอบคุณท่านจริงๆ ! ท่านเป็นพี่น้องที่ดีของข้าจริงๆ !
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สงสารเกาจัวหยวน ถูกรายล้อมไปด้วยคู่รัก แถมคนที่หมายปองก็เย็นชาจนเหนื่อยใจ
ไหหม่า(海馬)