ฉันไปรบตามแผนการของน้องสาวจนได้เป็นพระราชาซะแล้ว เจ้าหญิงที่ถูกฉันจับบังคับทำเมียมองฉันด้วยความเคียดแค้น ฉันจะทำไงดีล่ะทีนี้? - ตอนที่ 8 น้องสาว พี่จัดหนักเจ้าหญิงไปซะแล้ว
- Home
- ฉันไปรบตามแผนการของน้องสาวจนได้เป็นพระราชาซะแล้ว เจ้าหญิงที่ถูกฉันจับบังคับทำเมียมองฉันด้วยความเคียดแค้น ฉันจะทำไงดีล่ะทีนี้?
- ตอนที่ 8 น้องสาว พี่จัดหนักเจ้าหญิงไปซะแล้ว
“น้องสาว ฉันควรทำยังไงดี เหมือนเจ้าหญิงจะรังเกียจฉันมากเลย…”
แวนซึ่งคิดว่าภารกิจล้มเหลว (หรืออาจจะไม่?) ในข้อเสนอแต่งงานของเขา ได้กลับไปที่ห้องแล้วให้น้องสาวของเขาปลอบประโลม
“แม้แต่สาวใช้ก็ยังโกรธฉัน ฉันต้องถูกเกลียดมากแน่นอน ฉันจะทำอย่างไรดี?”
“โถ โถ…ท่านพี่ที่น่าสงสารของน้อง โปรดอย่าเศร้าใจไปเลย”
โมอากอดแวนที่ร้องไห้ฟูมฟายไว้ที่หน้าอกอึ๋มของเธอ แล้วลูบหัวของเขาเบาๆ อย่างมีความสุข
“ไม่ต้องกังวลใจไป เจ้าหญิงไม่ได้เกลียดท่านพี่ เพียงแต่ตกใจกับข้อเสนอกระทันหันเท่านั้นเอง”
“จ….จริงเหรอ เธอไม่ได้เกลียดฉันแน่เหรอ?”
“ใช่แล้ว ไม่ต้องวิตกอะไร”
โมอาพูดอย่างหนักแน่นไม่ลังเล
เธอปลอบประโลมความเศร้าโศกของพี่ชายที่ประสบปัญหาด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น
“เจ้าหญิงเมดิน่าทรงมีสติปัญญาฉลาดหลักแหลมและมีความรับผิดชอบสูง ในไม่ช้านางจะตระหนักได้เองว่า วิธีเดียวที่จะกอบกู้ประเทศนี้ได้ดีที่สุดคือการเป็นภรรยาของท่านพี่”
เมดิน่ามีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น
คือ เป็นมเหสีของแวนเพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่
หรือ ยอมตายอย่างมีเกียรติ ในฐานะสมาชิกคนสุดท้ายของราชวงศ์ไอดรัน
“นางจะไม่ละทิ้งหน้าที่ด้วยความตาย นางฉลาดพอที่จะเลือกหนทางที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้ติดตาม”
การกระทำของคนโง่ย่อมคาดเดาไม่ได้ และแน่นอนคนฉลาดมักเลือกเส้นทางที่ถูกต้อง ทำให้คาดเดาได้ง่าย
“ถ้าเป็นไปตามที่คาดไว้ นางอาจจะเรียกท่านพี่ไปพบที่ห้องของนางในคืนนี้ และใช้เสน่ห์ทำให้ท่านพี่หลงไหลและชักใยให้เป็นหุ่นเชิดของนาง”
เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีและอำนาจของราชวงศ์กลับคืน เมดิน่าจะต้องบงการแวนจากเงามืด
หากเป็นเจ้าหญิงที่ยึดมั่นในอุดมคติของตน นางจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์
ขณะที่กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ก็มีเสียงเคาะประตูห้องจากด้านนอก
“ขออภัย ท่านอาเรงส์ มีเรื่องจะขอเข้าพบได้หรือไม่?”
“เข้ามา….”
แวนรีบปาดน้ำตา ยืดตัวตรงยืนอย่างสง่าผ่าเผย
ประตูห้องเปิดออก มีทหารเดินเข้ามาในห้อง
“มีจดหมายจากอดีตเจ้าหญิงเมดิน่าขอให้ส่งถึงท่าน”
“อ่า ขอบใจมาก”
“ถ้าเช่นนั้น ข้าน้อยขอลา”
ทหารยื่นจดหมายให้แวนแล้วออกจากห้องไป
เมื่อฟังเสียงทหารเดินจากไปไกลจนเงียบลงแล้ว ดวงตาของแวนก็เต็มไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง
“น…น้องสาว นี่คือจดหมายจากเจ้าหญิง ฉันจะทำยังไงดี?”
“นางตัดสินใจเร็วกว่าที่คาดไว้ ขอดูจดหมายหน่อยสิ”
โมอารับซองจดหมายจากพี่ชาย เปิดผนึกและอ่านข้อความที่อยู่ด้านใน แล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“ดูเหมือนผีเสื้อจะบินมาติดกับใยแมงมุมซะแล้ว”
“เห?”
“ท่านพี่ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างแล้วล่ะ”
โมอายิ้มกว้างในขณะที่พูดกับพี่ชายของเธอจนไม่แน่ใจว่าเป็นรอยยิ้มของนางฟ้าหรือปิศาจ
“เรามาดื่มฉลองกันหน่อยไหม เอาให้เต็มที่ให้เหมือนลงไปอาบสุราเลย”
———————–
“เฮ้อ…..”
เมดิน่านั่งอยู่บนเตียงในห้องนอนแล้วถอนหายใจยาว
กลางวันแวนขอเธอแต่งงาน แล้วเธอก็ส่งจดหมายให้เขาในวันเดียวกัน
จดหมายขอให้เขามาที่ห้องนอนของเธอตอนกลางคืนเพื่อฟังคำตอบรับข้อเสนอแต่งงานจากเธอ
“คืนนี้ฉันจะตกเป็นของเขา ชายผู้ทำลายล้างราชวงศ์”
“เฮ้อ…”
เมื่อคิดถึงการถูกศัตรูที่สังหารครอบครัวโอบกอด เธอก็ถอนหายใจออกมา
เมดิน่าไม่ได้ไม่ชอบแวนตั้งแต่แรก
แม้ว่าเขาจะมาจากตระกูลขุนนางระดับล่าง แต่ก็ประสบความสำเร็จอย่างมีเกียรติในฐานะอัศวิน และไม่เคยโอ้อวดหยิ่งผยองแต่อย่างใด
เขาปกป้องประชาชน ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน แม้จะโดนดูถูกจากขุนนางระดับสูงก็ตาม
เธอยังรู้สึกให้ความเคารพต่ออัศวินผู้นี้เสียด้วยซ้ำ
เมดิน่าต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ถูกราชวงศ์กดขี่มาโดยตลอดจึงมีเป้าหมายเดียวกัน
(ถึงจะมีแนวคิดคล้ายกัน แต่ยังไงซะฉันกับเขาก็ต่างกัน)
ความแตกต่างของแวนกับเมดิน่า คือ เธอต้องการทำให้ประชาชนมีความสุขในกรอบของราชอาณาจักรไอดรัน
เธอมุ่งหวังที่จะลดทอนอำนาจของราชวงศ์และขุนนางชนชั้นสูงเพื่อปฏิรูปรัฐบาลใหม่
ถึงเธอจะไม่สามารถให้ความเคารพพวกเขาได้ แต่เธอก็รักพ่อแม่และพี่ชายของเธอในฐานะสมาชิกครอบครัว
เธอไม่เคยคิดจะทำลายอาณาจักรไอดรันถึงแม้มันจะเป็นคุณประโยชน์ต่อประชาชนก็ตาม
(แต่ชายคนนั้นต่างออกไป เขาก่อกบฏด้วยความเชื่อที่ว่า อาณาจักรไอดรันไม่ควรดำรงอยู่ต่อไป และพระราชาจะต้องสวรรคต)
มันอาจเป็นแนวคิดที่ถูกต้อง หากฉันไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ ก็อาจทำแบบเดียวกัน
เมดิน่าตั้งใจปฏิรูปประเทศ โดยไม่คิดจะสำเร็จโทษราชวงศ์
เธอเคยคิดจะสร้างบ้านอันสวยงามไว้ที่ชนบทเพื่อกักบริเวณครอบครัวให้ใช้อาศัยอยู่ได้อย่างสุขสบาย
แต่วิธีการที่ผ่อนปรนเกินไปมันต้องใช้เวลายาวนาน
กว่าจะบรรลุเป้าหมายการปฏิรูปโดยคำนึงถึงชีวิตคนในครอบครัว อาจต้องใช้เวลาถึงสามปี
“เจ้าหญิงเมดิน่า กว่าท่านจะสร้างประเทศขึ้นมาใหม่ได้สำเร็จ จะมีอีกกี่คนที่ต้องสังเวยชีวิต?”
(เขาก่อกบฏเพื่อช่วยเหลือคนที่อาจต้องสูญเสียชีวิตในช่วงเวลาสามปีนั้น เขาคงคิดถูกแล้ว เขาควรเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง…)
“ต….แต่ฉันรักครอบครัวของฉัน”
เธอรำพันด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและหลั่งน้ำตา
เธอรักครอบครัวของเธอ
พ่อ แม่ และพี่ชาย
ไม่ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเลวร้ายขนาดไหน ฉันก็ไม่อยากให้พวกเขาต้องตาย
พระราชบิดาของเธอเป็นคนขี้ขลาด ความกลัวของเขาทำให้ไม่วางใจประชาชนและนำไปสู่การปกครองแบบเผด็จการเพื่อลดทอนอำนาจของพลเมืองให้อ่อนแอควบคุมได้ง่าย
พระมารดาทรงเป็นคนที่ละเอียดอ่อน จิตใจเปราะบางและบาดเจ็บได้ง่าย เธอจึงชอบสวมชุดหรูหราและประดับอัญมณีเพื่อปกปิดความอ่อนแอของเธอเอง
ส่วนพระเชษฐาซึ่งเป็นรัชทายาทเป็นคนขี้เหงา ด้วยความกลัวเหงา เขาจึงแสวงหาความอบอุ่นจากผิวหนังของมนุษย์ผู้หญิงโดยไม่เลือกวิธีการใดๆ
พวกเขาทั้งหมดไม่เหมาะที่จะปกครองหรืออยู่เหนือใคร คนแบบพวกเขาไม่สมควรมีอำนาจเพื่อกดขี่ผู้อื่น
ถึงกระนั้น เมดิน่าก็รักพวกเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ
(แวน อาเรงส์ คุณกล่าวได้ถูกต้องแล้ว นักประวัติศาสตร์ทุกคนจะต้องเห็นด้วยกับเรื่องนี้ในอนาคต)
แต่ฉันไม่สามารถให้อภัยคนที่สังหารครอบครัวของฉันได้
(เพราะฉะนั้น ฉันจะต้องแก้แค้น ฉันจะยอมเป็นของเขา กลายเป็นพระมเหสี และใช้เขาเป็นหุ่นเชิดเพื่อนำพาประเทศไปในทางที่ถูกต้อง! ฉันจะนำพาความสุขมาสู่ประชาชนด้วยมือของฉัน นั่นคือการแก้แค้นของฉัน!)
ประชาชนจะต้องมีความสุขไม่ใช่เพราะแวน อาเรงส์ แต่ต้องด้วยน้ำมือของ เมดิน่า ไอดรัน
การยอมลดเกียรติเพื่อทำให้ประชาชนมีความสุข เป็นสิ่งเดียวที่เมดิน่าจะกระทำได้
(จะมาเมื่อไหร่ก็มาได้เลย ฉันพร้อมที่จะตกเป็นของเขาแล้ว…!)
ตามธรรมเนียมปกติ จะไม่อนุญาตให้มีความสัมพันธ์กันก่อนจะมีพิธีอภิเษกสมรสอย่างเด็ดขาด
แต่เมดิน่าไม่มีเวลาเช่นนั้น
แม้ว่าเมดิน่าจะยอมรับข้อเสนอการแต่งงานกับแวน แต่กว่าพิธีอภิเษกสมรสจะจัดขึ้นได้ก็คงหลังจากรัฐบาลใหม่จัดการสถานการณ์หลังการรัฐประหารเสร็จสมบูรณ์แล้ว
เมื่อถึงตอนนั้น คงมีผู้ที่มีอุดมการณ์อันแข็งแกร่งเช่นเดียวกับแวนมารวมตัวกันจากทั่วประเทศ
หากแวนถูกล้อมกรอบโดยพวกที่มีอุดมการณ์เดียวกันมากมาย คงยากที่เมดิน่าจะชี้นำหรือขับเคลื่อนแนวคิดของตนเองได้
เพื่อควบคุมบงการแวนให้ได้ตามต้องการ เธอต้องรีบทำให้แวนหลงเสน่ห์ของเธอให้ได้
(ไม่เป็นไรนะ ถึงจะพูดเอาเองก็เถอะ แต่ฉันก็สวยไม่แพ้ใครนะ)
เมดิน่านั้นมีรูปโฉมที่งดงามมาก เรียกว่าสวยงามที่สุดในแผ่นดินเลยก็ว่าได้
เธอมีผมสีทองเงางามแวววาว มีดวงตาสีฟ้าเปล่งประกายดั่งอัญมณี และมีสีผิวขาวเรียบเนียนราวไข่มุก
ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะไม่ตกหลุมรัก หากเธอพยายามทุ่มเทใช้เสน่ห์ยั่วยวน
(ฉันจะต้องชนะใจเขาได้อย่างแน่นอน!)
“อ๊ะ…”
เสียงประตูเปิดออกและมีชายผู้หนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
คนที่เข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตู คือคนที่เมดิน่าคาดหวังเอาไว้อย่างแน่นอน
อัศวินผู้มีร่างกายกำยำล่ำสัน แวน อาเรงส์ นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในราชอาณาจักร
“ฉันกำลังรออยู่ ท่านแวน”
เมดิน่านั่งอยู่บนเตียง หมอบกราบลงคำนับอย่างเป็นทางการ
เธอสวมชุดนอน(ไม่ได้นอน)อันเย้ายวนสีขาวที่แทบจะไม่ได้ปกปิดอะไรเลย จนเหมือนกับชุดชั้นใน
“ขอบคุณที่สละเวลา ฉันเรียกท่านมาเพื่อให้คำตอบของข้อเสนอเมื่อกลางวันนี้”
——–
แวนยังคงเงียบ
เมดิน่าหมอบคำนับอยู่จึงมองไม่เห็นสีหน้าของเขา แต่คิดว่าเขาคงจะตกตะลึงกับรูปโฉมอันเย้ายวนใจของเธอ
“ก่อนอื่นเลย ฉันจะให้คำตอบว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้…..”
“คย๊าาาา!!”
เมดิน่ากรีดร้อง
แวนกดไหล่อันเรียวบางของเธอแล้วผลักลงไปบนเตียงอย่างรุนแรง
“ด….ได้โปรด อย่ารุนแรงนักสิ ช่วยอ่อนโยนหน่อย”
———
“กรุณาปฏิบัติกับฉันอย่าง…..เอ๊”
ในที่สุดเมดิน่าก็เพิ่งสังเกตเห็น
ในแววตาของแวนที่ลุกโชนไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า
แวน อาเรงส์ อัศวินที่ทำอะไรตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และขยันขันแข็ง นั่นคือผู้ชายคนที่เธอรู้จัก
แต่ผู้ชายที่คร่อมเธออยู่ตอนนี้ ดุร้ายป่าเถื่อน จนเหมือนเป็นคนละคน
“…ฉันจะจัดการกับเธอ ห้ามขัดขืน!!”
———–
ด้วยคำพูดอันทรงพลังทำให้เมดิน่าไม่สามารถขยับตัวได้
เขาเป็นนักรบที่แข็งแกร่งอย่างล้นหลาม ไร้พ่ายในการต่อสู้ ที่มีฉายาว่า “ยักษ์กินคนแห่งที่ราบลอยคัลดัน”
เมื่อผู้ชายที่แข็งแกร่งที่สุดปรารถนาต่อเธออย่างแรงกล้าซึ่งเป็นผู้หญิงทำให้เธอตกตะลึงไปโดยปริยาย
“ท่านอาเรงส์ กรุณาใจเย็นก่อน!”
เธอพยายามพูดเพื่อซื้อเวลา
มันไม่สามารถไปต่อทั้งอย่างนี้ได้
เพราะเธอจะต้องสูญเสียบางสิ่งที่มีค่ามากกว่าพรหมจรรย์ไปตลอดกาล
“…ฉันจะจัดการกับเธอ ห้ามขัดขืน!!”
แวนเพิกเฉยต่อคำวิงวอนของเธอ พูดประโยคเดิมซ้ำไปมา และฉีกชุดนอนของเธอออกอย่างเกรี้ยวกราด
“ว๊าย”
ในที่สุดเมดิน่าก็เข้าใจ
แวน อาเรงส์ ไม่ใช่คนที่จะกลายเป็นหุ่นเชิดได้
ความห่วงใยเอื้ออาทรต่อผู้อื่น และความปรารถนาที่จะกอบกู้แผ่นดิน เป็นแค่ด้านหนึ่งของเขา
แต่ชายผู้นี้ยังมีด้านที่ลุแก่อำนาจปรารถนาที่จะครอบงำผู้อื่น และมีจิตวิญญานการต่อสู้อันร้อนแรงไม่สิ้นสุด
(ฉันคิดอะไรง่ายเกินไป ฉันนี่มันไร้เดียงสาจริงๆ)
ชายผู้ที่สามารถทำลายล้างอาณาจักรที่มีอายุกว่า 300 ปีลงได้ จะไม่มีทางตกอยู่ภายใต้อิทธิพลบงการใดๆ
เธอเองที่จะต้องพังทลาย เมดิน่ากำลังตกเป็นเหยื่อที่จะโดนทำลายล้าง
“อ๊า…”
เมดิน่ากรีดร้องเพียงสั้นๆ และถูกชายผู้นั้นกระหน่ำด้วยความดุดันรุนแรง
นั่นคือทั้งหมดที่เธอจำความได้
แล้วเธอก็ถูกวังวนแห่งความสุขกลืนกินราวกับพายุจนสลบไป
=================
จะแปลเฉพาะแนวฮาเร็มที่มี NTR และ zamaa เป็นความชอบส่วนตัวนะครับ ลงน้องแมวเท่านั้น ไม่ลงที่อื่น
เป็นกำลังใจให้กันได้ที่ กสิกร 606-2-07812-8 ทวิรวัฒน์