ฉันไปรบตามแผนการของน้องสาวจนได้เป็นพระราชาซะแล้ว เจ้าหญิงที่ถูกฉันจับบังคับทำเมียมองฉันด้วยความเคียดแค้น ฉันจะทำไงดีล่ะทีนี้? - ตอนที่ 1 รัฐประหารสำเร็จแล้ว
“บ้าที่สุด!!!……ปราสาทของเราถูกยึดได้ภายในครึ่งวัน?!”
ประตูปราสาทพังทลาย ทหารจำนวนมากบุกเข้าไปในตัวปราสาท
ปราสาทที่เคยแข็งแกร่งที่สุดไม่มีผู้ใดรุกรานได้สำเร็จมากว่า 300 ปี กำลังจะถึงคราวล่มสลาย
“ตามหาพระราชา!!!”
“เจ้าชายรัชทายาท ไอ้บ้านั่นหนีไปไหนแล้ว!!!”
“เหยียบย่ำกดหัวพวกเราจนแทบไม่มีจะกิน ถึงตาพวกแกต้องถูกแขวนคอชดใช้แล้ว!!!”
ทหารฝ่ายกบฏบุกเข้าไปในปราสาทอย่างเกรี้ยวกราดและประนามสาปแช่งราชวงศ์
ใบหน้าของเหล่าทหารกบฏเต็มไปด้วยความโกรธแค้น และฮึกเหิมผสมปนเปกันไปหลังจากได้รับชัยชนะจากการละเลงเลือด
เหล่าช้าราชบริพารและทหารหลวงต่างหนีตายกันอย่างตื่นตระหนก แม้ว่าศัตรูจะบุกเข้ามาในปราสาทแต่ก็ไม่มีใครเลยที่จะอาสาออกหน้าต่อสู้กับข้าศึก เพราะทั้งสองฝ่ายรู้กันดีว่า ราชวงศ์นี้จบสิ้นลงแล้ว ไม่คุ้มค่าพอที่จะสละชีวิตเพื่อปกป้องอีกต่อไป
“ฉันทำอะไรไม่ได้เลย ฉันแค่อยากจะกอบกู้ประเทศนี้ ฉันต้องการจะปกป้องทุกคน…..”
สมาชิกของราชวงศ์องค์หนึ่งคร่ำครวญเมื่อมองลงไปยังเหล่าทหารของศัตรูจากหน้าต่างของปราสาทเธอคือพระราชธิดาของกษัตริย์ เจ้าหญิง เมดิน่า ไอดรัน
ราชอาณาจักรไอดรันเข้าสู่ยุคเสื่อมถอยมาหลายปีแล้ว ราชวงศ์ขูดรีดภาษีจากประชาชนอย่างโหดร้ายและใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย โดยไม่มีชดเชยสวัสดิการสังคมใดๆ คืนสู่ประชาชนแม้แต่น้อย
พระราชาชอบนำเข้าไวน์ราคาแพงจากต่างประเทศ เอาแต่กินดื่มเหมือนปลาวาฬพ่นน้ำ ส่วนพระราชินีสนใจแต่เรื่องแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดราคาแพงและเครื่องเพชร แถมยังจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ทุกคืนอีกด้วย
ไหนจะองค์ชายรัชทายาทที่จะได้เป็นว่าที่พระราชาองค์ต่อไป มักจะรวมหัวกับเหล่าผู้ช่วยส่วนพระองค์ ฉุดแล้วลักพาตัวผู้หญิงชาวบ้านจากท้องถนนในเมืองมาเล่นสนุกซ้ำแล้วซ้ำอีกพอเบื่อแล้วก็เอาไปกำจัดทิ้ง
ที่ว่าไปทั้งหมดนั้น มีเพียงเจ้าหญิงเมดิน่าเท่านั้น ที่ห่วงใยประเทศอย่างแท้จริง คอยว่ากล่าวตักเตือนและพยายามลดทอนอำนาจของเหล่าราชวงศ์จากการกดขี่ลงเพื่อปฏิรูปรัฐบาลใหม่เพื่อประชาชนแต่ก่อนจะปฏิรูปได้สำเร็จ ความพยายามนั้นกลับไร้ค่า เพราะเกิดการรัฐประหารขึ้นมาเสียก่อน
เมื่อแรกเริ่มการลุกฮือของประชาชน เหล่าราชวงศ์ยังมัวเมาลุ่มหลงในอำนาจและมองว่าไม่ใช่วาระสำคัญแต่อย่างใด เพราะในที่สุดกองทัพหลวงก็จะกระชับวงล้อมประชาชนและนำตัวแกนนำมาแขวนคอลงโทษจนได้
ในที่สุด การก่อกบฏของประชาชนจะไม่มีวันประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เมื่อมองโลกในแง่ดีและประมาท
เช่นนี้แล้วไซร้ ปราสาทที่แข็งแกร่งจึงถูกตีแตกไปโดยปริยาย
การคาดการณ์นั้นผิดอย่างมหันต์ เพราะผู้นำกองกำลังกบฏคือ แวน อาเรงส์ อัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดของราชอาณาจักรนั่นเอง เพราะเขาเป็นผู้ที่มีความสามารถดันโดดเด่นล้นหลาม ทหารกว่าครึ่งของราชอาณาจักรจึงหันไปสนับสนุนเขา
แวนได้อาสานำทัพไปรบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มารุกราน และได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น แม้เป็นเพียงสามัญชนแต่มีผลงานอันโดดเด่น เลยถูกเจ้าชายรัชทายาทอิจฉา ปลดจากตำแหน่งและเนรเทศไปยังชายแดน
(แต่เขาได้หวนคืนสู่เหย้าด้วยกองกำลังขนาดใหญ่ ในฐานะศัตรูของราชอาณาจักร)
กองกำลังของแวนศึกษาแผนผังของปราสาทมาเป็นอย่างดี จึงสามารถบุกยึดกำแพงปราสาทได้ภายในครึ่งวันก่อนการบุกเข้าไปในตัวปราสาทหลวง ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดพวกเขาได้เลย
ในไม่ช้า พระราชาและเหล่าเชื้อพระวงศ์จะถูกลากออกไปแขวนคอต่อธารกำนัล
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องพบจุดจบเช่นนี้ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย…..”
เจ้าหญิงเมดิน่าคร่ำครวญ และอาจจะไม่รอดพ้นจากโศกนาฏกรรมเดียวกันนี้
เธอไม่ได้ร่วมกดขี่ข่มเหงประชาชน และยังเรียกร้องให้มีการลดหย่อนภาษี แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ความจริงข้อนี้
สำหรับประชาชนแล้ว เมดิน่าก็ถือเป็นหนึ่งในราชวงศ์ที่สมควรถูกสำเร็จโทษด้วยการประหารเช่นเดียวกัน
“องค์หญิง ท่านอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว รีบหนีไปจากที่นี่เถิด”
สาวใช้ของเมดิน่าเตือนอย่างเร่งรีบ
เมดิน่าที่มองทอดออกไปนอกหน้าต่าง ค่อยๆ หันกลับมา
“ท่านไม่สมควรตาย ท่านห่วงใยประเทศนี้มาตลอด ท่านจะต้องรีบหนีไปจากปราสาทนี้!!”
“แอน…..”
ใบหน้าของเมดิน่าเศร้าสลดจากคำพูดของสาวใช้คนสนิท
แม้ว่าจะรอดชีวิต แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปยังไง แต่การตายที่นี่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรได้เช่นกัน
“…..นั่นสินะ พวกเรารีบไปกันเถอะ”
“องค์หญิง!!…..”
“มีทางลับอยู่ในปราสาท ถ้าเรารอดชีวิตออกไปได้ แล้วค่อยคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปในฐานะราชวงศ์”
“มันจะไม่เป็นเช่นนั้น องค์หญิงเมดิน่า”
น้ำเสียงที่ราบเรียบและเย็นชาไร้อารมณ์ทำให้เธอหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง
ทันใดนั้น ประตูห้องก็ถูกผ่าครึ่ง และชายคนนึงปรากฏตัว
“แวน อาเรงส์!!…..”
เมดิน่าตะโกนชื่อนั้นด้วยความโกรธเกรี้ยว
ชายผู้นั้นคือ แวน อาเรงส์ ผู้นำของกองทัพกบฏ ผู้ที่เคยเป็นวีรบุรุษกอบกู้ประเทศ และเป้นอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดของราชอาณาจักร
แวนถือดาบสีดำในมือและใส่ชุดเกราะสีดำที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดสดๆ แม้ว่าใบหน้าของเขาจะดูสูงส่งเฉกเช่นขุนนางชนชั้นสูง แต่สายตาของเขานั้นกลับเย็นชาไร้อารมณ์และแผ่รังสีแห่งการฆ่ารุนแรงออกมา
“องค์หญิง หนีไป!!!”
“แอน!!!”
สาวใช้พยายามเอาตัวเข้าปกป้องเจ้านาย แวนเหวี่ยงดาบออกไปอย่างเรียบเฉย เสียงโลหะปะทะร่างกายดังก้อง สาวใช้ล้มลงไปนอนกับพื้น
“เจ้ากล้าดียังไง แอน!!!”
“ฉันไม่ได้ฆ่าเธอสักหน่อย…..ดูให้ดีก่อนสิ”
สาวใช้นอนกองกับพื้น ไม่มีเลือดออก เพียงแค่สลบไปเท่านั้น
แวนใช้สันดาบฟาดไปที่คอของสาวใช้ หากกะแรงผิดพลาดอาจทำให้เธอคอหักตายได้ แต่แวนก็ใช้แรงเพียงแค่ทำให้เธอหมดสติไปเพียงเท่านั้น
“หันดาบใส่ผู้หญิงมือเปล่าที่ไม่มีอาวุธ นั่นคือสิ่งที่อัศวินสมควรทำเหรอ?!”
ในวินาทีความเป็นความตาย เมดิน่าไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ ยิ่งเมื่อเห็นคนสนิทของเธอถูกทำร้าย เธอพยายามตะโกนประนามใส่แวน
“นั่นคือสิ่งที่อัศวินสมควรทำเหรอ?”
แวนทวนคำพูดของเมดิน่าซ้ำ แล้วบิดแขนที่เรียวงามของเธอ
“ฉันอาจจะทำอะไรที่อัศวินไม่สมควรกระทำ แต่คิดบ้างไหมว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนี้?”
“นั่นก็เพราะว่า…..”
เมดิน่ารู้สึกเหมือนโดนหอกเยือกแข็งแทงใจดำเมื่อถูกแวนถามกลับอย่างเรียบเฉย
แวนหันดาบใส่ราชวงศ์ ในฐานะอัศวินแห่งราชอาณาจักรเป็นสิ่งที่ไม่สมควรให้อภัยอย่างยิ่ง แต่ใครล่ะที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้? ใครจะต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อเรื่องนี้?
“เจ้ากำลังจะบอกว่าเป็นความผิดของเราเหรอ แวน อาเรงส์”
“การก่อกบฏเกิดขึ้นเพราะพวกเราไม่ทำหน้าที่อันสมควรในฐานะราชวงศ์ กดขี่ข่มเหงราษฎร แย่งชิงทุกอย่าง
มาจากประชาชนเพื่อปรนเปรอตัวเอง เหตุการณ์เช่นนี้จึงได้เกิดขึ้นเหรอ?!”
เมดิน่าสบถ แต่แวนนิ่งเฉยไม่โต้ตอบ และบิดแขนควบคุมตัวเธอเอาไว้
ความเงียบของแวนทำให้เมดิน่าเหมือนถูกตำหนิด้วยสายตา ยิ่งทำให้รู้สึกผิดในใจมากขึ้น
“ฉันก็อยากจะช่วยเหลือประชาชนเหมือนกัน พยายามลดทอนอำนาจของราชวงศ์เพื่อปฏิรูปประเทศนี้”
“เพียงแค่ 3 ปี อีกแค่ 3 ปีเท่านั้น ฉันจะสามารถยึดอำนาจจากพ่อและพี่ชายได้ เพื่อสร้างประเทศขึ้นมาใหม่ หากการรัฐประหารไม่เกิดขึ้น อาณาจักรไอดรันจะได้เกิดใหม่เพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง”
“…..อีกกี่คน?”
แวนที่นิ่งเงียบมาตลอดได้เปิดปากพูด
“องค์หญิงเมดิน่า กว่าท่านจะสร้างประเทศชึ้นมาใหม่ได้ จะต้องมีคนสังเวยเพิ่มขึ้นอีกกี่คน ?”
“ฉันเป็นแค่คนโง่เลยไม่เข้าใจ ไหนลองบอกฉันทีสิ”
“นั่นมัน…..”
ถึงแม้จะปฏิรูปประเทศใหม่ได้ภายใน 3 ปี แต่ในระหว่างนั้นจะมีคนเสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมากจากความอดอยาก ไร้ที่อาศัย ไม่มีเงินและงาน ต้องเร่ร่อน อยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีบนแผ่นดินที่มีแต่ความแห้งแล้งกันดาร
เมดิน่านิ่งเงียบไปเพราะรู้สึกละอายที่คิดจะให้ประชาชนต้องยอมรับการเสียสละเช่นนั้น
“ฉันจะรับรองความปลอดภัยขององค์หญิง หากท่านไม่ขัดขืนใดๆ และให้ความร่วมมือ”
เมดิน่าที่หมดทางโต้แย้งกับแวน จึงถูกทหารที่เข้ามาในห้องพาตัวออกไปควบคุมโดยละม่อม
และในวันนั้นเอง อาณาจักรไอดรันที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี ก็ถึงคราวล่มสลาย
ผู้นำการลุกฮือของประชาชนก่อกบฏต่อราชวงศ์ คือ แวน อาเรงส์
นี่คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางนักรบซึ่งถูกกล่าวขานในรุ่นต่อมา ว่าเป็นที่รู้จักกันในนาม “จักรพรรดิแห่งความเป็นหนึ่งเดียว” คนแรกแห่งประวัติศาสตร์ผู้รวมแผ่นดินทั้งทวีปเป็นปึกแผ่น
=================
จะแปลเฉพาะแนวฮาเร็มที่มี NTR และ zamaa เป็นความชอบส่วนตัวนะครับ ลงน้องแมวเท่านั้น ไม่ลงที่อื่น
เป็นกำลังใจให้กันได้ที่ กสิกร 606-2-07812-8 ทวิรวัฒน์