ฉันเป็นหัวหน้าเผ่าดึกดำบรรพ์ - ตอนที่ 37 ชื่อที่แปลกใหม่
บทที่ 37 ชื่อที่แปลกใหม่
ปลูกผักชีฝรั่งและต้นหอมได้ดีเมื่อมองไปที่พระอาทิตย์กำลังตกดินและภูเขาทางทิศตะวันตก
เขาตบมือและยิ้ม “จัดการเรียบร้อยแล้วถึงเวลาที่จะต้องทำงานหนักเพื่อตัวเอง!”
“แต่ก่อนอื่นข้าขอส่งภารกิจก่อน!”
“ระบบส่งภารกิจ!”
ระบบแจ้งเตือน:
ภารกิจที่ 1 ค้นพบผักชีฝรั่งกินได้และได้รับคะแนนความสำเร็จ 200 คะแนน
ภารกิจที่ 2 ค้นพบต้นหอมป่าที่กินได้และได้รับความสำเร็จ 200 คะแนน
ภารกิจที่ 3 ค้นพบเห็ดที่กินได้และได้รับความสำเร็จ 200 คะแนน
ตอนนี้มีคะแนนรวมทั้งสิ้น 1200 คะแนน
“ฮ่าๆๆ วันนี้ข้าได้รับคะแนนความสำเร็จถึง 600 คะแนน ดูเหมือนว่าใกล้ความจริงที่จะแลกเปลี่ยนวิชารักษาธาตุไม้ได้เร็วๆนี้…เดี๋ยวนะ ไม่สิ ผักชีฝรั่ง ต้นหอม เห็ดดอกไม้ และเห็ดร่ม 4 อย่างมันสมควรได้คะแนน 800 คะแนน!”
“บ้าเอ้ย ระบบตั้งใจที่จะรังแกข้า คิดว่าข้าคิดเลขไม่เป็นหรือไง?”
ระบบแจ้งเตือน : เห็ดดอกไม้กับเห็ดร่มถือว่าเป็นเห็ด ดังนั้นจึงถือว่าได้คะแนนเพียงครั้งเดียว
มู่เฟิง รู้สึกไม่พอใจเขาปลดปล่อยนักวิชาการในชีวิตก่อนของเขาออกมาทันที “มันถือว่าเป็น 2 สิ่ง แถมยังมีเห็ดพิษที่กินไม่ได้อีก เมื่อพบมันแล้วก็น่าจะถือว่าเป็นเห็ดชนิดหนึ่งเช่นกัน?”
มู่เฟิง บ่นแบบนี้ในใจสุดท้ายก็รู้สึกผิดเล็กน้อย แม้ว่าเห็ด 2 ชนิดจะแตกต่างกันแต่มันก็คือเห็ด
แต่แล้วระบบก็ทำให้เขาต้องอ้าปากค้างอีกครั้ง
แจ้งเตือนจากระบบ:
ภารกิจที่ 1 ค้นพบผักชีฝรั่งที่กินได้ได้รับคะแนนความสำเร็จ 200 คะแนน
ภารกิจที่ 2 ค้นพบต้นหอมป่าที่กินได้และได้รับคะแนนความสำเร็จ 200 คะแนน
ภารกิจที่ 3 ค้นพบเห็ดดอกไม้ที่กินได้และได้รับคะแนน 200 คะแนน
ภารกิจที่ 4 ค้นพบเห็ดร่มที่กินได้ได้รับคะแนน 100 คะแนน
คะแนนของคุณตอนนี้คือ 1,300!
ระบบกล่าวเสริมว่า “แม้ว่าจะเป็นอาหาร 2 ชนิดแต่ก็สามารถจัดประเภทได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นคะแนนความสำเร็จจึงลดลงครึ่งหนึ่ง”
“เยส!” มู่เฟิง รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“อย่างน้อยก็ยังได้เพิ่ม!”
ในเวลาเดียวกันมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจของเขา ระบบนี้ดูเหมือนจะฉลาดมาก เป็นไปได้ไหมว่าตราบใดที่เขาแสดงความแข็งแกร่งและมีเหตุผลก็จะได้รับคะแนนเพิ่มมากขึ้น เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาก็แสยะยิ้มกว้าง
“ดีใจจังเลย จะได้กินซุปไก่คืนนี้ต้องกินสัก 3 ชาม แล้วใส่…เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน!”
เมื่อเขาคิดดังนั้น มู่เฟิง ก็หยิบพลั่วขึ้นมาแล้ววิ่งตรงไปที่ตีนเขาทางเหนือ ที่นั่นนอกจากจะมีต้นหนามแล้วยังมีไม้ไผ่ ที่เผ่านำมาทำหอกไม้ไผ่ก่อนหน้านี้
“ในเมื่อมีต้นไผ่ก็ต้องมีหน่อไม้!” มู่เฟิง ตบหน้าผากตัวเอง
“ฉันนี่ขี้ลืมจริงๆ มีลาอยู่แล้วยังคิดจะหาลาตัวอื่นอีก!”
เมื่อมาถึงป่าไผ่ มู่เฟิง ก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อมองเห็นต้นไผ่สูงถึง 20 เมตร “ต้นไผ่หนาแน่นขนาดนี้หน่อไม้ต้องใหญ่มากแน่ๆ!”
“การหาหน่อไม้เป็นงานละเอียดอ่อน..”มู่เฟิง พึมพำกับตัวเองขณะที่เขากำลังหามัน จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนดังขึ้น
“ พี่มู่เฟิง!”
มู่เฟิงเงยหน้าขึ้นมองแล้วพบว่าเป็น ไป๋หยา นางหอบหายใจหนัก ดวงตาที่สวยงามของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ท่านกลับมาแล้วหรอ?”
“ใช่ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าออกไปข้างนอก?”
“ข้าไปหาลุง หมิงกวง มาก่อน แล้วพบกับ พี่ ซั้วเฟิงเขาบอกว่าท่านกลับมาแล้ว ข้าจึงไปที่ถ้ำของท่านและเห็นว่าท่านกำลังมาที่นี่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยิน”
ปากเล็กๆของไป๋หยาโค้งขึ้นเล็กน้อยดูเหมือนจะโกรธเห็นได้ชัดว่าต้องการบ่น
มู่เฟิง ยิ้มและใส่หัว “ข้ารีบมาที่นี่เพื่อตามหาหน่อไม้เลยไม่ได้ยินที่เจ้าเรียก!”
“หาหน่อไม้งั้นหรือ?” ไป๋หยา สงสัย “หน่อไม้คืออะไร”
มู่เฟิง ชี้ไปที่ต้นไผ่ที่งอกออกมา
“ก่อนที่ต้นไผ่จะสูงใหญ่ขนาดนี้ มันจะมีหน่อที่พึ่งโผล่ออกมาจากพื้นดิน!”
“ท่านกำลังพูดถึงเขี้ยวไผ่ใช่ไหม?” ไป๋หยา ยิ้มบางๆหรี่ตาลงเล็กน้อยชี้นิ้วไปที่ปากตัวเอง “เหมือนกับเขี้ยวของข้าไง!”
“เขี้ยวของเจ้า….?”มู่เฟิง รู้สึกงงๆเล็กน้อย
“ใช่แล้วท่านพ่อเคยบอกข้าว่า เขี้ยวของช้างมีขนาดใหญ่สีขาวและมันกินเร็วมาก เลยตั้งชื่อให้ข้าว่า เขี้ยวขาว(ไป๋หยา)” ไป๋หยา ทำหน้าจริงจังดวงตากลมโตงดงามกระพริบปริบๆน่ารักอย่างบอกไม่ถูก
“เอิ่ม…” มู่เฟิง ไม่เคยคิดว่าแค่พูดถึงหน่อไม้ก็โยงไปถึงชื่อเฉพาะ วิธีตั้งชื่อให้ลูกสาวของหลี่หูนั้นช่างดูธรรมดานัก!
“งั้นชื่อพี่ชายของเจ้าล่ะ…”มู่เฟิง ถามออกไป
“พี่ชิงหยา เป็นชื่อของเขี้ยวสิงโต พี่หงหยาเป็นชื่อของเขี้ยวเสือลาย” ไป๋หยา อธิบาย
“พรูด ฮ่าๆๆ” มู่เฟิง ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไปเขาหัวเราะขึ้นมา
“ สิงโต เสือ ช้าง…” แค่ชื่อของสัตว์เหล่านั้นก็น่ายำเกรง เหมือนคนในสมัยใหม่ชอบมีเขี้ยวเสือประจำตัวถือเป็นของดี
“แต่ยังไงก็ตาม ความหมายของมันก็ไม่ต่างไปจากคนสมัยนี้ เลยดูตลกไปหน่อย!” มู่เฟิง ส่ายหัว
แต่เดิมเขารู้สึกว่าชื่อของทั้ง 3 เป็นเพียงชื่อเขี้ยวแต่คนละสีเท่านั้นดูสดใสและแปลกใหม่
เมื่อตอนนี้เขาได้รู้ว่าความเป็นมาที่สดใสและแปลกใหม่นั้นคืออะไรเขาถึงอดหัวเราะไม่ได้
“พี่มู่เฟิง ท่านหัวเราะอะไร?” ไป๋หยาทำหน้าไม่เข้าใจ
“ไม่มีอะไรหรอก ไปหาหน่อไม้กันดีกว่า อืม ไม่สิ ไปหาเขี้ยวไม้ไผ่ที่เจ้าพูดถึงกันเถอะ!”
“ เขี้ยวไม้ไผ่ หรือหน่อไม้ กินได้ใช่ไหม” ไป๋หยา เต็มไปด้วยความหวัง
“ แน่นอน!” มู่เฟิง แอบหัวเราะในใจก่อนที่จะพยักหน้าอย่างจริงจัง