ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 82 ล้อมรอบด้วยหนวนหน่วน
บทที่ 82 ล้อมรอบด้วยหนวนหน่วน
ทันใดนั้นเอง ไป๋โม่ฮัวก็ถูกจับตามองด้วยคู่สายตาที่ดูอิจฉาของคนทั้งงาน
ทั้งนายน้อยและนายหญิงที่อยู่ในงานนี้ถูกปลูกฝังมาให้รักความสบาย บางคนก็ยังเรียนหนังสืออยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เรียนหนังสือ พวกเขาก็กำลังใช้ชีวิตอยู่อย่างสบาย ไม่มีงานทำจริงจัง เรียกว่ายังไร้เดียงสาและไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่มากนัก
เมื่อได้ยินนายน้อยคนหนึ่งบอกว่าไป๋โม่ฮัวสามารถสร้างรายได้จากการวาดภาพตั้งแต่อายุยังน้อยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมและอิจฉา
นายน้อยคนนั้นยังคงร้องเสียงหลงอย่างตื่นเต้น “ฉันเห็นภาพวาดของนายแล้ว งดงามจริง ๆ ตอนที่ฉันพาแม่ไปนิทรรศการศิลปะ ฉันรู้สึกว่าฉันยังไม่เข้าใจความหมายของภาพวาดของคนอื่นสักเท่าไหร่ มันดูเข้าถึงยากเกินไป แต่พอมองดูภาพวาดของนาย แวบแรกมันไม่ได้แค่สวยงามเท่านั้น แต่ยังอบอุ่นมาก รู้สึกราวกับว่ายืนอยู่ในทะเลสาบในภาพวาด…”
ขณะกำลังพูดเขาก็ก้มตัวนั่งลงข้าง ๆ ไป๋โม่ฮัว นายน้อยคนอื่น ๆ ก็ล้อมรอบเขาเพื่อพูดคุยกับไป๋โม่ฮัวเช่นกัน หนวนหน่วนไม่ได้แสดงท่าทางปฏิเสธ เธอยินดีพูดคุยกับพวกเขาอีกด้วย
หญิงสาวผู้มีฐานะมั่งคั่งคนหนึ่งจ้องมองไปที่หนวนหน่วน เมื่อหนวนหน่วนมองกลับมา เธอก็หัวเราะชอบใจ
“น่ารักจัง ขอหยิกแก้มหน่อยสิจ๊ะ”
หนวนหน่วน “…”
เกิดอะไรขึ้นกับคนพวกนี้ ทำไมถึงได้ขอหยิกแก้มเธอตลอดเลย
“ได้โปรดเถอะ” หญิงสาวประสานมือ มองหนวนหน่วนด้วยสายตาอ้อนวอน
เมื่อเห็นว่าเธอแสดงอาการแบบนั้น หนวนหน่วนก็พยักหน้าหงึกหงักแล้วตอบรับเธอด้วยเสียงอันแผ่วเบา
“หยิกเบา ๆ นะคะ” เด็กน้อยชูนิ้วอันเรียวบางของเธอขึ้นมาทำท่าหยิกให้ดู
หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ใช้นิ้วหยิกแก้มอันอุ่นนุ่มของเด็กน้อยอย่างระมัดระวัง เธอเชิดหน้าด้วยท่าทางดีใจอย่างตื่นเต้น
“ฉันคิดว่าแก้มเธอต้องนุ่มมาก แน่ ๆ เลย พอเห็นแล้วเลยอยากจะหยิกให้ได้”
“แล้วเธอชื่ออะไรเหรอจ๊ะสาวน้อย ขอแตะหน่อยได้ไหม”
ช่วงเวลานั้นค่อนข้างกะทันหัน… หนวนหน่วนไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอกับลูกพี่ลูกน้องที่นั่งกินข้าวกันอย่างเงียบ ๆ จะถูกรุมล้อมได้
ใบหน้าเล็ก ๆ ที่อ่อนนุ่มนั้นแดงระเรื่อเมื่อถูกสัมผัส ดวงตาที่สดใสและไร้เดียงสามองไปยังหญิงสาวที่มีกลิ่นหอมรอบตัวด้วยความงุนงง
ทำยังไงดี ตัวจะลอยอยู่แล้ว
“ดีใจจัง ไม่คิดว่าจะเจอในงานเลี้ยงนี้ หนูกินพุดดิ้งนมสดได้น่ารักมากเลย ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมจ๊ะหนวนหน่วน”
สาว ๆ ในงานต่างเป็นมิตรกับหนวนหน่วน ทุกคนต่างมุ่งหน้าเข้ามาหาเธอเพราะรู้จักเธอจากภาพหนูน้อยแก้มป่องกำลังกินพุดดิ้งนมสดจากโลกอินเตอร์เน็ตมาก่อนหน้านี้แล้ว
เมื่อใครได้มาสัมผัสกับใบหน้าของเด็กน้อยก็จะรู้ว่าช่างนุ่มละมุนและเรียบเนียนมาก ไม่เหมือนใบหน้าของตุ๊กตาที่ไร้ซึ่งความนุ่มใด ๆ เลย
ก่อนหน้านี้พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเองเลยตอนที่ได้เห็นรูปพวกนี้ แต่พอได้มาเจอตัวจริงของทั้งสอง พวกเขาก็กรีดร้องด้วยความตื่นเต้นและอยากรับไปเลี้ยงไว้ซะเอง
“อะไร… นั่นอะไร?”
เสียงอันอบอุ่นดึงดูดสาว ๆ กลุ่มหนึ่ง คนในกลุ่มคนหนึ่งหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาเปิดผลการค้นหาที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ วิธีกินพุดดิ้งนมสดที่ถูกต้องติดอยู่ในอันดับที่สาม
“ดูนี่สิ นั่นไงเธอกับพี่ชายของเธอ ดูดีกว่าในรูปซะอีก”
หนวนหน่วนเอนหัวของเธอไปทางกลุ่มของสาว ๆ ที่กำลังส่งเสียงร้องกรี๊ดกร๊าด ขณะเดียวกันก็กำลังอ่านความคิดเห็นที่อยู่ด้านล่าง จู่ ๆ ทั้งใบหน้าและหูของหนวนหน่วนก็เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ
ผู้คนบนโลกอินเทอร์เน็ตต่างแห่แสดงความชื่นชมในความน่ารักไร้เดียงสาของพวกเขา โดยใช้คำเรียกแทนเด็กน้อยทั้งสองว่าเป็นลูกสาวลูกชายตัวน้อย ๆ ของพวกเขาเอง
เป็นไปได้ยังไง… น่าอายอะไรอย่างนี้
“ฮ่าฮ่า ในคอมเมนต์มีคนมาถามหนวนหน่วนว่าชอบกระสอบสีอะไร เขาวางแผนจะขโมยเธอในตอนกลางคืน”
ใบหน้าเล็ก ๆ ของหนวนหน่วนแสดงอาการหวาดกลัวเล็กน้อย เธอรีบโบกมือปฏิเสธจนหน้าแดงก่ำ
“ไม่ ไม่ ไม่ คุณขโมยหนวนหน่วนกับพี่ชายผู้แสนอบอุ่นของเธอไปไม่ได้”
ปฏิกิริยาที่น่ารักของเธอนั้นทำให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กอดเธอไว้แน่น หญิงสาวถูไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ อันนุ่มนิ่มของเธอราวกับว่าเธอเป็นลูกหมีตัวน้อย ๆ
“ทำไมเธอน่ารักได้ถึงขนาดนี้ ฉันอยากจะขโมยเธอมาเลี้ยงจัง”
หนวนหน่วน “…”
“คุณทำอะไรน่ะ หนวนหน่วนเป็นน้องสาวของผม ผมไม่ยอมให้คุณพาเธอกลับไปเลี้ยงแน่นอน ถ้าคุณจะเอาเธอไป ต้องผ่านผมไปก่อน”
ไป๋โม่ฮัวอุ้มหนวนหน่วนที่ถูกรายล้อมรอบไปด้วยผู้คนขึ้นแล้วกอดเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จู่ ๆ เขาก็นึกถึงกู้หนานผู้เป็นพี่ชายคนโตจึงพึมพำแสดงอาการหึงหวงเล็กน้อย
“อีกอย่าง ผมยังเก็บเธอไว้เป็นของผมไม่ได้เลย”
โถ่… ทำไมหนวนหน่วนถึงไม่ได้เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเขานะ
ในห้วงเวลาของงานรื่นรมย์ ทันใดนั้นไฟก็สว่างไปยังพื้นที่หนึ่ง เสียงปรบมือและเสียงอุทานที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ดังก้องขึ้นมา ทุกคนภายในงานมองตามไป พบว่าซูหรานนั่นเองที่ปรากฏกาย เขาสวมชุดสีแดง กู่ฉินวางอยู่ด้านหน้า นิ้วอันเรียวงามขาวราวกับหยกร่ายรำอยู่บนสายกู่ฉิน เมื่อเพลง ‘โชวจิ่นจื่อ’ กำลังบรรเลงอย่างไพเราะ ทุกคนในงานต่างเงียบลงแล้วฟังเพลงบรรเลงอย่างตั้งใจ
การแสดงที่เห็นอยู่บนเวที ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือเสียง สิ่งที่ชายหนุ่มกำลังมอบให้ทุกคนอยู่บนเวทีนั้นล้วนเป็นการแสดงที่น่าทึ่ง
ชุดสูทในการแสดงของซูหรานเป็นสีแดง เขาจึงดูสะดุดตามากขึ้นอีก ซึ่งสีแดงแบบนี้ไม่ใช่ทุกคนที่จะใส่ออกมาแล้วดูดีได้ แต่เด็กหนุ่มที่กำลังบรรเลงเพลงอยู่บนเวทีนั้นมีผิวที่ขาวราวกับหยก ชุดสีแดงที่สวมอยู่นั้นเข้ากับสีผิวอันขาวนวลของเขาเป็นอย่างดี ทำให้ผู้คนที่กำลังชมการแสดงอยู่รู้สึกราวกับว่าตัวเองโดนสะกดจิตอยู่ภายใต้การแสดงของเขาอย่างละสายตาไปไหนไม่ได้
หลังจากจบเพลง ทุกคนต่างก็ปรบมือให้กับผู้บรรเลงเพลงอย่างอึกทึก ผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนที่นั่งหน้าคุณปู่ซูต่างแสดงความยินดีกับชายชราที่มีหลานชายที่ยอดเยี่ยมคนนี้
ซูหรานตอบรับอย่างถ่อมตน แต่ก็แสดงออกถึงความภูมิใจบนใบหน้าได้อย่างชัดเจน
แน่นอนว่าท่ามกลางเสียงชื่นชมเหล่านี้ ย่อมมีความไม่พอใจร่วมอยู่ด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมไปถึงพ่อของซูหรานด้วยเช่นกัน
การมีลูกชายที่มีความสามารถมากเกินไปจะทำให้เขาดูไร้ความสามารถขึ้นมาทันที ตอนนี้มีคนกำลังแอบหัวเราะเยาะในความไร้ความสามารถของเขาอยู่ ถึงขนาดที่พ่อของเขาแทบจะเลี่ยงในการเจอหน้าเขา และให้เด็กอายุ 15 ปีเป็นทายาทแทน
แต่ตอนนี้ คนที่รู้สึกไม่พอใจและดูอิจฉามากกว่าเขาคือผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา
“ที่รักคะ จริง ๆ แล้วงานบริษัทในส่วนของซูหรานก็ได้รับความช่วยเหลือบางเรื่องจากผู้ใหญ่ในบริษัท เทียนจื่อของเราก็ฉลาดพอตัว ยังไงทั้งสองก็เป็นพี่น้องกัน คุณลองหาตำแหน่งให้เทียนจื่อดูได้ไหม ลองคุยกับซูหรานดูสิคะ ถ้าพี่น้องสองคนนี้ได้ร่วมงานกัน น่าจะช่วยพัฒนาบริษัทของเราได้ยิ่งขึ้นนะคะ”
ถ้าเป็นคนอื่นที่ได้ยินแบบนี้ พวกเขาคงรู้ดีว่าเธอมีเจตนาไม่ดีแน่นอน แต่ซูหมินห่าวเป็นเพียงคนโง่คนหนึ่ง ไม่เพียงแค่รับฟังเท่านั้น แต่คิดว่าเธอก็พูดถูกด้วย
“ไม่ต้องห่วง ฉันเป็นพ่อของเขา ทรัพย์สินของตระกูลซูมีมากมายมหาศาล เขาไม่สามารถจัดการด้วยตัวเองได้ทั้งหมดหรอก ฉันก็เห็นด้วยเหมือนกัน ให้เทียนจื่อช่วยงานบริษัทดีกว่า ลืมนึกถึงเทียนจื่อไปเลย เดี๋ยวฉันจะมอบงานทั้งหมดให้กับพวกเขาเอง ความสามารถของฉันไม่ได้แย่เสียหน่อย”
ได้ยินเขาพึมพำ ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากของเธอขึ้น ไม่อยากจะนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่สูญเสียกว่าหลายสิบล้าน จะบอกว่าความสามารถของเขาก็ไม่ได้แย่เนี่ยนะ ไม่ใช่หรอก!
ผู้หญิงคนนี้ได้แต่บ่นพึมพำอยู่ในใจ เธอต้องคอยประจบเขาอย่างแยบยลที่สุด มันไม่ง่ายเลยที่จะหาใครสักคนที่คอยเอาใจเขาได้แนบเนียนเช่นนี้
ซูหรานก้าวขาลงจากเวที หลังจากที่กล่าวคำอวยพรวันเกิดให้คุณปู่ของเขาจบ เขาก็เดินมาทางหนวนหน่วนโดยไม่ได้เร่งรีบอะไร
“ให้ตายเถอะ! ซูหรานกำลังมาทางนี้เหรอ?”
“ไม่จริง เขามาจริง ๆ ด้วย”
ซูหรานที่มีผิวสีขาวราวกับหิมะตัดกับเสื้อสูทสีแดงนั้นมองดูสะดุดตาและดูดีมาก เมื่อเขาเดินมายังกลุ่มผู้คน เขาก็ได้รับความสนใจอย่างมาก
“พี่ซูหราน”
หนวนหน่วนยัดเค้กก้อนเล็กเข้าปากทั้งคำแล้วทำท่าเคี้ยวแก้มป่อง เมื่อเห็นคนเดินผ่านไปมา เธอก็ทำตาแป๋ว โบกมือทักทายทั้ง ๆ ที่กำลังเคี้ยวขนมเค้กหงึบหงับ
เดี๋ยวนะ มีแต่สายตาของผู้คนรอบข้างกำลังมองมาเต็มไปหมด
เมื่อถูกสายตาที่กำลังจ้องมองจากผู้คนมากมาย ใบหน้าที่ขาวเนียนของหนวนหน่วนเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมาทันที เธอก้มหัวลงด้วยความเขินอายแล้วซบหน้าลงบนคอของลูกพี่ลูกน้องของเธอ หูเล็ก ๆ อันบอบบางที่เปลี่ยนเป็นสีแดงโผล่ออกมาจากผมนุ่ม ๆ ดูน่ารักไม่น้อย