ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 59 กู้อันกับโต้วโต้ว
บทที่ 59 กู้อันกับโต้วโต้ว
เสื้อผ้าของคุณลุงคนขับรถเปียกไปหมดเพราะออกไปช่วยแมวสามแม่ลูก แต่สีหน้าของเขายินดีมาก เขาค่อย ๆ ยื่นแมวทั้งสามที่คลุมด้วยเสื้อของตัวเองมาที่หนวนหน่วนราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า
คนขับรถเป็นคุณลุงวัยกลางคนที่เงียบขรึมและซื่อสัตย์ เขาเองก็มีลูกสาวคนหนึ่ง ลูกของเขาก็เคยเป็นเด็กตัวเล็กน่ารักเหมือนหนวนหน่วนมาก่อน เธอป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวตั้งแต่อายุยังน้อย ครอบครัวกู้ช่วยค่ารักษาพยาบาลให้เธอถึง 100,000 หยวน
แม้ว่าลูกสาวที่น่ารักของเขาจะจากโลกนี้ไปในที่สุด แต่ก่อนจะเสียชีวิต เขาก็ได้ดูแลและใช้เวลากับลูกน้อยอย่างเต็มที่ ซื้อของที่เธอชอบให้ เรียกได้ว่าบอกลากันอย่างไม่มีอะไรติดค้าง
เขาจึงรู้สึกขอบคุณครอบครัวกู้มาก โดยเฉพาะคุณหนูหนวนหน่วนที่อายุไล่เลี่ยกับลูกสาวของตัวเองตอนนั้น ทุกครั้งที่เห็นเธอก็อดนึกถึงลูกสาวที่น่ารักของตัวเองไม่ได้ เขาจึงคอยดูแลลูกของเจ้านายด้วยความเอ็นดู
คนในครอบครัวกู้ดูแลหนูน้อยอย่างดี เขาเห็นว่าทุกคนคอยเอาใจใส่เด็กหญิง ทั้งนายท่านกู้กับภรรยา ท่านอาวุโสกู้ที่เป็นคุณปู่ หรือแม้แต่นายน้อยคนโตอย่างกู้หนาน
ตอนนี้เขามีความสุขมากที่ได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อเด็กหญิงคนนี้
“คุณลุงรีบขึ้นรถเร็วค่ะ”
หนวนหน่วนรีบให้คุณคนขับรถเข้ามาในรถแล้วยื่นผ้าขนหนูอุ่น ๆ ที่พี่ใหญ่เตรียมมาให้เธอแก่เขา
“คุณลุงห่มเร็วค่ะ เดี๋ยวเป็นหวัดนะ”
ชายวัยกลางคนวางแมวไว้บนตัก ก่อนจะซับผมที่เปียกจากสายฝน
“คุณลุงคะ เอาแมวมาไว้ตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
หนวนหน่วนชี้ไปที่พื้นหน้าเบาะตรงเท้าของเธอ ที่ตรงนี้กว้างพอจะให้แมวสามตัวนั่ง
โต้วโต้วแอบจิกติ่งหูหนวนหน่วน เบา ๆ ด้วยจะงอยปากของมัน มองยังไงก็เป็นแมวนี่นา ยังจะพาเจ้าพวกนี้ไปด้วยอีกเหรอ
เด็กหญิงใช้นิ้วแหย่เจ้านกน้อยเป็นการปรามว่าอย่าก่อเรื่อง
ลุงคนขับรถถือห่อผ้าอย่างลังเล “แต่ว่ารถจะ…”
เขากลัวว่าจะทำให้รถเปื้อน
“เกิดอะไรขึ้น”
เมื่อเสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้น คนขับรถก็สะดุ้งแล้วมองไปทางต้นเสียง พบว่ากู้หนานยืนอยู่ข้างรถพร้อมร่มสีดำ
ชายหนุ่มที่เคร่งขรึมไม่ได้มองคนขับรถ แต่มองไปทางน้องน้อย เมื่อเขาเห็นว่าหนวนหน่วนยังตัวแห้งสนิทก็พึงพอใจที่เห็นว่าน้องสาวยังเชื่อฟังอย่างดี
กู้อันอาศัยความตัวเล็กปีนขึ้นรถอย่างรวดเร็วเพื่อจับจองที่นั่งข้างหนวนหน่วนแล้วกอบกุมมือนุ่มของน้องสาวเอาไว้
อา… อุ่นจัง
“เมื่อกี้เสียงอะไรน่ะ”
“เหมียว~”
เสียงแมวร้องขึ้นเบา ๆ กู้อันจึงเห็นเจ้าแมวในมือของคนขับรถในที่สุด
“แมวมาจากไหนเนี่ย”
หนวนหน่วนมองตามพี่ใหญ่ที่แทรกตัวเข้ามาในรถท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ก่อนที่เด็กน้อยจะเอ่ยอะไรออกมา มือใหญ่ก็อุ้มเธอเอาไว้
กู้หนานส่งสายตาไปที่น้องชายตัวเล็ก “ไปนั่งโน่น”
กู้อันเบะปากแล้วย้ายไปอีกฝั่งเพื่อให้หนวนหน่วนนั่งตรงกลาง เอาเถอะ ยังไงก็ยังได้นั่งติดหนวนหน่วนอยู่
กู้หนานวางตัวหนวนหน่วนไว้ระหว่างตัวเองกับน้องชาย
“พี่ใหญ่ มีแมวค่ะ”
เธอจับฝ่ามือของพี่ใหญ่ด้วยมือเล็กอ่อนนุ่มของตัวเอง ดวงตากระจ่างฉายแววออดอ้อน ท่าทางกระตือรือร้นอย่างยิ่ง
“อยากเลี้ยงเหรอ”
หนวนหน่วนมองพี่ใหญ่อย่างสดใส รีบพยักหน้าหงึกหงักแล้วเอ่ยต่อ
“ฝนตกหนักมาก หนูสงสารแม่แมวกับลูก ๆ ที่ต้องตากฝน”
กู้หนานลูบจมูกเล็ก ๆ ของน้องสาวแล้วหันไปบอกคนขับรถ
“วางลงได้”
คุณลุงค่อย ๆ วางเจ้าแมวลงที่พื้นตรงเท้าของหนวนหน่วน แม่แมวเปียกโชกท่าทางดูไม่ค่อยดีนัก มันดูผอมโซ ตัวสั่นสะท้าน แต่พยายามปกป้องลูกน้อยทั้งสองเอาไว้ใต้ท้องของตัวเอง
กู้อันมองไปที่พวกมันอย่างรังเกียจ “อะไรเนี่ย แมวน่าเกลียดจัง เปียกก็เปียก”
เด็กชายสนใจสิ่งต่าง ๆ จากรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น
หนวนหน่วนมองแมวทั้งสามอย่างสนอกสนใจ กู้หนานจึงเตือนน้องสาวเบา ๆ ว่า “อย่าเพิ่งไปจับนะ”
เด็กหญิงตัวน้อยรับคำอย่างเชื่อฟัง “หนวนหน่วนยังไม่จับ”
“พาไปโรงพยาบาลสัตว์ก่อน”
ถ้าหนวนหน่วนอยากเลี้ยงพวกมัน เขาต้องพาแมวทั้งสามไปถ่ายพยาธิก่อน จากนั้นก็ฉีดวัคซีน ตัดเล็บ ทำความสะอาด ป้องกันไม่ให้เจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้ทำร้ายสุขภาพน้องสาวตัวน้อยของเขาได้ ถ้าเจ้าแมวพวกนี้เชื่องดีก็ไม่เกี่ยงที่จะเลี้ยงเอาไว้ แต่ถ้าก่อปัญหาให้อาจจะต้องหาบ้านใหม่ให้พวกมัน
รถเคลื่อนมาถึงโรงพยาบาลสัตว์ เมื่อกู้หนานลงจากรถก็ยื่นบัตรเครดิตให้ลุงคนขับแล้วเอ่ยว่า “เอานี่ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่เถอะ”
ชายวัยกลางคนรับบัตรนั้นมาอย่างตื้นตันใจ ซ่อนความรู้สึกขอบคุณเอาไว้แล้วไปซื้อเสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนชุด เพราะเขาเองก็ไม่อยากเป็นหวัดจนต้องหยุดงาน แบบนั้นจะไม่สามารถขับรถให้นายน้อยได้อย่างเต็มที่
แม่แมวและลูกแมวถูกพาไปตรวจร่างกายอย่างรวดเร็ว สามพี่น้องนั่งรอบนโซฟา กู้อันหันไปสอนหนวนหน่วนเล่นเกมในโทรศัพท์
น้องน้อยไม่ค่อยเข้าใจ เกมที่พี่เล็กเล่นมันซับซ้อนเกินไป แต่เธอก็ชอบเซียวเซียวเล่อกับเตตริสมาก นั่นทำให้กู้อันแอบมองน้องสาวที่ชอบอะไรเป็นเด็ก ๆ อย่างล้อเลียน แต่ก็ชวนเพื่อน ๆ เล่นเซียวเซียวเล่อให้น้องสาวดู
“โอ้โห พี่เล็กเก่งจังค่ะ”
ทุกครั้งที่ผ่านด่านกู้อันจะได้ยินคำชมเปาะจากหนวนหน่วน เมื่อเห็นน้องสาวมองเขาอย่างชื่นชมด้วยดวงตาเป็นประกายวิบวับ หัวใจของกู้อันก็พองโตด้วยความภูมิใจ
“แค่นี้ง่ายจะตายไป”
ถึงจะตอบแบบนั้นแต่กู้อันก็ตั้งใจเล่นเต็มที่ เขาพยายามอย่างสุด ๆ เพื่อจะผ่านด่านไปให้ได้ กู้หนานลอบมองน้องชายแล้วคิดในใจว่า กลับมาเจอรอบนี้ ดูเหมือนว่าน้องชายจะกลายเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจขึ้นทุกวัน
“เจ๋ง!”
เสียงแปร่ง ๆ ที่ดังมาจากหนวนหน่วนทำเอากู้อันตกใจจนเกือบจะโยนมือถือทิ้งด้วยมืออันสั่นเทา
ดวงตาของเด็กชายฉาบไปด้วยความกลัว เขานึกว่าหนวนหน่วนจะเป็นอะไรไป ทว่าเขากลับเห็นหัวเหลือง ๆ ของนกที่ซ่อนอยู่บนไหล่น้องสาวแทน
“นกมาจากไหนเนี่ย”
กู้อันแอบโล่งใจ
หนวนหน่วนยิ้มพร้อมกับใช้นิ้วเล็ก ๆ เกาคางของโต้วโต้วให้พี่ชายดู
“มันบินมาที่บ้านค่ะ ชื่อว่าโต้วโต้ว”
กู้อันมองไปที่เจ้านกอย่างอยากรู้อยากเห็น “แกพูดได้ด้วยเหรอ เรียกนายน้อยให้ฟังได้ไหม”
โต้วโต้วกลอกตาพลางกางปีกออกมากระพือ “นายน้อยเรอะ”
กู้อันหัวเราะ “แกนี่มัน กล้าดียังไงมาล้อเลียนฉัน!”
เขาจ้องไปที่โต้วโต้วอย่างหงุดหงิดก่อนจะเอื้อมไปคว้าเจ้านกน้อยเอาไว้
โต้วโต้วกระพือปีกบินขึ้น ส่งเสียงแหลมออกมาว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย โดนรังแก”
“เงียบนะ!”
“นายน้อยรังแก รังแก”
หนวนหน่วนเท้าคางมองดูความวุ่นวายอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อกู้อันจับโต้วโต้วไม่สำเร็จ เขาก็เลยเลิกแล้วกลับมาสอนหนวนหน่วนเล่นเกมต่อแทน แต่นั่นก็หลังสบถหลายคำอย่างหัวเสีย
ดวงตาของน้องสาวตัวน้อยหยิบหยี ยิ้มโชว์ฟันขาวให้พี่เล็กของเธอแล้วเอ่ยอย่างแผ่วเบาว่า
“พี่เล็กอย่าไปสนใจโต้วโต้วเลยค่ะ”
กู้อันกระแอมขึ้น “โอเค เห็นแก่เธอนะ ฉันจะไม่ยุ่งกับเจ้านกนั่น”
เจ้านกกวนประสาทเห็นแบบนั้นก็ร่อนลงที่ไหล่ของหนวนหน่วนแล้วอ้าปากจะพูดบางอย่างออกมา แต่โดนหนวนหน่วนคว้าจะงอยปากเอาไว้ก่อน
เด็กน้อยออกเสียงสั่ง “อย่ามารังแกพี่เล็กนะ”
โต้วโต้วเลยหลบหายไป
ตอนนี้กู้อันรู้สึกพอใจมากที่น้องสาวเข้าข้างตัวเองมากกว่าเจ้านกหัวเหลือง เด็กชายดึงน้องสาวเข้ามาใกล้ สอนเธอเล่นเกมต่ออย่างตื่นเต้น