ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 47 ฉากต่อสู้ของพี่สี่
บทที่ 47 ฉากต่อสู้ของพี่สี่
วัยรุ่นมักจะเลือดร้อน ในวัยหุนหันพลันแล่น ทุก ๆ โรงเรียนย่อมต้องมีเด็กตีกัน
และตอนนี้คนที่กำลังตีกันอยู่คือพี่สี่ของเธอ
หนวนหน่วนเห็นเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนตัวบางสีฟ้าอ่อน เรือนผมสีแดงเพลิง บุคลิกโดดเด่นแสบสันกำลังวาดขาเตะฝ่ายตรงข้าม กู้หมิงหลี่ล็อกข้อมือคนถูกเตะให้ล้มลงกับพื้น ซ้ำไหล่ด้วยฝ่าเท้า จากนั้นก็ออกแรงเหวี่ยงอีกฝ่ายเข้ากับกำแพงจนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
เขาจัดการฝ่ายตรงข้ามได้อย่างคล่องแคล่วไม่มีสะดุด ทั้งดูสวยงามและน่าเกรงขามไปพร้อม ๆ กัน หนวนหน่วนได้แต่มองภาพนั้นด้วยดวงตาเบิกกว้าง
และแล้วฝ่ามือเย็นเยียบของพี่ใหญ่ก็ยื่นมาบดบังวิสัยทัศน์ด้านหน้าเพื่อไม่ให้เห็นภาพความรุนแรง ในตอนนั้นกู้หมิงหลี่ที่กำลังต่อสู้อยู่ในตรอกแคบ ๆ ก็หันมาเห็นน้องสาวตัวน้อยและพี่ชายตัวสูงที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ไม่ไกลออกไปนักพอดี
เมื่อสบสายตาเย็นเยียบของกู้หนาน กู้หมิงหลี่ก็เสียสมาธิจนถูกกระแทกเข้าที่ไหล่
เด็กหนุ่มสบถออกมา สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด แต่ดวงตาพลันลุกโชนขึ้น เขายกมือขึ้นจับไม้ที่ฟาดลงมา บิดข้อมือฝ่ายตรงข้ามอย่างแรง จากนั้นก็กระโดดเหยียบเข่าอีกฝ่าย ถีบไปที่หน้าอก ออกแรงยันจนร่างอีกฝ่ายกระเด็นไปอีกทาง
กู้หมิงหลี่ใช้ไม้ที่ยึดมาได้ฟาดคนที่เหลืออย่างไร้ความปรานี เขาและเพื่อนอีกสามคนจัดการกับฝ่ายตรงข้ามที่มีมากกว่าสิบคนให้ล้มลงกับพื้นในเวลาอันสั้น
ตลอดเวลาที่เกิดการต่อสู่ กู้หนานเพียงยืนดูอยู่อย่างเงียบ ๆ ไม่คิดที่จะเข้าไปช่วยสักนิด
ตระกูลกู้สอนให้ลูกทุกคนเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาด้วยตนเองเสมอ รวมทั้งเรื่องทะเลาะวิวาทแบบนี้ด้วย ตราบใดที่ไม่มีอาวุธอย่างมีดหรือปืนเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขาต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ แต่ถ้ากลายเป็นเรื่องใหญ่โต ระดับตระกูลกู้ก็สามารถปกป้องตัวเองได้อยู่แล้ว
การทะเลาะวิวาทแบบนี้เป็นเรื่องระหว่างเด็ก ๆ ในโลกใบเล็กของพวกเขา ผู้ใหญ่ไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง กู้หมิงหลี่ถูกโจมตีอยู่แค่สองสามครั้ง ไม่ได้ดูสะทกสะท้านอะไร สายตาของกู้หนานจึงยังคงนิ่งสนิทเหมือนเดิม ส่วนกู้อันมองดูฉากนั้นอย่างเพลิดเพลิน ซ้ำยังออกเสียงเชียร์พี่ชายอย่างเมามัน
กู้หมิงหลี่กวาดตามองกลุ่มคนที่ร้องโหยหวนอยู่บนพื้นด้วยสายตาดูถูก ความชิงชังยังฉายชัดบนใบหน้า เด็กหนุ่มเช็ดเลือดที่มุมปากด้วยนิ้วหัวแม่มือ ก่อนจะหันหลังกลับแล้วเดินออกไป
“เฮ้ พี่หมิง เดี๋ยวก่อน โอ๊ย แม่ง… เจ็บชะมัด”
“ไอ้ ฉิบ…”
“โอ๊ย”
ถังเล่อและคนอื่น ๆ เพิ่งสังเกตเห็นกู้หนาน กู้อันและหนวนหน่วนที่ยืนอยู่ไม่ไกลออกไป พวกเด็กหนุ่มที่เพิ่งชนะการต่อสู้มาอย่างฮึกเหิมจึงเริ่มหน้าซีดเผือดลง
“พี่ใหญ่”
กู้หมิงหลี่ตรงเข้ามาเรียกกู้หนาน แต่ดวงตากลับจับจ้องไปที่หนวนหน่วน
มือเล็กของหนวนหน่วนปล่อยฝ่ามือของพี่ใหญ่ออก พอดีกับที่อีกฝ่ายยอมปล่อยเมื่อการต่อสู้จบลง ตอนนี้เด็กน้อยดูกังวลเป็นอย่างมาก
“พี่สี่คะ”
คำพูดเพียงสามคำนั้นที่ทำให้ความหุนหันพลันแล่นของกู้หมิงหลี่ที่มาจากการต่อสู้มลายหายไป เมื่อได้สัมผัสความนุ่มนวลของน้องสาวตัวจ้อย ในดวงตาเขาเลยเหลืออยู่เพียงความอ่อนโยน
ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นลูบหัวหนวนหน่วน ก็มีเสียงฝีเท้ารัว ๆ จากเหล่าคุณครูวิ่งมาแทน
นั่นทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องถูกพาตัวไปที่ห้องปกครอง รวมถึงหนวนหน่วนและกู้อันด้วย ท่ามกลางเหล่าวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยแผลฟกช้ำสภาพสะบักสะบอม เด็กน้อยสองคนท่าทางสะอาดสะอ้านดีจะไม่โดดเด่นออกมาได้อย่างไร
คุณครูที่กำลังจะดุด่ากู้หมิงหลี่ลดความโกรธลงทันทีที่เห็นดวงตากลมใสของหนวนหน่วน พวกเขาลดระดับเสียงลงอย่างไม่รู้ตัว
กู้หมิงหลี่ยกยิ้มที่มุมปาก ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะรอดพ้นจากการพ่นไฟของเหล่าคุณครูได้เพราะความน่าเอ็นดูของน้องสาว
หนวนหน่วนยืนจับมืออยู่ข้าง ๆ กู้หมิงหลี่ ทันทีที่เห็นคนมาดุพี่สี่ เด็กน้อยก็มองตามอย่างไม่เกรงกลัว ทุกคนจึงค่อย ๆ รู้สึกว่าคุณครูใช้คำพูดสองมาตรฐานอย่างไร
นักเรียนคนอื่น ๆ ถึงกับงงงวย “…”
ไม่น่าแปลกใจเลยที่พี่น้องตระกูลกู้จะใส่ใจน้องสาวคนเล็กมากขนาดนี้
กู้อันจับมืออีกข้างของหนวนหน่วน ไม่ได้สนใจคำพูดของคุณครู เขาสนแค่น้องสาวตัวเล็กที่กุมมือกันอยู่ ในหัวคิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้รับความสนใจจากน้องสาวมากขึ้น
ทางด้านของกู้หนาน ถ้ามองดูแล้วเขาเหมือนคนที่ทรงอำนาจมากที่สุดในห้องนี้ ชายหนุ่มนั่งอย่างเฉยเมย มองดูการสอบสวนทั้งหมดด้วยสีหน้านิ่ง ๆ
เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงปัญหาขัดแย้งไม่ลงรอยกันตามประสาวัยรุ่น หัวโจกของกลุ่มหนึ่งไปแอบชอบสาวต่างโรงเรียน แต่เจ้าตัวไม่เล่นด้วย เพราะเธอตามจีบกู้หมิงหลี่อยู่ แถมยังคอยตามตื๊อเขาทุกวัน
กู้หมิงหลี่เป็นคนแข็งกระด้าง เขาไม่ได้สนใจใครเลย ของขวัญที่ได้รับจากเด็กสาวถูกนำไปทิ้งบ้าง ไม่ก็ส่งต่อมันให้เพื่อนคนอื่น ๆ
หัวโจกคนนั้นรู้เข้าก็โมโห เพราะกู้หมิงหลี่ไม่เพียงแค่เป็นผู้ชายที่ทำให้ตัวเองอกหัก ซ้ำยังย่ำยีน้ำใจของคนที่เขาชอบด้วยการทิ้งขว้างของขวัญที่เขาอยากได้ไปง่าย ๆ การทะเลาะวิวาทจึงเริ่มต้นขึ้น
ดังนั้น เรื่องทั้งหมดอาจกล่าวได้ว่ากู้หมิงหลี่แค่ดวงไม่ดีที่อยู่ ๆ ก็มีเรื่องเข้ามา
คุณครูได้ยินความจริงแล้วก็โกรธมาก สั่งลงโทษกลุ่มหัวโจกที่เข้ามาหาเรื่อง อีกทั้งยังสั่งให้ชดใช้เรื่องค่ารักษาพยาบาลให้กลุ่มของกู้หมิงหลี่ด้วย
จัดการเรื่องต่าง ๆ จบ คุณครูก็หันไปมองทางกู้หนาน เมื่อเห็นว่าชายน่ากลัวคนนี้ไม่แสดงอาการไม่พอใจออกมาก็โล่งใจ
โชคดีที่กู้หนานไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ไม่อย่างนั้นเด็กกลุ่มนี้อาจจะไม่ได้เรียนที่นี่ต่อด้วยซ้ำ
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น ฝ่ายหัวโจกก็ออกจากห้องไปอย่างหดหู่ กู้หมิงหลี่เข้ามาบีบมือเล็ก ๆ ของหนวนหน่วน และในวินาทีต่อมา เด็กน้อยนุ่มนิ่มก็ถูกช้อนตัวให้ลอยหวือขึ้นในอากาศ แต่คนที่ทำแบบนั้นไม่ใช่เขา
กู้หมิงหลี่เงยหน้าตาม สายตาจับจ้องไปที่กู้หนาน สองพี่น้องมองกันไปมา คนหนึ่งไม่แยแสและเย็นชา ส่วนอีกคนหนึ่งมีแววตาของความท้าทายดื้อรั้น คิ้วและดวงตาของพี่น้องแทบจะถอดแบบกันมา แต่เพราะช่วงอายุที่ต่างกัน กู้หนานจึงข่มน้องชายได้มากกว่า
แม้ว่ากู้หมิงหลี่จะมีความดื้อรั้นและท้าทาย แต่ก็เป็นน้องที่เคารพพี่ใหญ่อยู่มาก
“พี่ใหญ่ กลับมาเมื่อไรครับ”
เขาแอบเสียใจที่ตัวเองช้าไปหนึ่งก้าว อุ้มตัวน้องสาวขึ้นมาไม่ทันพี่ใหญ่
กู้หนานเอ่ยตอบนิ่ง ๆ “เมื่อเช้า”
ระหว่างที่เดินออกจากห้องปกครอง กู้หมิงหลี่ก็พูดคุยเล็กน้อยกับกู้หนาน จากนั้นก็ไม่เหลือเรื่องอะไรให้คุยกันอีก อันที่จริงก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก นอกจากพี่ใหญ่ของเขาจะอยากพูดขึ้นเอง
กู้หมิงหลี่พุ่งความสนใจไปที่หนวนหน่วนทั้งหมด เด็กหนุ่มยกมือขึ้นบีบแก้มกลมนุ่มนิ่มสองข้างของน้องสาวตัวเล็ก
“ทำไมวันนี้มาหาพี่ล่ะ”
เขาถามพลางมองปากเล็ก ๆ ของหนวนหน่วนที่ถูกแก้มกลมบดบังเอาไว้ เขารู้สึกว่าน้องสาวนั้นแสนอ่อนนุ่มจนไม่รู้ว่าจะใช้มือใหญ่ ๆ ข้างนี้จับเธออย่างไรให้อ่อนโยนที่สุด
“เมื่อวานหนูหลับก็เลยไม่ได้มา พี่สี่ พี่เจ็บไหมคะ”
กู้หมิงหลี่บีบแก้มเล็ก ๆ ของน้องสาวอีกสองสามครั้งก่อนจะปล่อยมือ
“เจ็บนิดเดียว”
เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นพร้อมยกยิ้มที่มุมปาก “มันจะหายเจ็บทันทีเลย ถ้าเธอมาเป่าให้พี่ชายหน่อย”
หนวนหน่วนดูกังวลมาก เจ้าตัวน้อยรีบขยับตัวเข้ามาพลางทำหน้ามุ่ย จากนั้นก็พองแก้ม เป่าลมสองสามครั้งที่แผลช้ำ ๆ ตรงมุมปากของกู้หมิงหลี่
“ฟู่วว”
“หนวนหน่วน โอ๊ย ๆ พี่ชายเจ็บตรงนี้ด้วย”
หลังจากล้อเล่นแบบเด็ก ๆ ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง หนวนหน่วนก็ยื่นมือน้อย ๆ ออกไปสัมผัสใบหน้าของกู้หมิงหลี่อย่างอ่อนโยน