ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 274 น้ำผึ้งป่า
บทที่ 274 น้ำผึ้งป่า
“พี่ ทำไมถึงเพิ่งมาล่ะคะ”
ใบหน้ากลม ๆ ของหนวนหน่วนโน้มลงมาพูดคุยกับกู้หนานด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
กู้หมิงอวี๋บีบจมูกน้อยของเธอ ดวงตาลูกท้อส่งยิ้มกลับไปให้
“คิดว่าทุกคนเขาเหมือนเธอหรือไง ที่มีเสือโง่นั่นคอยนำทางมาน่ะ?”
มุมปากของหนวนหน่วนยกยิ้มขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมา “โอทิสพาหนูไปที่หนึ่ง พี่มาทางนี้เร็ว หนูเจอของดีด้วยแหละ”
เธออดใจรอแทบไม่ไหวที่จะได้แบ่งปันของดีให้กับพี่ชาย
เมื่อหนวนหน่วนพูดจบ เธอก็จูงมือพวกพี่ชายเดินลึกเข้าไปในหุบเขา
กู้หมิงหลี่เอื้อมมือไปสะกิดผีเสื้อที่เกาะอยู่บนผมของเธอ “หนวนหน่วน ตัวอะไรอยู่บนหัวเธอน่ะ?”
ไม่ทันคาดคิดว่านิ้วนั่นจะแตะมัน เจ้าผีเสื้อเรืองแสงจึงกระพือปีก บินโฉบขึ้นกะทันหัน ทำเอาทุกคนตื่นตระหนกไปตาม ๆ กัน
“อะไรวะเนี่ย!”
กู้หมิงหลี่รีบดึงมือกลับทันที
หนวนหน่วนส่ายหัว ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรไป๋โม่ซูก็ชิงพูดขึ้นก่อน
“นี่เป็นผีเสื้อเรืองแสงมอร์ฟี”
อีวานกับไคน์รู้สึกประหลาดใจมาก ทั้งคู่ต่างรีบวิ่งกรูเข้าไปทันที
“ผีเสื้อเรืองแสงมอร์ฟี จริงเหรอเนี่ย!!”
ทั้งสองพลันตื่นตาตื่นใจ ต่างรีบวิ่งเข้ามาดู “ผีเสื้อเรืองแสงมอร์ฟีตัวใหญ่ เป็นสิ่งที่หายากมากเลยนะ”
ผีเสื้อเรืองแสงมอร์ฟีเป็นที่สุดของเหล่าผีเสื้อทั้งปวง ไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แต่ยังมีขนาดตัวที่ใหญ่มาก นอกจากนี้ยังพบเจอได้ยากอีกด้วย
ดูสิว่าตอนนี้พวกเขาเจออะไร ผีเสื้อเรืองแสงมอร์ฟีตัวเป็น ๆ ตัวใหญ่กว่าฝ่ามือของพวกเขาอีก!
นอกจากนี้มันยังเกาะอยู่บนหัวของหนวนหน่วนอย่างเงียบ ๆ ทำตัวเป็นเหมือนเครื่องประดับเสียด้วยซ้ำ
ไม่อยากจะเชื่อเลย
ไคน์หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา กดชัตเตอร์ถ่ายภาพเทพีแห่งผีเสื้อที่กำลังเกาะอยู่บนศีรษะของหนวนหน่วนผ่านมุมต่าง ๆ เขาทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ
“ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งเขาชอบผีเสื้อมาก ถ้าฉันส่งภาพไปอวดละก็ เขาต้องอิจฉาฉันมากแน่เลย!”
“นี่คือผีเสื้อเรืองแสงมอร์ฟีเลยนะ”
กู้หมิงอวี๋แตะคางของตัวเองอย่างครุ่นคิดก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้ ผีเสื้อเรืองแสงมอร์ฟีที่อยู่บนหัวของหนวนหน่วนขยับปีกเบา ๆ ปีกสีฟ้าของมันบางและโปร่งใสมาก ยามต้องกับแสงแดดยิ่งเรืองแสง ช่างน่าหลงใหล ยิ่งมองดูใกล้ ๆ ยิ่งเหมือนมีพลังลึกลับคอยดึงดูดให้เข้าหา
“สวยมากจริง ๆ”
หนวนหน่วนเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้ “พี่ชอบหรือเปล่าคะ?”
กู้หมิงอวี๋หลุบตามองเธอพร้อมรอยยิ้ม “ของสวยงามแบบนี้ก็ต้องชอบอยู่แล้ว”
กู้หมิงอวี๋เป็นคนรักษาภาพลักษณ์ของหน้าตา เห็นได้ชัดจากการใช้ชีวิตประจำวันของเขา ส่วนใหญ่แล้วเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ประณีตและสวยงามมากเช่นกัน
หนวนหน่วนเอียงคอแล้วเอื้อมมือไปจับผีเสื้อ
ผีเสื้อเรืองแสงมอร์ฟีนั้นเชื่อฟังมาก แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมันขี้เกียจหรือเปล่า หลังจากที่เกาะลงบนหัวของหนวนหน่วนแล้วมันก็ไม่ขยับไปไหนเลย เมื่อเอาน้ำผึ้งมาป้อนก็ยังนิ่งเฉย
ตอนนี้เธอจับมันมาวางไว้บนอุ้งมือ แต่มันก็ยังคงนิ่งสงบเหมือนเดิม
“หนูให้ค่ะ เจ้านี่เป็นเด็กดีมากเลยนะ”
ทุกคนต่างคิดอยู่ภายในใจ ในสายตาเธอเคยมองอะไรไม่ดีด้วยเหรอ? แม้แต่สัตว์ดุร้ายก็ดูเป็นเด็กดีในสายตาของเธอทั้งนั้น
ผีเสื้อถูกนำไปวางลงบนอุ้งมือของกู้หมิงอวี๋ ภายใต้แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา ทำให้มือขาวผ่องของเด็กหญิงสะท้อนแสงราวกับหยกเนื้อเนียนละเอียด ทำให้ผีเสื้อที่อยู่บนมือของเธอดูสง่างามยิ่งนัก
ไม่นานผีเสื้อตัวใหญ่แสนงดงามตัวนี้ก็โดนย้ายไปอยู่ในมืออันเรียวยาวประหนึ่งต้นหอม
มุมปากของกู้หมิงอวี๋ยกยิ้มขึ้น เขาลูบผมของคนตัวเล็กพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“สวยมากเลย แต่หนวนหน่วนของพี่สวยกว่าอีก”
ตาและคิ้วของหนวนหน่วนยิ้มหยีทันทีเมื่อได้รับคำชม เด็กหญิงจับหน้าอันแสนตุ้ยนุ้ยของเธอ พลางเอ่ยออกมาอย่างไม่ถ่อมตน
“หนูก็ว่าอย่างนั้นค่ะ พวกพี่เองก็หล่อมากเหมือนกัน แน่นอนว่าหนวนหน่วนก็ต้องสวยเป็นธรรมดา”
มันหมายความว่าพี่ชายของเธอก็หล่อมาก ดังนั้นเธอเองก็ต้องสวยมากเช่นกัน เพราะทุกคนล้วนเป็นพี่น้องกัน
บรรดาพี่ชายอันหล่อเหลาของเธอพลางจ้องมองแล้วหัวเราะออกมาอย่างเพลิดเพลินใจ
“พี่อาหนานมาทางนี้หน่อยค่ะ หนวนหน่วนมีของจะให้ด้วย”
หนวนหน่วนรักพี่ชายของเธอมาก แถมยังคอยดูแลเหลียงฉือที่กำลังป่วยเป็นอย่างดี
เธอจับมือของเขาข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็จับมือของพี่ชายคนเล็กแล้วพาเดินไปยังที่วางรวงผึ้ง
เธอไม่ยอมวิ่ง เพราะต้องคอยดูแลคนป่วยอย่างเหลียงฉือด้วย
กู้อันรู้สึกดีใจมากที่โดนน้องสาวจูงมือ ตอนนี้เขาเหมือนไก่พองขนจอมเย่อหยิ่งไม่มีผิด ที่เวลาเดินผ่านคนอื่นก็จะเชิดหน้าขึ้นจนหางเกือบจะตั้งโด่งชี้ฟ้าอยู่แล้ว
กู้อัน ‘เห็นหรือเปล่า น้องสาวจับมือผมแต่ไม่จับพวกพี่แหละ ฮ่า ๆ ๆ’
ถ้าไม่ใช่เพราะเขายังเด็กนะ กู้หมิงหลี่รวมถึงคนอื่น ๆ คงคว้ามีดเตรียมแทงแล้ว
“พี่ไป๋โม่ฮัวมาเร็วเข้า หนูไปแลกน้ำผึ้งมา หอมหวานมากเลย”
ดวงตาของไป๋โม่ฮัวเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องของกิน เขาก้าวเดินตามไปอย่างมีความสุข
“น้ำผึ้งเหรอ?”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน แล้วจู่ ๆ ก็รู้สึกว่าบางทีน้องสาวแสนขี้อายของพวกเขา ในบางมุมเธออาจจะเป็นคนกล้าหาญมากกว่าที่คิด
หลังจากที่พวกเขาพากันเดินตามเธอไป ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบเข้ากับรังผึ้งขนาดใหญ่
“หนวนหน่วนไม่เป็นไรใช่ไหม?”
กู้หมิงหลี่รีบย่อตัวนั่งลงแล้วจับคนตัวเล็กมาสำรวจร่างกายทันที นอกจากนี้ทุกคนก็ต่างถามด้วยความเป็นห่วง
“ถูกผึ้งต่อยหรือเปล่า?”
“กล้าหาญเกินไปไหมเนี่ย ไปเอารวงผึ้งออกมาได้ยังไง”
“หน้าตาก็ดูไม่มีรอยบวมอะไรนะ แล้วนี่ถูกต่อยตรงอื่นบ้างหรือเปล่า?”
หนวนหน่วนเอ่ยบอก “หนูไม่เป็นอะไรเลยค่ะ”
เธอกางแขนออกพลางหมุนตัวให้พี่ชายดูว่าไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
หนวนหน่วนเล่าให้พวกเขาฟังอย่างภูมิใจ “หนวนหน่วนเอาแอปเปิลกับลูกอมไปแลกมา เป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมค่ะ”
ทุกคน “…”
ผึ้งมันรู้จักการแลกเปลี่ยนด้วยเหรอ?
เมื่อหนวนหน่วนเห็นว่าพวกพี่ชายเป็นกังวล เธอจึงอธิบายวิธีการตกลงข้อแลกเปลี่ยนกับผึ้งให้พวกเขาฟัง พร้อมเล่าถึงหนวดขนยาว ๆ บนหัวของพวกมัน
“มีอยู่ตัวหนึ่งมันอ้วนมากเลยค่ะ ตัวใหญ่เกือบเท่าครึ่งฝ่ามือ น่ารักอ้วนฟูมาก หนูเอาลูกอมไปแลกพวกมันก็ให้รวงผึ้งกลับมา พวกพี่กินกันเลยค่ะ”
หนวนหน่วนหักก้อนรวงผึ้งออกด้วยมือเปล่าก่อนจะส่งมันให้พวกพี่ชายที่กำลังนิ่งเงียบกันแปลก ๆ แต่น้ำผึ้งที่เธอให้เหลียงฉือนั้นดูใหญ่กว่าทุกคนนิดหน่อย
คนป่วยย่อมได้รับสิทธิพิเศษ
เด็กหญิงทำให้มือของทุกคนเหนียวเหนอะไปหมด
“โฮกกก”
โอทิสเดินเข้ามาใกล้หนวนหน่วนแล้วยื่นหน้ามาถูไถตัวเธออยู่สองสามครั้ง
‘แล้วของฉันล่ะ?’
“เพราะว่าโอทิสกินไปก่อนหน้านี้แล้ว ครั้งนี้ก็เลยจะให้น้อยลงนะ”
สุดท้ายแล้วเธอก็ใจไม่เด็ดพอที่จะปฏิเสธโอทิส เด็กหญิงหักรวงผึ้งชิ้นที่ดูเล็กกว่าของพวกพี่ชายนิดหน่อยแล้วป้อนให้มันไป
เจ้าแมวตัวใหญ่เหมือนจะรู้สึกว่าไม่พอ มันจึงอ้อนวอนขออีกครั้งหลังกินหมด
พวกพี่ชายที่กำลังถือก้อนรวงผึ้ง “…”
เกิดอะไรขึ้น? นี่คือเอามาให้เขากินเหรอ?
พูดตามตรง นี่เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่มากเลย เพราะส่วนใหญ่แล้วจะทานน้ำผึ้งที่บรรจุเป็นขวดแล้ว หรือไม่ก็หลังจากที่นำไปประกอบอาหาร ไม่เคยกินสด ๆ แบบนี้มาก่อน
แต่นี่เขาต้องมากินมันสด ๆ เลย…
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับไป๋โม่ฮัวยอดนักชิมเลยแม้แต่น้อย เขาหยิบรวงผึ้งขึ้นมาก่อนจะกินมันอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
“อร่อยจัง!”
หนวนหน่วน “ใช่ไหมคะ หวานมากด้วย”
อีวานเองก็จับมันขึ้นมากัดเช่นกัน
เมื่อทุกคนเห็นดังนั้น ก็ต้องหยิบมันขึ้นมาลองลิ้มรสท่ามกลางแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของหนวนหน่วน
ทุกคนต่างเข้าใจขึ้นมาทันที แม้แต่คนที่ไม่ชอบกินหวานยังตาเป็นประกายขึ้นมาเมื่อได้ลองลิ้มรสน้ำผึ้งป่านี้
ไป๋โม่ซูในฐานะแพทย์ เขาก็เอ่ยพูดสรรพคุณของน้ำผึ้งป่าที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ขึ้นมาทันที
“เอากลับบ้านไปฝากคุณปู่หน่อยนะ น้ำผึ้งป่าดีต่อสุขภาพ”
แววตาของหนวนหน่วนเป็นประกาย “ถ้าคุณปู่กินจะแข็งแรงไหมคะ?”
ไป๋โม่ซูเลียนิ้วของตัวเอง หากเป็นคนอื่นทำคงดูน่าขยะแขยงมาก แต่เมื่อเป็นเขาแล้ว ท่วงท่านั้นกลับดูเป็นธรรมชาติและสง่างามอย่างบอกไม่ถูก
“อื้ม ดีต่อสุขภาพพ่อแม่เธอด้วย”
แววตาของหนวนหน่วนเป็นประกายขึ้นมาทันที แต่แล้วมันก็ต้องมอดดับลงไป “แต่ว่าหนวนหน่วนไม่ได้เอาลูกอมมาเยอะขนาดนั้นน่ะสิ ไม่รู้ว่าผึ้งจะยอมหรือเปล่า”