ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 266 เข้าใจหมดแล้ว
บทที่ 266 เข้าใจหมดแล้ว
ถึงแม้จะถูกบอกว่าให้ตั้งสติ แต่ไคน์ก็ยังคงยึดติดกับคำว่า ‘ธรรมชาติย่อมไม่เปลี่ยนแปลง’ นอกจากนี้เขายังคิดอีกว่าเจ้าเสือขาวโอทิสคือ ‘รักแท้’ ที่ใช่สำหรับเขา แม้แต่คนผมยาวคนนั้นก็ไม่สามารถเทียบได้
หากกู้หมิงอวี๋รับรู้ได้ถึงสิ่งที่เขาคิดอยู่ภายในใจ เขาคงต่อยคนตรงหน้าล้มลงไปนอนกองกับพื้นอย่างแน่นอน
แล้วใครมันจะต้องการให้นายมาชอบกัน!
ถึงแม้ว่าไคน์จะคิดว่ามันเป็น ‘รักแท้’ แต่โอทิสไม่ได้สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ มันนั่งเอื่อยเฉื่อยอยู่ไม่ไกลจากเด็กหญิงด้วยท่าทีเกียจคร้าน พลางมองเจ้าลูกมนุษย์ที่กำลังดึงชายร่างบางอีกคนหนึ่งขึ้นมาจากพื้นด้วยดวงตาสีทอง
โอทิสสะบัดแกว่งหางไปมา ก่อนจะหันหน้ามองเจ้ามนุษย์สองขาผู้นั้นอย่างเหยียดหยาม
‘ทำไมหมอนี่ถึงอ่อนแอแบบนี้’
ไป๋โม่ฮัวไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่าตัวเองกำลังโดนเสือดูถูกอยู่ เขาลุกขึ้นยืน ปัดกางเกงแล้วหยิบแอปเปิลขึ้นมากัด
พอได้ลองทานแล้วความเจ็บปวดก็หายเป็นปลิดทิ้ง ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรการกินก็เยียวยาได้เสมอ
กู้หมิงหลี่ “…นายไปเอาแอปเปิลมาจากไหน?”
เจ้านี่มันซ่อนของกินเอาไว้ตรงไหนกัน ทำเพียงแค่แตะ ๆ ไปที่ตัวเพียงไม่กี่ครั้ง แอปเปิลก็โผล่ออกมาจากไหนก็ไม่รู้
ไป๋โม่ฮัวกัดแอปเปิลคำเล็ก ๆ พลางหันขวับมามองคนพูด
“ซ่อนเอาไว้นะ”
เขาลูบตัวอีกครั้ง หลังจากนั้นก็มีองุ่นสองสามลูกโผล่ออกมา
ชายหนุ่มยื่นมันให้หนวนหน่วน
“กินสิ”
หนวนหน่วนเองก็ไม่เกรงใจ เธอกัดองุ่นอย่างเอร็ดอร่อย ดวงตาใสแจ๋วประกอบกับแก้มที่พองออกตอนเคี้ยวทำให้เธอดูเหมือนหนูแฮมสเตอร์ตัวน้อย
“แล้วของฉันล่ะ?”
เมื่อเห็นพวกเขากินแล้ว กู้หมิงหลี่ก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที
อันที่จริงเขาอยากรู้มากว่าเจ้านี่จะซ่อนอะไรไว้อีก
“อยากกินอะไรล่ะ?”
ไป๋โม่ฮัวกัดแอปเปิลพลางเอ่ยถามอย่างสงสัย
กู้หมิงหลี่ “นายมีแตงโมไหม?”
ไป๋โม่ฮัวมองเขาอย่างเหนื่อยหน่ายทันที
แตงโมลูกตั้งใหญ่ จะซ่อนเอาไว้ตรงไหนได้ล่ะ เจ้านี่ไม่มีสมองเลย!
กู้หมิงหลี่ถูไถปลายจมูกตัวเอง เขาไม่ได้โง่สักหน่อย…ก็แค่ลองถามดูเท่านั้น
ในที่สุดไป๋โม่ฮัวก็หยิบลูกท้อออกมาแล้วส่งให้เขา
“ไม่มีแตงโม มีแต่ลูกท้อ”
หลังจากกู้อันเดินเข้ามาสมทบ เด็กชายก็ได้ลำไยไปกินสองลูกด้วยเหมือนกัน
ทางด้านไคน์ เขาพบเข้ากับหมาป่าหิมะที่กำลังบาดเจ็บ
หัวใจของ ‘ผู้เป็นพ่อ’ รู้สึกเป็นห่วงเป็นใยพวกมันมาก เขาแทบร่ำไห้ออกมาเมื่อเห็นว่าพวกมันบาดเจ็บ แต่เมื่อเห็นว่าได้รับการปฐมพยาบาลอย่างดีแล้ว ไคน์ก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที
ถึงแม้ว่า ‘ลูกสาว’ ของเขาจะบาดเจ็บ และผู้ที่ทำร้ายก็คือเจ้าเสือขาวโอทิส แต่เขาก็ยังคงชื่นชอบเจ้าเสือขาวแสนสง่างามตัวนี้อยู่ดี
ทั้งที่รู้ว่าทำอะไรไปก็ไร้ค่า เมื่อเทียบกับ ‘เจ้าตัวน้อย’ หนวนหน่วนแล้ว
ไม่ว่าหนวนหน่วนจะเดินไปไหน เจ้าเสือขาวก็จะตามไปทุกที่ ราวกับว่าเป็นผู้พิทักษ์ของเธอไม่มีผิด ทำเอาคนที่เพิ่งมาทีหลังรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย
และหลังจากนั้น พวกเขาก็ได้รับรู้ว่าคุณหนูตระกูลกู้คนนี้เพิ่งจะได้รู้จักกับเจ้าเสือขาวตัวนั้นไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ
หลังจากได้ฟังเช่นนั้นแล้ว มุมมองของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที
โดยเฉพาะเมื่อตอนที่ได้เห็นหมาป่าทั้งสามตัวต่อสู้กับเจ้าเสือขาวเพื่อแย่งชิงลูกมนุษย์ หากหนวนหน่วนไม่คอยห้ามอยู่ตรงกลาง พวกมันคงได้ต่อสู้กันอีกแน่นอน
ไคน์เดินตามติดมาจากทางด้านหลัง เขาเฝ้ามองดูเจ้าเสือโอทิสที่ตนเองคิดถึงแทบขาดใจ ก่อนจะหันมามองหมาป่าหิมะอีกสามตัวที่เขาเลี้ยงเอาไว้ ในใจพลันรู้สึกอิจฉา
‘ทำไมกัน! ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้! แม้แต่เจ้าเสือโอทิสเองก็ต้านทานเสน่ห์ของหนูน้อยคนนี้ไม่ได้เหมือนกันเหรอ! อย่างน้อยก็ควรเล่นตัวสักนิดสิ!’
ไคน์ไม่ได้ประสงค์อยากให้สัตว์ในป่าของเขาเกลียดชังเด็กหญิง แต่ภายในใจของเขานั้นก็อยากให้โอทิสต่อต้านเธอบ้างสักหน่อย
โอทิสจัดได้ว่าเป็นเสือตัวหนึ่งที่ค่อนข้างเย่อหยิ่งและน่าเกรงขามมาก ใครจะไปคิดว่ามันจะหลงเสน่ห์คนได้เร็วขนาดนี้!
อีวานตบบ่าของเขาเป็นเชิงปลอบใจ “พอเถอะเพื่อน ว่าแต่โอทิสมันอยู่ตรงนี้มาหลายวันแล้วนะ มันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงกัน?”
อีวานและไป๋โม่ซูผู้ฉลาดหลักแหลมสามารถคิดคำตอบได้ในทันที เนื่องจากตอนที่พวกเขาเข้ามาในอุทยานของไคน์ โอทิสหมายตาพวกเขาเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันคงจะเดินตามรอยเท้าของพวกเขามา เพียงแต่ว่าตอนนั้นพวกเขาไม่ทันคิดว่าเจ้าตัวที่ตามมาคือโอทิส
ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันมันจะซ่อนตัวจากสายตามนุษย์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ได้เฝ้ามองพวกเขาอยู่ห่าง ๆ นี่นา
แต่อันที่จริงก็คงมาเฝ้ามองหนวนหน่วนนั่นแหละ
โอทิสอยู่ไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง และด้วยร่างกายที่ใหญ่โตขนาดนี้ แต่มันกลับซ่อนตัวได้อย่างมิดชิด เห็นได้ชัดเลยว่ามันเหนือชั้นกว่ามาก
การที่โอทิสมาอยู่ที่ภูเขาหิมะนี้ได้ก็คงเป็นเพราะตามหนวนหน่วนกับพวกเขามา แต่อาจจะโดนจับได้โดยบังเอิญ
ไคน์ก็คิดเช่นนั้น แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกอิจฉา
กลุ่มคนลงจากเขาในตอนฟ้ามืด เหล่าสัตว์ป่าที่ไม่ชอบสุงสิงกับพวกมนุษย์อยู่แล้วก็ต่างพากันแยกย้าย
แต่ก่อนจะกลับก็ได้มีเหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นอีกนิดหน่อย
โอทิสเกือบจะต่อสู้กับหมาป่าหิมะทั้งสามตัวอีกครั้ง เนื่องจากว่าหมาป่าหิมะดันไปเลียหน้าหนวนหน่วนก่อนจะจากลากัน ทำให้พวกมันโดนเจ้าเสือขาววิ่งไล่ล่ากันอยู่เนิ่นนาน และหลังจากวิ่งไล่กันพอสมใจแล้ว พวกมันก็แยกย้ายกันกลับไปยังที่พักของตัวเอง
แต่จู่ ๆ โอทิสก็วิ่งกลับมาหาหนวนหน่วน เสือขาวย่อตัวลงแล้วใช้ขาของมันดึงเด็กน้อยเข้ามาโอบกอด พยายามใช้พุงถูไถกับเจ้าเด็กน้อย นอกจากนี้ยังเลียศีรษะของเธอด้วย เพื่อหวังจะกลบกลิ่นของสัตว์ตัวอื่นให้เป็นกลิ่นของตัวเองทั้งหมด
หลังจากที่สภาพศีรษะของเด็กหญิงดูยุ่งเหยิงแล้ว เจ้าเสือขาวก็ยันตัวเองลุกขึ้นยืนก่อนจะไล่ดมตามบริเวณต่าง ๆ อย่างพึงพอใจ หากไม่มีกลิ่นของเจ้าหมาป่าพวกนั้นแล้วมันจึงจะรู้สึกพอใจ
หลังจากนั้นเด็กหญิงที่เพิ่งลุกขึ้นยืนได้ไม่นานก็โดนดึงกลับจนล้มลงไปอีกครั้ง
หนวนหน่วน “โอทิส!”
เด็กหญิงพองแก้มเหมือนปลาปักเป้าตัวน้อย
เจ้าเสือขาวโอทิสรีบลุกขึ้นยืนอย่างรู้สึกผิด และในไม่กี่วินาทีต่อมามันก็วิ่งหนีหายไป
พอร่างใหญ่โตนั้นวิ่งออกไป มันใช้เวลาแค่เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นก็ลับสายตาหายไปแล้ว แม้แต่พวกบอดีการ์ดที่โดนฝึกมาเป็นอย่างดี เมื่อได้มองดูแล้วต่างก็ต้องชื่นชมให้กับความเหนือชั้นของเจ้าเสือขาวตัวนั้นเลยทีเดียว
ยังดีที่มันไม่คิดทำร้ายพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วภารกิจตามหาคนครั้งนี้คงได้พบเจอกับอะไรอีกบ้างก็ไม่รู้
หนวนหน่วนตัวน้อยที่นอนกลิ้งอยู่บนพื้นหิมะถูกกู้หนานดึงอุ้มขึ้นมา
เขาลูบผมของน้องสาวด้วยใบหน้านิ่งเรียบ
ลิ้นของเสือขาวขรุขระ หนวนหน่วนเองก็เคยมีประสบการณ์ที่ทำให้ใบหน้าเป็นสีแดงเพราะการเลียแบบนี้มาก่อนด้วย โชคดีที่ครั้งนี้มันไม่ได้เลียหน้าเธอ แต่เลียผมเธอแทน
กู้หมิงอวี๋หยิบหวีอันเล็กออกมา “มา ๆ พี่หวีผมให้”
พวกพี่ชายต่างห้อมล้อมน้องสาว ก่อนจะช่วยกันจัดการทำความสะอาดตัวเธอให้เรียบร้อย หลังหยิกแก้มยุ้ย ๆ ของเธอแล้วก็พากันลงจากภูเขาไป
หนวนหน่วนที่ถูกพวกพี่ชายล้อมเอาไว้โยกคอไปมาพลางเดินเตาะแตะไปด้วย นัยน์ตาสีดำเป็นประกายส่องสว่าง ปากเล็กอมชมพูของเธอพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อยตลอดทาง
ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เธอมีความสุขมากที่ได้เที่ยวเล่น แล้วก็สุขใจยิ่งกว่าที่ได้เห็นพี่ชายมีความสุขเช่นกัน
น้ำเสียงอันนุ่มนวลอ่อนหวานของเด็กหญิงช่างไพเราะเสนาะหูผู้คนมากมายในยามค่ำคืนแบบนี้ คำพูดของเธอมันช่างใสซื่อบริสุทธิ์จนทำให้คนฟังไม่รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อย
โลกของเด็กก็แบบนี้แหละ ทุกอย่างมันช่างดูงดงามไปหมด แม้แต่การเห็นหนอนแมลงที่อยู่บนใบไม้ก็ยังเป็นภาพที่สวยงามสำหรับเธอได้เลย
ก่อนหน้านี้มีบางคนไม่เข้าใจว่า เหตุใดนายน้อยตระกูลกู้จึงยอมทุ่มเทตามหาเด็กหญิงคนนี้อย่างแข็งขันกันนัก แต่เมื่อได้มาเจอกับตัวก็รับรู้ได้ทันทีว่า หากพวกเขามีลูกหรือน้องสาวก็อยากจะปกป้องเธออย่างสุดหัวใจแบบนี้เช่นกัน