ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 252 พวกหมาป่าหิมะมาอีกแล้ว
บทที่ 252 พวกหมาป่าหิมะมาอีกแล้ว
หนวนหน่วนพูดคุยเจื้อยแจ้วกับครอบครัวมากมาย สุดท้ายก็กระหายน้ำจนได้
“ดื่มน้ำหน่อย”
ไป๋โม่ซูสังเกตเห็นความแตกต่างเล็กน้อยในเสียงของเด็กหญิงตัวน้อย เขายื่นแก้วน้ำอุ่นให้เธออย่างใส่ใจ
ไป๋อันหรานมองลูกสาวสุดที่รักของตนอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม้ว่ายังอยากคุยกับเธออยู่ แต่แค่ชั่วโมงกว่าก็เพียงพอแล้ว
[หนวนหน่วนไปเล่นเถอะ พรุ่งนี้เราค่อยมาวิดีโอคอลกันใหม่]
เด็กหญิงตัวน้อยดื่มน้ำเสร็จแล้วก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “โอเคค่ะ บ๊ายบายนะคะคุณปู่ คุณพ่อคุณแม่ พี่ ๆ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ”
เธอบอกลาทุกคนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ไม่มีใครยอมตัดสายวิดีโอ สุดท้ายไป๋โม่ซูก็เข้ามาตัดสายให้อย่างจนปัญญา
“หนวนหน่วน หนวนหน่วน หมาป่าหิมะสามตัวนั้นมาอีกแล้ว”
เสียงของไป๋โม่ฮัวดังมาจากข้างนอก เด็กน้อยกระโดดลงจากโซฟาพร้อมกับมือถือ แล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็วด้วยขาสั้น ๆ
ทันทีที่มาถึงประตูก็ได้ยินเสียงตื่นเต้นเกินจริงของไคน์
“ลูกรัก พวกแกมาทำไม? มาหาพ่อหรือเปล่า! ฉันมีความสุขจังเลย”
เขาวิ่งไปกอดหมาป่าหิมะทุกตัว แต่ไม่รู้ว่าทุกคนตาฝาดไปหรือเปล่า สายตาของพวกหมาป่าหิมะดูค่อนข้างรังเกียจชอบกล
หนวนหน่วนและคนอื่น ๆ มองจากระยะไกล ไม่ได้เข้ามาใกล้ แต่หมาป่าหิมะทั้งสามกลับมองมาที่พวกเขาบ่อย ๆ พวกมันยังคงดูเย่อหยิ่ง ระมัดระวังตัวไม่ยอมเข้ามาใกล้เท่าไหร่
อีวานลูบคางอย่างมั่นใจ “พวกมันกำลังมองฉันอยู่หรือเปล่า?”
ไป๋โม่ฮัวก็มั่นใจมากเช่นกัน “ก็เห็น ๆ อยู่ว่ากำลังมองน้องสาวของฉัน!”
ประโยคหลังมีความน่าเชื่อถือมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
หนวนหน่วนก็แอบมองหมาป่าหิมะที่สวยงามทั้งสามตัวนั้นเช่นกัน
ไคน์พาพวกมันเข้ามา เมื่อเผชิญหน้ากับหมาป่าตัวใหญ่และมีพลังกดดันในระยะใกล้ จิตใจของคนทั่วไปต้องมีความเกรงกลัวอยู่บ้าง แต่หนวนหน่วนอาจจะผิดปกติจากคนอื่น เธอไม่กลัว ทั้งยังอยากสัมผัสเจ้าหมาป่าตัวใหญ่อีกด้วย
ไคน์เชิดจมูกอย่างภาคภูมิใจ
“เหล่าเด็กดีของฉันยังคิดถึงฉัน ตอนนี้มาหาฉันเองเลย ฉันบอกแล้วว่าพวกมันชอบฉันที่สุด แม้ว่าตอนนี้จะโตแล้วจึงไม่ได้ตามติดเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยัง…”
เขาโอ้อวดหมาป่าหิมะของตัวเองไม่หยุดหย่อน
ทุกคน : ยังไงก็รู้สึกว่าพวกมันไม่ได้มาหานายสักหน่อย…
พวกเขาไม่อยากโจมตีเกียรติอันจอมปลอมของไคน์ในฐานะ ‘พ่อ’ ทุกคนจึงไม่ได้พูดอะไรออกไปอย่างรู้กัน
“คุณอาไคน์ หนวนหน่วนขอแตะพวกมันได้ไหมคะ?”
เด็กน้อยหนวนหน่วนย่องเข้าไป ดวงตาเล็ก ๆ จับจ้องหมาป่าหิมะทั้งสามอย่างไม่ละสายตา
ไป๋โม่ซูนั่งบนเก้าอี้ เชิดคางขึ้นคอยแปลความหมายให้เธอ
ไคน์มีท่าทีลังเล “แต่ว่าริคกับพี่น้องมีนิสัยเย่อหยิ่ง ฉันเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กจนพวกมันโตถึงจะเข้าใกล้ได้ พวกมันไม่อนุญาตให้คนแปลกหน้า…”
ยังพูดไม่ทันจบ เขาก็เห็นแอนนี่แอบเหวี่ยงหางฟู ๆ สีขาวของมันไปที่หน้าเด็กหญิงตัวน้อยเบา ๆ
คนอื่น ๆ มองเขาด้วยสายตาสงสัย : นิสัยเย่อหยิ่ง? นี่น่ะเหรอ?
ไคน์ “…”
สีหน้าของชายหนุ่มดูเจ็บปวดมากทีเดียว
หนวนหน่วนย่อตัวลง มองแอนนี่อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็วางมือน้อย ๆ ลงบนหางของมัน
ขนที่หางของแอนนี่ฟูมากจริง ๆ เมื่อเธอวางมือน้อย ๆ ลงไปก็เกิดหลุมเล็ก ๆ ยวบลงไปทันที
เมื่อชำเลืองมองแอนนี่ เห็นมันไม่โกรธหรือชักหางกลับ หนวนหน่วนก็วางมือทั้งสองลงไปจับ
ราบรื่นที่สุด!
“คุณอาไคน์ดูสิคะ! แอนนี่ไม่โกรธเลยค่ะ”
ไคน์อิจฉาจนหน้ายู่
ไม่รวมสิงโตภูเขาเคธีและเสือดาวดำไอริส เขาคิดว่าหมาป่าหิมะที่ตัวเองเลี้ยงมาจะไม่ชอบเด็กน้อยน่ารักอย่างฉาบฉวยแน่นอน แต่ว่า… ทำไมล่ะ!
แอนนี่ถึงกับยัดหางของมันให้เองด้วย
แม้จะดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่ไคน์ก็มั่นใจว่าแอนนี่ตั้งใจสะบัดหางของตัวเองไปหา
หนวนหน่วนกอดหางฟูไว้พลางยิ้มแย้มสดใส
แม้ว่าหมาป่าหิมะอีกสองตัวที่อยู่ไม่ไกลจากแอนนี่จะไม่เข้ามาใกล้ แต่พวกมันก็แอบมองเด็กน้อยครั้งแล้วครั้งเล่า…
ในเวลานี้ความสนใจทั้งหมดของหนวนหน่วนถูกดึงดูดโดยแอนนี่ เธอกอดหางของมันแล้วยังเอาใบหน้าน้อยของตัวเองคลอเคลียอย่างกล้าหาญ
ไม่มีกลิ่นแปลก ๆ จากตัวแอนนี่เลย
แม้ว่าจะเอาหางยัดเข้าไปในอ้อมแขนของหนวนหน่วนเอง แต่แอนนี่กลับสงวนท่าทีไม่เข้าไปใกล้ ทว่าใบหูและปลายหางแสดงให้เห็นว่ามันกำลังอารมณ์ดี
ความกล้าหาญของหนวนหน่วนมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอเดินเข้าไปอย่างเงียบ ๆ จากนั้นกอดหางของมัน หมอบลงข้าง ๆ อย่างน่าเอ็นดูไม่มีพิษภัย
เธอเงยใบหน้าน้อยสะสวยขึ้นแอบมองแอนนี่
“แอนนี่ ฉันชื่อหนวนหน่วนนะ”
แอนนี่ไม่มีการเคลื่อนไหว แค่หลุบตามองลงมาที่เธอ ดูสูงส่งสง่างามไม่มีท่าทีเป็นภัย
หนวนหน่วนคุยกับมันต่อเบา ๆ “หนวนหน่วนลูบขนบนตัวเธอได้ไหม?”
แอนนี่ยังไม่ตอบสนองหรือเคลื่อนไหวใด ๆ
“ถ้าเธอไม่ตอบ หนวนหน่วนจะถือว่าเธอตอบตกลงแล้วนะ”
เธอยกมือเล็ก ๆ “ฉันจะลูบจริง ๆ แล้วนะ”
จากนั้นก็วางมือลงบนต้นขาที่มีขนหนาแน่นของแอนนี่
ไคน์ “…”
แอนนี่ แกไม่ปฏิเสธ! ไม่ระมัดระวังตัวเลยนะ!
คนอื่น ๆ มีท่าทีมึนงงเล็กน้อย แต่ก็ไม่แปลกใจเลย
อีวาน “แอนนี่กับเพื่อน ๆ นิสัยดีขึ้นแล้วเหรอ?”
ไคน์ทำตาลอย “นายจะเข้าไปลองดูไหมล่ะ?”
ลองก็ตายน่ะสิ!
อีวานเดินเข้าไป ยังไม่ทันได้ใกล้ก็ได้เห็นเหล่าหมาป่าหิมะแยกเขี้ยวยิงฟันขาวผ่อง ส่องแสงเย็นยะเยือก
เขาจึงเลี้ยวกลับมาทันที
“ทำไมนะ! ก็เห็นอยู่ว่ายังดุเหมือนเดิม!”
สองมาตรฐานอย่างชัดเจนจริง ๆ
ไป๋โม่ฮัวยิ้มร่า “เพราะน้องสาวของฉันน่ารักที่สุดในโลก!”
ท่าทางเขาภาคภูมิใจมาก
เหลียงฉือไม่พูดอะไร แต่ก็พยักหน้าเห็นด้วย
คำพูดนี้ไม่มีอะไรผิดเลย!
หนวนหน่วนและแอนนี่กลายมาเป็นเพื่อนรักกันในเวลาอันสั้น แอนนี่วางท่าทีระมัดระวังตัวในฐานะหมาป่าของตัวเองลง พลางก้มหน้าเอาปากถูไถใบหน้าน้อยของหนวนหน่วน
ตอนนี้เด็กหญิงตัวน้อยได้ลอดเข้าไปตรงหน้าท้องที่นุ่มฟูของหมาป่าหิมะตัวใหญ่แล้ว ใบหน้าน้อยแนบกับหน้าท้องฟู ๆ อบอุ่นจนเธอไม่อยากจะออกมาเลย
ไคน์มองแอนนี่ที่เล่นกับหนวนหน่วนจนลืมแล้วว่าเป็นลูกของเขา ก่อนจะมองสองพี่น้องที่ยังนั่งอยู่บนพื้นสงวนท่าทีหยิ่งยโสของหมาป่าหิมะอยู่ เมื่อเห็นพวกมันยังไม่ได้เข้ามาใกล้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง
“ดูสิ ริคกับริคกี้ไม่ได้ถูกดึงดูดความสนใจไปด้วย!”
นี่คือความดื้อดึงครั้งสุดท้ายของเขา
ไป๋โม่ซูนั่งกินองุ่นอย่างสง่างามบนเก้าอี้ เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็มองเขาอย่างเฉยเมย “งั้นเหรอ?”
ใบหน้าแดงก่ำของหนวนหน่วนผละออกจากขนนุ่มอบอุ่นบนหน้าท้องของแอนนี่ แล้วเขย่งเท้าโอบกอดหัวของมัน
แอนนี่คลอเคลียเธอ เด็กหญิงตัวน้อยไม่ทันระวังสะดุดหงายหลัง
“อ๊ะ!”
แอนนี่ตกใจจนหูตั้ง
หนวนหน่วนล้มลงไปในขนนุ่มฟู สัมผัสที่มือคุ้นเคยมาก พอก้มลงมองก็เห็นหางฟู ๆ ที่ใหญ่กว่าบั้นท้ายของเธอรองรับอยู่
หนวนหน่วนกลัวนั่งทับหางนี้เจ็บจึงรีบลุกขึ้นยืน เมื่อมองตามหางไปก็พบกับหมาป่าหิมะตัวใหญ่อีกตัว
“ริค!”
ทำไมแกก็ทรยศฉันด้วย!
เสียงของไคน์เตือนสติหนวนหน่วน นี่คือริคจ่าฝูงที่มั่นคงหนักแน่น
เด็กหญิงลุกขึ้นยืนกล่าวขอบคุณริคเสียงใส
ครั้งสุดท้ายที่เห็นริคและริคกี้ ปากของพวกมันยังเปื้อนเลือดอยู่เลย แต่ตอนนี้ขนรอบปากของพวกมันสะอาดแล้ว ทว่ายังดูเปียกชื้นอยู่บ้าง
หนวนหน่วนจ้องมองปากของริคอยู่สองสามวินาที ทันใดนั้นก็ก้าวขาสั้น ๆ ออกไป
ริคมองตามหนวนหน่วนที่ห่างออกไป ใบหูที่ตั้งขึ้นมาลู่ลงในทันใด ดวงตาสีน้ำเงินใสงดงามพลันหรี่ลง
ไคน์ “…”
เขาตาบอดแล้ว!
ไม่ช้าหนวนหน่วนก็กลับมาพร้อมผ้าขนหนูแห้งผืนหนึ่งในมือ
ริคเห็นเด็กน้อยขาวนวลตัวหอมวิ่งกลับมาก็สะบัดใบหู ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา สายตายังเลื่อนตามตัวเธออีกต่างหาก
“ริค เธอก้มลงมาหน่อย ฉันจะเช็ดปากให้”
เด็กหญิงตัวน้อยพูดอย่างอ่อนโยน พลางโบกมือน้อย ๆ ให้มัน
แม้ว่ามันอาจจะไม่เข้าใจว่าเธอพูดอะไร แต่ก็ยังเข้าใจการเคลื่อนไหวได้อยู่
ริคลังเลอยู่เพียงวินาทีเดียวก่อนจะก้มหัวลงช้า ๆ
หนวนหน่วนเขย่งปลายเท้า ตั้งใจเช็ดปากให้มันอย่างอ่อนโยนเป็นพิเศษ