ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 249 หมาป่าหิมะ
บทที่ 249 หมาป่าหิมะ
ในรถออฟโรด ไคน์กำลังอธิบายเหตุผลที่เสือดำไม่ติดตามมา
“ที่ที่เราจะไปต่อจากนี้ก็คืออาณาเขตของหมาป่าหิมะ ไอริสไปตามใจไม่ได้ ไม่งั้นจะตีกัน ถ้าสู้กันขึ้นมาจะเจ็บกันทั้งสองฝ่าย เมื่อก่อนฉันยังกังวลอยู่ว่าถ้าไอริสตามไปด้วยคงจะมีปัญหาใหญ่”
ถึงแม้ไอริสจะไม่กลัวหมาป่าหิมะ แต่เพราะมันเป็นเสือดำโดดเดี่ยว การจะไปต่อสู้กับหมาป่าหิมะจำนวนมากแบบนั้นมันจะเสียเปรียบมาก
ในป่านั้น นอกจากสัตว์จำพวกที่มีความทะเยอทะยานสูงแล้ว สัตว์ใหญ่ที่ฉลาด ๆ ล้วนหลีกเลี่ยงการแย่งชิงอาณาเขตของสัตว์อื่นหรือสร้างความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น ไม่อย่างนั้นถ้าได้รับบาดเจ็บ สัตว์อื่นจะได้กลิ่นแล้วมาแย่งอาณาเขตไปเสียเปล่า ๆ
นอกจากนี้ในอาณาเขตของหมาป่าหิมะยังมีสามตัวที่ใกล้จะโตเต็มวัยแล้ว อาจเป็นเพราะในอาณาเขตไม่ขาดแคลนอาหาร ขนาดตัวของพวกมันเลยค่อนข้างใหญ่
ไคน์รับเลี้ยงลูกหมาป่าหิมะทั้งสามตัวโดยบังเอิญ ส่วนอีกสองตัวรักมาทีหลัง ตอนนี้มันได้รวมตัวกันจนกลายเป็นครอบครัวฝูงหมาป่าขนาดเล็กที่นี่
หมาป่าหิมะสองตัวที่โตเต็มวัยได้สอนทักษะการออกล่าทั้งหมดให้ลูกหมาป่าทั้งสามตัว ดังนั้นถึงแม้หมาป่าหิมะทั้งสามตัวจะมีไคน์เลี้ยงดู แต่สัญชาตญาณสัตว์ป่าของพวกมันก็ไม่ได้น้อยไปกว่าสัตว์ป่าข้างนอกมากนัก
อีกทั้งเป็นเพราะที่นี่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ พวกมันจึงมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เด็ก ร่างกายของพวกมันใหญ่โตกว่าหมาป่าหิมะในป่ามาก เพียงแค่ยังขาดการฝึกฝนในสภาพแวดล้อมที่ยิ่งใหญ่กว่าและโหดร้ายกว่า
ไคน์พูดอย่างเศร้าใจ “รอพวกมันโตเต็มวัยก่อน ฉันว่าจะส่งพวกมันไปอยู่ข้างนอก”
อีวานสะดุ้งสุดตัว “ทำไมล่ะ”
เขารู้ว่าสำหรับไคน์แล้ว หมาป่าหิมะทั้งสามตัวนั้นเหมือนกับเป็นลูกแท้ ๆ ของตัวเอง
ไคน์เอ่ยอย่างกระตือรือร้นและมั่นใจมาก “พวกมันสามตัวโตมาอย่างดี ควรออกไปฝึกฝนในโลกกว้าง จากนั้นจะได้กลายเป็นราชาหมาป่าที่ควบคุมฝูง ฉันเชื่อว่าพวกมันทำได้!”
อีวาน “…”
ถึงเขาจะคิดว่าความตั้งใจนี้ไม่เลว แต่ว่านายมั่นใจในตัวพวกมันสองตัวเกินไปหรือเปล่า
เอาเถอะ ไคน์เป็นคนที่มั่นใจในตัวลูก ๆ ของตัวเองมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
หมาป่าหิมะทั้งสามตัวมีสองตัวเป็นตัวผู้ ชื่อว่าริคและริคกี้ ยังมีตัวเมียที่สวยงามมากอีกหนึ่งตัวชื่อว่าแอนนี่ด้วย
หมาป่าหิมะเป็นสัตว์นิสัยลึกลับมากชนิดหนึ่ง แต่พวกมันไม่กี่ตัวของไคน์นั้นพิเศษกว่าหน่อย ยังไงซะก็ถูกมนุษย์เลี้ยงมาจนโตเลยคุ้นกับคนมากกว่า
แต่จำกัดแค่เฉพาะกับไคน์เท่านั้น นอกจากเขาแล้ว น้อยมากที่ไคน์จะพาคนมาดูพวกมัน อีกทั้งยังไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้าใกล้พวกมันมากเกินไป
ไม่ใช่เพราะเขาขี้หวง ในเมื่อไคน์วางแผนว่าจะส่งทั้งสามตัวกลับเข้าไปในป่า เขาก็อยากจะให้พวกมันรู้จักระวังมนุษย์เอาไว้ เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีนักล่าสัตว์ป่าที่จ้องจะหากำไรจากพวกมันอยู่เสมอ
และในตอนนี้ ในถ้ำแห่งหนึ่งที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลลิบลิ่ว พวกหมาป่าหิมะพลันได้ยินเสียงเครื่องรถยนต์ที่คุ้นหูดังเข้ามาแว่ว ๆ หมาป่าหิมะตัวใหญ่ที่อยู่ในถ้ำก็สะบัดหูที่มีขนปุกปุยไปมา จากนั้นก็ค่อย ๆ ลืมตาสีเงินเย็นเยือกราวกับน้ำแข็งขึ้น
แสงในถ้ำค่อนข้างมืด อีกทั้งตอนนี้พระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว นอกจากหมาป่าหิมะสองสามตัวที่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ คนอื่นก็ไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ข้างในได้อย่างชัดเจนเลย
ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่กำลังตกดิน อุ้งเท้าของหมาป่าหิมะก็ก้าวออกมาจากถ้ำที่ลึกลับอย่างมั่นคง ร่างของหมาป่าหิมะค่อย ๆ โผล่พ้นออกมาจากเงามืด
มันมีรูปร่างเพรียวยาว ลำตัวยาวประมาณสองเมตร ขนสีขาวหนาฟูฟ่อง เพียงลมพัดครั้งเดียว ขนที่สวยงามก็กระเพื่อมราวกับเกลียวคลื่น
พวกมันยืนอยู่บนโขดหิน ดวงตาสีเงินราวกับน้ำแข็งจ้องมองลงไปด้านล่าง
“บรู๊ววว~”
เสียงหอนของหมาป่าดังขึ้นในป่าเขาตาม ๆ กันมาทีละเสียง จากนั้นพวกมันก็พากันวิ่งลงมาจากเขาอย่างรวดเร็วราวกับบินได้ ทุกย่างก้าวล้วนเหยียบลงไปยังก้อนหินอย่างมั่นคง ภายในเวลาไม่กี่นาทีก็พากันกระโดดลงมาข้างล่าง จากนั้นก็พากันวิ่งไปมาอยู่ในป่าอย่างรวดเร็ว
หมาป่าหิมะทั้งสามตัววิ่งไปมาราวกับเดินอยู่บนสายลม มองจากที่สูงจะเห็นเพียงเงาสีขาวที่แวบผ่านไปเท่านั้น
รถออฟโรดขับไปตามทางอย่างไม่รีบร้อน มือเล็ก ๆ ทั้งสองข้างของหนวนหน่วนวางอยู่ตรงหน้าต่างรถ คางอวบอิ่มเกยอยู่บนมือของตัวเอง ดวงตาคู่โตจ้องมองไปยังทิวทัศน์ด้านนอก
เธอขบฟันเล็ก ๆ ปล่อยแก้มให้พองออกมา ทันใดนั้นก็เห็นร่างสีขาวแวบผ่านไปบนท้องฟ้า แต่มันเร็วเกินไป มองเห็นไม่ชัดเลยสักนิด
“พี่คะ เมื่อกี้ข้างบนนั้นมีอะไรไม่รู้บินผ่านไป เร็วมากเลย”
ไป๋โม่ซูหลุบสายตาเย็นชาราวกับหิมะลงต่ำ ก่อนจะใช้นิ้วเรียวยาวบีบมือเล็ก ๆ ขาวจ้ำม่ำของเด็กหญิง
“เห็นชัดไหมว่าคืออะไร”
เด็กหญิงส่ายหน้า ขณะที่กำลังจะอธิบายก็มีเสียงหมาป่าหอนดังขึ้น
ไคน์ตื่นเต้นขึ้นมาในทันที
“ริคกับริคกี้น่ะ ลูก ๆ ของฉันกำลังจะมาหาแล้ว”
คนอื่นในรถล้วนพูดไม่ออกเลย สัตว์ทุกตัวในป่านี้เป็นลูกรักของนายจริง ๆ สินะ
รถออฟโรดหยุดลง รอไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าดังกึกก้องอยู่ในป่า ตรงเข้ามาอย่างว่องไว
“มาแล้ว”
ทันทีที่พูดจบ หมาป่าตัวใหญ่สามตัวก็วิ่งมาต้อนรับ หมาป่าหิมะทั้งสามตัวเป็นเหมือนกับผู้คุ้มครองอันสูงส่งของป่าผืนนี้
แตกต่างจากความดุร้ายโหดเหี้ยมของเสือดาวดำ หมาป่าหิมะในตอนนี้กำลังวิ่ง อวดท่าทางสง่างามสูงส่งของพวกมัน แต่ความสวยงามภายนอกนี้ก็ซ่อนความดุร้ายกระหายเลือดของการเป็นนักล่าเอาไว้เช่นกัน
“ริค ริคกี้ แอนนี่ที่รัก ฉันมาหาพวกแกแล้ว”
ไคน์อ้าแขนสองข้างอยากจะกอดพวกมัน แต่หมาป่าทั้งสามตัวกลับหยุดอยู่ตรงหน้าเขาหนึ่งเมตรอย่างมั่นคง
เรียกได้ว่าห่างพอประมาณเลยทีเดียว
ถึงแม้หมาป่าทั้งสามตัวจะดีใจมากที่ได้เห็น ‘คุณพ่อ’ มาเยี่ยมพวกมัน แต่ความระแวดระวังในฐานะสัตว์ของพวกมันก็ไม่ได้หายไป
หางปุกปุยขนาดใหญ่ของพวกมันห้อยลงข้างล่าง ดวงตาสีเงินมองไปยังคนอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นมาตรงนี้อย่างระแวดระวัง
ไม่รู้ว่าทุกคนคิดไปเองไหม แต่รู้สึกเหมือนว่าแววตาของหมาป่าทั้งสามตัวนั้นหยุดมองที่หนวนหน่วนอยู่สองสามวินาที
ทุกคน : หรือนี่จะเป็นภาพหลอนที่ติดมาจากเจ้าไอริสกันนะ
“เด็กดี ฉันคิดถึงพวกแกจะตายแล้ว พวกแกก็คงจะคิดถึงฉันแน่ ๆ เลยใช่ไหม ริค มานี่สิ ให้ฉันกอดหน่อย”
หมาป่าหิมะตัวใหญ่ที่ถูกเรียกชื่อเป็นตัวที่มีนิสัยโตที่สุดในบรรดาสามตัว และเป็นหมาป่าที่สุขุมที่สุดด้วย มันค่อย ๆ เดินมาข้างกายไคน์แล้วก้มหัวลง ยอมให้ไคน์กอดอยู่สองสามวินาที จากนั้นก็ดิ้นออกจากอ้อมแขน ถอยเท้าไปสองสามก้าว เชิดหน้าขึ้นสูงแล้วมองคนอื่น ๆ ด้วยหางตา
ดูแล้วเหมือนเป็นเจ้าป่าตัวหนึ่งมากจริง ๆ
ริคกี้เป็นน้องชายของริค นิสัยของมันดูแล้วจะเย็นชากว่า ไคน์ต้องเรียกมันถึงสามครั้ง มันจึงค่อย ๆ เดินมาหาอย่างไม่เต็มใจ ถูกกอดแล้วก็ผละจากไป แต่ก็ไม่ได้เดินไปไกลนัก
ไคน์ยักไหล่ “เอาเถอะ ฉันรู้ว่าพวกแกโตแล้ว คงไม่อยากจะตัวติดกับพ่อเหมือนตอนเด็ก ๆ สินะ ถึงฉันจะเสียใจมาก แต่ก็ดีใจมากอยู่ดี”
สุดท้ายแล้ว ถึงหมาป่าหิมะทั้งสามตัวจะเริ่มเป็นอิสระเพราะว่าโตแล้ว แต่ทุกครั้งที่เขามาหาก็จะวิ่งมาทักทายอย่างอบอุ่น แค่นี้เขาก็มีความสุขมากแล้ว
มีเพียงแอนนี่ หมาป่าตัวเมียที่เป็นเทพธิดาตัวน้อยแสนอ่อนโยนเท่านั้นที่ถูกไคน์กอดแล้วไม่ค่อยดิ้นเหมือนเหล่าพี่ชายของมัน
ไคน์หอมที่ใบหน้าของมัน “แอนนี่ของฉันเป็นเทพธิดาตัวน้อยจริง ๆ ริคกับริคกี้ ต่อไปไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน พวกแกก็ต้องปกป้องแอนนี่ให้ดี ๆ นะ!”
หมาป่าหิมะสองตัวส่งเสียงคำรามครั้งหนึ่งราวกับตอบรับ
“ไปเถอะ วันนี้พวกเราอาจจะต้องค้างคืนข้างนอก มีบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ไม่ห่างจากที่ที่พวกริคกี้อยู่ เป็นที่พักชั่วคราวของฉัน เพราะต้องใช้เวลาเล่นกับพวกมันให้มากตอนพวกมันยังเล็ก ๆ ฉันก็เลยให้คนมาสร้างบ้านหลังหนึ่งตรงนั้นซะเลย”
ไคน์ชอบพูดถึงเจ้าหมาป่าหิมะทั้งสามตัวที่ตัวเองเลี้ยงมากับมือมาก ชายหนุ่มพูดมาตลอดทางเลยทีเดียว