ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 119 หวานมาก
บทที่ 119 หวานมาก
หนวนหน่วนบิดร่างเล็ก ๆ ไปหาไป๋โม่ฮัว
ก็พี่สี่ตัวเหม็นนี่นา
ดูเหมือนว่ากู้หมิงหลี่จะเห็นท่าทีรังเกียจของเธอจึงไม่ยอมปล่อยเธอไป ไม่เพียงแค่ไม่ยอมปล่อยเท่านั้น แต่เขายังโน้มศีรษะเข้าไปหาเธอเรื่อย ๆ
หนวนหน่วนผลักพี่ชายออกด้วยมือเล็กอย่างไม่พอใจ แต่ก็หัวเราะฮ่าฮ่าออกมาเพราะมันจั๊กจี้
ในห้องเรียน หนวนหน่วนและไป๋โม่ฮัวถูกล้อมรอบด้วยนักเรียนในชั้นเรียนของกู้หมิงหลี่
“ลูกพี่ นั่นน้องสาวเหรอ ฟังอยู่ตั้งนาน ในที่สุดก็ได้เห็นว่าน้องสาวสวยมากขนาดไหน แต่หน้าตาไม่เหมือนกันเลยนะ”
กู้หมิงหลี่เตะเด็กหนุ่มตัวสูงผู้แสนจะพูดตรงออกไป
“ตาบอดเหรอ?”
เด็กหนุ่มคนนั้นกำมือแน่น
ทำไมหมอนี่ไม่ยอมให้คนอื่นพูดความจริงล่ะ
“แล้วนี่น้องชายลูกพี่หรือเปล่า?”
ไป๋โม่ฮัวที่ถูกสงสัยในฐานะน้องชายของกู้หมิงหลี่ “…”
เขายังดูไม่เหมือนบรรลุนิติภาวะอีกเหรอ?
ชายหนุ่มโต้กลับด้วยสีหน้าเซ็ง ๆ “ผมเรียนจบวิทยาลัยแล้วนะ!”
ทุกคนคิด ‘ดูไม่ออกเลยจริง ๆ’
เป็นเพราะเขาดูตัวเล็กเกินไปหรือว่าลูกพี่กู้โตเร็วเกินไปกันแน่?
“หนูน้อย ดูหนังด้วยกันไหม?”
“หนูน้อย อยากกินอมยิ้มไหม ฉันมีอมยิ้มหลายรสเลยนะ!” อู๋คว่างอาศัยร่างที่อัดแน่นไปด้วยไขมันเบียดออกมาจากฝูงชน จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาเด็กหญิงตัวเล็กพร้อมกับอมยิ้มหลายอันในมือเพื่อให้เธอเลือก
“ขอบคุณค่ะพี่อู๋คว่าง”
คำขอบคุณเบา ๆ ของหนวนหน่วนทำให้ชายตัวอ้วนเลิกคิ้วขึ้น เขาหันไปมองถังเล่อและคนอื่น ๆ อย่างสะใจ
ของที่เขาให้กินได้แถมยังมีประโยชน์ คงจะดีไม่น้อยถ้าวันนี้เอาของโปรดของเด็ก ๆ มาด้วย
หนวนหน่วนหยิบอมยิ้มรสองุ่นมาแล้วกินอย่างอร่อยจนแก้มนุ่ม ๆ ข้างหนึ่งกลมตุ้ยนุ้ยน่าหยิก
“กินไหมคะ”
ดวงตาของอู๋คว่างมองไปที่ไป๋โม่ฮัว
ไป๋โม่ฮัวหัวเราะ รอยยิ้มของชายหนุ่มราวกับดวงอาทิตย์ดวงน้อยที่กำลังส่องสว่างพร่างพราย ทำให้เด็กผู้หญิงหลายคนจ้องมองเขาอย่างตกตะลึง
เขาหยิบอมยิ้มรสสตรอวเบอร์รีมาแล้วกินกับหนวนหน่วน จากนั้นทั้งสองคนก็นั่งลงที่โต๊ะของกู้หมิงหลี่ ถังเล่อนั่งเบียดกับอู๋คว่างเพื่อนร่วมโต๊ะของเขา ผ้าม่านทั้งหมดในห้องเรียนถูกปิด ตอนนี้ห้องเรียนกำลังจมดิ่งสู่ความมืดในทันที
โปรเจกเตอร์สว่างขึ้น มันกลายเป็นจุดที่สว่างที่สุดในห้องเรียน จากนั้นภาพยนตร์ก็เริ่มเล่น
นี่คือสิ่งที่นักเรียนชอบทำตอนบ่ายหลังเลิกเรียน แม้ว่าครูจะเคยบอกว่าไม่ให้ใช้โปรเจกเตอร์ในห้องเรียนฉายหนัง แต่ตราบใดที่ยังไม่ถูกจับได้แล้วโดนครูว่า การแอบดูหนังแบบลับ ๆ นั้นยังคงน่าตื่นเต้นกว่าการดูหนังในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือที่บ้าน
หนวนหน่วนนั่งข้างพี่ชายอย่างเชื่อฟัง ก่อนที่หนังจะฉาย เธอก็หยิบของขวัญสำหรับพี่สี่ใส่มือเขา
“พี่สี่ นี่สำหรับพี่ค่ะ”
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ พิงไปที่ตัวของพี่ชายและพูดด้วยเสียงที่เบาเป็นพิเศษ
จากนั้นกู้หมิงหลี่ก็เหลือบมองสิ่งที่อยู่ในมือของเขา มันเป็นโมเดลรถแลนด์โรเวอร์สีดำที่โดดเด่น เขากะพริบตา มุมปากยกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ไม่เลวนี่ นี่เป็นของขวัญชิ้นที่สองแล้วนะที่เธอให้ฉัน”
ดวงตาดำกลมโตของหนวนหน่วนมองเขาด้วยความคาดหวัง “พี่สี่ชอบไหม?”
เด็กหนุ่มใช้มือใหญ่ลูบหัวฟู ๆ ของน้องสาวตัวน้อยแล้วเอ่ยเสียงทุ้มออกมา
“ชอบสิ”
หนวนหน่วนยิ้มจนตาหยี ดวงตาเป็นประกายราวกับหมู่ดวงดาวบนท้องทะเล
“พี่สาม!”
ทันใดนั้นเธอก็ร้องออกมาเบา ๆ เพราะหนังที่กำลังฉายอยู่ตรงหน้าเป็นภาพดาบยาวสีขาวราวกับหิมะตวัดกลางอากาศ เทพบุตรในชุดขาวจับมันไว้ก่อนจะร่อนตัวลงมาจากท้องฟ้า เขาร่อนลงอย่างแผ่วเบาแล้วลอยตัวค้างอยู่ในอากาศ
ผมของชายหนุ่มปลิวว่อน ทันทีที่ปรากฏตัว โลกทั้งใบก็ดูเหมือนจะมีเพียงสีเดียว ตัวประกอบทุกคนกลายเป็นเพียงภาพพื้นหลัง
“อาเล็กชิงหลีออกมาแล้ว!”
ทันทีที่กู้หมิงอวี๋ปรากฏตัวขึ้น สาวกทุกคนในห้องก็คุกเข่าข้างหนึ่งและตะโกนพร้อมเพรียงกันราวกับต้อนรับเขา
ฉากนี้เป็นฉากที่เด่นมาก หนวนหน่วนเบิกตากว้าง เธอได้เห็นการแสดงในจอของกู้หมิงอวี๋เป็นครั้งแรกจึงรู้สึกตื่นเต้น มือขวาน้อย ๆ ดึงเสื้อของพี่สี่เอาไว้และปล่อยให้เขาดูภาพยนตร์ต่อไป
“ตั้งใจดูก่อนสิ…”
กู้หมิงหลี่วางนิ้วชี้บนริมฝีปากเพื่อส่งสัญญาณไม่ให้เธอพูด
ไม่ว่าจะอยู่ในโรงเรียนหรือออกไปข้างนอก กู้หมิงหลี่ก็ดูเป็นคนสบาย ๆ เขาไม่เคยบอกคนอื่นว่ากู้หมิงหลี่ก็อยู่ในตระกูลกู้
เพื่อนร่วมห้องรู้เพียงว่าเบื้องหลังของกู้หมิงหลี่ค่อนข้างลึกลับและเป็นส่วนตัว
“มีสมาธิกับการดูทีวีหน่อย”
หนวนหน่วนพยักหน้าด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เพราะมีตัวละครของกู้หมิงอวี๋อยู่ในนั้น เด็กผู้หญิงทั้งหลายจึงดูอย่างตั้งใจ
ในภาพยนตร์ กู้หมิงอวี๋รับบทเป็นเพียงญาติคนหนึ่งเท่านั้น แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ตัวเอกและไม่ได้ปรากฏตัวบ่อยนัก แต่เขาก็หล่อเหลาและแสดงได้สมบทบาทมาก
อาจกล่าวได้ว่าเขาคือตัวละครที่ดูดีที่สุดและแสดงสมบทบาทมากที่สุดในหนังเรื่องนี้ เขายังเป็นเทพบุตรของไป๋เยว่กวงและในใจของใครหลายคนอีกด้วย
นี่คือภาพยนตร์ของปีที่แล้ว หลังจากออกฉาย แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ก็เต็มไปด้วยภาพของเขาในบทของชายอมตะที่ถูกเนรเทศ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เขากลายเป็นที่นิยมเพียงเพราะรูปร่างหน้าตาของเขาน่าดึงดูดที่สุด
แน่นอนว่าเพราะใบหน้าและทักษะการแสดงนี้ แม้ว่าเขาจะแสดงในภาพยนตร์เรื่องอื่นแล้ว เขาก็ยังเป็นที่นิยมในเรื่องนี้อยู่เสมอ
หนังยังฉายไม่จบ พวกเขาจะเก็บไปดูกันเองในคืนนี้ หนวนหน่วนจึงเดินออกจากห้องไปพร้อมกับไป๋โม่ฮัว
“ลาก่อนค่ะพี่สี่”
“ระวังตัวด้วยล่ะ”
หลังจากพูดจบ เขาก็มองไปที่ทั้งสองในความเงียบ “ไม่เอาดีกว่า ฉันจะขอลาแล้วไปส่งพวกเธอกลับบ้านดีกว่า”
ไป๋โม่ฮัว “…หมายความว่ายังไง?”
ช่วยพูดให้ชัดเจนสักที!
กู้หมิงหลี่โทรหาครูใหญ่พลางตอบเขาอย่างไม่ตั้งใจ
“อย่าคิดมากเลย ทางกลับค่อนข้างไกล ให้ฉันไปส่งจะดีกว่า”
ไป๋โม่ฮัว “จะให้ฉันเชื่อเหรอ?”
กู้หมิงหลี่รีบขออนุญาตลาแล้วเข้าไปนั่งในรถแท็กซี่เบียดกับคนอีกสองคน
หลังจากส่งพวกเขาตรงไปที่บ้านของตระกูลกู้ เขาก็ขึ้นรถกลับไปจริง ๆ
ไป๋โม่ฮัวโกรธมาก เขาแอบคิดในใจว่าตนควรเข้าเรียนในชั้นเรียนศิลปะการต่อสู้ดีไหม เขาจะได้เอาชนะกู้หมิงหลี่โดยที่หนวนหน่วนนึกไม่ถึงด้วยซ้ำ!
เมื่อกลับมาถึงบ้าน หนวนหน่วนก็นึกถึงหนังที่เพิ่งดูมา เธอจึงนำแท็บเล็ตของพ่อเข้าไปในห้องของลูกพี่ลูกน้องแล้วทั้งสองคนก็ดูหนังด้วยกันพร้อมกับดื่มนมไปด้วย
ในตอนกลางดึก กู้หมิงอวี๋ก็เข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับจานผลไม้ เมื่อไปถึงหน้าประตูเขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจากหนังที่เขาแสดง
เขาเลิกคิ้วขึ้น ผลักประตูให้เปิดออกแล้วเดินเข้าไปหาพวกเขา สองคนที่กำลังนั่งไขว่ห้างในห้อง ชมภาพยนตร์ที่เขาเล่นเป็นนักแสดงรับเชิญด้วยความเพลิดเพลิน
“ดูหนังด้วยกันไหมคะ?”
กู้หมิงอวี๋เดินไปลูบหัวของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ
เขารีบพยักหน้าตอบรับอย่างนุ่มนวล
กู้หมิงอวี๋ยิ้ม “หนวนหน่วนคิดว่าใครหล่อที่สุดในบรรดานักแสดงทั้งหมด?”
หนวนหน่วนตอบโดยไม่ต้องคิด “อาเล็กชิงหลี!”
“ให้มันได้อย่างนี้สิ!”
พอเจ้าตัวน้อยชมเขาก็ป้อนองุ่นลูกกลมให้
กู้หมิงอวี๋นั่งลงบนโซฟาอย่างเกียจคร้าน เล็บที่ฝนอย่างประณีตจนเงางามบนนิ้วเรียวยาวกำลังถือองุ่นไว้แล้วหยอกน้องสาวตามประสาพี่ชาย
“องุ่นที่พี่สามซื้อมาหวานไหม?”
เด็กหญิงทำแก้มป่องเหมือนกระแตตัวน้อยพลางขับประกายในดวงตาให้กระจ่างราวกับผลึกแก้ว จากนั้นถึงเอามือจรดคาง พยักหน้าตอบรับอย่างเชื่อฟัง
“อืม หวานมากค่ะ”
เสียงของเธอยังไพเราะอีกด้วย