ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 105 ทะเลสาบ
บทที่ 105 ทะเลสาบ
เหน็ดเหนื่อยจากการวิ่งเล่นในสนามแข่งม้าแล้ว ทั้งร่างกายก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าเล็กของหนวนหน่วนขึ้นสีแดงระเรื่อ ผมดำและใบหน้าชุ่มไปด้วยเหงื่อ
กู้หนานเดินเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมา จากนั้นจึงใช้นิ้วเรียวเย็นของเขาบรรจงแตะลงบนจมูกของคนตัวเล็กแล้วเอ่ยถามเสียงต่ำ
“อยากว่ายน้ำไหม?”
ดวงตาลูกกวางน้อยยกหยีตอบอย่างสดใส ในเวลานั้น แสงแดดอันอบอุ่นก็ส่องลงมา สะท้อนดวงตาฉ่ำน้ำให้เป็นประกายสวยงามพอดี
“แต่ว่าหนวนหน่วนว่ายไม่เป็นค่ะ” หนวนหน่วนใช้แขนขาวราวกับหิมะโอบกอดรอบคอของพี่ใหญ่แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวาน
กู้อันเอี้ยวตัวไปจับมือเล็กของหนวนหน่วนก่อนจะออกแรงบีบเบา ๆ ตั้งแต่น้องสาวของเขาน้ำหนักขึ้น เธอก็น่ามองขึ้นเรื่อย ๆ เขาจึงอดคิดไม่ได้ว่าในอดีตตนเองตาบอดมากแค่ไหนที่มองไม่เห็นความงามของเธอ นี่คงเป็นประวัติศาสตร์อันดำมืดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาอย่างแน่นอน
โชคดีที่น้องสาวของเขาไม่ได้ติดใจเรื่องพวกนี้ ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่เรียกเขาว่าพี่ ถ้าน้องสาวเมินเขา เขาคงเสียใจจนไม่มีที่ยืนอย่างแน่นอน
“เธอว่ายน้ำไม่เป็น แต่ฉันเป็นนะ!”
พูดจบเขาก็มองหนวนหน่วนอย่างคาดหวัง ในใจหวังว่าเธอจะขอให้เขาเป็นคนสอนให้
กู้หมิงหลี่เอามือล้วงกระเป๋าแล้วเดินเข้ามาหา เด็กหนุ่มขมวดคิ้วพลางยิ้มแยกเขี้ยวใส่ญาติผู้น้อง “ว่ายน้ำน่ะ นอกจากหนวนหน่วนแล้วมีใครว่ายไม่เป็นอีกไหม?”
ไป๋โม่ฮัวค่อย ๆ ยกแขนขึ้นอย่างเงียบ ๆ
กู้หมิงหลี่ “…ทั้งชีวิตทำอะไรได้บ้างนอกจากวาดรูป?”
ไป๋โม่ฮัวอดไม่ได้ที่จะโต้กลับ “อย่างน้อยฉันก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้นะ”
กู้หมิงหลี่ ‘ถึงจะไม่ได้สื่อออกมาตรง ๆ แต่เหมือนนายกำลังว่าฉันนะ กล้ามากขึ้นนะเดี๋ยวนี้’
เขาใช้ลิ้นดุนแก้มของตน
กู้หนานเอ่ยเสียงต่ำ “ทักษะว่ายน้ำของหนวนหน่วน…”
“ฉันสอนเอง!”
กู้หมิงหลี่และกู้หมิงอวี๋พูดเกือบจะพร้อมกัน
ไป๋โม่ฮัวรู้สึกเกลียดตัวเองที่ว่ายน้ำไม่เป็น ไม่เช่นนั้นเขาคงสอนให้ได้
กู้อัน “…”
ทำไมถึงไม่ฟังน้องคนนี้บ้าง!
“ผมก็อยากสอน!”
ไม่มีใครสนใจว่าซึนเดเระตัวน้อยจะพูดอะไร เพราะก่อนที่กู้อันจะทันได้พูด เขาก็ถูกอีกสองคนแย่งไปก่อน
กู้หนานอ้าปากกำลังจะพูด ทว่ากู้หมิงอวี๋ใช้สายตามองเขาด้วยรอยยิ้มเสียก่อน “พี่ใหญ่ พี่สอนหนวนหน่วนขี่ม้าไปแล้ว เรื่องเล็กน้อยแค่นี้อย่าเสียแรงเปล่าเลย วางใจให้ผมทำเถอะ รู้ใช่ไหมว่าถ้าผมไม่ได้ชอบการแสดงคงเป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไปแล้ว”
กู้หมิงหลี่มองด้วยสายตาเหยียดหยาม “ไม่ใช่ว่าสเกตลีลาหรอกเหรอ? ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นว่ายน้ำได้ล่ะ อยากเป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติขึ้นมาก็เป็นได้เหรอ?”
กู้หมิงอวี๋ไม่ได้รู้สึกรำคาญเลยเมื่อถูกน้องชายของตนเปิดโปง เขายังคงมีรอยยิ้มที่แสนดูดีประดับบนใบหน้า
“นายฟังผิดแล้ว ฉันพูดถึงการว่ายน้ำนะ สงสัยต้องเปิดรูปถ่ายในโทรศัพท์ให้ดูแล้วมั้ง มากล่าวหากันได้ไง”
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ ๆ หัวข้อการสนทนาก็ถูกเปลี่ยนไป กู้หมิงอวี๋และกู้หมิงหลี่ต่างมีสีหน้าไม่ดูชมพอ ๆ กัน
“เหมือนรูปฉี่รดที่นอนตอนเด็กเลย แล้วไอ้ที่ใส่อยู่เนี่ย… โว้ววววว”
ไม่รู้เลยว่าประโยคหลังกู้หมิงอวี๋จะพูดอะไรต่อ เพราะปากของเขาโดนกู้หมิงหลี่ยกมือขึ้นมาปิดเข้าเสียก่อน
“หุบปากไปเลย!”
ดวงตาลูกท้อของกู้หมิงอวี๋เต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน เขายกแขนขึ้นพลางทำท่ายอมแพ้เหมือนกับว่าจะไม่พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปแล้ว
กู้หมิงหลี่ทึ้งผมของตนเองอย่างแรง ก่อนจะปรายตามองพี่ชายแท้ ๆ ของตน
“พี่ไม่ได้ลบรูปพวกนี้ไปแล้วเหรอ?”
ทำไมจะไม่ล่ะ!
กู้หมิงอวี๋ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “ฉันแค่ไม่ได้ลบในคลังสำรองน่ะ”
กู้หมิงหลี่ “…”
เขาสู้พี่ชายของตนเองไม่ได้จริง ๆ ถึงแม้จะโกรธจนแทบปวดตับแต่ถึงอย่างไรเขาก็คือพี่ชายสายเลือดเดียวกัน จะต่อยก็ไม่ได้!
ในที่สุดกู้หมิงอวี๋ก็เป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ เพราะสำหรับกู้อันนั้น… กู้หมิงอวี๋ก็มีประวัติอันดำมืดของเขาอยู่ในกำมือไม่น้อยเลย
เด็กชายกู้อันจึงค่อนข้างให้ความเคารพกู้หมิงอวี๋เป็นอย่างมาก และเขาเองก็ไม่อยากให้น้องสาวเห็นภาพตอนตัวเองฉี่รดที่นอนด้วย
“แย่มาก!”
“ร้ายกาจ!”
กู้หมิงหลี่และกู้อันปรายตามองเขาอย่างขุ่นเคือง
ดวงตาดอกท้อและมุมปากที่งดงามดั่งกลีบกุหลาบของกู้หมิงอวี๋ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย พอเขายิ้มก็ยิ่งสง่างามมากขึ้นไปอีก
“กล้าได้กล้าเสียแหละนะ”
เขาพาหนวนหน่วนไปเรียนว่ายน้ำในทะเลสาบใจกลางเกาะ ในแอ่งน้ำนั้นล้วนเป็นน้ำทะเลที่สามารถมองเห็นปลาสวยงามได้ทุกชนิด ปลาที่ว่ายเข้ามาตามร่องน้ำที่เชื่อมต่อกับมหาสมุทรนั้นล้วนไม่อันตราย เพราะพวกปลาใหญ่นั้นไม่สามารถเข้ามาได้
ที่ก้นทะเลสาบมีทั้งหินสวยงามทุกชนิดรวมถึงปะการังอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเหมือนกับโลกในท้องทะเลขนาดย่อมเยาที่เต็มไปด้วยสีสันงดงามเลยก็ว่าได้
หนวนหน่วนใส่ชุดว่ายน้ำสีชมพูอ่อนยืนอยู่บนขอบฝั่ง เธอมองทะเลสาบน้ำใสด้วยดวงตากลมโต ในน้ำปรากฏเหล่าปลาตัวเล็กสวยงามจนอดใจแทบไม่ไหวที่จะลงไป แต่เพราะว่ายน้ำไม่เป็นเธอจึงไม่กล้าพอ
พวกพี่ทุกคนก็ใส่กางเกงว่ายน้ำกันหมด โดยที่กู้หนานและกู้หมิงหลี่ใส่สีดำ ส่วนของกู้หมิงอวี๋นั้นเป็นสีสันสดใส เขาสวมใส่แว่นกันแดดด้วย ตอนนี้ทุกคนดูวุ่นวายมาก
หากมีคนอื่นอยู่ที่นี่ ต้องมีเสียงกรี๊ดประกอบด้วยแน่นอน
เรือนร่างของชายหนุ่มทั้งสามคนนั้นไร้ที่ติเกินคำบรรยาย กู้หมิงหลี่นั้น แม้เขาจะอายุยังน้อยแต่กล้ามเนื้อของเขากลับดูสวยงามชัดเจนมาก ไม่ได้พูดเกินจริงเลยเพราะบนเรือนร่างเพรียวนั้นมีร่องของกล้ามขึ้นเต็มไปหมด
ใบหน้าของเขาคมคาย ตุ้มหูรูปหัวกะโหลกสีดำแดงถูกประดับอยู่บนใบหู ประกอบกับผมสั้นนั้น ทั้งตัวจึงล้อมไปด้วยกลิ่นอายของความกล้าหาญดื้อด้านราวกับเสือดาวที่แข็งแกร่ง
ทันทีที่กู้หมิงหลี่เดินเข้ามา เขาก็ยกมือขึ้นเหนือศีรษะแล้วกระโดดลงไปในทะเลสาบ วาดลวดลายกลางอากาศอย่างสวยงาม
เด็กหนุ่มพุ่งลงไปในน้ำดั่งลูกศรที่มุ่งตรงสู่ก้นทะเลสาบ ลงไปได้ระยะหนึ่งเขาก็โผล่พ้นขึ้นมาจากน้ำ ก่อนจะเริ่มว่ายท่าฟรีสไตล์
กู้หนานแข็งแกร่งมาก แม้ว่าเขาจะเป็นประธานบริษัทที่ต้องนั่งโต๊ะทำงาน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไปยิมเพื่อออกกำลังกายทุกวัน กล้ามเนื้อบนเรือนร่างจึงสวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีกล้ามเนื้อหน้าท้องแปดแพ็กอันสะดุดตาอีกด้วย
“หนวนหน่วนมานี่มา”
กู้หนานถือห่วงยางไว้ในมือก่อนจะโยนลงทะเลสาบ หลังจากเรียกคนตัวเล็กมา เขาก็อุ้มเธอขึ้นแล้ววางเธอลงบนห่วงยางอย่างระมัดระวัง
“ปรับตัวให้ชินกับน้ำก่อนแล้วค่อยให้พี่สามสอนนะ”
หนวนหน่วนนอนหงายอยู่บนห่วงยางด้วยความประหม่า ขาสั้นขาวผ่องก่ายอยู่บนห่วง หลังจากปรับตัวอยู่พักหนึ่งแขนเล็กก็พยายามจะวักน้ำ แต่กลับไม่ขยับเลย
เสียงน้ำกระเด็นดังตู้ม ปรากฏว่าพี่ใหญ่กระโดดลงน้ำมาด้วย ร่างของเขาลอยอยู่ในน้ำอย่างง่ายดาย ก่อนจะดันห่วงยางด้วยมือทั้งสองข้างให้เริ่มเคลื่อนไปข้างหน้า
เด็กหญิงตัวเล็กไม่กล้าขยับมือ เธอใช้สองมือเกาะห่วงยางเอาไว้แน่น
หลังจากถูกพาล่องลอยออกไปไกลในทะเลสาบ หนวนหน่วนก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เธอมองไปรอบ ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นพร้อมดวงตาเป็นประกาย
“อย่ากลัว”
เสียงอันสุขุมของกู้หนานดังขึ้นมา เธอจึงพยักหน้าลงอย่างว่าง่ายแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“อื้ม… หนูจะไม่กลัว!”