จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 448 ต้นไม้แปลงร่าง
บทที่ 448 ต้นไม้แปลงร่าง
เมืองหวงสือตั้งอยู่ไม่ไกลจากภูเขา แต่มนุษย์ที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ได้อพยพย้ายถิ่นฐานไปหมดแล้ว
ฉู่ชวิ๋นนำสัตว์ป่ากลายพันธุ์ทุกตัวมาพักฟื้นอยู่ที่นี่ได้หลายวันแล้ว
วันนี้ เจ้านกยักษ์กลับมาจากการหาอาหาร มันนำข่าวที่น่าสนใจกลับมาด้วย
ว่ากันว่ามีการค้นพบซากโบราณสถานที่ภูเขาหลู่ซาน
ตอนแรกฉู่ชวิ๋นไม่ค่อยให้ความสนใจข่าวนี้สักเท่าไหร่
“นายท่านขอรับ ข้าน้อยได้ยินว่าพวกสัตว์ร้ายกลายพันธุ์มันยกขบวนไปรวมตัวกันที่ภูเขาหลู่ซานเป็นจำนวนมากเลยนะขอรับ” อินทรีเงินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม ตั้งแต่ที่มันรู้ตัวตนจริงของฉู่ชวิ๋น เจ้านกยักษ์ก็ไม่กล้าเรียกเขาว่าพี่ชายอีกเลย
การที่คนแปลกหน้ามารวมตัวกันจำนวนมาก ทำให้ฉู่ชวิ๋นประหลาดใจไม่น้อย เขาอยากจะเปิดเข้าเว็บบอร์ดชุมนุมชาวยุทธ์เพื่อดูข้อมูลข่าวสารอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความที่เมืองนี้ห้อมล้อมไปด้วยภูเขาสูง สัญญาณอินเทอร์เน็ตจึงเข้าไม่ถึง
หากที่นั่นเป็นแค่ซากโบราณสถานธรรมดา แล้วทำไมพวกสัตว์ร้ายกลายพันธุ์มันถึงต้องไปรวมตัวกันด้วย? เหตุการณ์นี้เริ่มมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว
“เห็นว่าที่ซากโบราณสถานมีต้นไม้ชนิดหนึ่งงอกงามขึ้นมานะขอรับนายท่าน ต้นไม้ชนิดนี้ผลิดอกดอกออกใบมามีสามสีด้วยกัน เห็นว่ามีสรรพคุณช่วยเยียวยารักษาพลังวิญญาณได้อย่างน่ามหัศจรรย์นัก” เจ้านกยักษ์อธิบายข้อมูลที่ได้ยินมา
ดอกซานเซิงอย่างนั้นหรือ?
ฉู่ชวิ๋นลุกพรวดขึ้นยืน ดวงตาเป็นประกาย ดอกซานเซิงหรืออีกชื่อคือดอกไม้สามดอก วิญญาณของเสี่ยวหวู่ยังคืนร่างไม่สมบูรณ์ มีแต่ต้องใช้ดอกซานเซิงเท่านั้นเธอถึงจะตื่นขึ้นมา
หากที่นั่นมีดอกซานเซิงอยู่จริงๆ ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร ฉู่ชวิ๋นก็ต้องแย่งชิงมาให้ได้
ฉู่ชวิ๋นรอคอยอย่างอดทน รอคอยให้พวกของจิ่วโยวและสัตว์ป่ากลายพันธุ์ของเธอหายจากอาการบาดเจ็บ
การรอคอยของเขากินเวลานานครึ่งเดือน
เจ้านกยักษ์เป็นผู้ที่นำข่าวสารมาบอกเป็นระยะ
มันแจ้งแก่ฉู่ชวิ๋นว่ามีจอมยุทธ์ขั้นเซียนออกมาปรากฏตัวบ้างแล้ว
“พวกมันไปรวมตัวกันที่เขาหลู่ซานเนี่ยนะ?” ฉู่ชวิ๋นถามด้วยความไม่อยากเชื่อ
นกยักษ์พยักหน้า “นอกจากนี้ เห็นว่าที่เดินทางไปภูเขาหลู่ซาน มีจอมยุทธ์ขั้นเซียนมากกว่าหนึ่งคนด้วยนะขอรับ”
มากกว่าหนึ่งคน? ฉู่ชวิ๋นพูดอะไรไม่ออก ดูเหมือนว่าที่ภูเขาหลู่ซานจะต้องมีของวิเศษซุกซ่อนอยู่จริง ๆ เสียแล้วสิ
ธรรมดามนุษย์มีนิสัยรักตัวกลัวตายมาแต่ไหนแต่ไร ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกสัตว์ร้ายกลายพันธุ์ฟื้นตื่นจากการจำศีล เข่นฆ่ามนุษย์และยึดครองที่อยู่อาศัยมากมาย แต่จอมยุทธ์เหล่านี้ก็ไม่เคยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แต่บัดนี้ พวกมันกลับกล้าเดินทางไปที่ภูเขาหลู่ซานโดยไม่กลัวการเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายกลายพันธุ์ ดูเหมือนว่าของที่มีอยู่ในซากโบราณสถานของภูเขาหลู่ซาน คงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
“หวังว่าซากโบราณสถานบนเขาหลู่ซานคงไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ แล้วก็ขอให้มันมีดอกซานเซิงอยู่จริง ๆ ด้วยเถอะ” ฉู่ชวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
“นายจะไปที่เขาหลู่ซานเหรอ?” จิ่วโยวถาม รู้ดีว่าเรื่องนี้มีความสำคัญมากต่อฮวาชิงหวู่
ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าเล็กน้อย
“ฉันไปด้วย” จิ่วโยวรู้ว่าเรื่องนี้มีความสำคัญต่อฮวาชิงหวู่ และรู้ว่าฉู่ชวิ๋นเจตนาเดินทางไปที่เขาหลู่ซานก็เพื่อตามหาดอกซานเซิง
“ไม่ได้” ฉู่ชวิ๋นปฏิเสธโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
มีโอกาสมากมายที่จะเกิดการต่อสู้แบบนองเลือดขึ้นบนเขาหลู่ซาน ผู้มีพลังยุทธ์ขั้นเซียนหลายคนรวมตัวกัน จึงมีปัจจัยที่คาดเดาไม่ได้มากมายเกินกว่าที่ชายหนุ่มจะคอยระมัดระวังไหว
จิ่วโยวทำปากยื่น รู้อยู่แล้วว่าฉู่ชวิ๋นจะต้องไม่เห็นด้วย เด็กหญิงจึงเตรียมแผนสำรองไว้เรียบร้อยแล้ว ในเมื่อฉู่ชวิ๋นไม่ยอมพาเธอไป เธอก็ต้องหาหนทางไปเองให้จงได้
เมื่อเห็นว่าจิ่วโยวไม่งอแงตอแยเขาอีก ฉู่ชวิ๋นก็รู้สึกแปลกพิกลไม่น้อย เขาหันหน้ากลับมามองเธอ พลันก็เข้าใจแผนการของเด็กหญิง จึงได้เอ่ยเตือนทันทีว่า “ห้ามแอบหนีออกไปไหนเด็ดขาด”
ใบหน้าของเด็กหญิงจิ่วโยวงอง้ำ ฉู่ชวิ๋นอ่านแผนการของเธอทะลุปรุโปร่ง แต่ก็หยุดยั้งเธอไม่ได้หรอก
“โห ฉู่ชวิ๋น นายนี่ฉลาดจังเลย!” จิ่วโยวยิ้มหวาน เดินเข้ามากอดแขนชายหนุ่มเหมือนเด็กน้อย “งั้นนายพาฉันไปด้วยนะ ฉันสัญญาว่าจะทำตัวเชื่อฟังเป็นอย่างดี”
พวกของสิงโตทองคำและสัตว์ป่ากลายพันธุ์ชนิดอื่นๆ แทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง นี่คือองค์หญิงจิ่วโยวผู้ดุดันโหดร้ายที่พวกมันติดตามจริง ๆ หรือ?
“ไม่ได้” ฉู่ชวิ๋นตอบหน้านิ่ง รู้ตัวดีว่าถ้าไม่ทำหน้าดุใส่เด็กหญิง คงได้เผลอตัวหอมแก้มเธอสักฟอดใหญ่ ยัยเด็กนี้น่ารักมากกว่าเมื่อก่อนมากจริง ๆ
จิ่วโยวทำปากยื่นอย่างไม่พอใจและพึมพำว่า “งั้นฉันจะกลับไปที่ภูเขาเฉียนหลง บอกคุณปู่คุณย่าว่านายรังแกฉัน แถมยังเดินทางไปท่องเที่ยวที่เขาหลู่ซานคนเดียวอีก”
ฉู่ชวิ๋นอดรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เขาหายตัวไปหนึ่งปีครึ่ง บิดามารดาไม่รู้ชะตากรรมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง หากพวกท่านรู้ว่าเขาเดินทางขึ้นเขาหลู่ซานโดยที่ยังไม่กลับภูเขาเฉียนหลง มีหวังได้โดนตัดหางปล่อยวัดเป็นแน่แท้
“ฉู่ชวิ๋น พาฉันไปด้วยเถอะนะ ฉันสัญญาว่าจะเชื่อฟังนายทุกอย่าง” เพื่อยอมให้ฉู่ชวิ๋นพาตนเองไปด้วย จิ่วโยวยินดีทำทุกอย่างที่เขาต้องการ
ฉู่ชวิ๋นมองหน้าเด็กหญิงอย่างใช้ความคิด จิ่วโยวยิ้มหวานตอบกลับมาตลอดเวลา
“ฉันพาเธอไปด้วยก็ได้ แต่เธอต้องโดนลงโทษที่แอบหนีออกมาในครั้งนี้ก่อน” ฉู่ชวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
จิ่วโยวสีหน้าแปรเปลี่ยนไปในพริบตา เธอหันหลังกลับวิ่งหนีไปทันที
แต่สุดท้าย เธอก็ถูกฉู่ชวิ๋นจับตัวได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้น เด็กหญิงก็ถูกตีก้นอย่างรุนแรงอยู่หลายครั้ง
เมื่อจบการลงโทษแล้ว จิ่วโยวก็มองหน้าชายหนุ่มด้วยความเสียใจ “นายตบตีฉัน ฉันไม่รักนายแล้ว แง”
ฉู่ชวิ๋นพูดอะไรไม่ออก คว้าตัวเด็กหญิงมาตีก้นเพิ่มเติมอีกครั้ง จากนี้ไป เขาคงต้องห้ามไม่ให้จิ่วโยวดูละครน้ำเน่าอีกเด็ดขาด เด็กคนนี้บ้าไปแล้ว
สิงโตทองคำเดินเข้ามามองหน้าฉู่ชวิ๋นด้วยความระมัดระวัง ก่อนถามว่า “นายท่านครับ พวกเราขอตามไปด้วยได้หรือไม่?”
“พวกนายไม่กลัวตายกันหรือไง?” ฉู่ชวิ๋นว่า “เส้นทางไปเขาหลู่ซานมีอันตรายอยู่มากมาย ถ้าประมาทเพียงแค่นิดเดียว อาจจะไม่ได้กลับมาอีกแล้วนะ”
สิงโตทองคำตอบว่า “นายท่าน พวกเราไม่มีบ้านให้กลับ นอกจากยอมเป็นสัตว์ป่าเร่ร่อนหรือไม่ก็ขึ้นไปอยู่ทางทิเบต แต่นั่นไม่ใช่บ้านของพวกเรา ด้วยเหตุนี้ พวกเราขอสู้กับพวกสัตว์ร้ายกลายพันธุ์จนตัวตายดีกว่า”
ฉู่ชวิ๋นประหลาดใจไม่น้อยที่สัตว์ป่ากลายพันธุ์เหล่านี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย กลับมีจิตใจกล้าหาญยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก
สุดท้ายแล้ว ฉู่ชวิ๋นก็พยักหน้าตกลง
“เอ่อ…พี่ชายทุกท่าน ถ้าพวกท่านจะไปที่เขาหลู่ซาน ข้าคงไปด้วยไม่ได้นะ พลังยุทธ์ของข้าต่ำต้อยอ่อนด้อยเกินไป ถึงข้าไปด้วยก็คงช่วยอะไรไม่ได้ ข้าจะรอพวกท่านกลับมาอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน” เจ้านกอินทรีเงินพูดขณะก้าวเดินถอยหลัง
เสือใหญ่เดินเข้าไปทำจมูกสูดดมฟุดฟิดรอบกายอินทรีเงิน หลังจากนั้น สุนัขป่าระดับจักรพรรดิอีกสองตัวก็เดินเข้ามาดมรอบตัวมันเช่นกัน
เจ้านกยักษ์ขนลุกเกรียว ยิ้มฝืดและพูดว่า “พี่เสือ พี่สุนัขป่า จะทำอะไรหรือขอรับ?”
เสือใหญ่แลบลิ้นออกมาเลียขาของเจ้านกยักษ์ แล้วตอบว่า “เจ้าบอกว่าเจ้าช่วยพวกข้าไม่ได้ใช่ไหม ผิดแล้ว ข้าว่าเจ้ายังสามารถช่วยพวกเราได้อยู่นะ”
“ให้ช่วยอะไรหรือขอรับ?” นกยักษ์ถามเสียงสั่น
“ช่วยเป็นอาหารให้พวกเราไงล่ะ เจ้าสามารถทำให้เราอิ่มไปได้อีกหลายมื้อ” เสือใหญ่ตอบ
นกยักษ์หวาดกลัวตัวเย็นเฉียบ
“ทุกคนจับไอ้นกโง่นี่กินเลยเถอะ ฉันไม่ได้ชอบหน้ามันอยู่แล้ว” จิ่วโยวหลังโดนตีก้นก็อารมณ์ไม่ดีสุด ๆ ความซวยจึงตกเป็นของเจ้านกยักษ์แท้ ๆ
“ได้เลยองค์หญิง ถ้าอย่างนั้น ข้าขอจองลำคอมันก็แล้วกัน” เสือใหญ่ว่า
“ส่วนขาของมัน พวกฉันขอก็แล้วกันนะ” สุนัขป่าบอก
“งั้นฉันขอปีกก็แล้วกัน” สิงโตทองคำจอง
เมื่อเห็นว่าสัตว์ป่ากลายพันธุ์แต่ละตัวเริ่มจับจ้องตนเองน้ำลายไหลย้อย เจ้านกอินทรีเงินก็รีบพูดละล่ำละลักออกมาทันทีว่า
“พี่ชายเอ๋ย…พี่ชาย ข้านึกออกแล้ว ข้ายังช่วยพวกท่านได้อยู่นะ ข้าสามารถพาพวกท่านบินไปที่เขาหลู่ซานได้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินเท้าไงล่ะ” มันตะโกนเสียงดังด้วยความหวาดกลัว
“พูดจามีเหตุผลเหมือนกันนี่หว่า” เสือใหญ่พูด
สัตว์ป่ากลายพันธุ์ที่เหลืออยู่พากันพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นเก็บเจ้าเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน วันใดเจ้าหมดประโยชน์ต่อเราเมื่อไหร่ ค่อยกลับมากินให้อิ่มไปซักหลายมื้อ” สิงโตทองคำใช้กรงเล็บตบหลังอินทรีเงินอย่างแผ่วเบา
“มีประโยชน์แน่นอนขอรับ มีประโยชน์แน่นอน ข้าน้อยสามารถช่วยพวกท่านหาอาหารได้ด้วยนะ” เจ้านกยักษ์พูดอย่างขวัญเสีย
พวกของสิงโตทองคำหันมายิ้มให้กัน
ฉู่ชวิ๋นอดยิ้มออกมาไม่ได้แล้ว เจ้าอินทรีเงินตัวนี้ไม่มีหลักการเลยสักนิด มันขวัญอ่อนเสียจนไม่เหลือศักดิ์ศรีของการเป็นนกอินทรีอยู่เลย
“ก่อนอื่น รีบออกไปหาต้นไม้แปลงร่างที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อนดีกว่า” ฉู่ชวิ๋นออกคำสั่งกับเจ้านกยักษ์
ดวงตาของบรรดาสัตว์ป่ากลายพันธุ์เป็นประกายแวววาวด้วยความตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“นายท่านครับ ข้าน้อยได้ยินมาว่ามีต้นไม้แปลงร่างอยู่ห่างจากที่นี่ไปทางตอนใต้ประมาณ 150 กิโลเมตร แต่มันตั้งอยู่ในเขตแดนของพวกหมาป่าปีศาจ” ช้างเผือกเดินเข้ามารายงาน
“งั้นเราก็ไปที่นั่นกันเถอะ”
บรรดาสิงโตทองคำและสัตว์ป่ากลายพันธุ์ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ในที่สุด พวกมันก็จะได้มีโอกาสเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์กับเขาสักที
อินทรีเงินทำตัวเป็นคนสำคัญ รับหน้าที่บรรทุกทุกคนบินลงไปทางตอนใต้
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉู่ชวิ๋นก็เห็นต้นไม้แปลงร่างแล้ว มันยืนต้นตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา กิ่งก้านสาขาและใบดอก ล้วนแล้วแต่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร
ต้นไม้แปลงร่างมีลักษณะเหมือนกับต้นบันยันทุกประการ ต่างเพียงอย่างเดียวคือผลของมันเป็นสีทองคำ ลักษณะเหมือนถั่วเชสนัทที่หุ้มด้วยทองคำเหลืองอร่าม
ฉู่ชวิ๋นส่งสัญญาณให้เจ้านกยักษ์บินลงไป
ยังไม่ทันที่อินทรีเงินจะบินลงไปจอดบนพื้นดิน เงาร่างหลายสายก็ปรากฏตัวออกมา พวกมันมีพลังลมปราณแข็งแกร่ง ในกลุ่มนี้มีผู้มีพลังขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ถึงสามตัว
“พวกเจ้าเป็นใคร? ที่นี่เป็นเขตแดนของหมาป่าปีศาจ รีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้” หนึ่งในกลุ่มหมาป่าตะโกนออกมา
ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเยาะ หมาป่าปีศาจเหล่านี้อวดดีมากเกินไปแล้ว
ก่อนที่อินทรีเงินจะบินลงไปถึงพื้น ฉู่ชวิ๋นก็กระโดดลงจากแผ่นหลังของมัน พร้อมกับซัดพลังออกไปจากฝ่ามือ ส่งผลให้พื้นที่บริเวณเนินเขาพังถล่ม ก้อนหินใหญ่พังทลาย
ครืน!
หมาป่าปีศาจขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ตัวหนึ่ง ถูกพลังของฉู่ชวิ๋นกระแทกจนลอยกระเด็นไปไกล
“เจ้าเป็นใคร? กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับเผ่าพันธุ์หมาป่าปีศาจได้ยังไง?”
หมาป่าปีศาจกลุ่มนี้หวาดกลัวต่อพลังของฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นไม่สนใจพูดคุยกับพวกมันเลยสักคำ เขาเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว พริบตาต่อมา ก็ต่อยหมัดเข้าที่หัวของหมาป่าปีศาจขั้นจักรพรรดิระดับ 9 อีกตัวหนึ่ง
เพียงพลิกฝ่ามือ ลมปราณก็เป็นประกายวูบวาบ หมาป่าขั้นจักรพรรดิระดับ 8 อีกสองตัวร่างระเบิดกระจายเป็นม่านหมอกเลือดไปทันที
หมาป่าขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ รีบหันหลังกลับ วิ่งหนีด้วยความตื่นกลัว แต่ฉู่ชวิ๋นก็กระโดดไล่ตามไป เขาใช้เท้าเตะเข้าที่หัวของมัน แล้วหมาป่าปีศาจตัวนั้นก็ลอยกระเด็นกลิ้งไปหลายตลบ กระแทกเข้ากับหน้าผาหินโครมใหญ่
เมื่อนกยักษ์ร่อนลงมาถึงพื้นดิน ฉู่ชวิ๋นก็จัดการสังหารหมาป่าปีศาจไปได้แล้วถึงห้าตัว
พวกของสิงโตทองคำต่างยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง ฉู่ชวิ๋นแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
ฉู่ชวิ๋นเดินตรงเข้าไปจะเด็ดผลของต้นไม้แปลงร่างลงมา
“นายท่านครับ อย่า” ช้างเผือกร้องเตือน
แต่มือของชายหนุ่มสัมผัสกับผลของต้นไม้แปลงร่างแล้ว เกิดเสียงดังเปรี้ยง ผลสีทองคำลูกนั้นพลันระเบิดตัว ลมปราณสีทองเป็นประกายเจิดจ้า แรงอัดของมันเหมือนกับลูกระเบิดขนาดเล็ก
ฉู่ชวิ๋นตกใจไม่น้อย ยกมือขึ้นปัดป้องลมปราณสีทองที่พุ่งเข้ามา ก่อนหมุนตัวตีลังกากลับหลัง มายืนจ้องมองต้นไม้แปลงร่างด้วยความประหลาดใจจากระยะไกล
“ต้นไม้พวกนี้มีชีวิตด้วยหรือไง” ฉู่ชวิ๋นพูด
ช้างเผือกส่ายหน้า แล้วตอบว่า “เรื่องนี้เราไม่รู้หรอกครับ แต่ว่ากันว่าถ้าเข้าไปเด็ดผลของมันโดยตรง ก็อาจจะบาดเจ็บสาหัสได้เลย”
วูบ!
ลำต้นของต้นไม้แปลงร่างระเบิดลมปราณสีทองออกมาเป็นประกายเจิดจ้า
ขณะนี้ กิ่งก้านสาขาของต้นไม้กำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง
วูบ…!
ผลแปลงร่างหลายผลถูกยิงเข้าใส่พวกของฉู่ชวิ๋นเหมือนกับลูกกระสุนปืนใหญ่ที่ทำจากทองคำ
ฉู่ชวิ๋นวาดมือผ่านอากาศ สร้างม่านพลังสีม่วงเข้มขึ้นมาห้อมล้อมพวกของตนเองเอาไว้
เปรี้ยง…!
ผลแปลงร่างระเบิดตูมเมื่อกระทบเข้ากับม่านพลัง ลมปราณสีทองสว่างไสวราวดอกไม้ไฟ ภูเขาสั่นสะเทือนไปทั้งลูก
“เหมือนมันจะเริ่มโมโหแล้วนะ” จิ่วโยวพูด
ฉู่ชวิ๋นยิ้มกว้าง ต้นไม้ต้นนี้เริ่มมีอารมณ์เดือดดาลขึ้นมาแล้วจริง ๆ ฝ่ายตรงข้ามควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว แต่เขาจะลองคุยดูก่อน
ฉู่ชวิ๋นปล่อยคลื่นพลังจิตออกไปสื่อสารว่า “ใจเย็นก่อน เรามาที่นี่เพื่ออยากจะขอผลแปลงร่างซักสองสามลูกเท่านั้น”
แต่น่าเสียดายนัก เสียงที่แก่เฒ่าเสียงหนึ่งตอบกลับมาจากต้นไม้แปลงร่างว่า “ไม่ได้”
ฉู่ชวิ๋นพบว่าเรื่องนี้น่าสนใจ ถ้าเป็นดินแดนเซียนจะมีเพียงแค่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่มีชีวิตและสติปัญญา แต่ต้นไม้ของโลกมนุษย์ไม่ใช่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ พวกมันเป็นต้นไม้ที่กลายพันธุ์ขึ้นมานั่นเอง
“จะส่งมาให้ดีๆ หรือไม่? ถ้าฉันถอนรากถอนโคนต้นของนาย อย่าหาว่าไม่เตือนก็แล้วกัน” ฉู่ชวิ๋นข่มขู่ต้นไม้โบราณด้วยความนึกสนุก
วูบ!
ต้นไม้แปลงร่างสั่นสะเทือนไปทั้งต้นอีกครั้ง ผลแปลงร่างอีกหลายสิบลูก ถูกยิงเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นใช้ม่านพลังปกคลุมพวกของจิ่วโยวเอาไว้เรียบร้อย ตัวเขาเองก้าวออกไปข้างหน้า กระโดดหลบผลแปลงร่างที่พุ่งตรงเข้ามา
ชายหนุ่มโถมตัวไปข้างหน้า ลมปราณหลากสีสันพวยพุ่งออกจากกำปั้นของเขา ระเบิดเข้าใส่ที่ต้นไม้โบราณ
เปรี้ยง!
เปลือกไม้ระเบิดตัว ต้นไม้สั่นไหว กิ่งไม้ห้อยตกลงมา
ฉู่ชวิ๋นเลิกคิ้วสูงด้วยความตกตะลึง ต้นไม้แปลงร่างต้นนี้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ลำต้นของมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า ถึงเขาจะไม่ได้ลงมืออย่างเต็มที่ก็จริง แต่บนลำต้นของมัน นอกจากเปลือกไม้ที่หลุดลอกออกมาเล็กน้อยแล้ว ก็ไม่มีร่องรอยความเสียหายจากพลังหมัดของเขาอยู่เลยแม้แต่น้อย