จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 445 จิ่วโยวตกอยู่ในอันตราย
บทที่ 445 จิ่วโยวตกอยู่ในอันตราย
จิ่วโยวตกตะลึงไม่น้อย พังพอนกับจิ้งจอกร่วมมือกันนับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง พวกมันทั้งคู่ต่างก็เป็นสัตว์สายพันธุ์เจ้าเล่ห์ ส่วนใหญ่มักแยกย้ายหากินไม่ยุ่งเกี่ยวต่อกัน
จิ่วโยวอดเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้ พวกเจ้าเล่ห์รวมหัวกันขนาดนี้ เธอจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด
“ที่แท้ก็เป็นพังพอนปีศาจนี่เอง” จิ่วโยวยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้า “ลูกน้องของแกโดนฉู่ชวิ๋นฆ่าตายหมดแล้ว ต้องกลายมาเป็นคนเร่ร่อน ขออยู่อาศัยกับเผ่าพันธุ์จิ้งจอกปีศาจแล้วหรือ?”
ดวงตาของหวงหยินเป็นประกายวาวโรจน์ ในขณะที่หัวเราะเยาะตอบกลับ “เป็นเด็กน้อยเพียงเท่านี้ ปากดีเหลือเกินนะ เมื่อไม่มีจอมมารฉู่ชวิ๋นคอยคุ้มกะลาหัว เจ้าจะทำอะไรได้? เจ้าคิดหรือว่าเพียงแค่อาศัยชื่อเสียงของจอมมารฉู่ชวิ๋น เจ้าก็จะทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจ?“
จิ่วโยวไม่มีทางยอมให้ใครมาดูหมิ่นชื่อเสียงของฉู่ชวิ๋นเด็ดขาด จึงรีบตอบกลับไปว่า “ถ้าแกมีความสามารถจริง ก็ไม่เห็นต้องกลัวชื่อเสียงของฉู่ชวิ๋นเลยสักหน่อย เขาฆ่าคนของแกไปจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ฉันก็ไม่เห็นพวกแกกล้ามาแก้แค้นสักที ดูเหมือนว่าแกก็กลัวฉู่ชวิ๋นเหมือนกันใช่ไหมล่ะ?”
หวงหยินมีสีหน้าเคร่งเครียด ยิ้มออกมาด้วยความดุร้าย “ไม่ต้องห่วง ยังไงพวกข้าก็ต้องแก้แค้นแน่ และข้าก็จะเริ่มจากเจ้าเป็นคนแรก”
จิ่วโยวแค่นหัวเราะตอบกลับไปอย่างไม่หวาดกลัว “คราวนี้พวกแกฟื้นขึ้นมาอีกกี่ตัวกันล่ะ? ไม่กลัวว่าจะโดนฉู่ชวิ๋นฆ่าตายจนหมดฝูงอีกหรือไง?”
“เลิกพูดถึงจอมมารฉู่ชวิ๋นสักทีได้ไหม? เท่าที่ข้ารู้เขาตายไปนานแล้ว คนตายจะสามารถทำอะไรได้อีก?” หวงหยินพูดไปแล้วก็ลอบสังเกตปฏิกิริยาตอบรับของจิ่วโยว
“เหลวไหล ฉู่ชวิ๋นยังไม่ตายสักหน่อย แกนั่นแหละที่ต้องตาย” จิ่วโยวคำรามด้วยความโกรธแค้น
หวงหยินดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ จิ่วโยวมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อมันประมวลผลจากอาการพิรุธของเด็กหญิง ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เจ้าก็ไม่รู้เหมือนกันใช่ไหมล่ะ ว่าบัดนี้จอมมารฉู่ชวิ๋นยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วกันแน่?”
“อย่าได้หวัง ฉู่ชวิ๋นไม่มีทางตายเด็ดขาด” จิ่วโยวพูดด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว
หวงหยินหัวเราะเยาะ ยิ่งมั่นใจมากกว่าเดิมว่าจิ่วโยวยังคงไม่รู้ชะตากรรมของจอมมารฉู่ชวิ๋น เมื่อเป็นอย่างนี้ จอมมารฉู่ชวิ๋นก็ไม่มีทางรู้ว่าเด็กหญิงเดินทางมาที่ภูเขาจิ้งจอก นั่นหมายความว่า ถ้าเกิดเธอเป็นอะไรขึ้นมา จอมมารฉู่ชวิ๋นก็ไม่มีทางล่วงรู้ได้เลย
“องค์หญิงจิ่วโยว จอมมารฉู่ชวิ๋นฆ่าคนของเราไปมากมาย หนี้แค้นครั้งนี้ต้องได้รับการชำระ และข้าจะเริ่มโดยการฆ่าเจ้าเป็นคนแรก” หวงหยินเหยียดยิ้ม ก่อนระเบิดพลังลมปราณออกมาจากร่างกาย
หูฉือเอินก็โคจรลมปราณในร่างกายเช่นกัน บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอันโหดเหี้ยม
“พลังขั้นจักรพรรดิระดับ 9” จิ่วโยวมองอย่างไม่ตกใจอะไร
เธอเคยสู้กับจักรพรรดิระดับ 9 มาหลายตัว เด็กหญิงคิดเอาเองว่า พวกสัตว์ร้ายกลายพันธุ์ก็ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิด
แต่สิงโตทองคำ เสือใหญ่และบรรดาสัตว์ป่ากลายพันธุ์ชนิดอื่น ๆ ตกตะลึงจนขนลุกเกรียว
ความห่างชั้นของระดับพลัง ไม่อาจทดแทนด้วยกำลังพล
จิ่วโยวมากแข็งแกร่งก็จริง แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยหากคู่ต่อสู้มีถึงสองคนอย่างนี้
“พวกเราถอย!” จิ่วโยวตัดสินใจออกคำสั่งให้ผู้ติดตามล่าถอย
สัตว์ร้ายขั้นจักรพรรดิระดับ 9 น่ากลัวไม่น้อย แต่ที่น่ากลัวกว่าคือพวกมันมีด้วยกันถึงสองคน
ในขณะนี้ จิ้งจอกปีศาจ 30 กว่าตัวได้ปรากฏตัวออกมาขวางเส้นทางหลบหนีเอาไว้
“ตายซะเถอะ!”
จิ่วโยวควงกระบองทองคำต่อสู้อย่างดุเดือด ลมปราณสีทองระเบิดประกายเจิดจ้า ทำให้มวลอากาศระเบิดตัวปั่นป่วน
เปรี้ยง!
จิ้งจอกปีศาจระดับสูงตัวหนึ่งกระโดดมาขวางทาง แต่ก็ถูกกระบองช่อหนามในมือของเด็กหญิงฟาดเข้าใส่เต็มแรง เลือดสาดกระจาย ร่างลอยกระเด็นออกไป
บรรดาสัตว์ป่ากลายพันธุ์ 20 กว่าตัว อย่างเช่น สิงโตทองคำ เสือใหญ่และช้างเผือก ต่างก็ต่อสู้อย่างสุดความสามารถ
พวกมันเข้าใจดีว่า ถ้าวันนี้พวกมันไม่ฆ่าฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายตรงข้ามก็จะฆ่าพวกมัน เพราะฉะนั้น ทุกตัวจึงต่อสู้ด้วยความดุร้ายและทรงพลัง แยกย้ายกันเปิดเส้นทางหลบหนี
ปะทะกันเพียงครั้งเดียว จิ้งจอกปีศาจก็บาดเจ็บสาหัสไปหลายตัวแล้ว
“วันนี้ พวกแกจะต้องตายอยู่ที่นี่ทั้งหมด” หูฉือเอินสีหน้าเครียดขรึม ดวงตาเป็นประกายดุร้าย มันดีดเท้ากระโดดขึ้นจากพื้นดิน ลอยตัวพุ่งเข้าหาจิ่วโยว
จิ่วโยวรู้สึกเย็นวาบที่ด้านหลัง เธอหันกลับมาพร้อมกับตวัดกระบองในมือฟาดเข้าใส่ร่างของหูฉือเอิน
หูฉือเอินหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม ยกมือขึ้นรับแรงปะทะจากกระบองทองคำ
เคล้ง!
เปลวไฟสาดกระจาย จิ่วโยวเซถอยหลังไปหลายก้าว บนพื้นดินเกิดเป็นรอยเท้าฝังลึก แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันที่กดทับลงไป
หูฉือเอินมองหน้าจิ่วโยวด้วยความเหลือเชื่อ เป็นอย่างที่มันคิดไว้ไม่มีผิด แรงปะทะเมื่อสักครู่นี้ทำให้จิ่วโยวสั่นสะเทือนได้ก็จริง แต่ก็ทำให้เธอเซถอยหลังไปเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น
“น่าสนใจมาก” หูฉือเอินหมุนตัวกลับมากระโดดตามติดเหมือนภูตผี
จิ่วโยวกระทืบเท้าลงบนพื้นดิน ตั้งหลักรอรับการโจมตี ในขณะที่ตวัดกระบองช่อหนามใส่คู่ต่อสู้ด้วยความร้ายกาจ
เคล้ง!
หูฉือเอินใช้มือเปล่ารับหนามแหลมของกระบองทองคำพร้อมกับเปล่งเสียงคำรามในลำคอ
จิ่วโยวยืนตั้งหลักอยู่ก่อนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น แรงกระแทกก็ทำให้ร่างกายไถลถอยหลังไปหลายสิบเมตร บนพื้นเกิดเป็นรอยเท้าลากเป็นทางยาว กระบองทองคำในมือของเธอสั่นระริก
เด็กหญิงมีสีหน้าเย็นชา ควงกระบองในมือ ระเบิดลมปราณสีทองออกมาอีกครั้ง
ฟู่!
จิ้งจอกชั้นต่ำที่อยู่แถวนั้นหลบไม่ทัน ถูกกระบองช่อหนามฟาดเข้าใส่ที่ลำคอ เมื่อจิ่วโยวสะบัดกระบอง ร่างของจิ้งจอกปีศาจตัวนั้นก็ลอยเข้าไปหาหูฉือเอิน
หูฉือเอินร้องคำราม อ้าแขนรับศพของจิ้งจอกปีศาจเอาไว้ ก่อนที่จะวางศพลงบนพื้นดินด้วยความอ่อนโยน
“องค์หญิงจิ่วโยว ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นพัน ๆ หมื่น ๆ ชิ้น”
ดวงตาของจิ่วโยวเต็มไปด้วยความแตกตื่นและระมัดระวัง เธอรู้ดีว่าหูฉือเอินโกรธแค้นมากแล้ว และจิ้งจอกปีศาจขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ในยามโกรธแค้น ก็มีความน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
“ฉันจะถ่วงเวลาพวกมันทั้งสองตัวเอาไว้ก่อน พวกนายรีบหนีออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งไกลเท่าไหร่ยิ่งดี” จิ่วโยวบอกกับพวกของสิงโตทองคำ
“อย่าหวังว่าจะหนีรอดออกไปจากที่นี่ได้เลย” หูฉือเอินยิ้มกริ่ม พลังลมปราณสีเหลืองห่อหุ้มร่างกาย แววตาดุร้ายอำมหิต มันกระโดดเข้ามาหาจิ่วโยวอีกครั้ง
หูฉือเอินมีความรวดเร็วมาก เพียงพริบตาเดียวก็เข้าประชิดตัวจิ่วโยวได้สำเร็จ พลังลมปราณสีเหลืองพวยพุ่งออกมาจากฝ่ามือ ระดับพลังมีความรุนแรงและน่ากลัว
จิ่วโยวโบกสะบัดกระบองทองคำ ลมปราณหลากสีสันห้อมล้อมรอบกาย ก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่หูฉือเอินด้วยความดุร้าย
เปรี้ยง!
หูฉือเอินใช้มือเปล่ารับแรงกระแทกจากกระบองช่อหนาม พลังลมปราณระเบิดกระจาย เกิดเป็นคลื่นลมแผ่ไปทั่วบริเวณ
ฟู่!
จิ่วโยวกระอักเลือดออกมาจากปาก ร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงลอยกระเด็นไปไกลหลายร้อยเมตรเสียงดังโครม
“องค์หญิงจิ่วโยว” ช้างเผือกร้องอุทาน รีบวิ่งเข้าไปดูอาการเด็กหญิง
“ปกป้องตัวเองยังไม่ได้ แล้วแบบนี้จะปกป้องคนอื่นได้ยังไง” หวงหยินยกมือขึ้นหมุนวนในขณะที่ลอยตัวผ่านอากาศ พลังลมปราณถูกยิงออกมาจากฝ่ามือ กระแทกเข้าใส่ศีรษะของช้างเผือกอย่างจัง
เปรี้ยง!
ลำตัวขนาดใหญ่ยักษ์ของช้างเผือกล้มโครมลงไปบนพื้น งาข้างหนึ่งที่ยาวกว่าสามเมตรแตกหัก บนหัวเกิดบาดแผลขนาดใหญ่ เลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุด
ช้างเผือกร้องครวญคราง ดิ้นทุรนทุรายอยู่สักครู่หนึ่งก็ลุกไม่ขึ้น ฝ่ามือนี้ทำให้มันบาดเจ็บสาหัสแล้ว
“งาของเจ้าสวยดีนะ เอามาขัดทำเป็นตะเกียบกินข้าวดีกว่า” หวงหยินยิ้มกริ่ม ยกมือขึ้นลูบไล้ศีรษะของช้างเผือกอย่างแผ่วเบา
หากมันยิงพลังลมปราณออกไปอีกครั้ง ช้างเผือกตัวนี้ก็คงหนีความตายไม่พ้น
เสือใหญ่ร้องคำราม มันถูกจิ้งจอกปีศาจกลุ่มหนึ่งพัวพันอยู่ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือช้างเผือกได้
เช่นเดียวกับสิงโตทองคำที่มีสภาพเลือดท่วมตัว มันถูกกลุ่มจิ้งจอกระดับสูงล้อมหน้าล้อมหลัง ผิวหนังเป็นบาดแผลเหวอะหวะ เนื้อแหว่งหายไปบางส่วน
“ไม่นะ” จิ่วโยวร้องตะโกน โถมตัวเข้าใส่หวงหยิน พร้อมกับเงื้อกระบองทองคำขึ้นสูง
เสียงกระบองแหวกอากาศดังเข้ามารุนแรง แม้แต่หวงหยินก็ไม่กล้าประมาทการโจมตีครั้งนี้ ฝ่ามือที่เตรียมยิงพลังลมปราณใส่หัวของช้างเผือก จึงต้องเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน
เคล้ง!
ประกายไฟสาดกระจาย กระบองช่อหนามถูกพลังลมปราณยิงกระเด็นหลุดออกจากมือเด็กหญิง หวงหยินหมุนตัวตีลังกากลางอากาศ แล้วกระบองทองคำก็ตกไปอยู่ในมือของมัน
“องค์หญิงจิ่วโยว ขอบคุณมากสำหรับของขวัญ” หวงหยินยิ้มอย่างผู้ชนะ
จิ่วโยวก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไร เธอหมุนตัวกลิ้งไปอีกทาง พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือสิงโตทองคำ
“องค์หญิงจิ่วโยว เจ้าต้องมาสู้กับข้าก่อน” หูฉือเอินกระโดดเข้ามาขวางหน้าจิ่วโยว
เปรี้ยง!
หลังจากปะทะกันอย่างหนักหน่วงอีกหลายกระบวนท่า จิ่วโยวก็เซถอยหลังไปอีกครั้ง มีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก
“องค์หญิงจิ่วโยว บอกแล้วไงว่าวันนี้เจ้าไม่มีทางกลับลงจากภูเขาจิ้งจอกได้เด็ดขาด” หูฉือเอินยิ้มเหี้ยมเกรียม หมุนตัวตวัดกรงเล็บ โจมตีสุนัขป่าตัวหนึ่งที่อยู่ด้านข้าง
สุนัขป่าตัวนี้มีพลังขั้นจักรพรรดิระดับ 8 มันเห็นกรงเล็บลอยเข้ามาต่อหน้าต่อตา
ฟู่!
เลือดสาดกระจาย หูฉือเอินโจมตีด้วยความรุนแรงและร้ายกาจ กรงเล็บของมันตัดร่างสุนัขป่าขาดครึ่งเป็นสองท่อน น่าสยองขวัญเป็นอย่างยิ่ง
สุนัขป่าตัวนี้มีพี่น้องอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 ตัว เมื่อตัวหนึ่งตายไป อีกสี่ตัวที่เหลือก็ส่งเสียงหอนเห่าและคำรามด้วยความเศร้า
เปรี้ยง!
หวงหยินไม่ได้ให้ความสนใจที่ช้างเผือกอีกแล้ว มันรู้สึกว่าช้างเผือกไม่มีทางต่อสู้ได้อีกเด็ดขาด ถึงยังหายใจอยู่ก็เหมือนตายไปแล้ว ดังนั้น หวงหยินจึงหันมาโจมตีเจ้าเสือใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล
ฝ่ามือนี้ไม่ได้มีความรุนแรงอะไรมากมาย แต่ก็ทำให้เลือดสาดกระจายออกมาจากร่างของพยัคฆ์ร้ายได้ไม่น้อย เสือใหญ่ถูกพลังลมปราณกระแทกเข้าใส่ ร่างลอยกระเด็นไปอัดกับก้อนหินใหญ่แตกกระจาย
เสือใหญ่ร้องคำราม กระดูกแตกหักเกือบทั่วร่าง เส้นเอ็นฉีกขาด พยายามลุกขึ้นอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายก็ต้องนอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นเอง
“องค์หญิงจิ่วโยว ข้าอยากให้เจ้าเห็นกับตาของตัวเอง ว่าลูกน้องของเจ้าโดนพวกเราฆ่าตายอย่างไรบ้าง เหมือนที่ไอ้จอมมารฉู่ชวิ๋นมันเคยทำไว้กับพวกเรา” หวงหยินระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความชั่วร้าย
เปรี้ยง!
เพียงฝ่ามือเดียว สิงโตทองคำก็กระอักเลือดออกมาก่อนลอยกระเด็นไป กระดูกแตกหักทั่วร่างกาย สูญเสียพลังการต่อสู้ไปหมดสิ้น
เปรี้ยง!
สุนัขป่าอีกหลายตัวลอยกระเด็นไปพร้อมกับเส้นเอ็นที่ฉีกขาด
ฟู่!
หัวของสัตว์ป่าลอยกระเด็น นั่นคือหัวของตัวนิ่ม มันเป็นสัตว์ป่าตัวแรกที่ติดตามจิ่วโยว มีพลังขั้นจักรพรรดิระดับ 7 แต่กลับถูกหวงหยินสังหารทิ้งด้วยฝ่ามือเดียว
“ฉันจะฆ่าแก!” จิ่วโยวดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เธอรวบรวมกำลังพุ่งเข้าใส่หวงหยินอย่างดุร้าย
แต่เด็กหญิงกลับถูกหูฉือเอินกระโดดเข้ามาขวางหน้า และกระแทกฝามือใส่เต็มแรง ส่งผลให้กระดูกชายโครงของเด็กหญิงหักหลายซี่จนต้องกระอักเลือดออกมา ใบหน้าขาวซีด
เมื่อดูจากพลังการโจมตีแล้ว ไม่มีใครสามารถรับมือหวงหยินได้เลย
เปรี้ยง!
สุนัขป่าอีกตัวหนึ่งลอยกระเด็นไปไกล ช่องท้องเป็นรูโบ๋ลำไส้ไหลทะลัก เลือดพุ่งกระฉูดออกมาราวน้ำพุ
เปรี้ยง…!
บรรดาสัตว์ป่ากลายพันธุ์ที่ติดตามจิ่วโยว ต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียพลังการต่อสู้ไปทีละตัว
“องค์หญิงจิ่วโยว เห็นแล้วใช่ไหมว่าข้าสามารถจัดการพวกมันได้อย่างง่ายดายเพียงใด ฮ่าฮ่า…” หวงหยินระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความบ้าคลั่ง