จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 191 บทสรุป
“พ่อบ้านเชิญครับ”
คนรับใช้คนหนึ่งในชุดสูทเข้าไปต้อนรับ
หานหยุนเทารีบเข้าไปทันที จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “พ่อบ้านมีสถานะสูงส่ง ลำบากคุณต้องมาเองแล้ว ตามหลักแล้วเป็นพวกเราต่างหากที่ต้องไปทักทาย”
นี่ไม่ใช่เรื่องโกหก
การที่จะเป็นพ่อบ้านของคฤหาสน์สูงศักดิ์ได้นั้น ไม่ต้องพูดถึงสถานะตัวตนอะไร แค่ค่าตัวหากไม่ถึงร้อยล้านต่ำๆก็มีหลายสิบล้านไปแล้ว
ยังมีบางตระกูลที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้น ยกตัวอย่างเช่นพวกพ่อบ้านของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ค่าตัวหลายสิบล้านถือว่าเป็นเรื่องปกติ แม้แต่เจ้าบ้านตระกูลเล็กๆเมื่อเห็นแล้วก็ยังต้องนอบน้อมเกรงใจ
หานหยุนเทาเอื้อมมือออกไปและต้องการจับมือกับพ่อบ้าน
อย่างไรก็ตาม
สิ่งที่ทำให้หน้าของเขาต้องแข็งค้างก็คือ พ่อบ้านไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาสักนิด เขาเดินไปหาหานหยู่เยนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โค้งคำนับแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูหาน ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว”
“อืม”
หานหยู่เยนรู้ว่าเป็นโล่เฉินที่จัดการเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงให้ความร่วมมือแสดงไปกับเขา
เธอเดินไปตรงหน้าหญิงชรา สีหน้าสงบนิ่งจนไร้คลื่นอารมณ์ใดๆ “คุณย่า คฤหาสน์หลังแรกของหานหยุนเทานั้นไม่เลว แน่ว่าน่าเสียดาย ที่ทำให้คุณต้องผิดหวังแล้ว”
“คฤหาสน์หลังแรกก็ยังสู้ฉันไม่ได้”
“ตอนนี้ คุณย่าขึ้นไปที่คฤหาสน์สูงศักดิ์บนยอดเขากับฉันเถอะ”
สมองของหญิงชราว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์
พูดให้ถูกก็คือ ณ ที่แห่งนี้ ยกเว้นโล่เฉินและพ่อบ้าน คนอื่นๆล้วนกลายเป็นหินไปแล้ว
ไป…ไปคฤหาสน์สูงศักดิ์?
พวกเขาไปกับพ่อบ้าน เมื่อมาถึงคฤหาสน์สูงศักดิ์ พวกเขาก็ต้องตกตะลึง ในตอนนี้ คฤหาสน์หลังแรกของหานหยุนเทาเมื่อครู่ไม่สามารถเทียบกับคฤหาสน์หลังนี้ได้เลย
อยู่สูงกว่าที่หนึ่ง ก็คือคฤหาสน์สูงศักดิ์ การแข่งขันครั้งนี้ สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นหานหยู่เยนที่ชนะ
หญิงชราเกลียดอย่างยิ่ง อาการป่วยของเธอรุนแรงขึ้น แต่ก็ไร้หนทางอื่น ตามข้อตกลงการเดิมพัน เธอต้องมอบตำแหน่งเจ้าบ้านของตระกูลหานให้กับหานหยู่เยน ส่วนหานหยุนเทาและคนอื่นๆ ทำได้เพียงยอมแพ้
คราวนี้ ครอบครัวของหานหยู่เยนในที่สุดก็ได้ลืมตาอ้าปาก
เพื่อให้ได้สินสอดเจ้าสาวกลับมา หานหยู่เยนได้ไปพูดคุยกับหานหยุนเทา
“มอบสินสอดเจ้าสาวมา ไม่อย่างนั้นฉันจะไล่นายออกจากบริษัท!” หานหยู่เยนเต็มไปด้วยพลัง ราวกับว่าเธอไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา
นี่ทำให้หานหยุนเทาโกรธจัดจนแทบอยากจะตบคน แต่เมื่อเห็นบอดี้การ์ดข้างกายหานหยู่เยน เขาก็ไม่กล้าทำอะไร
“พ่อ พวกเราจะทำยังไงดี” หานหยุนเทามองไปที่หานเจี้ยนกั๋ว ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะหนึ่ง เขาเองก็ไม่รู้ว่าคุณย่าเอาสินสอดเจ้าสาวไปไว้ที่ไหน
“สินสอดเจ้าสาวไม่ได้อยู่ในมือพวกเรา” หานเจี้ยนกั๋วบอกตามความจริง ตอนนี้เสือร่วงสู่พื้นที่ราบ เขาเองก็ไม่สามารถสั่งสอนอะไรหานหยู่เยนได้
“ถ้าอย่างนั้นพวกนายก็ไปถามคุณย่าซะเถอะ ยังไงคุณย่าก็รักครอบครัวพวกนายมากที่สุด ถ้านายไม่ยอม ฉันมีวิธีลงโทษพวกนาย ให้พวกนายอยู่ต่อไปในเมืองเจียงไม่รอด!” หานหยู่หยานระบายความขุ่นเคืองที่มีมานานกว่าสิบปีทั้งหมดออกมา วันนี้ ถึงเวลาที่จะต้องจัดการกับเรื่องของตระกูลหานแล้ว
ทันทีที่สองพ่อลูกได้ฟัง พวกเขาก็กลัวและรีบกลับไปคุยกับหญิงชรา
ไร้ทางเลือก เมื่อหญิงชราได้ยินก็ย่อมรู้สึกปวดใจแทนลูกชายของตน ดังนั้นเธอจึงมอบสินสอดเจ้าสาวออกมา แต่ว่ามมีเงื่อนไขก็คือ หุ้นของครอบครัวหานเจี้ยนกั๋วจะต้องไม่เปลี่ยนแปลง และห้ามไล่ครอบครัวของหานเจี้ยนกั๋วออก ไม่อย่างนั้นแม้ลงปรโลกไปแล้วก็ตายตาไม่หลับ
หานหยู่เยนก็ยอมรับปากเธอ ยังไงเสียอำนาจของตระกูลหานก็อยู่ในมือเธอ ครอบครัวของหานเจี้ยนกั๋วไม่สามารถก่อคลื่นลมอะไรได้
หลังจากเรื่องในตระกูลหานสิ้นสุดลง หานหยู่เยนก็ได้เข้าไปดำเนินงานในบริษัทและทำงานร่วมกับโล่เฉินเพื่อบริหารบริษัทของเธอเอง
สามวันต่อมา คุณนายใหญ่หานก็เสียชีวิตในโรงพยาบาลประชาชนเมืองเจียง
ครอบครัวของหานหยู่เยนและโล่เฉินไปโรงพยาบาลเพื่อไว้ทุกข์หญิงชรา แม้ว่าหญิงชราจะไม่ใช่คุณย่าของหานหยู่เยน แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ยังเป็นคนตระกูลหาน
หลังจากออกจากโรงพยาบาลและขึ้นรถแล้ว หานหยู่เยนก็รู้สึกเหนื่อยอยู่บ้าง เธอซบลงบนไหล่ของโล่เฉิน “โล่เฉิน ฉันจะทำอย่างไรถ้าไม่มีคุณ คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะผ่านอะไรมามากมายขนาดนี้ คุณย่าหานจากไปแล้ว หานเจี้ยนกั๋วสองพ่อลูกก็ไม่สามารถข่มขู่พวกเราได้อีก ในที่สุดพวกเราก็โล่งขึ้นมาได้”
โล่เฉินกอดภรรยาของเขา “มีผมอยู่ ไม่ต้องกังวล”
หานหยู่เยนเงยหน้าขึ้นไปมองเขา ในใจรู้สึกซาบซึ้ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โล่เฉินอดทนต่อความอัปยศอดสู ไม่เคยยอมแพ้ ตรงกันข้ามกลับเป็นเธอที่ล้มเหลวอย่างมาก
หลังจากกลับมาในตอนกลางคืน หานหยู่เยนก็คิดมากและในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะมอบตัวเองให้กับโล่เฉิน และกลายเป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริง
หลังจากที่โล่เฉินรู้ใจของหานหยู่เยน เขาก็รู้สึกตื้นตัน ในที่สุด หานหยู่เยนก็ยอมรับตัวเอง
หลังจากค่ำคืนอันอบอุ่น จิตใจของคนทั้งสองก็เชื่อมต่อกัน โล่เฉินเองก็ยังบอกความลับของเขาในหลายปีมานี้กับหานหยู่เยน เขาคิดว่าทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากันอย่างจริงใจ ดังนั้นเขาจึงบอกความจริง
หานหยู่เยนรู้สึกตกใจอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นเธอก็เข้าใจ ทุกวันมานี้ เธอรู้มานานแล้วว่าโล่เฉินนั้นไม่ธรรมดา
โล่เฉินรู้สึกเศร้าเล็กน้อย หานหยู่เยนสังเกตเห็นและถามว่า “โล่เฉินคุณคิดอะไรอยู่”
โล่เฉินกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ตอนนี้บริษัทของเรากำลังพัฒนาได้ดีมาก และความแข็งแกร่งของผมก็ค่อยๆ ฟื้นคืนมา วันหน้าผมต้องกลับไปที่เมืองหลวง เยนเอ๋อ คุณจะสามารถเป็นกองกำลังเพื่อต่อสู้ที่เมืองหลวงไปกับผมได้ไหม?”
อันที่จริง โล่เฉินไม่ต้องการให้หานหยู่เยนเข้าสู่สนามรบนี้แต่อย่างใด นี่อันตรายเกินไป
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหานหยู่เยนจะยืนกรานหนักแน่น “ฉันยินดีที่จะไปเมืองหลวงกับคุณ”
ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะอย่างไร ล้วนต้องเผชิญหน้าไปด้วยกันถึงถูกต้อง
โล่เฉินซาบซึ้ง เขากุมมือของหานหยู่เยนเอาไว้ ทั้งร่างเต็มไปด้วยกำลัง
“ได้ หยู่เยน มีคุณพูดแบบนี้ วันหน้าผมไม่มีทางทำให้คุณผิดหวัง!”
ทั้งสองสบตากัน เส้นทางแห่งความสุขของคนทั้งสองเพิ่งเริ่มต้นขึ้น เรื่องราวของโล่เฉินและหานหยู่เยนก็สมควรจบลงที่ตรงนี้ ชีวิตของทั้งสองคนยังคงดำเนินต่อไป แต่นั่นก็ถือเป็นอีกเรื่องราวหนึ่งให้พวกเราตั้งตารอต่อไป!
จบบริบูรณ์