คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 858 ตีนหมูใหญ่[1]กลับมา ภรรยาและอนุรังเกียจ
- Home
- คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า
- ตอนที่ 858 ตีนหมูใหญ่[1]กลับมา ภรรยาและอนุรังเกียจ
ตอนที่ 858 ตีนหมูใหญ่[1]กลับมา ภรรยาและอนุรังเกียจ
มีฉินหลิวซีที่เป็นผู้นำที่เข้มแข็งอยู่ สถานการณ์ในบ้านรองจึงสงบลงอย่างรวดเร็ว สะใภ้เซี่ยเองรับชาอย่างไม่เต็มใจจากสะใภ้เฉาและถือว่ายอมรับเฉาซื่อเป็น ‘น้องสาว’ แต่มีเงื่อนไขว่าหลังจากที่บ้านรองแยกออกไปแล้ว ลูกชายที่เกิดจากภรรยาเอกต้องมีสิทธิ์แปดในสิบส่วน ฉินปั๋วกวงไม่ได้คัดค้านในความต้องการของนางในเรื่องนี้ คิดว่าในอนาคตเพิ่มเงินส่วนตัวให้ในภายหลังก็พอแล้ว ตอนนี้สำคัญที่สุดคือทำให้แม่เสือได้ใจไปก่อน
บ้านรองมีสมาชิกเพิ่มขึ้น ภายนอกดูเหมือนจะสงบ แต่ลับหลังกลับเต็มไปด้วยคลื่นลม แต่ไม่มีใครกล้าโวยวายต่อหน้าฉินหลิวซีก็พอแล้ว เกรงว่าขืนทำให้นางโกรธจะมีแขกที่มองไม่เห็นมาเยี่ยมเยียนกลางดึกเพื่อร้องเพลงกล่อมนอนให้พวกเขา
ฉินหลิวซีรู้สึกสบายใจ
เพราะต้องไว้ทุกข์ ปีนี้บ้านฉินจึงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและเงียบสงบ แม้มีการรวมตัว แต่ก็เพียงกินอาหารเจหนึ่งมื้อก็ถือว่าเป็นการฉลองปีใหม่แล้ว ฉินหลิวซีไม่สนใจ พาศิษย์ทั้งสองคนไปอยู่ที่อารามสักระยะ ใช้ชีวิตอย่างสบายใจและไม่มีความกังวลกับนักพรตเฒ่าชื่อหยวนอีกพักหนึ่ง
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เดือนแรกของรัชศกคังอู่ ปีที่ยี่สิบเจ็ดผ่านไป ฉินปั๋วหงที่เต็มไปด้วยร่องรอยของความเหน็ดเหนื่อยในที่สุดก็มาถึงบ้านเดิมที่เมืองหลี เขาเริ่มต้นด้วยการทำพิธีไว้อาลัยให้กับฮูหยินผู้เฒ่า จากนั้นจุดตะเกียงไฟนิรันดร์[2]ตั้งไว้เพื่อระลึกถึง ก่อนจะได้รวมตัวกับสมาชิกในครอบครัวอย่างแท้จริง โดยเฉพาะภรรยาเอก อนุและลูกหลานของบ้านใหญ่
ฉินปั๋วหงรู้สึกตื่นเต้น แต่สะใภ้หวังกลับรู้สึกเบื่อหน่าย ส่วนวั่นอี๋เหนียงรู้สึกเหมือนชีวิตไม่เหลืออะไร เมื่อบุรุษผู้เป็นเสาหลักของบ้านกลับมาแล้ว แต่ไยจึงรู้สึกว่าเขาไร้ประโยชน์เล่า
สำหรับลูกๆ ของเขา ฉินหมิงเยี่ยนยังพอมีความรู้สึกดีๆ ต่อเขาอยู่บ้าง ส่วนฉินหมิงฉุนซึ่งยังเด็กก็มีความเคารพอย่างชัดเจน ยกเว้นแต่ฉินหลิวซี ทุกคนล้วนมีสีหน้าไม่ดีนัก
ฉินปั๋วหงพยายามแสดงท่าทางเป็นเจ้าบ้าน เอ่ยกับสะใภ้หวัง “เจ้าเด็กคนนี้ เย็นชานัก เจ้าไม่ได้สอนนางให้ดีหรือ”
สะใภ้หวังเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกสาวโตแล้ว อีกทั้งยังเติบโตในอารามเต๋า อาจารย์สอนดี ข้าเองก็ไม่มีอะไรจะสอนมาก ส่วนเรื่องนิสัย มันไม่ใช่ขนมทอดที่จะบิดให้เป็นอย่างไรก็ได้”
ฉินปั๋วหง “…”
ข้าเข้าใจผิดหรือไม่ ไยจึงรู้สึกว่านี่ราวกับเป็นคำด่าเขาเล่า
ฉินปั๋วหงกระแอมไอ เอ่ย “สองปีที่ผ่านมา ลำบากฮูหยินอย่างเจ้าแล้ว ยังต้องทำหน้ากตัญญูส่งท่านแม่อีก”
“เป็นสะใภ้ เป็นสิ่งที่ข้าต้องทำ” สายตาของสะใภ้หวังอ่อนโยนลงเล็กน้อย
ฉินปั๋วหง “อืม” เขามองไปยังท้องฟ้านอกหน้าต่าง เห็นว่าสะใภ้หวังวางมือบนโต๊ะเล็กๆ เขาจึงยื่นมือไปจับมือของนาง “ฮูหยิน ค่ำแล้ว…”
สะใภ้หวังดึงมือกลับ เอ่ย “นายท่าน ตอนนี้ค่ำแล้ว ข้ารู้สึกไม่สบายนัก แม้บาดแผลของเยี่ยนเอ๋อร์จะดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่หายดี ข้าต้องอาบน้ำยาสมุนไพรให้เขา ท่านไปหาวั่นอี๋เหนียงดีหรือไม่”
ตีนหมูใหญ่ กลับมาก็ไม่รู้จักสงบเสงี่ยม คิดบ้าอะไรกัน
ฉินปั๋วหงรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย เหลือบมองนาง เห็นนางยิ้มแย้ม ปลายหางตามีร่องรอยของริ้วรอยและผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย สองปีที่ผ่านมาทำให้ภรรยาเอกของเขามีร่องรอยของความเหนื่อยล้า
เขาลุกขึ้น เอ่ย “เช่นนั้นเจ้าก็ดูแลเยี่ยนเอ๋อร์ให้ดีเถิด”
สะใภ้หวังพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม มองเขาเดินออกไป ก่อนจะถอนหายใจ คิดในใจ เขากลับมาไม่เหมือนกับน้องชายคนรองที่พาคนกลับมาด้วย ไม่เช่นนั้นคงสบายใจขึ้น เพียงแต่ทำให้หว่านโหรวลำบากใจ ช่างเถิด พรุงนี้มอบไข่มุกชดเชยให้นางสักกล่อง
วั่นอี๋เหนียงเห็นฉินปั๋วหงกำลังมาที่นี่รู้สึกตกใจขึ้นมา คนผู้นี้ควรอยู่กับภรรยาเอกมิใช่หรือ มาหานางที่นี่ทำไมเล่า
ฉินปั๋วหงเห็นนางอยู่ในชุดสีขาว หน้าตาและรูปร่างยังคงเดิม สายตาก็ยังใสสะอาด ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นหลายส่วน เอ่ย “สองปีแล้ว โหรวเอ๋อร์ดูผอมลงเล็กน้อย เพราะนอนไม่หลับคิดถึงสามีร่วมเคียงหมอนหรือ เจ้าวางใจ ข้าอยู่ที่นั่นก็สบายดี แม้จะลำบากอยู่บ้าง แต่ก็ผ่านมาได้แล้ว”
“ไม่นะ ข้าหลับสบายดี ตอนกลางคืนแทบไม่ฝัน หลับได้ดี บางครั้งยังตื่นสายอีกด้วย” วั่นอี๋เหนียงตอบทื่อๆ
ฉินปั๋วหงชะงักงันไปชั่วครู่ ก้าวเข้าไปบีบมือนาง เอ่ยแง่งอน “ยังอายเหมือนเมื่อก่อนอยู่หรือ”
วั่นอี๋เหนียงมองเขา คิดในใจว่าการเนรเทศทำให้สมองเขาเป็นบ้าไปแล้ว ไยจึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเล่า
“ท่านมาหาข้าทำไมหรือ ท่านเพิ่งกลับมา ควรไปหานายหญิงใหญ่มิใช่หรือเจ้าคะ”
ฉินปั๋วหงเคาะหน้าผากนาง ยิ้มหวานเอ่ยคำหวาน “ถ้าข้าไปหานายหญิงใหญ่ที่นั่นจริงๆ เจ้าคงร้องไห้น้ำมูกไหลแล้วสิ”
วั่นอี๋เหนียงขมวดคิ้ว เอ่ยอย่างจริงจัง “นายท่าน ข้าไม่ใช่เด็กสามขวบ ไยต้องร้องไห้เพราะท่านอยู่กับนายหญิงใหญ่ ท่านและนายหญิงใหญ่เป็นคู่สมรสที่แท้จริง การอยู่ในห้องของนางเป็นเรื่องธรรมดา ใครจะกล้าว่าสิ่งใด ถึงข้าจะโง่ แต่ก็เข้าใจข้อนี้นะเจ้าคะ”
ฉินปั๋วหง “!”
ข้าดูว่าเจ้าไม่ได้โง่ แต่เจ้าบ้าซะมากกว่า
เอ๊ะ ข้าจะคุยกับสาวน้อยโง่ผู้นี้ทำไม แค่นอนก็พอแล้ว
ฉินปั๋วหงดึงมือของวั่นอี๋เหนียงไปที่ขอบเตียง “นายหญิงใหญ่ไปพักผ่อนแล้ว เรามาเตรียมตัวกันดีกว่า”
วั่นอี๋เหนียงเข้าใจแล้ว ร่างกายรู้สึกต่อต้าน ตีนหมูใหญ่นี่อยากหลับนอนกับนางนี่นา
เห็นเขากลับมาด้วยสภาพที่เหมือนจะเป็นลมเพราะการร้องไห้ นางคิดว่าเขาคงเสียใจเรื่องของฮูหยินผู้เฒ่ามาก แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงการแสดง น่าเสียดายที่เขาเป็นลูกคนโตเสียเปล่า
วั่นอี๋เหนียงคิดในใจ สายตาเหลือบมอง เห็นว่าท้องของคนผู้นี้ยุบลงไปแล้ว สายตายิ่งไม่พอใจยิ่งขึ้น
นายท่านซูบผอมเช่นนี้ ยังแก่ด้วย คงไม่คิดจะเอานางมาบำรุงกระมัง
นางไม่ทำได้หรือไม่
“เป็นอะไรไป”
วั่นอี๋เหนียงยิ้มฝืนๆ เริ่มถอดสายรัดเอว ช่างเถิด ทุกสิ่งที่นางมีมาจากเขาผู้นี้ ถ้าเขาจะใช้การสักหน่อย ก็สมควรได้
“ข้าพร้อมแล้ว”
ฉินปั๋วหงเห็นนางถอดสายรัดเอว ถอดเสื้อคลุม นอนลงบนเตียง มุมปากของเขายกยิ้มโดยไม่รู้ตัว
เพียงนอนเท่านั้น ไยต้องทำท่าทางราวกับจะพลีชีพ
ขณะที่วั่นอี๋เหนียงเตรียมพร้อมมีความสุข ในห้องของฉินหมิงฉุน เด็กชายสองคนกำลังพูดคุยกันอย่างเงียบๆ
“ท่านพ่อก็กลับมาแล้ว พี่สามท่านก็อยู่ ยังมีพี่หญิงใหญ่อีก ต่อไปเราจะเป็นครอบครัวที่รักใคร่กัน” ฉินหมิงฉุนเอ่ยอย่างมีความสุข “พี่สาม ท่านดีใจหรือไม่”
“อืม” ฉินหมิงเยี่ยนตอบ “ต่อไปให้ท่านพ่อสอนวิชาให้เจ้า”
“ห๊า ข้ามีอาจารย์อยู่แล้ว” ฉินหมิงฉุนไม่เข้าใจ “ไยต้องให้ท่านพ่อสอนด้วย”
“ท่านพ่อเคยสอบได้ตำแหน่งจิ้นซื่อ เขาจะสอนในสิ่งที่อาจารย์ของเจ้าไม่สอน น้องห้า เจ้าต้องตั้งใจเรียน ต่อไปเราจะต้องพึ่งพาเจ้าเพื่อให้บ้านหลักเจริญรุ่งเรือง”
ฉินหมิงฉุนลุกขึ้นจากความมืดและเอ่ย “ทำไมเล่า พี่ชายต่างหากที่เป็นบุตรชายคนโต”
ฉินหมิงเยี่ยนดึงเขากลับไปนอน คลุมผ้าห่มให้ “พี่ชายได้รับบาดเจ็บ อาจจะทนต่อความลำบากในการสอบไม่ได้ และข้ายังติดหนี้พี่หญิงใหญ่หนึ่งแสนตำลึง เป็นเพียงข้าราชการต้องใช้เวลานานเพียงใดในการจ่ายหนี้”
“ท่านจะทำการค้าหรือ”
“ไม่ พี่ชายจะเป็นนักไขคดีที่เก่งกาจ จะเชี่ยวชาญในการจัดการคดีที่ยากลำบาก ชื่อเสียงจะดี พวกเขาต้องจ่ายเงินมากมายเพื่อขอความช่วยเหลือ” ฉินหมิงเยี่ยนยิ้มร้าย “ดังนั้น เพื่อคืนเงินให้พี่หญิงใหญ่ พี่ชายจึงต้องเซ็นสัญญาขายตัว การทำให้บ้านหลักสว่างไสวก็ต้องพึ่งพาเจ้า เจ้ายินดีช่วยพี่ชายหรือไม่”
ฉินหมิงฉุนส่งเสียง อ้อ แม้ไม่มีปัญหา แต่รู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง
ฉินหมิงเยี่ยนมองเด็กโง่ที่โดนหลอก หัวเราะเบาๆ ตอนนี้ชีวิตช่างมีความสุขเหลือเกิน
[1] ตีนหมูใหญ่ เป็นคำสแลงที่ใช้ในโลกออนไลน์ของจีน มีความหมายล้อเลียนผู้ชายที่ทำตัวไม่ดี ไม่ซื่อสัตย์ หรือทำให้คนรักรู้สึกผิดหวัง เปรียบเสมือน “ตีนหมู” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าดู
[2] จุดตะเกียงไฟนิรันดร์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของแสงสว่างทางจิตวิญญาณ หรือเป็นเครื่องหมายของการระลึกถึงผู้ล่วงลับไปแล้ว