ความสัมพันธ์ลับ ๆ ที่บอกใครไม่ได้ของผมกับยัยเทพธิดาซึนเดเระ - ตอนที่ 2.5 Chapter 1.5 - เพื่อนบ้านคนแรกของฉัน
- Home
- ความสัมพันธ์ลับ ๆ ที่บอกใครไม่ได้ของผมกับยัยเทพธิดาซึนเดเระ
- ตอนที่ 2.5 Chapter 1.5 - เพื่อนบ้านคนแรกของฉัน
Chapter 1.5 – เพื่อนบ้านคนแรกของฉัน
ฉันแน่ใจว่าประตูปิดไปแล้ว และถอนหายใจออกมาเบา ๆ
「 …ราตรีสวัสดิ์…ราตรีสวัสดิ์เหรอ? ไม่ได้พูด ราตรีสวัสดิ์ กับใครสักคนมานานแล้วแหะ! 」
(อย่างน้อยที่บ้านพ่อแม่ ก็เคยพูดแทบจะนับครั้งได้)
(ดีใจจังที่พูด เหมือนโดนบอกทางอ้อมว่านายไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว)
ฉันกลับห้องด้วยอารมณ์ดี กินแกงกะหรี่ อาบน้ำ แล้วก็เข้านอน
มันช่างเงียบสงบ ยเพราะจนถึงเมื่อกี้มีเราสองคน รู้สึกเหงานิดหน่อย แค่เราสองคน?
(……..ฉันกับยูกิมิยะ)
ใช่ แม้ว่าฉันจะทำความสะอาดห้องสกปรก แต่ฉันก็ยังอยู่ในห้องเดียวกับสาวสวยที่ดูราวกับเทพธิดา
หลังจากนั้น รู้สึกเหมือนหัวกำลังเดือด หน้าแดง …ไม่นะบอกได้เลยว่าร้อนไปทั้งตัว
ฉันคิดอย่างใจเย็น ฉันอยู่ในห้องของยูกิมิยะ ฉันมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการทำความสะอาด แต่ตอนนี้ฉันสึกตัวแล้ว
「 จริงเหรอเนี้ย!? 」
จนกระทั่งปีที่แล้ว ฉันอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ผู้ชาย รายล้อมไปด้วยเด็กผู้ชาย
อย่างที่บอกไปแล้ว ฉันมันหนุ่มซิงดี ๆ นี่แหละ การที่ได้อยู่ผู้หญิงซื่อบริสุทธิ์ ฉันคงกลายที่ไม่พอใจของผู้ชายทุกคนแน่ กังวลชะมัด
สภาพแวดล้อมที่อบอุ่นผ่อนคลาย
ฉันอยู่ในห้องเด็กผู้หญิงกับผู้หญิงคนนั้นเมื่อไม่นานมานี้ ถึงจะรีบร้อนไปบ้าง
(อ้าาาาาาา)
สมองของฉันรู้สึกเดือดปุด ๆ เลย โดยที่ไม่รู้ว่าตวเองพูดอะไรออกมา
ใจร่ม ๆ ผ่านไปแล้ว มันเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ไม่มีจำเป็นจะต้องคิดเยอะ
「 ใช่! อาหาร มาทานให้หายอยาก นอนหลับ แล้วก็ลืมทุกอย่าง! 」
…ทำได้ที่ไหนกัน? เลิกหนีจากความเป็นจริงดีกว่า ฉันวางข้าวและแกงที่อุ่นไว้บนจานแล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องนั่งเล่น และ…
ได้ยินเสียงจากห้องข้าง ๆ ผนังมันบางจนน่าตกใจเลยแหะ ฉันคิดว่ามันเก็บเสียงก็พอแล้ว
(เธอคงจะพูดดังน่าดู ฟังดูอึดอัดชอบกลแหะ แต่…)
ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองก่ออาชญากรรมยังไงก็ไม่รู้ ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ควร แต่ก็อดไม่ได้… ความอยากรู้อยากเห็นน่ากลัวแหะ
ฉันจึงหันไปทางกำแพง
(…เพลงเหรอ?)
มันเป็นเพลงที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน …ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายูกิมิยะจะร้อง
เสียงร้องที่ไพเราะมาก ถ้าบอกเธอเป็นศิลปินก็เชื่อนะ อดไม่ได้ที่จะหลงรักเลย แม้จะนอดเดียว ฉันอยากได้ยินอีกสักหน่อย ฉันจึงลองตั้งใจฟัง
มันเหมือนกับคอนเสิร์ตละคร เมื่อพูดถึงเนื้อเพลง…
「 คาเรย์ คาเรย์ คาเรย์ คาเรย์ คาเรย์ 」
「 ไรซ์ แอนด์ โทโมดาจิ♪ รันรันรันรัน♪ 」
**พรู๊ดดด**
—————ฉันสำลักให้กับเนื้อเพลงแปลก ๆ
「 เฮ้ ๆ เธอร้องเพลงอะไรน่ะ? มันชักจะแปลก ๆ 」
เผลอจะโกนเมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่อนในเพลงต้นฉบับโดยไม่คาดคิด
จากนั้นเสียงเพลงก็หยุดลง
เห็นได้ชัดว่ายูกิมิยะได้ยินเสียงของฉัน
(แย่ล่ะ…)
ถ้าเธอรู้ว่าฉันแอบฟัง ฉันคงถูกกระทำอย่างเย็นชาอีกแน่ พอยูกิมิยะตั้งสติได้ปุ๊ป ไม่นานเธอก็เริ่มร้องเพลงขึ้นอีกครั้ง นี่เธอตื่นเต้นกับมันแค่ไหนกันเนี้ย?
ฉันอายที่จะฟังจริง ๆ
「 คุณเนื้อ♪ คุณแครอท♪ คุฯมันฝรั่ง♪ คุณหัวหอม” 」
「 มันน่าอาย น่าอาย น่าอาย น่าอาย น่าอาย น่าอาย น่าอาย น่าอาย น่าอาย น่าอาย น่าอาย น่าอาย♪ 」
(หยุดเถอะ หยุดทีเถอะ จริง ๆ นะ!)
(ช่วยสังเกตุทีเถอะ ว่ามีคนได้ยินเธออยู่นะ!)
ถ้าฟังมันอีก ฉันคงต้องบ้าไปแล้วแน่ เพื่อสุขภาพจิตที่ดี ฉันต้องออกห่างจากโซฟาที่ติดผนัง เพื่อความปลอดภัย
「 ฉันจะรับมันไป♪ ทานแล้วนะคะ 」
ฉันได้ยินจากยูกิมิยะ บังเอิญในเวลาเดียวกันเหมือนเธอกำลังจะเริ่มทาน
เขาลังเลที่จะเห็นปฏิกิริยาของเธอ …มันจะเข้ากับรสนิยมของยูกิมิยะจริงหรือเปล่า? เขาลองชิมแกงกะหรี่ที่ซื้อในร้านพร้อมซอสมะเขือเทศ
เป็นเพียงแกงสำเร็จรูป มีอะไรที่มันน่าประทับใจอะไรบ้าง?
ฉันรู้สึกประหม่าโดยสัญชาตญาณ…
「 …อร่อย…」
แม้จะแผ่วเบา แต่ฉันก็ได้ยินคำพูดเหล่านั้นชัดเจน
ดูเหมือนจะเข้ากับรสนิยมของยูกิมิยะนะ ความตึงเครียดบรรเทาลง และฉันก็เริ่มทานแกงกะหรี่ของตัวเอง
「 มันอร่อย ฉันคิดว่ามันรสชาติดีกว่าที่ทำจากมะเขือเทศอีกนะ 」
เมื่อชีวิตสงบลง ฉันว่าจะลองทำดู เมื่อถึงเวลานั้นฉันคงต้องขอให้ยูกิมิยะช่วย หวังว่าเธอจะไม่เกลียดกลิ่นของเครื่องเทศ
「 อร่อย มันอร่อยมาก!! ยาสึฮาชิคุง สุดยอดจริง ๆ… 」
ถึงเธอไม่ได้จะบอกใคร
แต่เธอที่พูดถึงขนาดนั้น ฉันได้ยินชัดแจ้งทุกถ้อยคำ ไม่มีเหตุให้รังเกียจเธอเลยสักนิด
ขณะที่ฉันเกาแก้มด้วยความรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ฉันรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่อบอุ่นลึก ๆ ในอก
ครั้งสุดท้ายที่มีคนชทว่าอร่อยเนี้ย ใครกันนะ พ่อแม่? จุนยะ? มันจั๊กจี้นิดหน่อย มันต่างจากการเขินอาย
(…บางทีฉันอาจจะกำลังดีใจ)
การทักทาย ความประทับใจ และการพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ …มันดีมากจริง ๆ สิ่งโรงเรียนก็มีจุนยะเพื่อนสนิทในสภานักเรียน
แต่การได้พูดเรื่องส่วนตัว มันหายากจนแทบหายไปจากชีวิต ความสุขที่ได้แบ่งปันเวลาร่วมกับกับใครสักคน
ฉันจึงตักอาหารเข้าปากอีกครั้ง
「 อา… ง่วงแล้วสิ! แต่นอนไม่หลับเลยแหะ 」
ความผิดของยูกิมิยะเลยนะ การได้อยู่ห้องข้าง ๆ กับสาวน่ารักแบบนั้น
เราอยู่ด้วยกันจนดึกดื่น ไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด ที่เธอไม่ตระหนักถึงสิ่งที่อยู่อีกด้านหนึ่งของหลังกำแพง นิสัยเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่
「 ……………รอยยิ้มของคุณช่างน่ารัก 」
(ฉันกำลังพูดอะไรเนี้ย?)
****
เป็นเวลาก่อนแปดโมงเช้า ถ้าไม่รีบล่ะก็ ได้สายจริง ๆ แน่
เช็คผมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนใส่รองเท้าก่อนออกจากห้อง
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าส่องแสงระยิบระยับ ฉันหรี่ตามอง
「 หา~~~~~~ว 」
「 หา~~~~~~ว 」
ฉันคิดว่าฉันได้ยินเสียงหาวเกินมานะ
เมื่อมองผ่านประตูทางด้านซ้าย …พวกเขาก็ออกจากบ้านเวลาเดียวกัน
ยูกิมิยะที่หาว กำลังอ้าปากค้างอยู่นั้น …บรรยากาศมาคุสุด ๆ ฉันแกล้งทำเป็นไม่เห็นแล้วรีบออกจากห้องไป
「 คุณเห็นมันมั๊ย?
「 …ฉันไม่เห็นสักนิด! 」
「 โกหก!! 」
(ถึงแม้จะแกล้งทำเป็นไม่เห็น ก็ไม่รอดอยู่ดี)
ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ เลยหลวมตัวซะได้ หาวออกมซะได้ (น่าอายจริง ๆ) ก่อนจะสงบสติ ปรับอารมณ์ให้เข้าที่ เธอจัดทรงผม ก่อนจะหันหน้า หน้าแดงนิดหน่อย
「 อรุณสวัสดิ์ค่ะ ยัตสึฮาชิคุง 」
「 …อรุณสวัสดิ์ค่ะ ยูกิมิยะ 」
การทักทายแม้ในเวลาแบบนี้ก็ยังคงสุภาพเหมือนเดิม
「 ยัตสึฮาชิคุง ลืมสิ่งที่เพิ่งเห็นเมื่อกี้ซะ ไม่อย่างนั้น ฉันคงต้องคอยดักตีคุณ ให้คุณลืม ๆ มันไปซะเลย 」
「 เธอคิดจะทำอะไรล่ะนั้น 」
การดักตีซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้ ฉันไม่บอกใครหรอก สัญญาเลย
ก่อนอื่นเลย ถ้าเจ้าพวกนั้นรู้ว่าฉันย้ายมาอยู่ข้างบ้านเธอ ชีวิตฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี
「 อย่าได้บอกใครเชียวนะคะ 」
ยูกิมิยะหลับตาลง และเตือนตัวเองว่าอย่าได้สบตา ฉันคิดไปเองหรือเปล่าที่ฉันได้เห็นความสิ้นหวังเล็ก ๆ บนใบหน้านั้น?
เธอคงไม่อยากทำลายภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ หรือไม่ต้องการให้ใครรับรู้…
เอาเถอะไม่ว่าจะแบบไหน คนเราก็มีด้านที่ไม่อยากให้ใครรู้ทั้งนั้น ยูกิมิยะก็มีด้านอ่อนแอเหมือนกันหรือเปล่านะ? ฉันสัมผัสได้ถึงความคุ้นเคย
ฉันนึกสนุกขึ้นนิดหน่อย
「 การทำอาหาร การซักผ้า การทำความสะอาดเข้าขั้นหายนะเลยล่ะ 」
แม้ว่าฉันจะพูดออกไปอย่างอ้อม ๆ ก็ตามที
แต่สายตาทิ่มแทงก็ส่งมาทางฉัน
「 ขะ-ขอโทษ อย่าส่งสายตาทิ่มแบบนั้นสิ ไม่ว่าฉันจะพูดอะไร เธอก็อย่าสนใจที่ฉันพูดเลย 」
「 พวกหลอกลวง 」
「 เอ่อ…!! 」
「 ล้อเล่นค่ะ 」
「 ไม่ว่าจะมองท่าไหน ภาพลักษณ์ชวนเชื่อของเธอ ยังดูน่าเชื่อถือมากกว่าคำพูดของฉันอีกนะ 」
ถึงจะน่าเศร้าแต่มันก็เป็นจริง
「 ฉะ-ฉันแน่ใจว่าต้องมีเรื่องดี ๆ แน่นอน 」
「 ช่วยแสดงความเห็นใจราคาถูกแบบนั้นทีเถอะค่ะ 」
ทำให้ให้เศร้าขึ้นไปอีกเลยแหะ เหมือนหัวใจร่วงหล่นเลย
รู้สึกหดหู่แต่เช้าเลยแหะ ยูกิมิยะจึงมองดูนาฬิกาด้วยสีหน้าตกใจ เมื่อฉันมองดูนาฬิกาก็เป็นเวลาแปดโมงครึ่งแล้ว
「 สายแล้วสิ… ยูกิมิยะ รีบไปกันเถอะ 」
「 ค่ะ! ปล่อยไว้เถอะค่ะ หรือจะให้ฉันจะเดินไปโรงเรียนกับคุณเหรอคะ 」
「 ฉะ-ฉันไม่เอาหรอก เดี๋ยวฉันได้ตายกันพอดี 」
「 ฉันล้อเล่นค่ะ 」
「 มุขตลกที่ขำไม่ออกจริง ๆ …ช่วยไม่ได้ เดี๋ยวจะสายเอา 」
(ไม่อยากจะวิ่งเลยแหะ)
「 ยาสึฮาชิคุง ทัปเปอร์แวร์เมื่อวานฉันจะคืนให้หลังเลิกเรียนนะคะ 」
「 เข้าใจแล้ว! ไว้เจอกันนะ ยูกิมิยะ 」
เขาบอกลายูกิมิยะ แล้วรีบวิ่งออกไปจากอพาร์ตเมนต์
ตอนแรกที่ฉันเจอยุกิมิยะ ฉันคิดว่ายัยนี่นิสัยแย่สุด ๆ …แต่ตอนนี้ ฉันกลับไม่คิดอย่างนั้นแล้ว
บางทีฉันอาจจะชอบการปฏิสัมพันธ์ที่ไร้สาระแบบนั้นก็ได้ ฉันเดินไปที่โรงเรียนมัธยมชิรามิเนะด้วยก้าวเล็ก ๆ
「 วันนี้อากาศดีแหะ น่าจะเป็นวันที่ดี 」