ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ - ตอนที่ 144 คุณยายกระดาษไหว้เจ้า
กงหย่วนที่ให้ความสนใจกับการแสดงออกของเย่เทียนมาตลอด เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนไปเขาจึงรีบถามว่า “ท่านเย่ครับ ท่านนึกอะไรได้งั้นเหรอครับ?”
“ใช่”
เย่เทียนชำเลืองมองเขาเบา ๆ แล้วยื่นโทรศัพท์คืนให้เขาไป “คุณสังเกตดูเหยื่อแต่ละคนให้ดี มันมีกระดาษเงินรูปทรงเหรียญทองแดงใช่ไหม?”
“ท่านเย่ครับ ผมจะไม่โกหกท่านนะครับ เราเคยตรวจสอบเรื่องนี้มาแล้ว แต่คนที่ซื้อกระดาษเงินแบบนี้มันเยอะเกินไป เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะสอบสวนเรื่องนี้ยังไงครับ!”
กงหย่วนพูดด้วยสีหน้าขมขื่น
“นั่นเป็นเพราะพวกคุณเดินผิดทางตั้งแต่แรกสิ”
เย่เทียนส่ายหัวเบาๆ แล้วพูดอย่างมีความหมาย “คนที่พวกคุณควรตามหาไม่ใช่คนซื้อกระดาษเงินหรอกนะ แต่เป็นคนทำกระดาษเงินต่างหาก!”
“คนทำกระดาษเงิน?!” กงหย่วนถึงกับตกใจ
“ใช่!”
เย่เทียนพยักหน้าตอบ “คดีที่เกิดขึ้นนี้เป็นฝีมือของนักฆ่าจากคุณยายกระดาษไหว้เจ้าเอง แล้วเงินกระดาษที่เหมือนเหรียญทองแดงนี้เป็นเครื่องหมายพิเศษของเธอ!”
“คุณยายกระดาษไหว้เจ้า?” กงหย่วนเลิกคิ้วขึ้น
“ใช่! คุณควรตรวจสอบร้านขายกระดาษไหว้เจ้านะ” เย่เทียนให้คำแนะนำ
“แต่นี่มัน……”
สีหน้าของกงหย่วนกลายเป็นที่น่าอึดอัดใจ “ท่านเย่ครับ แค่แถววัดเทพเจ้าเมืองก็มีร้านขายกระดาษไหว้เจ้าเป็นร้อยเจ้าแล้วครับ แล้วถ้ารวมทั่วทั้งเมืองคงนับไม่ถ้วนแน่ครับ”
“นอกจากนี้ การสืบสวนคดีนี้เราจะทำให้แตกตื่นกันไม่ได้นะครับ ถ้าแบบนี้กระต่ายตื่นตูมแน่ ถึงเวลานั้นคุณยายกระดาษไหว้เจ้าก็จะหนีไปไม่ใช่เหรอครับ?”
“คุณจะใจร้อนไปไหน ผมยังพูดไม่จบ!”
เย่เทียนกลอกตาใส่อย่างไม่สบอารมณ์แล้วอธิบายต่อ “คุณยายกระดาษไหว้เจ้าคนนี้มีรอยฝ้าอยู่บนใบหน้า คุณให้คนของคุณปลอมตัวแล้วออกไปหาดู ผมคิดว่าหาเธอได้ไม่ยาก”
“จริงเหรอครับ?” กงหย่วนดีใจมาก
“จะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่คุณ”
เย่เทียนยักไหล่แล้วพูดอย่างเฉยเมย “อย่าหาว่าผมไม่เตือนคุณก่อนนะ เพราะด้วยคนของคุณไม่สามารถรับมือคุณยายกระดาษไหว้เจ้าได้อยู่แล้ว ต่อให้คุณหาเธอพบ คนของคุณก็ต้องตายฟรีแน่”
“มัน……”
กงหย่วนรู้สึกลำบากใจและรีบพูดขึ้นว่า “ท่านเย่ครับ ต้องขอรบกวนท่านช่วยเราหน่อยได้ไหมครับ?”
รอยยิ้มอันมีเลศนัยปรากฏขึ้นที่มุมปากของเย่เทียน “การที่ผมบอกเบาะแสให้กับคุณ กับการที่ให้ผมลงมือทำเอง มันคนละเรื่องเลยนะ”
ไม่มีของฟรีในโลกนี้ ยิ่งการฝึกฝนวิชานั้นก็ต้องแลกด้วยเงินมากมายด้วย ฉะนั้น ถ้าหากมีค่าตอบแทน เย่เทียนจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน!
“ท่านเย่ไม่ต้องห่วงครับ สำนักสันติบาลของเราได้ตั้งรางวัลนี้เป็นล้านเลยครับ ขอแค่สามารถจับตัวคุณยายกระดาษไหว้เจ้าที่ว่าได้ ไม่เพียงแต่จะได้รางวัลเป็นเงินเท่านั้น แต่ยังได้เหรียญกล้าหาญของพลเมืองดีอีกด้วยครับ!”
กงหย่วนเป็นคนที่ดำรงตำแหน่งในราชการมาสิบกว่าปีแล้ว ต่อให้เป็นคนที่ใสซื่อแค่ไหนอย่างน้อยก็ต้องมีประสบการณ์เรื่องนี้ ดังนั้นเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเย่เทียนหมายถึงอะไรอยู่
“ได้สิ ถ้าอย่างนั้น ผมจะช่วยพวกคุณจับคุณยายกระดาษไหว้เจ้าเอง!”
เย่เทียนยิ้มจนเห็นฟันสีขาวของเขาและพยักหน้าตอบรับกงหย่วน
เหรียญกล้าหาญของพลเมืองดีอะไรนั่นเขาไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ แต่ระยะทางจากเจียงหนันไปถึงเมืองเอกก็ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพียงแค่ใช้เวลาวันเดียวเขาก็จะหาเงินได้เป็นล้านและยังสามารถช่วยชีวิตของคนสองคนได้ ฉะนั้นงานนี้ไม่ขาดทุกอย่างแน่นอน!
กริ๊ง กริ๊ง!
ในขณะนี้ เสียงโทรศัพท์ของเย่เทียนที่อยู่ในกระเป๋าก็ดังขึ้น เขาจึงหยิบมันออกมาและเหลือบมองเห็นเบอร์ของเหลียงเยว่หรูที่โทรเข้ามา
เย่เทียนให้สัญญาณกับกงหย่วนแล้วเดินไปรับสายข้างๆ
“เย่เทียน ผมจะให้เวลาคุณครึ่งชั่วโมงในการมาที่นี่ ไม่อย่างนั้น ผมจะไม่รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของผู้หญิงที่มีนามสกุลเหลียงคนนี้!”
ทันทีที่รับสาย เสียงที่ดังขึ้นไม่ใช่เสียงของเหลียงเยว่หรู แต่กลับเป็นเสียงแหบแห้งของชายคนหนึ่งที่เย่เทียนรู้สึกคุ้นเคยมาก!
เย่เทียน ตกตะลึงในทันที และเจตนาสังหารก็ส่องประกายผ่านดวงตาสีดำของเขา
“คุณเป็นใคร? คุณต้องการอะไร!”
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าผมเป็นใคร คุณแค่ต้องรู้ว่า ถ้าคุณไม่สามารถมาถึงโกดังร้างในเขตชานเมืองด้านตะวันตกภายในครึ่งชั่วโมง อย่าโทษผมใจร้ายก็แล้วกัน!”
“แล้วก็อย่าคิดจะแจ้งตำรวจนะ ถ้าผมรู้ว่าคุณมากับคนอื่น เธอก็คงหนีไม่พ้นความตายเช่นกัน!”
จากนั้นคู่กรณีกดวางสายทันทีโดยที่ไม่ให้โอกาสเย่เทียนถามต่อ
เมื่อได้ยินเสียงที่ถูกตัดสาย จิตสังหารในดวงตาของเย่เทียนก็ชัดเจนมากขึ้น ใครกันแน่ที่กล้าใช้คนข้างกายของเขามาข่มขู่ ช่างรนหาที่ตายจริงๆ!
กงหย่วนยังคงรอให้เย่เทียนกลับไปที่เมืองเอกพร้อมกันเพื่อจับฆาตกร แต่เขากลับเห็นเย่เทียนเดินกลับมาด้วยสีหน้าหม่นหมอง
เขาจึงขมวดคิ้วและเตรียมที่จะถาม แต่เสียงอันเย็นชาของเย่เทียนก็ได้ดังขึ้นในหูของเขาก่อน
“หัวหน้ากง ผมขอยืมรถคุณหน่อย!”
เมื่อเห็นการแสดงออกที่ซ่อนเร้นของเย่เทียน เขาก็รู้สึกเอะใจและรู้ว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ เขาจึงถามอย่างสงสัยว่า “ท่านเย่ครับ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”
“เปล่า เรื่องนี้ผมจัดการเองได้”
เย่เทียนกังวลใจมาก แต่เรื่องนี้เขาจะให้หัวหน้ากงรู้ไม่ได้ และยิ่งให้จี้เยียนหรันรู้ไม่ได้เช่นกัน
เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ เย่เทียนก็จำเป็นต้องคาดเดาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อจังเวยจงใจให้กลุ่มนักแสดงมารั้งตัวเขา แสดงว่าอาจเป็นไปได้ที่จังเวยจะอยู่เบื้องหลังในการลักพาตัวเหลียงเยว่หรู
ถ้าเป็นแบบนี้ จังเวยก็อาจจะปรากฏตัวในโกดังร้างในเขตชานเมืองด้านตะวันตกด้วย!
และถ้าจังเวยกล้าทำแบบนี้จริงๆ เย่เทียนก็ไม่มีความจำเป็นต้องเมตตาเขา!
เพราะผลตอบแทนของการข่มขู่สำหรับเย่เทียนนั้นก็คือความตาย!
แต่ถ้าหากพากงหย่วนกับจี้เยียนหรันตำรวจสองคนนี้ไปด้วย เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากถ้าต้องการฆ่าจังเวย
หลังจากนึงย้อนกลับมาเรื่องเดิม เย่เทียนยังคงไม่ลืมที่จะมอบหมายให้กับกงหย่วน “เอางี้นะ หัวหน้ากง คุณกลับไปหาที่อยู่ของคุณยายกระดาษไหว้เจ้าที่เมืองเอกก่อน แล้วผมจะตามไปหลังจากทำธุระเสร็จ!”
“เอิ่ม คือว่า……” กงหย่วนมองเห็นสีหน้าความกังวลของเย่เทียน เขามีคำถามในใจ แต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร
“ถึงอย่างไรแล้ว ถ้าคุณอยากหาคุณยายกระดาษไหว้เจ้าคนนี้ มันก็ต้องใช้เวลาอยู่แล้ว ทำตามที่ผมบอกละกันนะ!”
เย่เทียนไม่ให้โอกาสกงหย่วนปฏิเสธและยังคงพูดอย่างเด็ดขาดว่า “เอากุญแจรถให้ผม เดี๋ยวผมเสร็จธุระแล้วจะเอากลับไปให้คุณ!”
ด้วยอารมณ์ที่กำลังโกรธอยู่ เย่เทียนไม่ได้เกรงใจใครอีก เขาไม่เพียงแต่ใช้น้ำเสียงออกคำสั่ง และยังแสดงความน่าเกรงขามออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ครับ……ได้ครับ!” ภายใต้แรงกดดันจากเย่เทียน กงหย่วนทำได้เพียงระงับความสับสนภายในใจและยื่นกุญแจรถให้กับเย่เทียนอย่างเชื่อฟัง
เย่เทียนที่ได้รับกุญแจมาจะรอช้าอะไรอีก เขาจึงเปิดประตูรถแล้วขึ้นไปบนรถอย่างรวดเร็ว ภายใต้เสียงเครื่องยนต์ที่ดังขึ้น และฝุ่นจากใต้รถลอยขึ้น รถก็ได้แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว
และหลังจากไฟท้ายรถหายลับตาไป กงหย่วนถึงจะตื่นจากความสับสน
ภายใต้แรงกดดันจากออร่าที่น่าเกรงขามของเย่เทียนก่อนหน้านี้ แม้เขาจะมองว่าเย่เทียนไม่ได้ดูยิ่งใหญ่ขนาดนั้น แต่สิ่งที่เย่เทียนกดดันเขานั้นมันเหมือนภูเขาลูกใหญ่ที่หหล่นทับเขา ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถแม้แต่จะคิดคัดค้านได้
“อายุน้อยๆ แต่ความสามารถล้นหลามขนาดนี้ เย่เทียนเอ๋ยเย่เทียน คุณมีภูมิหลังยังไงกันแน่นะ?”
ในวินาทีถัดมา กงหย่วนหัวเราะเยาะตัวเองอีกครั้ง “เราก็สับสนจริงๆ จะภูมิหลังอะไรมันเกี่ยวอะไรกับเรา? ที่เราควรกังวลคือเขาจะเป็นคนดีหรือไม่ดีมากกว่าไม่ใช่เหรอ!”
“ถ้าเขาทำผิดจริงๆ ด้วยความสามารถของเขาแล้ว จะจับเขาด้วยกฎหมายมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดแน่!”