ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 641 ทฤษฎีทั้งสี่ของเหออันไม่มีอะไรถูกเลย
เหออันใช้เวลากว่าห้าชั่วโมงเล่นเกมดิ้นรนรวดเดียวจบ ตอนนี้เขาอัดแน่นไป ด้วยความสับสน
เกมนี้มันแปลกๆ รึเปล่า
เศร้าและหดหู่เกินไปมั้ย
เหออันไตร่ตรองตัวเองโดยไม่รู้ตัว
อืม ฉันน่าจะเลือกอะไรผิดไป
เกมแนวภาพยนตร์เชิงตอบโต้แบบนี้มีเส้นเรื่องหลายแบบ เกมดิ้นรนเองก็ เหมือนกัน
เหออันมองพล็อตของเกม มันเป็นเหมือนตาข่ายขนาดใหญ่ที่แตกแขนง ออกไปหลายสาย
ว่ากันตามปกติแล้ว แต่ละเวอร์ชันควรมีฉากจบอย่างน้อยสามถึงสี่ฉากเพื่อให้ เหมาะสมกับขนาดของเกม
นอกจากนั้นก็ควรจะมีตอนจบลับหรืออีสเตอร์เอ๊กถ้าซื้อเวอร์ชันรวยกับจนคู่ กัน
เพราะงั้นเหออันจึงตั้งใจไว้ว่าจะมาเล่นให้ครบทุกเส้นเรื่องหลังกินข้าวเสร็จ รอบนี้น่าจะได้ฉากจบดีๆ
ความรู้สึกเหมือนโต๊ะอาหารที่มีทั้งอาหารอร่อยและไม่อร่อยวางเรียงราย ถ้า กินอาหารไม่อร่อยเข้าไปก็ต้องกินอะไรอร่อยๆ เพื่อกลบรสแย่ ไม่งั้นรสจะติดอยู่ ในปากนาน
“บอกได้เลยว่าทักษะของบอสเผยนั้นค่อนข้างล้ำลึกทีเดียว ไม่ว่าจะไปถูกทาง หรือเปล่า แต่มาตรฐานก็เห็นได้ชัด
“ตอนแรกคิดว่าตีมชีวิตจริงจะน่าเบื่อ แต่เล่นแล้วไม่รู้สึกแบบนั้นเลย ถึงจะ จบแย่ทั้งคู่ แต่เนื้อหาก็กินใจมาก
“ถ้าจะวิเคราะห์แนวคิดของบอสเผยในเกมนี้ก็ต้องเล่นให้ได้ฉากจบทุกแบบ ก่อน”
เหออันรู้สึกถึงความตื่นเต้นและความคาดหวังอย่างที่ไม่ค่อยได้สัมผัสจาก เกมสแตนด์อโลนในประเทศ เขาอดใจรอกินข้าวให้เสร็จแล้วรีบมาเล่นให้ได้ฉาก จบอื่นๆ แทบไม่ไหว
…
…
วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน ตอนเที่ยง
เหออันนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ จุดบุหรี่สูบ แล้วไตร่ตรองถึงชีวิตเงียบๆ
เขาพยายามลองทางเลือกทุกแบบในเกมมาตั้งแต่เมื่อคืน
เขาให้ตัวเอกคนรวยเปลี่ยนงานอดิเรกตอนเด็ก เปลี่ยนคู่แต่งงานกับเปลี่ยน งานตอนโต
ส่วนตัวเอกคนจนก็ให้เปลี่ยนคอร์สตอนเด็ก พยายามวางแผนเก็บเงิน และ เปลี่ยนงานตอนโต
แต่ไม่ว่าจะพยายามขนาดไหน ไม่ว่าจะเปลี่ยนเส้นเรื่องไปยังไง ฉากจบทั้งสอง แบบกลับไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย!
ไม่ว่าคนรวยจะทำอะไร ก็จบที่โดนฆ่าในงานเซ็นหนังสือ
ไม่ว่าคนจนจะทำอะไร ก็จะกลับสู่วงจรอุบาทว์แห่งความจน
แน่นอนว่ามีความแตกต่างเล็กๆ ระหว่างทั้งสองเวอร์ชัน
ไม่ว่าตัวเอกคนรวยจะเลือกตัวเลือกถูกหรือผิด การเดินเรื่องของเกมก็ไม่ได้รับ ผลกระทบ เพราะเงินทุนจะทบคืนอย่างรวดเร็วทุกครั้งที่พลาด การเปลี่ยนไป ทำงานอื่นก็เป็นแค่การเปลี่ยนรูปแบบความสำเร็จ
ส่วนตัวเอกคนจน การเลือกตัวเลือกที่ถูกต้องนั้นมีผลกระทบ ถ้าเลือกผิด ก็จะ ถึงตอนจบภายในหนึ่งชั่วโมง ถ้าเลือกถูกก็จะยืดไปเป็นสามชั่วโมง พอให้ได้ลิ้มรส ความชื่นมื่นของชีวิตชนชั้นกลาง
ส่วนตอนจบลับ ไม่มีให้เห็นเลยแม้แต่น้อย!
ไม่มีตอนจบลับไม่เท่าไหร่ แต่ความเชื่อมโยงระหว่างเวอร์ชันคนจนกับเวอร์ชัน คนรวยก็ยังไม่มีเลย
ตอนแรกเหออันคิดว่าคนที่ฆ่าตัวเอกคนรวยน่าจะเป็นตัวเอกคนจนที่ฝันสลาย หรืออาจจะเป็นลูกชายของเขา แต่ถึงจะพยายามอยู่นานก็ไม่พบความเชื่อมโยง ระหว่างทั้งสองเวอร์ชัน
ไม่มีความเชื่อมโยงอะไรเลยสักนิดระหว่างตัวเอกคนรวย ตัวเอกคนจน และ ลูกของเขา
หมายความว่าจะซื้อเวอร์ชันคนจนหรือเปล่า ก็ไม่ได้ทำให้การเล่นเวอร์ชันคน รวยแตกต่างอะไรออกไป
นี่มันบ้ามากๆ!
เหมือนกับกำลังตะโกนบอกว่า จะดีมากถ้าไม่ซื้อสักเวอร์ชัน ถ้าอยากซื้อจริงๆ ก็ซื้อแค่เวอร์ชันคนรวยพอ
ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลยสักนิด!
เขาอดเอาทฤษฎีการออกแบบเกมมาใช้กับเกมนี้ไม่ได้ เรื่องที่สอนบอสหม่าไป มีอยู่สี่ประเด็นหลัก
เลือกกลยุทธ์การขายให้เหมาะกับเนื้อหาเกม เลือกแนวเกมที่มีส่วนแบ่งตลาดสูง ใส่ความคิดส่วนตัวของตัวเองลงไปในเกม วิเคราะห์และตอบความต้องการตลาด เกมดิ้นรนทำไม่ตรงตามทฤษฎีเลยสักข้อ! ทุกอย่างผิดเพี้ยนไปหมด!
เหออันรู้สึกว่าเกมนี้จะไม่สมบูรณ์แบบถ้าทำพลาดไปสักข้อ ถ้าพลาดไปสอง ข้อ ยอดขายก็จะน่าเป็นห่วง พลาดสามข้อเท่ากับดับอนาถ แต่ถ้าพลาดสี่ข้อ กรณีนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน! อย่างน้อยๆ ก็น่าจะเลือกแนวเกมและกลยุทธ์ได้ถูกต้องเหมาะสมสิ สองข้อนี้ ง่ายที่สุดเลย พลาดทั้งสี่ข้อแบบนี้เกินเหตุไปรึเปล่า ส่วนสองข้อล่าง วิธีการที่เกมดิ้นรนใช้ก็ค่อนข้างมีปัญหา เหออันเคยสอนว่าเกมที่มีการสอดแทรกแนวคิดส่วนตัวจะต้องดูความ เหมาะสมและระดับการยอมรับของผู้เล่น แล้วเกมดิ้นรนสื่อสารแนวคิดส่วนตัวอะไรล่ะ กระตุ้นความเกลียดชัง? หรือดิ้นรนไปก็เปล่าประโยชน์? ชัดเจนว่าเกมนี้สมจริงมากพอสำหรับเกมแนวชีวิตจริง รายละเอียดชีวิตของ คนจนและคนรวยนั้นตรงกับข้อมูลสถิติของสหรัฐอเมริกา แต่ตอนจบน่ารังเกียจเกินไปรึเปล่า ที่สำคัญที่สุดเลยคือ การสนับสนุนว่าการดิ้นรนนั้นสูญเปล่าไม่ว่าจะบริบทไหน ก็ไม่ถูกต้อง การเอาความจริงมาตอกหน้าตรงๆ ไม่ได้ช่วยให้คำแนะนำอะไรที่เป็น ประโยชน์ และมีแต่จะทำให้รู้สึกอึดอัด คำพูดที่ว่า ‘ยอมจำนนต่อโชคชะตา’ ตรงกับแนวคิดเกมนี้เป๊ะ
ชีวิตจริงก็หดหู่มากพออยู่แล้ว ฉันรู้ดีว่าชีวิตมันบัดซบขนาดไหน จะเอาโทร โข่งมาป่าวประกาศอัดหน้าทำไม
ทำแบบนี้น่ารังเกียจไปรึเปล่า
เพราะงั้นความรู้สึกแรกของเหออันคือเกมมีเนื้อหาไม่เหมาะสม เพราะไม่มี การชี้แนะที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นที่ยอมรับ แถมยังทำให้รู้สึกรังเกียจได้ง่าย
เรื่องการวิเคราะห์และตอบความต้องการของตลาดก็ยิ่งไปกันใหญ่
ชัดเจนว่าในตลาดหลักปัจจุบัน เกมยังถูกมองว่าเป็นกิจกรรมเพื่อความบันเทิง และเล่นสนุก ถ้าเนื้อหาหนักและจริงจังเกินไปก็จะไม่ตอบความต้องการของผู้เล่น ส่วนใหญ่!
ส่วนการสร้างความต้องการในระดับที่สูงขึ้น…
เหออันเคยคิดว่าบอสเผยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างความต้องการ
แต่การสร้างความต้องการให้กับเกมดิ้นรนนั้นเป็นเรื่องยากมาก!
ยิ่งไปกว่านั้น ข้อสอบนี้ก็มีคำถามถึงสี่ข้อ แค่สามข้อแรกยังตอบผิดหมด แล้ว จะตอบข้อสุดท้ายถูกได้ยังไง
ถ้าตอบถูก ฉันคง…
เอากระดาษคำตอบไปติดกรอบเดี๋ยวนั้นเลย!
ตอนแรกเหออันคิดว่าจะปักธง แต่พอคิดดูก็ตัดสินใจไม่ทำ เพราะจะประเมิน บอสเผยต่ำเกินไปไม่ได้
บอสเผยจะไม่คิดถึงปัญหาที่ฉันคิดเหรอ
ยังไงก็ต้องคิดแน่นอน
อีกอย่างเหออันก็รู้สึกลึกๆ ว่าเกมนี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกรังเกียจ ถ้าขุดลึกเข้าไป ในความรู้สึกที่มีต่อเกมนี้ ก็ยังมีความรู้สึกพิเศษบางอย่างอยู่
หลังจากคิดอยู่ครู่ใหญ่ เหออันก็ตัดสินใจว่าจะลืมประสบการณ์และทฤษฎี ต่างๆ ที่สั่งสมมาหลายสิบปี เพื่อประเมินเกมนี้จากมุมมองของคนทั่วไปจะได้มอง ได้ลึกยิ่งขึ้น
ถ้าทฤษฎีของเขาล้าหลังล่ะ
…
ขณะเดียวกัน เผยเชียนซึ่งอยู่ที่อพาร์ตเมนต์กำลังเช็กผลตอบรับจากผู้เล่น กลุ่มแรกของเกมดิ้นรน
เกมดิ้นรนมีความยาวไม่มาก ถ้าซื้อเกมไปเมื่อวานแล้วเริ่มเล่นเมื่อคืน ป่านนี้ก็ น่าจะเล่นจบกันหมดแล้ว
เผยเชียนมั่นใจมากว่า ผลตอบรับของเกมดิ้นรนจะเป็นตัวกำหนดโดยตรงว่า เกมนี้จะประสบความสำเร็จในการขาดทุนระยะยาวได้หรือเปล่า!
ผลตอบรับที่ดีที่สุดคือผู้เล่นต่อว่าเกมอย่างรุนแรงจนขอรีฟันด์ ทำให้มีคนไม่ อยากซื้อเกมหรือไม่อยากแม้แต่จะเหลียวแลเพิ่มมากขึ้น
แน่นอนว่าเผยเชียนเองก็คิดว่าแบบนั้นโลกสวยเกินไป ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียง ที่สุดก็คือมีผู้เล่นส่วนน้อยอวยเกมดิ้นรน ส่วนผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่อยากซื้อ
ถ้าเป็นแบบนั้นก็ถือว่ายอมรับได้มากแล้วสำหรับเผยเชียน ซึ่งก็เป็นไปได้สูงที่ ผลจะออกมาทิศทางนั้น
เผยเชียนเช็กดูคอมเมนต์ของผู้เล่น
“โฆษณาหลอกลวง! ฉันคิดว่าจะเป็นเกมแอกชันสเกลใหญ่ แต่พอเข้าเกมถึงรู้ ว่าโดนหลอก!”
“แต่สโลแกนที่ใช้โปรโมตก็พูดความจริงหมดเลยนะ บอกได้แค่ว่าคนทำนี่เป็น อัจฉริยะด้านการตลาดจริงๆ จงใจชี้นำให้หลงเชื่อเต็มที่แม้จะทำให้เราไม่พอใจ เถิงต๋าหันมาใช่เล่ห์กลตั้งแต่เมื่อไหร่ กลัวว่าจะไม่มีคนซื้อเลยรึไงถ้าไม่โปรโมตแบบ นี้”
“ฉันว่าโฆษณาว่าเป็นเกมแนวภาพยนตร์เชิงตอบโต้ก็ได้นะ ยังไงเราก็คงซื้อมา เล่นกันอยู่แล้ว!”
“รอบนี้ไม่มีใครห้ามฉันให้หนึ่งดาวได้แน่! ฉันซื้อเกมนี้ทันทีที่ปล่อย แล้วเล่น โต้รุ่งเพราะอยากได้ตอนจบที่ดีที่สุด รู้มั้ยเป็นไง ฉันต้องแขยงใจอยู่หลายครั้ง เพราะต้องดูฉากจบทั้งสองแบบสามสี่รอบ!”
“ผมรู้สึกเหมือนสภาพจิตใจโดนทำร้ายอย่างแสนสาหัส! เกมเวอร์ชันคนจนทำ ให้รู้สึกหดหู่ ก็เลยไปเล่นเวอร์ชันคนรวยแทน ตอนแรกๆ ก็เริ่มมาดี แต่ไม่คิดเลย ว่าตอนจบจะหักมุมแบบนั้น!”
“ของนายยังไม่แย่เท่าของฉัน ฉันเล่นเวอร์ชันคนรวยก่อน ตอนจบทำเอารู้สึก ขมในปาก ก็เลยคิดว่าเวอร์ชันคนจนน่าจะไม่เหมือนกัน แต่กลายเป็นขมปาก ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่ใช่ตัวฉันคนเดิมอีกต่อไปแล้ว!”
“ไม่ว่าจะเล่นยังไงก็จบเหมือนเดิมเลยรู้สึกพะอืดพะอมใช่มั้ย”
“นี่เกมเหรอ ตีมนี้ควรเอาไปถ่ายเป็นสารคดีหรือหนังอาร์ตมากกว่านะ”
“เห็นได้ชัดเจนว่าเกมสื่อสารความคิดได้อิสระกว่าสารคดีและหนังอาร์ต ลอง คิดถึงตัวละครในเกมแล้วคิดถึงสองเวอร์ชันที่วางราคาขายแยกกันสิ เกมมอบ ประสบการณ์การโต้ตอบได้มากมายหลายแบบ ซึ่งหนังไม่สามารถทำได้”
“ไม่ว่าใครจะว่ายังไง ฉันก็จะอวยเกมนี้เต็มที่! ยิ่งตอนจบทั้งสองแบบยิ่งสุด ยอดมาก คำว่า ‘ไอ้คนโกหก’ ในเวอร์ชันคนรวยกับบทบรรยายในเวอร์ชันคนจน สะท้อนอยู่ในหัวตั้งแต่เริ่มจนจบเลย เยี่ยมยอดจริงๆ!”
“โอเค สองจุดนั้นก็พอใช้ได้ แต่ไม่คิดว่าเหรอว่าพอมองภาพรวมแล้วเกมมัน กากสิ้นดี เหมือนเกมหยิบชีวิตจริงมาทำ แล้วความสนุกอยู่ตรงไหน แนวคิดที่ นำเสนอก็จริงจังเกินไป ถือเป็นการสนับสนุนแนวคิดยอมจำนนต่อโชคชะตา ทฤษฎีชนชั้น และการดิ้นรนนั้นไร้ความหมายรึเปล่า”
“ก็จริง ฉันคิดว่าเกมนี้น่าจะไปได้สวยในตะวันตก เพราะชาวตะวันตกเป็น พวกเหยาะแหยะ ผู้เล่นในประเทศส่วนใหญ่ยังสนับสนุนเรื่องการดิ้นรนและถือ แนวคิด ‘สวรรค์จะให้รางวัลกับคนเพียรพัฒนาตน’ ซึ่งตีมเกมขัดแย้งกับแนวคิดนี้ เลยทำให้รู้สึกอึดอัด”
“ฉันว่ารอบนี้เราควรเรียกอาจารย์เฉียวมาลองเล่นดู”
“ใช่ๆ อาจมีบางจุดที่เราไม่ทันสังเกต อาจารย์เฉียวน่าจะเก็บรายละเอียดและ เข้าใจเกมดีกว่าพวกเรา”
เผยเชียนเลื่อนดูคอมเมนต์มากมายของผู้เล่นแล้วรู้สึกว่าสถานการณ์ปัจจุบัน ค่อนข้างไปได้สวย แต่ยังถือว่าแย่กว่าที่เขาคาดการณ์ไว้
ผู้เล่นจำนวนมากโดนความเป็นจริงอันโหดร้ายที่สะท้อนผ่านตัวเกมจี้ใจดำ ซึ่ง ตรงกับที่เผยเชียนคาดไว้ แต่ปัญหาคือชื่อเสียงที่สั่งสมมานานของเถิงต๋าช่วย ต้านทานไม่ให้โดนผู้เล่นถล่มยับเยิน
ถ้าเป็นผู้พัฒนาเจ้าอื่นคงโดนถล่มเละไปแล้ว
แต่ฝ่ายเกมเถิงต๋ามีแฟนเดนตายเยอะเกินไป ทุกคนมโนกันไปเรื่อยเพื่อแก้ข้อ กังขาของตัวเอง คนพวกนี้เป็นพวกที่เล่นเกมของเถิงต๋าแล้วรู้สึกมีแสงส่อง ข้อดี เล็กน้อยกลายเป็นจุดเด่นแสนพิเศษในสายตาพวกเขา
พวกแฟนเดนตายยังเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกที่เล่นเกมนี้ ก็เลยรู้สึกกระตือรือร้นกับ การถกเถียงเรื่องเกมกว่าปกติ เสียงของพวกเขาเองก็ดังเท่าๆ กัน ทำให้ทั้งสองฝั่ง ตีคู่สูสีในศึกครั้งนี้
นอกจากนั้น อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญคือคุณภาพของตัวเกมทำออกมาได้ดีมากๆ
เพราะฝ่ายเกมเถิงต๋ามีประสบการณ์การพัฒนาเกมสูง ถึงจะโยนตีมชีวิตจริง ให้ พวกเขาก็ทำเกมออกมาได้ยอดเยี่ยมอยู่ดี ฉากจบทั้งสองเวอร์ชันก็หักมุมได้ ค่อนข้างดี
เผยเชียนคิดอยู่ครู่ใหญ่ เหตุผลน่าจะมาจากตีมของเกม