ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 634 บอสเผยจะทำยังไง
วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม
ในห้องนิติบุคคลของคอมมูนิตี้สู่กวง ซ่งไข่ง่วนอยู่กับงานประจำวัน
ตั้งแต่มีคนเช่าเต็มทั้งตึก เขาก็ยุ่งสุดๆ
แต่เหล่านักลงทุนก็ไม่ได้เข้ามาพักบ่อย สามสี่วันจะเข้ามาทีนึง ซึ่งซ่งไข่ก็ ยืนยันเรื่องนี้กับบอสหลี่แล้ว
ตอนแรกซ่งไข่ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกนักลงทุนถึงทำแบบนี้ แต่พอผ่านไปเขาก็ เริ่มเข้าใจมากขึ้น
การเช่าอพาร์ตเมนต์นั้นเป็นการแสดงน้ำใจในฐานะเพื่อน ถ้าเพื่อนเปิด ร้านอาหาร เราก็ต้องไปจ่ายเงินกินเพื่อสนับสนุนเพื่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติใน ความสัมพันธ์มนุษย์
ส่วนที่เหล่านักลงทุนแวะเข้ามาพักทุกสามสี่วันก็น่าจะเพื่อสานสัมพันธ์กับ บอสเผยให้สนิทกันยิ่งขึ้น
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เหมือนกัน ทำไมพวกไฮโซต้องซื้อวิลล่าในละแวกที่ เฉพาะเจาะจง ทำไมพ่อแม่ต้องทุ่มเททั้งแรงและเวลาหาโรงเรียนดีๆ ให้ลูก
เหตุผลหลักๆ ก็เพราะการอยู่แมนชันหรูๆ มีโอกาสเจอผู้คนจากชนชั้นนำ มากกว่า ถ้ามีปฏิสัมพันธ์กับคนกลุ่มนี้มากพอ พวกเขาก็จะได้ผลประโยชน์จาก มิตรภาพที่สร้างขึ้น
ถ้าการเพิ่มเงินขึ้นอีกนิดทำให้ได้เป็นเพื่อนบ้านกับเศรษฐีผู้มั่งคั่ง คนมากมายก็ พร้อมต่อสู้แย่งชิงโอกาสนั้น
จิงโจวเองก็เป็นแบบนั้น
ตำแหน่ง ‘นักลงทุน’ นั้นดูสูงส่งและมากด้วยอำนาจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น คนนอกอาจจะรู้สึกว้าวเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็น ‘ที่ปรึกษา ด้านการลงทุน’ แต่คนในจะรู้ว่ามีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่รู้ลึกรู้จริง ส่วนใหญ่เป็นแค่ พนักงานกินเงินเดือนธรรมดาๆ ที่สั่งสมความรู้ด้านการเงินได้มากพอ
นักลงทุนเองก็เหมือนกัน กลุ่มที่อยู่บนปลายยอดซึ่งมีเงินทุนหลายสิบล้าน หยวนคือคนที่ครองอำนาจสูงสุด แต่ก็เป็นแค่ส่วนน้อย นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้ ฉลาดไปกว่าคนทั่วไปมากขนาดนั้น ไม่งั้นก็คงไม่มีนักลงทุนที่เอาเงินไปทุ่มกับพวก ฉ้อโกงที่คนทั่วไปก็มองออกจนหมดตัวหรอก
ธุรกิจเงินร่วมลงทุนนั้นสอดคล้องกับหลักการ 80-20 มีโปรเจ็กต์แค่ 20% เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ และ 20% นี้ก็สร้างผลตอบแทนได้ 80%
นายทุนบางคนชอบโม้ว่าโปรเจ็กต์ตัวเองมีโอกาสล้มเหลวแค่ 10% แต่นั่นก็ เป็นแค่การเล่นลิ้น ‘ไม่ล้มเหลว’ ไม่ได้แปลว่าประสบความสำเร็จ ไม่ต้องคิดให้ ปวดหัวก็รู้ว่าโอกาสประสบความสำเร็จ 90% นั้นเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ
สำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่แล้ว ความล้มเหลวคือเรื่องปกติ
เพราะงั้นในแวดวงการลงทุนเล็กๆ ของจิงโจว บอสเผยที่ประสบความสำเร็จ ในทุกการลงทุนจึงถือว่าเป็นตำนานขนาดย่อม แถมเถิงต๋าคอร์เปอเรชันยังเติบโต อย่างรวดเร็ว ตำนานนี้จึงเติบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนั้น เหล่านักลงทุนที่ไม่เชื่อมั่นในตัวบอสเผยก็ถูกกำจัดไปหมด เหลือ แค่นักลงทุนที่เคยได้ลิ้มรสผลตอบแทนอันหอมหวานที่ตามติดเขาต่อ จึงไม่แปลก ที่พวกเขาจะแน่วแน่กันมากขึ้นกว่าเดิม
นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่คิดจะป่าวประกาศออกไปว่าบอสเผยพักอยู่ ที่นี่
เพราะพวกเขาสามารถเก็บเรื่องดีไว้กับตัว ไม่ต้องแบ่งให้คนอื่นได้
สำหรับซ่งไข่ที่เป็นนิติบุคคล งานของเขาคือการรักษากฎระเบียบของอพาร์ต เมนต์บ้านจอมเฉื่อยและทำให้ผู้เช่าพึงพอใจมากที่สุด ผู้เช่าต้องพักอยู่ได้อย่าง สบายใจและได้รับการบริการที่ดีที่สุด
ห้องชุดทั้งหมดในตึกรุ่งอรุณมีคนเช่าเต็มทุกห้อง ดูเผินๆ เหมือนอพาร์ตเมนต์ บ้านจอมเฉื่อยจะได้รับการยอมรับแล้ว
แต่ซ่งไข่ก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ความสำเร็จของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย แต่เป็น ความสำเร็จของบอสเผย
อพาร์ตเมนต์อีกสามที่ยังว่างอยู่ รีวิวอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยแย่ๆ ฝีมือ บริษัทจู้เจียกระจายไปทั่วทุกที่ในอินเทอร์เน็ต
ในฐานะนิติบุคคลคนแรกของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย ซ่งไข่คิดว่าตัวเอง เป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบโปรเจ็กต์นี้
เขากับเหลียงชิงฟานมีขอบเขตงานที่ชัดเจน เหลียงชิงฟานรับผิดชอบเรื่อง การออกแบบและการก่อสร้าง ส่วนซ่งไข่รับผิดชอบเรื่องการดูแลและการขาย
ซ่งไข่ทนอยู่ได้ไม่กี่วันก็รู้สึกว่าตัวเองต้องทำอะไรสักอย่าง ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ แล้ว!
หลังจากที่บอสเผยออกไป เขาก็ต่อสายหาหลายคน
…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เหลียงชิงฟาน จูเสี่ยวเช่อกับอาจารย์เฉียวก็มารวมตัวที่ ชั้นหนึ่งของตึกรุ่งอรุณ
“สวัสดีครับทุกคน! เชิญนั่งก่อนครับ” ซ่งไข่ผายมือเชิญทั้งสามนั่ง
ซ่งไข่ติดต่อหาจูเสี่ยวเช่อผ่านเหลียงชิงฟาน และจูเสี่ยวเช่อก็ติดต่ออาจารย์ เฉียวผ่านหลินหวาน
หลังจากสัมผัสประสบการณ์ที่โฮสเทลเขย่าขวัญไป อาจารย์เฉียวก็ยังอยู่จิงโจ วต่อ
เขารู้สึกว่าคลิปรีวิวโฮสเทลเขย่าขวัญของตัวเองไม่ได้ผลตอบรับอย่างที่คาดไว้ จึงอยากหาทางแก้ไข เขาต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนว่าคลิปขาดอะไรไป จะได้เอาสิ่งนั้น มาเติมช่องว่างให้เต็มได้!
บอสเผยบอกแค่ให้เขาเลิกวิเคราะห์เกมใหม่ของเถิงต๋าลงซีรีส์ผลงานเทพสร้าง แต่บอสเผยก็ไม่ได้บอกใบ้อะไรเพิ่ม อาจารย์เฉียวจึงไม่รู้จะไปต่อยังไง
ว่าง่ายๆ คือเจอทางตัน
พอจูเสี่ยวเช่อโทรมาเรื่องโปรเจ็กต์ของบอสเผยวันนี้ เฉียวเหลียงก็ตกลงมา ทันทีโดยไม่ลังเล
เขาไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมด้วย แต่อย่างน้อยไปฟังหน่อยก็ได้
ส่วนที่หวงซื่อปั๋วไม่มาก็เพราะยังอยู่ต่างประเทศกับเปาซวี่
จนถึงตอนนี้ ไม่มีใครรู้ว่าซ่งไข่เรียกพวกเขามารวมตัวทำไม
ซ่งไข่ปิดประตูด้วยสีหน้าจริงจัง
“ทุกคนทราบสถานการณ์ของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยใช่มั้ยครับ ช่วงที่ ผ่านมาผมจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพบว่าบริษัทจู้เจียปล่อยรีวิวแย่ๆ เพื่อทำลายชื่อเสียงอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยบนโลกออนไลน์!”
เหลียงชิงฟานพยักหน้า “ครับ ก็พอรู้มาบ้าง… คุณอยากโต้กลับเหรอครับ”
ซ่งไข่พยักหน้า “ใช่ครับ!”
จูเสี่ยวเช่อลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “เอ่อ ผมขอขัดนิดนึง เถิงต๋าหรือ บอสเผยไม่ค่อยลงไปเกลือกกลั้วกับสงครามน้ำลายเท่าไหร่ ด้านการแข่งขันใน ตลาด ผมเชื่อว่าถ้าอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยให้การบริการที่ดีพอก็จะชนะใจ ลูกค้าได้เอง”
เฉียวเหลียงพยักหน้าแล้วพูดเสริม “บอสเผยไม่ชอบเรื่องแบบนี้
“บริษัทพวกนี้ชอบเล่นเล่ห์เหลี่ยมและใช้วิธีสกปรกอย่างจ้างหน้าม้ามาใส่ร้าย สร้างความสับสน แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ จ้างหน้าม้ามาใส่ร้ายกลับเหรอ
“แบบนั้นเถิงต๋าก็ไม่ต่างอะไรจากบริษัทอื่นๆ ที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีสิ เราทำแบบ นั้นไม่ได้หรอก”
ซ่งไข่ส่ายหน้า “ไม่ได้ให้ปั่นกระแส แต่ให้เปิดโปง
“ผมเคยทำงานในบริษัทจู้เจียมาก่อน เลยรู้ว่าโปรเจ็กต์ห้องหรูอยู่สบายของ พวกเขาเป็นยังไง
“บริษัทจู้เจียโฆษณาบนโลกออนไลน์ว่าพวกเขาดูแลเรื่องเฟอร์นิเจอร์และการ ตกแต่งทุกอย่างของห้องหรูอยู่สบายเอง จึงสามารถเชื่อถือได้ แต่นั่นไม่ใช่ความ จริง!
“พวกเขาพยายามลดงบค่าเฟอร์นิเจอร์ พื้นไม้ และสีทาผนังให้ได้มากที่สุด พอรีโนเวตเสร็จ พวกเขาจะเสียเงินมัดจำหนึ่งเดือนไปทุกเดือนถ้าห้องไม่มีคนเช่า ก็เลยต้องรีบปล่อยเช่าให้เร็วที่สุดเพื่อหาเงินคืนทุน
“ห้องชุดส่วนใหญ่ยังมีสารก่อมะเร็งในระดับที่เกินกว่าเกณฑ์อยู่เลย
“เอาเข้าจริง แม้แต่นายหน้าของบริษัทจู้เจียยังพูดออกมาเองกับปากตอน กล่อมให้เจ้าของที่เซ็นสัญญา พวกเขาบอกว่าถ้ามอบอพาร์ตเมนต์ให้เรา เราจะรี โนเวตและปล่อยให้ผู้เช่ารับสารก่อมะเร็งสักปีสองปี คุณก็จะได้ทั้งค่าเช่าและการรี โนเวตห้องใหม่โดยไม่มีสารก่อมะเร็งในห้องแล้ว คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!
“ฟังดูแล้วคิดว่าใช่สิ่งที่มนุษย์ควรพูดออกมาเหรอ”
เหลียงชิงฟานอึ้งไป “มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ บริษัทจู้เจียเป็นแฟรนไชส์ ระดับประเทศนี่”
ซ่งไข่พยักหน้า “ผมพูดจริงทุกอย่าง ที่เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผยก็เพราะ คนส่วนใหญ่ไม่ได้อ่อนไหวกับสารก่อมะเร็งในห้อง จะสังเกตได้ก็ต่อเมื่อมันรุนแรง เกินไปจนเกิดความระคายเคือง ถึงผู้เช่าจะพบอาการระคายเคือง นายหน้าก็จะ จ้าง
บริษัทมาจัดการสารก่อมะเร็งพอเป็นพิธี แล้วบอกให้ผู้เช่าเปิดระบายอากาศ มากขึ้นและให้ส่วนลดค่าเช่าเพิ่ม ผู้เช่าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับตามนั้น
“แต่ใครๆ ก็รู้ว่าการกำจัดสารก่อมะเร็งนั้นเป็นเรื่องเหลวไหล เพราะสาร ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีทางจัดการได้ในครั้งเดียว!
“ผู้เช่ากับพนักงานภายในไม่มีอิทธิพลมากพอ แถมเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นที่สนใจ มากบนโลกออนไลน์เหมือนกัน ผมเคยลงโพสต์ไปครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครเข้ามา อ่านหรือให้ความสนใจ ผมเลยได้แต่ปล่อยไป
“เพราะงั้นผมก็เลยลาออกจากบริษัทจู้เจีย ผมรังเกียจบริษัทนี้มาก!
“แต่เฟยหวงสตูดิโอกับอาจารย์เฉียวมีอิทธิพลมากบนโลกออนไลน์ ถ้าพวก คุณเปิดโปงปัญหานี้ได้ หลายคนก็จะหันมาให้ความสนใจ!
“เราแค่ต้องจ้างองค์กรมืออาชีพที่เชี่ยวชาญเรื่องสารก่อมะเร็งแล้วติดต่อผู้เช่า ห้องชุดห้องหรูอยู่สบายเพื่อขอเข้าไปตรวจสอบ แล้วเราก็จะพบว่าในห้องมีสารก่อ มะเร็งในระดับที่สูงเกินเกณฑ์กำหนดแน่นอน เราไม่ได้ใส่ร้ายบริษัทจู้เจีย เราแค่ เปิดโปงความจริง!”
ทุกคนหันมองกันด้วยความสับสน
เห็นได้ชัดว่านอกจากซ่งไข่ที่เคยทำงานกับบริษัทจู้เจียมาก่อน ก็ไม่มีใครคิดว่า ห้องหรูอยู่สบายของบริษัทจู้เจียนั้นจะไม่ได้อยู่สบายอย่างที่คิด
รับสารก่อมะเร็งระยะยาวอาจทำให้คนตายได้เลย!
จูเสี่ยวเช่อลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “เรามีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ก็จริง แต่… เราก็มีผลประโยชน์โดยตรงกับเถิงต๋าและอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย
“ถ้าเราเปิดโปงเรื่องนี้ออกไป ผู้คนจะไม่คิดว่าเราตั้งใจโจมตีคู่แข่งหรอกเหรอ ซึ่งก็อาจจะทำให้เราดูไม่น่าเชื่อถือในสายตาคนภายนอกด้วย
“ส่งเรื่องให้บุคคลที่สามจัดการน่าจะได้ผลดีกว่านะ”
ที่จูเสี่ยวเช่อกังวลก็สมเหตุสมผล การเปิดโปงโดยฝ่ายที่ได้ผลประโยชน์นั้นจะ ถูกมองได้ง่ายๆ ว่าเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อโจมตีและทำลายชื่อเสียงคู่แข่ง
ซ่งไข่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้น “ผมยังทำงานที่เถิงต๋าได้ไม่นาน เลยยังไม่ รู้จักบอสเผยดีนัก พวกคุณคิดว่าถ้าบอสเผยรู้เรื่องนี้ บอสจะนั่งอยู่เฉยๆ ไม่ทำ อะไร ทำเหมือนว่าไม่เคยได้ยินรึเปล่า”
ทุกคนหันมองกัน ชัดเจนว่าไม่มีใครคิดว่าบอสเผยจะทำแบบนั้น
ซงไข่พูดต่อ “ถ้าเราไม่ทำอะไรเพราะได้ผลประโยชน์กับเรื่องนี้ แล้วผู้เช่าที่ อาศัยอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยสารก่อมะเร็งและกำลังสุขภาพย่ำแย่ลงทุกวันจะเป็น ยังไง ใครจะเป็นคนเปิดโปงเรื่องนี้ ถ้าส่งเรื่องต่อให้บุคคลที่สาม พวกเขาก็อาจจะ ไม่จัดการอย่างจริงจัง อาจไม่มีความน่าเชื่อถือ และอาจจัดการไม่ได้ตามที่เรา
ต้องการ อีกอย่างถ้าเราถูกปฏิเสธกลับมาก็จะเหมือนว่าเราพยายามเล่นงานอีก ฝ่าย กลายเป็นว่าเรากลายเป็นคนร้ายซะเอง
“ผมคิดว่าบอสเผยคงไม่มัวคิดเล็กคิดน้อย บอสจะทำเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ ควรทำ
“ถ้าบริษัทจู้เจียไม่มีเรื่องซุกไว้ใต้พรมแบบนี้ เราก็เมินการใส่ร้ายป้ายสีของ พวกเขาและมองว่าเป็นแมลงวันบินกวนใจเฉยๆ ได้
“แต่ถ้าพวกเขากำลังทำร้ายสุขภาพของคนนับไม่ถ้วนแล้วเรามีอำนาจมาก พอที่จะพูดอะไรออกไปและช่วยชีวิตผู้คนได้ เราจะนิ่งเงียบกันจริงๆ เหรอ”
ทั้งสามหันมองกันอีกครั้งแล้วเห็นคำตอบในสายตาของกันและกัน
หลังเงียบไปพักหนึ่ง เฉียวเหลียงก็พูดขึ้น “จากความเข้าใจในตัวบอสเผยของ ผม… ผมว่าบอสเผยจะคิดว่าเราควรทำเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสมโดยไม่หวังถึง อนาคต
“ไม่ว่ายังไง ผมก็คิดว่าบอสเผยจะเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
“เพราะงั้นผมเอาด้วย!