ขับไล่ไอ้มารตัณหา ~เพราะได้รับกิฟต์สุดอนาจารเลยโดนไล่ออกจากนครหลวง แต่แค่ทำเรื่องลามก (รวมช่วยตัวเองด้วย) ก็เวลอัพแบบพรวดพราดเฉย~ - ตอนที่ 34: มารตัณหาออกประจัญบาน
เมื่อมุ่งไปยังประตูทิศเหนือ ก็พบว่าได้มีทัพอัศวินของเมืองและนักผจญภัยจำนวนมากมายมารวมตัวกันอยู่เรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากผมกับอลิเซียอยู่ตรงแถวฝั่งขั้วตรงข้ามของเมืองพอดี ก็เลยมาถึงล่าช้านั่นแหละ
ผมพบเห็นคนคุ้นหน้าอยู่ภายในกลุ่มผู้คน
นั่นคือกิลด์มาสเตอร์ที่กำลังมอบคำสั่งอย่างดุดันไปให้กับรอบบริเวณ
คุณกอร์โดที่เป็นพ่อของโซเนียนั่นเอง
แล้วทีนี้ คุณกอร์โดที่เหมือนจะสั่งการให้แก่โดยรอบลงตัวในระดับนึงแล้วก็หันมาสังเกตเห็นพวกผม
“ เอริออร์คุง! ค่อยยังชั่ว พวกเธอก็ยังคงอยู่ในเมืองเหมือนกันสินะ! ใจชื้นขึ้นเยอะเลย! ”
“ มีเหตุผลต่างๆ นาๆ ช่วงนี้ก็เลยประจำการอยู่ที่เมืองน่ะครับ……ที่สำคัญ อาร์เมอร์แอนท์ชนิดกองทัพนั่นเรื่องจริงเหรอครับ!? ”
“ อืม อย่างที่เห็นนั่นแหละ ”
ว่าแล้ว คุณกอร์โดก็ชี้ไปทางทิศเหนือของเมือง
เมื่อมองลอดฝูงชนไปยังทางนั้น ก็พบเห็นภาพทิวทัศน์อันค่อนข้างยากจะเชื่อเปิดกว้างอยู่เบื้องหน้า
ฝูงอาร์เมอร์แอนท์เนืองแน่งยั้วเยี้ยเต็มทุ่งหญ้าไปหมด
และฝูงดังกล่าว ก็ไม่ได้เป็นการจับกลุ่มแบบส่งเดชที่แค่มีอาร์เมอร์แอนท์ธรรมดามารวมตัวกันเยอะๆ เท่านั้นด้วย
อาร์เมอร์แอนท์แบบทั่วไป (เทียบเท่าเลเวล 40)
อาร์เมอร์แอนท์ พลาทูน ที่คอยคุมเหล่าพลทหารโดยรอบ (เทียบเท่าเลเวล 80)
อาร์เมอร์แอนท์ ฟอร์ทเทรส ที่แกร่งเฉพาะทางในด้านป้องกัน (เทียบเท่าเลเวล 90)
อาร์มเมอร์แอนท์ แคนนอน ที่ครอบครองช่องทางการโจมตีระยะไกลด้วยกรดมดอันทรงอำนาจ (เทียบเท่าเลเวล 90)
อาร์เมอร์แอนท์ เมจ ที่มีอำนาจควบคุมเวทดิน (เทียบเท่าเลเวล 85)
แล้วก็ อาร์เมอร์แอนท์ เจเนอรัล ที่รับหน้าที่สั่งการมดทุกตัว (เทียบเท่าเลเวล 120)
เมืองป้อมปราการแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือเนินเขาสูงเล็ก ทำให้มองเห็นสภาพกองทัพของอาร์เมอร์แอนท์ที่กระจายอยู่ห่างไปจากเมืองราว 1 กิโลได้ทั้งหมด
เหล่ามดที่มีความถนัดแบบของใครของมันกำลังเรียงแถวตั้งทัพดั่งกับเป็นกองทหารของแท้ ยืนเด่นประจำการอยู่เหนือทุ่งหญ้า
ไม่มีท่าทางเหมือนจะพุ่งเข้ามาใส่ทางนี้แบบมั่วซั่วเหมือนมอนสเตอร์ธรรมดาทั่วไปเลยแม้แต่นิด
เค้าลางของพวกมันที่เอาแต่คอยเฝ้าสังเกตการณ์พวกเราโดยไม่ยอมแตกแถวนั่น มันทำให้สัมผัสได้ถึงสติปัญญาความรู้และความเป็นอันหนึ่งอันเดียว
“ เป็นชนิดกองทัพจริงๆ ด้วยงั้นเหรอ……! แต่ทำไมถึงได้กะทันหันแบบนี้……!? ”
ชนิดกองทัพจะปรากฎขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ รังของอาร์เมอร์แอนท์ขยายใหญ่ขึ้นมามากพอประมาณแล้วเท่านั้น หากมีอาร์เมอร์แอนท์ทำการขยายพันธุ์อยู่ในจุดที่สามารถบุกเข้าคุกคามมนุษย์ได้ งั้นก็น่าจะมีคนตรวจพบร่องรอยบอกเหตุล่วงหน้าได้อย่างแน่นอนสิ ไม่มีทางจะถูกบุกเข้าตีแบบทีเผลอเช่นนี้ได้เลย
การที่เมืองพลาดท่าถูกบุกโจมตีโดยชนิดกองทัพแบบนี้ เผลอๆ อาจจะหายากยิ่งกว่าดันเจี้ยนอุบัติฉับพลันซะอีก
“ ไม่ทราบต้นเหตุเลยซักนิดเดียว แต่ที่รู้แน่ในตอนนี้ก็คือ หากไม่หาทางทำอะไรซักอย่างกับพวกมันละก็เมืองได้ถูกสวาปามเรียบหมดแน่ ”
คุณกอร์โดกล่าวออกมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
และผมก็สัมผัสความคับขันของสถานการณ์ได้จากใบหน้านั้นอย่างชัดเจน
กำลังรบของฝั่งนี้ที่มารวมตัวแถวประตูทิศเหนือในตอนนี้ มีทัพอัศวินราว 200 และนักผจญภัยอีกราว 200
หากนับรวมคนที่มาถึงล่าช้าแบบพวกผมไปด้วย ก็น่าจะมีกำลังรบมากยิ่งกว่าจำนวนของศัตรูแหละ
ที่อยู่ในที่นี้ล้วนต่างเป็นเหล่าผู้คนที่มารวมตัวกันเพื่อเตรียมรับมือกับการจู่โจมของอาร์เมอร์แอนท์ ดังนั้นคิดซะว่ามีเลเวลเหนือกว่า 40 หมดทุกคนก็คงได้
หากมองเพียงแค่นี้ก็จะเห็นว่าสถานการณ์รบดูสูสีค่อนข้างไปในทางได้เปรียบ
แต่จุดที่รับมือยากสุดของศัตรูก็คือ อำนาจการสั่งการของพวกมัน
ว่ากันว่าอาร์เมอร์แอนท์สามารถส่งข้อมูลข่าวสารให้กับกันและกันได้ผ่านสกิลที่มีชื่อว่า <โทรจิต>
โดยเฉพาะอาร์เมอร์แอนท์ เจเนอรัล ซึ่งเป็นผู้บัญชาการใหญ่ที่ควบคุมทั้งกองทัพอยู่จากแนวหลังตอนกลางนั้นมีสติปัญญาสูงล้ำมาก เคยอ่านอยู่ในหนังสือว่ามันจะมอบคำสั่งให้โจมตีเข้ามาด้วยการประสานงานที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวสูงลิ่ว
กลับกันแล้ว ฝั่งพวกผมนั้นเป็นนักผจญภัยที่ถูกเกณฑ์ตัวมาอย่างกะทันหันไปกว่าครึ่ง
แน่นอนว่าทุกคนคงมากฝีมือ สามารถจับจุดสู้ประสานงานกันระหว่างหลายปาร์ตี้ได้ในพริบตาเลยก็จริง แต่หากถามว่ามีความคุ้นชินกับกลยุทธ์การทหารภายใน ‘สงคราม’ หรือไม่นี่ก็คงตอบได้ไม่เต็มปาก
เป็นตอนนั้นเอง ที่มีเสียงอันรอบรู้และเยือกเย็นดังอย่างกะทันหันขึ้นมาจากข้างตัวผม
“ แล้วก็น่าเจ็บใจตรงที่เหล่านักผจญภัยตัวเก่งของเมืองยังออกไปดำเนินการสืบสวนต้นตอความผิดปกติของแนวโน้มการปรากฎขึ้นของมอนสเตอร์ซะหมดอีกต่างหาก แม้จะมีฉัน กิลด์มาสเตอร์ แล้วก็เอริออร์คุงอยู่ด้วย แต่ก็น่าจะตึงมือมากพอตัวเลยค่ะ เรายังมีข้อมูลเกี่ยวกับชนิดกองทัพไม่มากพอเลยด้วย อาจจำเป็นต้องเตรียมใจรับการเสียสละในระดับนึงแล้วกระมัง ”
<นักรบแรงยักษ์> เลเวล 80, คุณเรนนี่ เอมเมอรัลด์นั่นเอง
โฉมหน้านั้นคือใบหน้าของนักผจญภัยที่ข้ามผ่านสนามรบเดือดมามากมายอย่างแท้จริง
กระบองเหล็กขนาดใหญ่ยักษ์ทั้งสองท่อนก็เหมาะสมกับอิมเมจ ดูพึ่งพาได้พอสมควรเลย
……แต่ว่า คือแบบ ไหงถึงเอามือแตะก้นผมเหรอครับ? เอิ่ม คุณเรนนี่ครับ?
คุณเรนนี่ครับ!? อลิเซียมองมาทางนี้ด้วยดวงตาเหมือนเกิดอารมณ์เงี่ยนแล้วนะช่วยหยุดทีเถ้ออ!
โป๊กก! คุณกอร์โดทุ่มมะเหงกลงมากระแทกเปรี้ยงเข้ากลางหัว ทำเอาคุณเรนนี่แผดเสียงกรีดร้องดังลั่นว่า “นี่มันคือช่วงนาทีก่อนหน้าศึกตัดสินที่เป็นตัวชี้วัดชะตากรรมของเมืองเลยเชียวนะคะ แล้วเหตุไฉนจึงได้จะแตกคอกันเองเสียเล่า!?”
คุณกอร์โดเพิกเฉยต่อเสียงร้องดังกล่าว,
“ สถานการณ์รบย่ำแย่มาก แต่เคราะห์ดีที่ดูเหมือนพวกมดจะกำลังเฝ้าลองเชิงพวกเราอยู่ หากอาศัยจังหวะนี้ทำจิตให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ละทิ้งการประสานงานที่ไม่คล่องแล้วใช้แผนเน้นบุกถล่มจุดสำคัญของศัตรูเพียงจุดเดียวซะก็พอจะมีทาง— ”
ชนะ—เป็นในช่วงยามที่คุณกอร์โดพยายามจะกล่าวออกมาเช่นนั้นเอง
“ ……!? ……เอริโอ……มีอะไรอยู่……ข้างล่าง……! ”
คงจะใช้สกิลตรวจจับรอบบริเวณอยู่ละมั้ง
อลิเซียจึงอ้าปากกล่าวออกมาด้วยท่วงท่าที่ตึงเครียดแบบไม่เคยเห็นมาก่อน, และในฉับพลันนั้นแหละ
ครืนน! ครืนนนนนนนนนนนน!
ที่จู่ๆ ผืนดินตรงโน้นตรงนี้รอบทิศก็พลันถล่ม—พร้อมกับมีอาร์เมอร์แอนท์โผล่หัวขึ้นจากหลุมดังกล่าวน่ะ
“““ กี๊—! ”””
“ อะ อะไรกันวะ!? ”
เหล่านักผจญภัยและอัศวินที่กำลังเตรียมการพร้อมเปิดศึกอยู่แถวแนวหลัง ได้ถูกลอบจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวจนแผดเสียงกรีดร้องออกมาดังลั่น
“ ห้ะ!? ไอ้เจ้าพวกนี้……!? ”
“ อย่าบอกนะว่า ใช้เวทขุดเจาะของอาร์เมอร์แอนท์ เมจเพื่ออ้อมมาตลบหลังจากทางใต้ดิน……!? ”
จังหวะที่พวกเขาแผดเสียงตะโกน ทั้งคุณกอร์โดกับคุณเรนนี่ก็ได้ก้าวเท้าออกไปเรียบร้อยแล้ว
กำจัดพวกมดที่อยู่ใกล้ตัวทิ้งโดยด่วน เพื่อหวังบรรเทาความอลหม่านของพวกพ้องให้ได้อย่างรวดเร็ว
แต่ก็ไม่อาจจะกำจัดพวกมดที่ปรากฎขึ้นมาพร้อมกันเป็นระยะกว้างได้ในทันที
และชั่วเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเหล่านั้น ก็เป็นตัวผลักดันให้ศัตรูเริ่มเคลื่อนไหวเข้ามาดั่งกับเป็นการเผด็จศึก
“““““ กิ๊จิ๊กิ๊จิ๊กิ๊จิ๊กิ๊จิ๊กิ๊จิ๊กิ๊จิ๊กิ๊จิ๊! ”””””
แผ่นดินสั่นสะเทือนเลือนลั่น
ดั่งกับเป็นการเร่งระดับความอลหม่านของฝั่งนี้, กองทัพอาร์เมอร์แอนท์ที่กระจายตัวอยู่เหนือทุ่งหญ้าพลันเริ่มต้นเคลื่อนพลดิ่งเข้ามากันในคราเดียว มีฟอร์ทเทรสที่เป็นเลิศในด้านป้องกันตั้งเรียงหน้า นับเป็นการบุกโจมตีที่ทนทานไร้ใครเปรียบของแท้
“ ไม่ได้การ! หน่วยเวทมนตร์! แค่แปปเดียวก็ยังดี! รีบหยุดการเคลื่อนพลของพวกมันซะเร็วเข้า! ”
คำสั่งที่เหมือนดั่งเสียงกรีดร้องของคุณกอร์โดสั่นสะท้านอากาศ
และสิ่งที่ถูกปลดปล่อยออกไปในคราเดียวก็คือกระสุนเวทมนตร์อันทรงพลังที่มีเพลิงเป็นใจกลาง
ทว่า—ปิ๊ววววววววววววว!
เวทมนตร์ถูกลบหายไปกลางอากาศ
กรดมดที่ถูกพ่นออกมาด้วยแรงยิงสุดทรงพลังมันได้ทำการสอยเวทมนตร์ร่วงระนาวเลยนั่นเอง
แม้เวทมนตร์จำนวนนึงจะตกลงมาโดนเป้า แต่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนราดน้ำใส่หินร้อน
การบุกจู่โจมของพวกมดยังคงดำเนินไม่มีหยุด
“ แย่แล้ว! ”
กระทั่งผมที่ไม่มีประสบการณ์ทำศึกสงครามก็ยังรู้เลย
ลำพังแค่นี้ทางฝั่งเราก็ประสานงานกันได้ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว หากโดนถล่มเข้าเล่นงานท่ามกลางความอลหม่านแบบนี้อีกละก็ไม่เป็นอันสู้แน่นอน เผลอๆ อาจจะตายกันหมดทัพเลยก็ได้
พริบตานั้น ร่างกายของผมก็พลันขยับออกไปเอง
“ ผมจะเข้าไปป่วนการประสานงานของศัตรูครับ! พวกคุณกอร์โดช่วยใช้จังหวะนั้นทำการตั้งหลักใหม่ให้ได้มากที่สุดทีนะ! ”
“ ห้ะ!? ไม่ได้นะคะเอริออร์คุง! บุกเดี่ยวเข้าไปคนเดียวก็ไม่ช่วย—อะ เอ๊ะ? ”
เสียงรั้งให้หยุดของคุณเรนนี่ลอยห่างออกไปในชั่วอึดใจเดียว
ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะร่างกายของผมได้ทะยานแหวกเข้ามาในทุ่งหญ้าเรียบร้อยแล้วยังไงล่ะ ด้วยความเร็วที่สูงล้นท่วมท้นเลยน่ะนะ
“ ……!? ตอนวิ่งมาเมื่อกี้ไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่ห่วงอลิเซียกับพวกผู้คนในเมือง แต่นี่คือความเร็วสูงสุดของตัวผมในตอนนี้เหรอ……!? ถ้ามีเรี่ยวแรงพลังกายมากแบบนี้ละก็……! ”
ผมแล่นเข้ากระชั้นชิดพวกมดได้ในชั่วอึดใจ พร้อมกับชักเอาไอ้จ้อนออกมาผงาดอยู่เบื้องหน้าพวกมัน
ทว่าดุ้นนั้นไม่ได้อยู่ในรูปทรงของดาบ
แต่เป็นก้อนมวลเหล็กกล้าแสนหนักอึ้ง ซึ่งทำการใช้ <แปลงคุณลักษณะดุ้นคุณชาย> ที่ Lv อัพขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนเฉพาะบริเวณผิวด้านนอกให้กลายเป็นอะดามันไทต์ระดับแข็งปั๋งสุดขั้ว
นั่นก็คืออาวุธที่ผมสร้างขึ้นโดยอ้างอิงจากกระบองเหล็กของคุณเรนนี่, กระบองดุ้นมหึมาที่ทำจากโลหะ
—กระบองผ่องกระดอโผล่
ผมง้างอาวุธใหม่ในกำมืออย่างยิ่งใหญ่ แล้วจึง,
“ ปลิวไปซ้าาาาาาาาาาาาาา!! ”
ฟาดอาร์เมอร์แอนท์ ฟอร์ทเทรสที่นำอยู่หน้าฝูงให้ปลิวกระจุยไปหลายตัวในหวดเดียว
เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงง!
“““““ กี๊————!? ”””””
นั่นคือกลุ่มที่ตัวใหญ่และแข็งแรงทนทานที่สุดในฝูง นั่นคือเหล่ามดที่ดูเหมือนเป็นก้อนมวลเหล็กไหล
และร่างกายของพวกมันเหล่านั้นก็ปลิวประหนึ่งกระสุน ฉุดเฉี่ยวเหล่ามดที่อยู่แนวหลังกระจุยกระจาย—ส่งให้แนวรบของศัตรูพังทลายดังครืนลงจากภายใน