ขับไล่ไอ้มารตัณหา ~เพราะได้รับกิฟต์สุดอนาจารเลยโดนไล่ออกจากนครหลวง แต่แค่ทำเรื่องลามก (รวมช่วยตัวเองด้วย) ก็เวลอัพแบบพรวดพราดเฉย~ - ตอนที่ 20: มารตัณหา, ออกศึกแบบเอาจริง
- Home
- ขับไล่ไอ้มารตัณหา ~เพราะได้รับกิฟต์สุดอนาจารเลยโดนไล่ออกจากนครหลวง แต่แค่ทำเรื่องลามก (รวมช่วยตัวเองด้วย) ก็เวลอัพแบบพรวดพราดเฉย~
- ตอนที่ 20: มารตัณหา, ออกศึกแบบเอาจริง
หลังจากฝากฝังเด็กสาวที่ช่วยเอาไว้ให้กับอลิเซีย ผมก็รีบรุดหน้าตรงไปยังหมู่บ้านของเธอคนนั้นด้วยตัวคนเดียว
เด็กสาวที่บาดเจ็บหนักกับมอนสเตอร์ที่ไล่ตามเธอมา
เห็นกันชัดเจนเลยว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นอยู่ในหมู่บ้านที่พวกผมกำลังมีแพลนจะไปแน่นอน
บังคับใช้กำลังขาที่หากเป็นในระยะใกล้สุดขีดละก็เทียบชั้นได้กระทั่งม้า แล่นทะยานมุ่งหน้าตรงดิ่งไปตามทางเชื่อมเมือง
มองเห็นทางเข้าหมู่บ้านได้ในอึดใจเลยก็จริง……แต่ติดอยู่อย่างตรงที่ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเป็นหมู่บ้านหลงเหลืออยู่ตรงนั้นอีกต่อไปแล้ว
“ มัน อะไรกันน่ะ……!? ”
พินาศย่อยยับไปแล้ว
สวนทุ่งนาที่แผ่กระจายอยู่รอบหมู่บ้าน รั้วขนาดใหญ่ที่ห้อมล้อมรอบเขตที่อยู่อาศัย รวมทั้งบ้านเรือนของเหล่าชาวบ้านล้วนถูกทำลายแหลกเละเทะไปหมด
และที่กำลังทำหน้าใหญ่แทนที่ผู้อยู่อาศัยโดยการเดินป้วนเปี้ยนภายในหมู่บ้านซึ่งไม่เหลือใครซักคน—ก็คือมอนสเตอร์จำนวนนับไม่ถ้วน
มาดาระสเนค, บลูแฟงค์, เกรทกริซลี
คงเป็นผลจากการรวมตัวอัดกันอยู่ในที่แคบ พวกมอนสเตอร์ก็เลยกำลังโจมตีกันและกันเอง
แต่ในพริบตาที่สัมผัสถึงกลิ่นอายของผมที่เป็นมนุษย์ จิตสังหารของพวกมันก็พลันเพ่งตรงดิ่งมายังผมในทันที
“““ กรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร! ”””
เหล่ามอนสเตอร์พากันประดาหน้าคุกคามเข้ามาใส่ผมในคราเดียว
“ อย่ามาขวาง! ”
“““ ก๊ะ!? ”””
ผมฟาดฟันศัตรูทั้งหลายให้หงายคว่ำไปด้วยการเคลื่อนไหวที่เล็กน้อยที่สุด
นี่แหละคือพลังอำนาจสุดอิหยังวะของ <มารตัณหา> ที่ก้าวขึ้นไปถึงเลเวล 78
“ กำจัดตัวที่อยู่แถวนี้ไปเรียบร้อยหมดแล้วก็จริง……แต่มันยังไงกันแน่น่ะ ”
ดูจากสถานการณ์ ก็มั่นใจได้เลยว่าต้องเกิดการอุบัติของมอนสเตอร์จำนวนมากขึ้นแน่นอน
แต่ช่วงเวลาที่เปลี่ยนจากระดับ ‘มีมอนสเตอร์โผล่มาแถวทุ่งนาบ่อยครั้ง’ จนกลายเป็นแบบนี้มันก็จะสั้นเกินเหตุไปแล้ว
ทางหมู่บ้านมีกำลังรบสำหรับใช้ป้องกันตัวเองจากมอนสเตอร์อยู่แล้วเป็นทุนเดิม แถมนอกจากพวกผม ก็ยังมีปาร์ตี้นักผจญภัยกลุ่มอื่นๆ นำหน้ามาก่อนแล้วด้วย
จะบอกว่าจู่ๆ มอนสเตอร์ที่สามารถทะลวงการป้องกันดังกล่าวและถล่มหมู่บ้านให้ย่อยยับได้ก็โผล่เข้ามาคุกคามอย่างกะทันหันงั้นเหรอ บ้าบอคอแตกผิดหลักสามัญสำนึกสิ้นดี
ทั้งเรื่องการปรากฎตัวของมอนสเตอร์ที่แปลกไปก็ดี มันเกิดบ้าอะไรขึ้นในบริเวณแถวนี้กันแน่น่ะ
“ ……ไม่สิ ที่สำคัญกว่านั้นก็คือต้องรีบหาคนที่เหลือรอดก่อน……! ”
กวาดตามองไปรอบแล้วก็พบว่าถึงแม้ความเสียหายของหมู่บ้านจะยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่พบเห็นคนเจ็บหรือคนตายนอนกองอยู่เลยซักนิด
ถึงจะมีร่องรอยการต่อสู้แต่เลือดที่กระเซ็นเปื้อนก็ไม่ได้มากมาย ต้องมีเหล่าผู้คนที่หลบหนีไปยังสถานที่อื่นเหมือนเด็กสาวคนนั้นอยู่แน่
……แต่ในอีกขณะนึง ซากศพของมอนสเตอร์ก็มีจำนวนค่อนข้างน้อยเหมือนกัน
หรือก็คือยังมีจำนวนที่มากพอจะถล่มให้หมู่บ้านแห่งนี้ที่มีความกว้างมากพอประมาณย่อยยับได้หลงเหลืออยู่ที่ไหนซักแห่งแน่นอน—เป็นในยามที่ผมซึ่งคิดเช่นนั้นเฝ้าระแวงพลางก้าวเท้าตรงไปเรื่อยๆ นั่นเอง
—โอวววววววววววววววววววววววววว!
“ อึก!? ”
ที่ได้ยินเสียงคำรามของมอนสเตอร์อันประหนึ่งสั่นสะเทือนผืนดินดังมาจากลึกๆ เข้าไปในหมู่บ้าน
ผมรีบวิ่งตรงไปยังทิศทางนั้น
ยิ่งก้าวตรงไปมากเข้าเท่าไหร่ เสียงอสูรอันดุร้ายของมอนสเตอร์และเสียงการต่อสู้ก็ยิ่งดังก้องชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ,
“ นั่นมัน……! ”
ที่แล่นเข้ามาในสายตาของผม ก็คืออาคารอันแข็งแรงทนทานที่ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางของหมู่บ้าน
และเหล่ามอนสเตอร์จำนวนมากมายมหาศาลที่ห้อมล้อมรอบอาคารดังกล่าว
นอกจากจะสุมกันเป็นจำนวนมากเกินหลักร้อยไปสบายๆ แล้วไม่พอ ยังจะมีมอนสเตอร์ที่เทียบชั้นได้กับเลเวล 50 หรือ 60 กลาดเกลื่อนไปหมดเลยอีกต่างหาก
“ บัดซบ! แบบนี้ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่หมด! จะต้านไม่ไหวแล้วนะเว้ย! ”
“ ไม่คิดเลยว่าการให้เด็กกับผู้หญิงลี้ภัยมาหลบที่นี่ตามที่เคยชินมันจะก่อให้เกิดผลเสียแบบนี้! ใครมันจะไปเดาได้วะว่าจู่ๆ จะมีมอนสเตอร์โผล่กันมายั้วเยี้ยแบบไม่เปิดช่องให้หนี……เป็นไปได้ซะที่ไหนกัน! ”
“ ระยำเอ๊ย! อย่างน้อยก็ต้องปกป้องเมียกับลูกๆ เอาไว้ให้ได้……! ”
นักรบของหมู่บ้านและเหล่าผู้คนที่เหมือนจะเป็นนักผจญภัยต่างใช้ดาบและเวทมนตร์ต่อสู้ตีโต้ ราวกับพยายามป้องกันอาคาร
แต่สถานการณ์ก็ช่างเป็นรองเหมือนน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ
สถานการณ์รบดูท่าจะเลวร้ายมาก คนที่ล้มหงายมีมากยิ่งกว่าคนที่กำลังต่อสู้อยู่ซะอีก
แนวรบใกล้จะพังทลายเต็มที
ไม่มีเวลาให้มัวโอ้เอ้ลังเลอยู่เลยแม้แต่น้อยนิดเดียว
“ แปลงรูปทรง! แปลงคุณลักษณะ! ”
ผมเปิดใช้สกิลสุดจัญไรโดยไม่มีแม้แต่จะหวั่นไหว
โป๊กกเปร๊าะเปรี๊ยะ!
พริบตานั้น พลันมีแท่งไม้โลหะโด่พุ่งออกมาจากกางเกงแถวบริเวณเอว
ดุ้นที่แปลงสภาพกลายเป็นอะดามันไทต์ได้เปลี่ยนรูปทรงของปลายให้กลายเป็นด้ามดาบเข้ามาอยู่ในสภาพที่เหมาะมือผมซะเหลือเกิน
“ แยกถอน! ”
ชักเอาดุ้นที่แปลงสภาพให้ผงาดออกมา
ที่ถูกกำอยู่ในมือของผมนั่นก็คือ อาวุธเปลี่ยนแปลงอิสระซึ่งทำขึ้นมาจากอะดามันไทต์แร่โลหะอันแข็งแรงทนทานมากที่สุด—ดาบดุ้นคุณชาย
ผมเหวี่ยงดาบเล่มนั้นเป็นวงกว้าง สร้างอิมเมจขึ้นมาภายในหัว
กล่าวคือ ทำการแปลงให้อยู่ในรูปทรงที่เฉือนร่างของเหล่ามอนสเตอร์จำนวนมหาศาลได้ในฉับเดียว
“ อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา! ”
ฉับบบบบบบบบบบบ!
““““ ก๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!? ””””
เหล่ามอนสเตอร์ที่ห้อมล้อมรอบอาคารกว่าหลายสิบตัวพลันสิ้นลมไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ถูกดาบดุ้นคุณชายที่ยืดขยายจนบางจ๋อยสะบั้นท่อนบนกับท่อนล่างให้ขาดออกจากกัน ตายอนาถในสภาพตัวขาดครึ่ง
และการโจมตีด้วยดาบดุ้นคุณชายที่องอาจในความคมกริบก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น
เหวี่ยงดาบซ้ำออกไปใหม่โดยไม่มีหยุดยั้ง กวาดให้เหล่ามอนสเตอร์ที่ห้อมล้อมรอบอาคารล้มคว่ำอย่างต่อเนื่อง
แต่จำนวนของอีกฝ่ายก็มีมากมายไม่หมดสิ้น
“““ กรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร! ”””
เหล่ามอนสเตอร์ที่สังเกตถึงการลอบโจมตีพลันเข้ามาล้อมรอบตัวผมเอาไว้แล้วถาโถมคุกคามเข้ามาใส่จากทั่วทุกมุมทิศแบบไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งโจมตีอย่างกะทันหันดั่งกับเจาะช่องโหว่ของดาบดุ้นคุณชายที่ยืดขยายยาวไกลของผม
แต่ก็เปล่าประโยชน์
เพราะดุ้นของผมมันไม่ได้มีรูปทรงตายตัวยังไงล่ะ
“ แปลงรูปทรง! ”
พริบตานั้น ดุ้นของผมก็พลันหดตัว ก่อนที่จะแตกหน่อระโยงระยางออกมาเป็นใบมีดหลากหลายเล่ม
หากให้เปรียบเปรยแล้วก็คง มีรูปร่างประหนึ่งคราดที่แผ่กระจายเป็นวงกว้างสุดขีด
รูปทรงที่สามารถฉีกกระชากเป็นวงกว้างได้พร้อมกันในดาบเดียว
แล้วผมจึงหมุนตัวทั้งอย่างนั้น กระแทกกระทั้นความคมกริบของอะดามันไทต์อัดเข้าไปใส่ฝูงมอนสเตอร์!
“““ กี๊—!? ”””
แม้เป็นการโจมตีแบบลวกๆ พอควร แต่ดาบดุ้นคุณชายที่ฉีกกระชากได้กระทั่งเปลือกนอกอันทนทานของอาร์เมอร์แอนท์ พลาทูนก็สำแดงความเป็นใหญ่จนไม่มีมอนสเตอร์ตัวใดในที่แห่งนี้สามารถทานทนได้เลย
จะกรงเล็บหรือคมเขี้ยวที่หนาแน่นแหลมคมขนาดไหนยังไง เมื่ออยู่ต่อหน้าดุ้นของผมแล้วไซร้ก็มีค่าเปรียบเสมือนเศษกระดาษดีๆ
“ ย่าาาาาาาาาาาา! ”
ผมบุกทะลวงซึ่งหน้าเข้าไปในฝูงมอนสเตอร์ แล้วจึงฟาดฟันด้วยดุ้นที่แตกหน่อไม่ยั้ง
ระวังแค่ไม่ให้เลือดที่สาดมาจากมอนสเตอร์ซึ่งสิ้นลมอย่างง่ายดายกระจายมาโดนตา แล่นทะยานฝ่าระหว่างมอนสเตอร์ที่อัดตัวเป็นก้อน แค่ทำเพียงเท่านั้น มอนสเตอร์จำนวนมากมายก็ถูกแปลงสภาพกลายเป็นเศษเนื้อที่พูดอะไรไม่ได้
“ นะ นั่นมันอะไรน่ะ……!? ดาบมารเรอะ!? ”
“ รอดแล้ว งั้นเหรอ……? ”
กำลังหนุนที่ปรากฎขึ้นอย่างกะทันหันได้ทำให้เหล่าชาวบ้านเปล่งเสียงอย่างตะลึงงัน
แต่พวกเขาก็ผงะอึ้งค้างอยู่เช่นนั้นเพียงไม่กี่วินาที
“ หะ เฮ้ยอย่ามัวเหม่ออยู่สิวะ! ถ้าเกิดเขาคนนั้นแพ้ขึ้นมาละก็คราวนี้จบเห่แน่นอนเลยนะเว้ย! พวกเราก็ไปร่วมช่วยด้วยให้พลิกกลับมาได้เปรียบกันเหอะ! ”
เพราะเห็นจำนวนมอนสเตอร์ลดน้อยลงอย่างยิ่งใหญ่ พวกเขาก็เลยมีกะใจฮึกเหิมกันขึ้นมาในรวดเดียวละมั้ง
เพราะมีการสนับสนุนอันพึ่งได้ของพวกเขาร่วมด้วย ในไม่นานหลังจากนั้นพวกผมจึงจัดการให้เหล่ามอนสเตอร์นับไม่ถ้วนที่กระจายอยู่รอบหมู่บ้านย่อยยับลงไปได้ด้วยดีแหละ