ทันทีที่เซี่ยอันหรานกลับบ้าน เธอก็มองเห็นฉู่เสี่ยวเสี่ยวยืนอยู่ที่ประตูบ้าน มองเธอด้วยสีหน้าที่เสียใจ
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวหดตัว ริมฝีปากซีดเซียว จมูกเล็กๆของเธอแดงเล็กน้อย และดวงตาก็ยังมีน้ำตา เธอยังคงเป็นคนน่าสงสารตัวน้อยเมื่อเช้านี้ แม้กระทั่งตอนที่พูดเธอก็ยังตัวสั่นเล็กน้อย:“ อัน…อันหราน ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว แม่ โอ้ ไม่…..คุณผู้หญิงเซี่ยและคุณท่านเซี่ยและคุณชายหมิงเซวียนกำลังรอคุณอยู่เลย วันนี้ฉันตั้งใจทำอาหารที่คุณชอบเป็นพิเศษ ถือว่าเป็นน้ำใจจากฉันเล็กน้อยก่อนจากไปละกัน”
ทำอาหาร ? ฉู่เสี่ยวเสี่ยวทำอาหาร ? ใม่ใช่คนรับใช้ทำ ?
เซี่ยอันหรานแอบหัวเราะในใจ แต่สีหน้าก็ไม่แสดงอาการใดๆ เธอพยักหน้าเบาๆ เดินเข้าไปในห้องอาหาร และยิ้มพูดกับคนในครอบครัวว่า:“ ฉันกลับมาแล้ว วันนี้ฉันหิวจะแย่แล้ว ต้องกินเยอะหน่อยแล้ว !”
กู้เหม่ยอวี้ยิ้มและพยักหน้ารับเซี่ยอันหราน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“ คุณก็โลภไปแล้ว !อายุตั้งเท่าไหร่แล้ว ยังทำตัวราวกับเด็ก อันหรานกลับมาแล้ว งั้นก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า วันนี้เป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์ ฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็กำลังจะออกไปจากตระกูลเซี่ย วันนี้หนึ่งคือเป็นวันเทศกาล และสองถือเลี้ยงส่งฉู่เสี่ยวเสี่ยวไป ทุกคนมาฉลองเทศกาลนี้อย่างมีความสุขกันเถอะ !”
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเหลือบมองไปที่เซี่ยหมิงเซวียนที่กำลังคีบผักให้กับเซี่ยอันหราน เธอกำมือที่ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะแน่น เล็บจิกแน่นไปหมด เธอแทบจะไม่ยิ้ม:“ใช่ ใช่แล้ว ทุกคนจะต้องมีความสุขกับเทศกาลนี้ ”
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวพูดพลางกระพริบตา และน้ำตาก็ร่วงลงมา มันเป็นเทศกาล ฉู่เสี่ยวเสี่ยวร้องไห้แบบนี้ มันทำให้รู้สึกหงุดหงิดมาก เซี่ยจวินและเซี่ยหมิงเซวียนต่างก้มหน้าลง กู้เหม่ยอวี้ก็ขมวดคิ้ว และตอนนี้กู้เหม่ยอวี้ก็รู้สึกเสียใจมาก บางทีเธอไม่ควรให้สัญญากับฉู่เสี่ยวเสี่ยวว่าจะให้อยู่ต่อจนถึงหลังเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วค่อยไป มันก็คงจะไม่เป็นแบบนี้ จนทำให้ทุกคนไม่มีความสุข
คนโต๊ะหนึ่งที่ถูกฉูเสี่ยวเสี่ยวร้องไห้จนไม่มีอารมณ์ ก็ได้ยินคนรับใช้มาบอกว่า:“คุณชาย คุณผู้หญิง คุณถังมาแล้ว”
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเป็นเพียงเด็กกำพร้ายากจนและอ่อนแอ ตระกูลเซี่ยก็ไม่เต็มใจให้เธออับอาย แต่สำหรับถังรั่วชิวที่พายเรือสองลำแล้ว คนตระกูลเซี่ยก็ไม่ได้สุภาพด้วยมากนัก
เซี่ยจวินขมวดคิ้ว และวางตะเกียบลงบนโต๊ะ:“บ้าอะไรกัน พวกเราตระกูลเซี่ยจะฉลองเทศกาลด้วยกัน ทำไมถึงมีคนไม่รู้กาลเทศะเข้ามา”
ในใจกู้เหม่ยอวี้ไม่ชอบถังรั่วชิว แต่ก็ยังผลักไปที่เซี่ยจวินและพูดโน้มน้าวเบาๆว่า:“ พูดอะไรน่ะ ? ทำไมเทศกาลแบบนี้ถึงต้องไม่มีความสุขล่ะ ? การต้อนรับแบบนี้ มันจะดูไม่ดีสำหรับครอบครัวของเขา ถ้ามาที่นี่ด้วยความจริงใจ พวกเราก็ควรปฎิบัติต่อเขาด้วยความสุภาพ นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะปฎิบัตินะ”
เซี่ยจวินสูดหายใจเข้าลึกๆและพูดเสียงเคร่งขรึมว่า:“ งั้นก็เชิญคุณถังเข้ามา”
เมื่อคนรับใช้ฟังคำสั่งของเซี่ยจวิน ก็รีบไปพาถังรั่วชิวเข้ามา
เมื่อถังรั่วชิวเข้ามาในห้องอาหาร สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือเซี่ยอันหราน ถึงแม้ชุดของเซี่ยอันหรานจะเรียบง่าย และไม่ใช่สีชมพู แต่ในทางตรงกันข้ามใบหน้าของเธอก็สดใสมากราวกับดอกโบตั๋นที่กำลังเบ่งบาน และฉู่เสี่ยวเสี่ยวนั้นก็ดูนุ่มนวลและอ่อนแอเหมือนดอกหญ้า โดยปกติแล้วเธอจะถูกมองว่าเป็นสาวงาม แต่ตอนนี้ต่อหน้าเซี่ยอันหรานเธอกลับไม่อยู่ในสายตาเลย
เมื่อถังรั่วชิวเห็นแววตาที่สงใสของเซี่ยอันหรานที่เงยขึ้นมองเขา หัวใจของเขาก็เต้นรัวสองครั้ง เมื่อก่อนเซี่ยอันหรานเคยรบกวนถังรั่วชิวมาก่อน ทำให้เขาคิดเสมอว่าเซี่ยอันหรานคือสมบัติของเขา ความงามและภูมิหลังครอบครัวของเซี่ยอันหรานเป็นเครื่องประดับสำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจ แม้จะเป็นความภาคภูมิใจของผู้ชายเอง เขาจึงอยากส่งมอบความรู้สึกของเขาให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยว และไม่เต็มใจที่จะแบ่งให้เซี่ยอันหรานแม้แต่ครึ่งเดียว
ด้วยเหตุนี้ถังรั่วชิวจึงได้รับศักดิ์ศรีเพียงเล็กน้อย แม้ว่าธุรกิจของตระกูลถังของพวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย และแม้ว่าพวกเขาจะต้องการการสนับสนุนจากตระกูลเซี่ย แต่ทั้งหมดนี้ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ตระกูลเซี่ยขอร้องตระกูลถัง ด้วยเหตุผลว่าตระกูลเซี่ยมีลูกสาวที่หน้าไม่อาย ที่หมกมุ่นอยู่กับเขา และเต็มใจที่จะทำเพื่อเขา
เซี่ยอันหรานเป็นเหมือนดอกโบตั๋นที่เติบโตในสวนของถังรั่วชิว เมื่อตอนที่อยู่ในบ้านของเขา เขาไม่สนใจเลย แต่ตอนที่ดอกไม้นี้ถูกนำออกไปจากบ้านของเขา เขาถึงค้นพบว่าดอกไม้นี้มาค่าขนาดไหน
ถังรั่วชิวจ้องไปที่ลำคอขาวและยาวของเซี่ยอันหราน เอวที่เรียวและอ่อนนุ่ม ดวงตาที่สดใสดึงดูดคน ริมฝีปากที่เล็กและอวบอิ่ม จากนั้นเขาก็ค้นพบว่าเซี่ยอันหรานสวยงามราวกับพระจันทร์ และสว่างไสวราวกับดวงาทิตย์ เขาเริ่มรู้สึกเสียใจ ที่ไม่ได้ใช้ประโยนช์จากการเชื่อฟังของเซี่ยอันหราน และรีบพาเซี่ยอันหรานขึ้นเตียง
แต่ตอนนี้มันก็ยังไม่สายเกินไป ถังรั่วชิวเริ่มตั้งหน้าตั้งตารอคืนนี้ แต่เมื่อเซี่ยอันหรานที่ถูกวางยาได้เริ่มยอมร่วมเตียงกับเขาแล้ว ตอนนั้นมันจะรู้สึกปิติยินดีขนาดไหน เมื่อคิดถึงตรงนี้ ถังรั่วชิวก็มองไปที่ดวงตาของเซี่ยอันหรานอย่างกระตือรือร้น และลมหายใจก็เพิ่มขึ้น
ถ้าหากถังรั่วซิวต้องการมีความสัมพันธ์กับเซี่ยอันหราน เพียงเพราะต้องการการสนับสนุนจากตระกูลเซี่ย แต่ตอนนี้ถังรั่วชิวต้องการที่จะได้เซี่ยอันหรานจริงๆ
“แค่ก…..”เซี่ยหมิงเซวียนเห็นถังรั่วชิวจ้องมองเซี่ยอันหราน สายตาที่จ้องมองเซี่ยอันหรานนั้นแทบอยากจะกดเซี่ยอันหรานให้อยู่ใต้ตัวเอง เขาจึงขมวดคิ้ว และกระแอมออกมาอย่างไม่พอใจและพูดว่า:“คุณถังไม่อยู่บ้านฉลองเทศกาล มาหาพวกเราตระกูลเซี่ยทำไม ?”
ถังรั่วชิวรีบวางของขวัญที่เขานำมาไว้บนโต๊ะ:“ผมได้ยินมาว่าคุณลุงเซี่ยชอบดื่มเหล้า ผมจึงตั้งใจนำเหล้าชั้นดีมาให้สองขวด เพื่อให้คุณลุงเซี่ยได้ลองชิมดู”
พูดไป ถังรั่วชิวก็ใช้หางตามองไปที่เซี่ยอันหราน เห็นเซี่ยอันหรานกำลังใช้มือขาวๆของเธอจับขาปูด้วยคีมดึงปู ด้วยมือที่ขาวของเธอทำให้ท่าทางการทานปูของเธอสง่างดงามและดูเป็นเด็ก ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป แกะเนื้อปูให้เซี่ยอันหราน และพูดอย่างอ่อนโยนว่า:“ ระวังหน่อย อย่าให้โดนมือของคุณ”
เซี่ยอันหรานเหล่ไปที่เนื้อปูที่แกะแล้ว และนึกไปถึงฉากที่ถังรั่วชิวกอดฉู่เสี่ยวเสี่ยวและชี้มาที่จมูกของเธอไล่เธอออกไป เซี่ยอันหรานหัวเราะเยาะ และโยนถ้วยที่มีเนื้อปูไปที่หน้าของฉู่เสี่ยวเสี่ยวและพูดว่า:“ ความอ่อนยอนของคุณถังมอบให้ผิดคนแล้ว คุณควรมอบให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวถึงจะถูก พวกเราเลิกกันแล้ว เป็นเพราะคุณถังนอกใจไปฉู่เสี่ยวเสี่ยวแล้ว”
ถังรั่วชิวถูกแทงด้วยคำพูดของเซี่ยอันหราน เขาขมวดคิ้วทันทีและค่อยๆถอนมือออก เขากัดฟันแน่น:“เซี่ยอันหรานตอนนี้คุณหยิ่งพยองมากนะ เมื่อถึงตอนกลางคืน คุณจะต้องขอร้องให้ผมนอนกับคุณ !”
คำสอนของกู้เหม่ยอวี้ไม่อนุญาติให้ทำตัวหน้าเกลียดกับแขก แม้ว่าในใจเธอก็ไม่ชอบการมาของถังรั่วชิวก็ตาม แต่เธอก็ยังคงขมวดคิ้วและตำหนิเซี่ยอันหรานเบาๆว่า:“ อันหราน ไม่ต้องวุ่นวายแล้ว มาแล้วก็ถือว่าเป็นแขก !”
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวลุกขึ้นยืนและกระซิบทันทีว่า:“ ในเมื่อพี่รั่วชิวมาแล้ว ถ้างั้นฉันก็รินเหล้าให้กับทุกคนเอง และถือว่าเป็นการบอกลาของฉัน…….”
ยังไม่ทันพูดจบ เสียงของฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็ติดขัด หลังจากที่มองไปที่เซี่ยหมิงเซวียน เธอก็รีบเช็ดน้ำตาและลุกขึ้นรินเหล้าให้กับคนตระกูลเซี่ยทุกคน
ถังรั่วชิวหยิบแก้วเหล้าและลุกขึ้นพูดว่า:“ ผมขอดื่มให้กับทุกคน ผมหวังว่าต่อจากนี้พวกเราจะเข้ากันได้ดี”
สีหน้าของเซี่ยจวินมืดมนมากยิ่งขึ้น แต่ตระกูลเซี่ยไม่ได้มีนิสัยชอบไล่แขก เขาจึงจิบเล็กน้อย กู้เหม่ยอวี้กับเซี่ยอันหราน และเซี่ยหมิงเซวียนล้วนไม่มีใครหยิบแก้ว
เซี่ยอันหรานรู้ว่าถังรั่วชิวและฉู่เสี่ยวเสี่ยวทั้งสองเป็นคนที่น่ารังเกียจเพียงใด ไม่เชื่อเลยว่าคืนนี้พวกเขาแปลกมาขนาดนี้ ไม่มีแผนอื่น พวกเขาทั้งสองเหล่มองกันอย่างระมัดระวัง ถังรั่วชิวรินเหล้าดื่มแก้วต่อแล้ว และพูดเสียงดังว่า:“ ตระกูลเซี่ยช่วยเหลือพวกเราตระกูลถังเยอะมาก เหล้าแก้วนี้ ผมขอขอบคุณตระกูลเซี่ยทุกคน………”
ถังรั่วชิวดื่มเหล้าสองสามแก้วติดกัน จากนั้นก็ล้มลงบนเก้าอี้ เขาเมาร้องไห้และพูดว่า:“ผมขอบคุณตระกูลเซี่ย จริงๆ ผมจะไม่มีวันลืมบุญคุณของตระกูลเซี่ยที่มีต่อตระกูลถังของพวกเราเลย”
กู้เหม่ยอวี้เห็นถังรั่วชิวเมาแล้ว จึงรีบพูดกับเซี่ยหมิงเซวียนว่า:“ หมิงเซวียน รีบช่วยคุณถังกลับบ้านเร็ว”
ถังรั่วชิวส่ายหัว และใช้แรงผลักเซี่ยหมิงเซวียน:“ ไม่ ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมจะไม่ไปจากตระกูลเซี่ย”
กู้เหม่ยอวี้เป็นคนใจอ่อน และคิดดีกับคนอื่นอยู่เสมอ เธอหันไปหาเซี่ยจวินถอนหายใจและพูดว่า:“ถังรั่วชิวเด็กคนนี้ นับว่ายังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง ในเมื่อเขาเมามากขนาดนี้ หมิงเซวียนพาถังรั่วชิวไปพักที่ห้องรับรองแขกก่อนเถอะ”
เซี่ยหมิงเซวียนขมวดคิ้ว โดยไม่เต็มใจที่จะให้ถังรั่วชิวอยู่ที่บ้าน:“ แม่ ให้คนขับรถไปส่งเขากลับก็ได้”
กู้เหม่ยอวี้ถอนหายใจอีกครั้ง:“ ตอนนี้เขาเป็นแบบนี้แล้ว พวกเราจะส่งเขากลับไปได้ยังไง ? ให้อยู่ที่นี่คืนหนึ่งเถอะ พรุ่งนี้พอเขาตื่นแล้ว ก็คงจะไม่อยู่ที่นี่แล้วล่ะ ”
เซี่ยหมิงเซวียนขมวดคิ้ว แม่ของเขาคนนี้อะไรก็เก่งไปหมด แต่เธอใจอ่อนเกินไป ยากที่จะทนดูคนอื่นทุกข์ทรมาน แต่เซี่ยหมิงเซวียนไม่ต้องการขัดแม่ของตัวเอง จึงทำได้เพียงพยักหน้า ขมวดคิ้วและพาถังรั่วชิวไปห้องพัก
ในชาติที่แล้วเซี่ยอันหรานเป็นภรรยาของถังรั่วชิว ถึงแม้ชาติที่แล้วเธอจะตาบอด ที่ไม่รู้จักธาตุแท้ของถังรั่วชิวและฉู่เสี่ยวเสี่ยวของชายหญิงชั่วคู่นี้ แต่ไม่ว่าถังรั่วชิวจะเมาหรือไม่ เธอก็ยังมองออก ถังรั่วชิวไม่ได้เมาเลย ถ้างั้นทำไมขึงแกล้งเมาแล้วต้องการอยู่ที่ตระกูลเซี่ยล่ะ ?
เซี่ยอันหรานหันไปมองฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่กำลังกินปูอย่างระมัดระวัง เซี่ยอันหรานหรี่ตาของเธอ เธออยากดูว่าคืนนี้ถังรั่วชิวและฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะแสดงอะไร !
หลังจากความวุ่นวายของถังรั่วชิว คนตระกูลเซี่ยก็ไม่ได้ทานข้าวกันไม่อิ่ม และรีบกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง เซี่ยอันหรานนอนอยู่บนเตียงในห้องนอน เธอพลิกดูนิตยสารพลางจ้องมองไปที่ประตู
“อันหราน……”ผ่านไปไม่นาน ฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็นำชาขึ้นมาสองแก้ว แล้วผลักประตูห้องของเซี่ยอันหรานให้เปิดออก
เมื่อเข้ามาในห้อง ฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็นำแก้วชาไปวางไว้บนโต๊ะอย่างระมัดระวัง และพูดอย่างอายๆว่า:“ อันหราน นี่เป็นชานมที่ฉันชงให้คุณ”
“ลำบากคุณแล้วจริงๆ”เซี่ยอันหรานยิ้มและลุกขึ้นยืน เธอก้มศีรษะมองไปที่ชาทั้งสองแก้ว และกำลังจะยื่นมือไปที่แก้วด้านซ้าย
“เดี๋ยว รอเดี๋ยว……….”
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวหยุดเธอทันที:“ อันหราน แก้วนี้ไม่ใช่ของคุณ คุณจะเป็นดาราอยู่แล้ว จะดื่มนมที่มีรสชาติเข้มขนาดนี้ไม่ได้ ดื่มอีกแล้วหนึ่งเถอะ แก้วนั้นไม่ใส่เนย ดื่มแล้วไม่ทำให้อ้วน”
เซี่ยอันหรานแสยะยิ้มมุมปาก ถ้าหากเธอเป็นเด็กสาวที่ไม่รู้อะไรเลยในชาติที่แล้ว คงยังถูกฉู่เสี่ยวเสี่ยวหลอก แต่ตอนนี้เธอได้เห็นสีหน้าธาตุแท้ของถังรั่วชิวและฉู่เสี่ยวเสี่ยวแล้ว คืนนี้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวและถังรั่วชิวทำตัวผิดปกติ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำอะไรกับชาในแก้วขวานั้นอย่างแน่นอน !
MANGA DISCUSSION