กู้เหม่ยอวี้ได้ยินคำที่เซี่ยอันหรานพูดก็สุขไปทั้งหัวใจ เดิมทีเธอเองก็ไม่ชอบถังรั่วชิวอยู่แล้ว รู้สึกว่าถังรั่วชิวเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะเซี่ยอันหรานชอบเขา จึงยอมรับเรื่องความสัมพันธ์คบหากันของพวกเขาทั้งคู่ แต่ว่าตอนนี้จู่ๆ เซี่ยอันหรานก็ไม่ชอบถังรั่วชิวแล้ว สำหรับกู้เหม่ยอวี้เรื่องนี้ช่างเป็นสิ่งที่น่ายินดีเสียเหลือเกิน
แม้ว่าภายในใจของกู้เหม่ยอวี้จะดีใจ แต่ก็ฟาดฝ่ามือลงไปบนตัวของเซี่ยอันหรานเบาๆ หนึ่งที “อย่าพูดลับหลังคนอื่น ต่อให้ลูกไม่ชอบเขาแล้ว ก็ต้องหาโอกาสเข้าไปคุยกับเขาดีๆ แต่ช่างมันเถอะ ลูกขึ้นไปพักผ่อนบนบ้านแล้วไปเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์ตอนบ่ายนี้เถอะ เดี๋ยวแม่เอาปูขนไปให้เขาเอง…….”
คำพูดนี้ของกู้เหม่ยอวี้ก็เพื่อจะลองใจว่าเซี่ยอันหรานไม่ชอบถังรั่วชิวแล้วจริงๆ หรือเปล่า การตัดสินใจที่จะเลิกกับถังรั่วชิว ก็ยังคงเป็นเรื่องอ่อนไหวสำหรับเด็กผู้หญิงอยู่
เซี่ยอันหรานโผเข้าไปกอดกู้เหม่ยอวี้แล้วหอมลงไปบนแก้มของท่าน จากนั้นจึงยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ขอบคุณคุณแม่นะคะ”
หลังจากนั้นเซี่ยอันหรานก็ยิ้มแล้ววิ่งขึ้นชั้นบนไปเลย
กู้เหม่ยอวี้เห็นว่าเซี่ยอันหรานไม่สนใจถังรั่วชิวแล้วจริงๆ เธอก็ยิ้มแล้วหยิบเอาปูขนออกมา หลังจากที่ยื่นไปให้ถังรั่วชิวแล้ว ก็ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ฝากขอบคุณ คุณพ่อแล้วก็คุณแม่ของเธอด้วยนะ แต่ว่าต่อไปนี้ก็ไม่อยากจะรบกวนคุณพ่อคุณแม่เธอสำหรับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้แล้วล่ะ ครอบครัวฉันรวมตัวพร้อมหน้าพร้อมตากันเอง แล้วก็จัดเตรียมขนมไหว้พระจันทร์กันเองได้”
กู้เหม่ยอวี้บอกนัยออกไปว่าตระกูลเซี่ยและตระกูลถังทั้งสองตระกูลนั้น ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งถึงการรวมตัวกันของครอบครัวอะไรเลย ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะกู้เหม่ยอวี้ถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีล่ะก็ เธอก็แทบจะพูดออกไปตรงๆ แล้วว่า ต่อไปนี้ถังรั่วชิวไม่ต้องมาที่ตระกูลเซี่ยอีกต่อไปแล้ว
ถังรั่วชิวต้องการที่จะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฉู่เสี่ยวเสี่ยว จึงไม่ทันได้คิดถึงนัยที่สื่อออกมาจากคำพูดของกู้เหม่ยอวี้ ถึงขนาดที่ว่าไม่ได้กล่าวขอบคุณออกไป หยิบกล่องปูขนแล้วก็เดินจากออกไปเลย
กู้เหม่ยอวี้มองดูแผ่นหลังของถังรั่วชิวแล้วก็เลี่ยงที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ “เด็กคนนี้ไม่มีมารยาทเลยจริงๆ ยังโชคดีที่อันหรานตาสว่างขึ้นมาเสียก่อน”
เซี่ยอันหรานอยู่ข้างบนมองดูถังรั่วชิวเดินออกจากตระกูลเซี่ยไป เห็นว่าถังรั่วชิวเหวี่ยงกล่องปูขนเข้าไปในรถ จากนั้นก็รีบออกรถตามฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่กำลังเดินร้องไห้อยู่ริมถนน เซี่ยอันหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มออกมา
ถังรั่วชิวตามไปถึงตัวของฉู่เสี่ยวเสี่ยว จากนั้นก็รีบลงจากรถ แล้วอุ้มฉู่เสี่ยวเสี่ยวขึ้นรถไป แล้วจึงเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง “เสี่ยวเสี่ยว เธอเป็นอะไร พวกตระกูลเซี่ยรังแกเธออีกแล้วใช่ไหม”
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวส่ายหน้า ร้องไห้แล้วพูดออกมา “พี่รั่วชิว พี่ไม่ต้องสนใจหรอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แล้วทำไมเธอถึงร้องไห้แบบนี้ล่ะ ครั้งนี้เป็นใครกัน เป็นเซี่ยอันหราน หรือว่าคุณผู้หญิงเซี่ย…….หรือว่าเซี่ยหมิงเซวียน หรือว่าเซี่ยหมิงเซวียนจะทำแบบนั้นกับเธออีก…….” ถังรั่วชิวคิดที่จะพูดต่อแต่ก็หยุดนิ่งไป แววตาที่ทอดมองฉู่เสี่ยวเสี่ยวเต็มไปด้วยความสงสาร
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่น้ำตาเอ่อล้นอยู่ที่ขอบตาก็ส่ายหน้าไปมา “พี่รั่วชิว ทั้งหมดนี้ฉันผิดเอง ฉันก็เป็นแบบนี้แหละเพราะว่าฉันมันไม่มีพ่อแม่ พี่ไม่ต้องสนใจฉันหรอก พี่เองก็จัดการตระกูลเซี่ยไม่ไหวหรอก แล้วเซี่ยอันหรานกับพี่ยัง………”
“จริงๆ แล้วฉันก็ไม่ได้ชอบเซี่ยอันหราน!คนที่ฉันชอบก็คือ……..” ถังรั่วชิวมองไปที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยว แต่ก็หยุดชะงักไม่พูดต่อ
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวกระพริบตา หยาดน้ำตาไหลรินลงอาบแก้ม “พี่รั่วชิว พี่คิดว่าถ้าฉันไม่เรียนต่อแล้ว แต่ตั้งใจไปเป็นคนใช้ของตระกูลเซี่ยเลยจะเป็นอย่างไร”
ถังรั่วชิวขมวดคิ้วแน่น มองไปที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยว “นี่ตระกูลเซี่ยยื่นข้อเสนออะไรให้เธอกันเนี่ย”
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวส่ายหน้า พูดออกมาด้วยความศร้าโศกอย่างน่าสงสาร “ไม่ใช่ แต่ว่าถ้าจะให้ทนต่อไปเรื่อยๆ ฉันก็ไม่มีทางที่จะตั้งใจเรียนหนังสือได้เลย เซี่ยอันหรานออกไปเดินเล่นซื้อของ ฉันก็ต้องออกไปเป็นเพื่อนเธอ ช่วยเธอถือเสื้อผ้า เธออกไปเที่ยวเล่นสนุก ฉันก็ต้องไปเป็นเพื่อนเธอ คอยรินชาเสิร์ฟน้ำให้ วันนี้จู่ๆ เซี่ยอันหรานก็พูดขึ้นมาว่าอยากเป็นดารา คุณผู้หญิงเซี่ยก็บอกให้ฉันไปเป็นผู้ช่วยเธอให้หน่อย เพราะว่าฉันขาดเรียนมาเป็นเวลานาน จนทำให้สอบไม่ผ่านไปหนึ่งวิชาแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เรียนหนังสือไปยังไงก็ไม่รอด…….ถ้าอย่างนั้นก็เลี่ยง…..เลี่ยงไม่ให้เสียเงินไปมากกว่านี้จะดีกว่า หนี้ที่ฉันติดค้างตระกูลเซี่ยก็มีแต่จะมากขึ้น…….แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าจะชดใช้คืนยังไงให้หมดแล้ว”
เมื่อฉู่เสี่ยวเสี่ยวพูดมาถึงตรงนี้ ทันใดนั้นก็กัดริมฝีปากแน่น พูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า “แต่ว่าฉันยังอยากเรียนหนังสืออยู่ เซี่ยอันหรานอายุเท่ากันกับฉัน แต่ก็เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังไปแล้ว ฉันกลับยังสอบไม่ผ่าน ถ้าหากไม่ใช่เพราะต้องคอยไปเป็นเพื่อนเซี่ยอันหราน แล้วทำให้ฉันขาดเรียนบ่อยๆ ฉันก็ไม่มีทางที่จะสอบไม่ผ่านหรอก ไม่ใช่ว่าตั้งแต่เด็กฉันก็เรียนเก่งกว่าเซี่ยอันหรานเหรอ ทำไมพวกเขาต้องใข้วิธีนี้มากดดันฉันด้วย หรือมารังแกฉัน หรือว่าเพราะเซี่ยอันหรานเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเซี่ย เพราะอย่างนั้นแล้วทุกสิ่งอย่างของเธอเลยต้องดีที่สุดอย่างนั้นหรอกเหรอ”
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวร้องไห้โฮจนดูน่าสงสารไร้หนทางสู้ ถังรั่วชิวจึงอดที่จะโน้มตัวเข้าไปหาแล้วโอบรั้งให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวอยู่ในอ้อมกอดของตนไม่ได้ “ไม่ต้องร้อง ไม้ต้องร้องนะเสี่ยวเสี่ยว พอเธอร้อง หัวใจของฉันก็แตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว”
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวกลับพยายามทำท่าดิ้นขัดขืนผลักถังรั่วชิวออกไป “พี่ไม่ต้องมากอดฉัน พี่เป็นคนที่เซี่ยอันหรานชอบ พี่เป็นแฟนของเซี่ยอันหราน พี่เป็นคนที่ต่อให้ฉันชอบมากถึงขนาดไหน ก็ไม่สามารถที่จะครอบครองได้ พี่ปล่อยฉันนะ!”
“เอาอะไรมาบอกว่าเซี่ยอันหรานชอบฉัน พี่ก็แค่อยู่ภายใต้เซี่ยอันหราน คนที่พี่ชอบ………ก็คือเธอ!”
ถังรั่วชิวพูดออกมา แล้วจึงกอดฉู่เสี่ยวเสี่ยวให้กระชับมากยิ่งขึ้น ประทับรอบจูบลงไปบนริมฝีปากของเธออย่างแนบแน่น
MANGA DISCUSSION