ขอสายลมพารักคืนใจเธอ - บทที่ 13 ฉันอยู่ที่
“ทำไมจะไม่ใช่วะ” ผู้ชายคนที่โดนฉันโยนแก้วพูดขึ้นมา มองหน้าฉัน แล้วยิ้มแบบหน้าตาเลว ๆ พูดว่า “เมื่อมึงเป็นคนโยนของใส่กูใช่ไหม”
ฉันพยักหน้า และบอกว่า “อ๋อ ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ ขอโทษนะ”
“เหี้ย มึงจะหาตายใช่ไหม” ผู้ชายคนนั้นพูดไป แล้วยกไม้ที่อยู่ในมือจะตีฉัน ฉันกับน้ำทิพย์ยกตัวหลบไม้พ้อมกัน แล้วคว้าขวดเบียร์ที่อยู่ข้าง ๆ ฟาดใส่เขา
อีกหลานคนที่มาด้วยกันตั้งใจว่าจะมาดูเพื่อความสนุกเฉย ๆ แต่พอเห็นฉันกับน้ำทิพย์ต่อยคืน พวกเขาก็ยกไม้รุมตีเราสองคน
เราสองคนก็เคยฝึกวีชามา รับมือกับเด็ก ๆ พวกนี้ก็พอรับได้อยู่ ตอนตำรวจมา มีหลายคนได้รับบาดเจ็บแล้ว ดีที่บาดแผลไม่หนัก แล้วก็ถูกจับไปที่โรงพักกันหมด
ไปสอบปากคำที่โรงพัก ถึงเราสองคนเป็นผู้ที่ถูกทำร้าย แต่เราก็ต่อยคืนพวกเขาเหมือนกัน ก็เลยต้องติดต่อญาติมาประกันตัวกลับ
น้ำทิพย์เป็นเด็กกำพร้า นอกจากฉันแล้ว เธอไม่มีญาติ ๆ เพื่อน ๆ คนอื่นอยู่ในเมืองเจียงเฉิงอีกเลย ทีนี้ต้องอาศัยฉันแล้วแหละ
ปกติ ฉันจะไปมาแค่บริษัท หรือไม่ก็บ้านอาก๋ง ก็ไม่มีเพื่อนคนอื่นเหมือนกัน คิดตั้งนานว่าจะหาใครมาช่วยประกันตัวดี ก็เลยตัดสินใจว่าลองโทรหาคุณกวิน
เสียงสายโทรเพิ่งดังขึ้นสองครั้ง ทางโน้นก็รีบรับสายเลย แต่รับแล้วก็ไม่ออกเสียง ฉันไม่รู้จะเอ่ยพูดอะไรดี เลยพูดว่า “คุณหมอกวินคะ ขอโทษนะคะที่โทรมารบกวนป่านนี้ รบกวนช่วยฉันหน่อยได้ไหมคะ ฉันติดปัญหานิดนึงอ่ะค่ะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพัก คุณหมดมาหาฉันหน่อยได้ไหมคะ”
เห็นทางโน้นเงียบ ๆ ฉันก็เลยหยุดพูดก่อน และคิดว่านอกจากขอความช่วยเหลือจากคุณกวินแล้ว ฉันก็ไม่มีทางออกอื่นใดอีก ก็เลยพูดไปอีกว่า “คุณกวินคะ รบกวนหน่อยนะคะ”
สักพัก ทางโน้นเรียชื่อฉัน “ดารัณ!” น้ำเสียงเย็นชา
เสียงนี้เป็นเสียงของอาธิปนี่นา
ทำไมเขารับสายมือถือของคุณกวินได้
ฉันตกใจมากในขณะนั้น ฉันพูดติดอ่างขึ้นมาเลย ว่า “อาธิป คุณ…….”
“อยู่ตรงไหน” ฉันยังไม่พูดไม่จบ ทางโน้นก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาอีก
ฟังออกได้ว่าตอนนี้อาธิปอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก
“อยู่สภ.หวนเฉิงค่ะ” ฉันบอกตำแหน่งเสร็จ สายก็ถูกตัดไป
น้ำทิพย์มองหน้าฉัน ไม่รู้จะว่าฉันยังไงดี เธอกล่าวว่า “ทำไมแกไม่โทรหาอาธิปเลยอ่ะ หาเรื่องเองชัด ๆ”
ฉันจับหน้าผาก ยิ่งไม่รู้จะว่าตัวเองยังไงแล้วเหมือนกัน “ตอนที่ฉันออกมาจาบ้าน อาธิปเขาดื่มเมาแล้ว ฉันนึกว่าเขานอนหลับไปแล้ว ถึงจะโทรหาคุณกวิน คาดไม่ถึงว่า…….”
คาดไม่ถึงว่าอาธิปจะเป็นคนรับสาย
ครึ่งชม.ผ่านไป ผู้ชายเย็นชา ตัวสูงผอมเรียว หน้าตาหล่อ ๆ เดินเข้ามา คืออาธิปเดินเข้ามา เขาแค่ยืนอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องพูดจาก็มีเสน่ห์เหลือเกิน
และอีกอย่าง พาดหัวข่าวของสื่อการเงินและเศรษฐกิจต้องทำข่าวของอาธิปวันละหลายเรื่อง ฉะนั้น เห็นเขามาอยู่ตรงนี้ คนในห้องก็เลยแห่กันไปทักทายกับเขา
พอเห็นสถานการณ์แบบนี้ น้ำทิพย์ก็ใช้ไหล่ตัวเองปลุกไหล่ฉัน และบอกว่า “จริง ๆ ฉันก็เข้าใจนะว่าทำไมเธอถึงหลงรักเขาขนาดนี้ ลูกผู้ชายที่พระเจ้าทรงเลือก ผู้หญิงทุกคนใคร ๆ ก็อยากได้ แค่ได้มีนามว่าภรรยาของอาธิป ฟู่ ก็เป็นอะไรที่ผู้หญิงทุกคนหวังจะได้อยู่แล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงว่านอนกับเขาทุกวันแบบเธอ”
ฉันเหลือบตามองเธอ เมื่อกี้ยังบอกให้ฉันหย่ากับเขาอยู่เลย ตอนนี้…..
อย่างที่เขาว่ากันจริง ๆ ผู้หญิงเปลี่ยนใจเร็วจริง
อาธิปคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเซ็นชื่อ ก็ประกันตัวฉันกับน้ำทิพย์ออกไปได้
ที่หน้าสภ.
ตำรวจคนที่จับพวกเราไว้มองหน้าฉันกับน้ำทิพย์ แล้วบอกว่า “ต่อไปถ้าเกิดแบบนี้อีก รีบแจ้งตำรวจเลยนะครับ อย่าไปตบตีกับพวกเขา”
ฉันกับน้ำทิพย์มองหน้ากัน และยิ้มให้ตำรวจคนนั้น บอกเขาว่าขอบคุณ
พอหันหลังไป น้ำทิพย์ก็บ่นเสียงเบา ๆ ว่า “เชี่ย ไม่ตบตีคืน จะรอตำรวจมาเก็บศพเหรอวะ”
ฉันว่าจะพูดอะไรต่อ แต่รู้สึกมีอะไรส่งมาจากด้านหลัง เลยหันหลับไปดู เห็นอาธิปใส่สูตรสีดำไว้ ยืนอยู่ข้างรถจี๊ปคันสีดำของเขาแบบหน้าเฉยชา
��